ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระมาตุลาคู่บัลลังก์:The Prince Uncle ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #8 : การลงทัณฑ์ครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 59


    บทที่ 8 : การลงทัณฑ์ครั้งแรก


    ร่างสูงเพรียวของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งเร่งฝีเท้าของตนมาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิผู้ทรงงามสง่า แม้จะมีพระชนมายุในวัยกลางคนแล้ว พระองค์รับสั่งด้วยพระสุรเสียงไพเราะสดใสกับพระโอรสซึ่งเป็นทารกซึ่งกำลังอยู่ในวัยหัดคลาน ดวงตากลมโตสดใสมองไปยังเด็กหนุ่มผู้ที่มาพบเขาอย่างสงสัย


    หยางจื้อ เข้ามาสิ มาเล่นกับหลานของเจ้า” องค์ฮ่องเต้รับสั่งด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยน


    เด็กหนุ่มร่างโปร่งจึงถวายบังคม แล้วมองทารกน้อยในอ้อมกอดหนาขององค์จักรพรรดิ


    ขอถวายบังคมฝ่าบาทและองค์รัชทายาท”


    เฮ้ยๆ ไม่เอาๆ หยางจื้อ เด็กคนนี้เป็นหลานของเจ้านะ คำนับหลานตัวเองพาอายุสั้นเสียเปล่า”


    องค์จักรพรรดิเฉวียนเหวินตี้นั้น แม้จะทรงวัยเครายาวตามประเพณีนิยมของบุรุษวัยกลางคน แต่รอยยิ้มของพระองค์นั้นสดใส นุ่มนวลดุจแสงจันทรา ทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงยิ่งเกรงอกเกรงใจมากขึ้น


    อย่างไรเสีย เขาก็เป็นรัชทายาทในอนาคต และเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป ไฉน กระหม่อมจะไม่ถวายบังคมเสียเล่าพระเจ้าค่า”


    เด็กเอ๋ย เด็ก...หลี่หยางจื้อ ข้าไม่คิดว่าฐานันดรศักดิ์จะมีค่ามากไปกว่าสายเลือดเดียวกัน เด็กคนนี้เป็นลูกชายคนแรกของข้า แต่เขาก็เป็นสายเลือดของเจ้าด้วย เอาเถอะ...เทียนเอ๋อร์ ไปหาน้าของเจ้า”


    องค์จักรพรรดิทรงวางทารกน้อยซึ่งมีดวงตากลมใสแจ๋วคลานไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังจะเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่ปี หลี่หยางจื้อยังรู้สึกเขินเล็กน้อยที่เขามาใกล้ชิดกับหลานชาย ซึ่งเป็นสายพระโลหิตแห่งองค์จักรพรรดิ ทว่ามือเล็กของรัชทายาทองค์น้อยจับหัวเข่าของเขา หลี่หยางจื้อจึงไม่มีทางเลือก จำต้องยกร่างป้อมของทารกในชุดเอี๊ยมแดงลายมังกรมานั่งบนตัก


    องค์รัชทายาทจ้าวเทียนอี้...”


    เรียกเขาว่า เทียนเอ๋อร์ จำไว้นะ หยางจื้อ ข้าตั้งใจเลี้ยงลูกคนแรกโดยไม่ให้เขาต้องผยองในจิตใจว่า เขาเป็นรัชทายาทหรือเป็นจักรพรรดิ จะเป็นผู้ปกครองสูงส่งเพียงไหน ต้องคืนสู่สามัญ”


    กระหม่อมน้อมรับพะย่ะค่ะ”


    จำไว้ว่า เขาคือ หลานน้าของเจ้า สายเลือดของเจ้า ไม่ใช่คนอื่น”


    เทียนเอ๋อร์” เด็กหนุ่มในวัยสิบเจ็ดกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล มือใหญ่เล่นกับนิ้วเรียวเล็กของทารก


    เจ้าเป็นหลานชายคนแรกของข้า ข้าจะดูแลเจ้าเอง เพื่อสนองคุณฝ่าบาทและพี่สาวที่ข้ารัก”


    องค์รัชทายาทสบดวงตาเรียวสวยของน้าชายในวัยหนุ่มน้อย แล้วหลับตาลงอีกครั้ง...


    แล้วนอนซบแผ่นอกบางราวกับฝากชีวิตไว้แล้ว


    ~*~*~*~*~*~


    จักรพรรดิหนุ่มน้อยค่อยๆเปิดเปลือกเนตรกลมใหญ่ของตนเอง เมื่อรู้สึกถึงความนุ่มของขนสัตว์ที่มาประข้างเรียวแก้มของเขา...หางม้วนของกระรอกน้อย...แถมมือเล็กที่วางบนหน้าอกของเขา


    อาเปาเองเหรอ” ร่างบอบบางทักทายสัตว์เลี้ยงของตนเอง เจ้ากระรอกน้อยแสนรู้ตัวนี้...


    แล้วเจ้าของมือเล็ก เป็นเด็กชายที่ยังเกล้าผมเป็นมวยเล็กกลางกระหม่อม


    ร่างน้อนในชุดองค์ชายสีเขียวอ่อนกำลังนอนบนหน้าอกของพระเชษฐาผู้เป็นที่รักของเขา


    ฟงเอ๋อร์” เทียนอี้กล่าวขึ้น ทำให้พระอนุชาองค์เดียวของเขายอมลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้ตา


    พี่เทียนเอ๋อร์ ท่านตื่นแล้วเหรอ ค่อยยังชั่ว!”


    เด็กชายในชุดสีเขียวอ่อนอุทานอย่างดีใจ ขณะที่ฮ่องเต้หนุ่มส่ายหน้าไปมาแล้วพบว่า ตนเองอยู่ในชุดขาวสำหรับนอนแล้ว “ ข้าจำได้ว่า ข้ากระโดดลงจากต้นพลับ แล้ว...น้าจื้อก็รับไว้...น้าจื้อ!อยู่ไหน!”


    พี่เทียนเอ๋อร์...พี่...จากการที่พี่ตกจากต้นไม้ ถึงพี่ไม่เป็นอะไร แต่ว่า...เสด็จน้า...ต้องได้รับการลงทัณฑ์ในฐานะที่ให้ท่านอยู่ในอันตราย...”


    มือเรียวบางของเทียนอี้เขย่าไหล่เล็กกว่า พร้อมสีหน้าที่หวาดผวายิ่งนัก


    ไม่ๆ ข้าจะรีบไปหาเขา ข้าไม่ยอมให้เสด็จน้าจะได้รับการลงทัณฑ์เด็ดขาด มาเร็วเข้า เร็วสิ!


    อาเปา! และเจ้าด้วยน้องฟงเอ๋อร์!”



    พระมาตุลาหนุ่มยอมคุกเข่าหน้าบัลลังก์ทอง ซึ่งมีฉลองพระองค์ลายมังกรทองเป็นสัญลักษณ์แทน


    องค์จักรพรรดิ เขาอยู่ในชุดสีขาวตัวบาง และปลดกวานประจำตำแหน่งของเขา รวมถึงชุดฟ้าครามเข้มของเขาออกเสียด้วย


    แม้ว่าพระปิตุลาอ๋องเคอโจวจะห้ามปรามอย่างไร เขาก็ยินดีรับให้ตนเองได้รับลงทัณฑ์ต่อหน้าขุนนางผู้คนซึ่งต่างตกตะลึงมาก ที่เขายอมรับโทษทัณฑ์ตามกฎระเบียบโดยไม่คำนึงถึงตนเองเลย


    ข้าทำให้องค์จักรพรรดิอยู่ในสถานการณ์อันตรายต่อพระชนม์ชีพ บทลงทัณฑ์คือ โบยด้วยไม้หนักห้าสิบครั้ง พวกเจ้า! ลงมือเถิด!”


    เหล่ามหาดเล็กต่างอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก เพราะองค์พระมาตุลาสูงศักดิ์รองจากองค์จักรพรรดิเท่านั้น


    อีกทั้งเป็นเจ้านายสูงส่งที่พวกเขานับถือเป็นอย่างยิ่ง...พวกเขารักและเคารพท่านอ๋องมาตุลาผู้นี้ยิ่งนัก...จะให้มาลงทัณฑ์คนดีมีคุณธรรมเช่นนี้ได้อย่างไร...


    หลี่หยางจื้อ! ได้โปรดอย่าทรมานตัวเองแบบนี้เลย!” แม้อ๋องห้าจะทรงปราม แต่ว่าชายหนุ่มผู้นี้กลับส่งสายตาประกายคมกริบไปยังพระปิตุลาหนุ่มผู้เป็นสหาย


    ข้าต้องปฏิบัติตามกฎมณเทียรบาล เรื่องการรักษาความปลอดภัยขององค์จักรพรรดิ”


    ชายหนุ่มผู้มีอายุมากกว่าพยายามยับยั้ง “ ถ้าเจ้าได้รับการโบย โดยที่ฝ่าบาทไม่รับทราบ คิดว่าดีแล้วเหรอไง! หลี่หยางจื้อ!”


    ...ดีแล้ว...เพราะว่า เทียนเอ๋อร์ไม่มีทางยอมให้ข้าถูกโบยต่อหน้าเขา...แต่ข้าเป็นถึงซื่อต้ากงอ๋อง...


    ...ผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเหวิ่น...ผู้ปกครองแผ่นดินในนามขององค์จักรพรรดิ...


    ...ข้าดูแลเทียนเอ๋อร์ไม่ดีเอง...ในฐานะผู้ปกครองที่ปล่อยให้บุตรหลานอยู่ในอันตราย...


    จะเป็นเจ้าหรือไพร่ต้องได้รับโทษเสมอกัน!


    หลี่หยางจื้อก็หันไปสั่งเหล่ามหาดเล็กรอบกายของเขา “ พวกเจ้าลงมือเข้าสิ!”


    แต่...พระมาตุลา...ได้โปรด...”


    พวกขี้ขลาด สอนอะไรไม่จำ! ถ้าไม่ทำ ข้าขอสาปแช่ง! ให้พวกเจ้าหัวหลุดจากบ่าทั้งหมด!”


    ...พะ...พะ...ย่ะค่ะ...”


    แล้วร่างสูงโปร่งงามสง่านอนคว่ำหน้าลงกับพื้น โดยไม้หนักก็ฟาดกลางหลังของเขา


    ครั้งที่หนึ่ง!”


    ครั้งที่สอง!”


    หลี่หยางจื้อพยายามผ่อนลมหายใจเพื่อให้ร่างกายของตนเจ็บปวดน้อยลง


    ครั้งที่สาม!”


    ทันใดนั้น ขันทีหนุ่มผู้หนึ่งก็ประกาศว่า “ ฝ่าบาทเสด็จ!”


    น้าจื้อ! น้าจื้อ!” เด็กหนุ่มซึ่งห่มเสื้อคลุมสีเหลืองผุดผ่องของเขามาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย และเด็กชายที่แสดงความตกใจเป็นอย่างยิ่ง


    พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี่นะ! หยุดโบยเสด็จน้าของข้า หยุดนะ! หยุด!”


    เหล่ามหาดเล็กจึงลดไม้หนักลงแล้ว คุกเข่าถวายบังคมทันที


    พวกเจ้า ข้าสั่งให้โบยต่อไป เดี๋ยวนี้!”


    เสด็จน้าจื้อ ลุกขึ้น! จะไม่มีการลงทัณฑ์อะไรทั้งนั้น ข้าเป็นฮ่องเต้ ข้าสั่ง! ข้าสั่ง! ห้ามโบยเสด็จน้าของข้า คนที่โบยพระมาตุลาของข้า จะเอาไปประหารเดี๋ยวนี้เลย!”


    ข้าบอกให้เจ้าโบยข้า! โบยต่อไปเซ่!”


    น้าจื้อ!” ร่างเพรียวบางรีบวางเปาชิงเทียนในมือน้อยของพระอนุชา แล้วทรงไปคุกเข่าลงเบื้องหน้าของพระมาตุลาหนุ่ม แล้วหมอบลงด้วยความรู้สึกสำนึกผิด ใบหน้านวลผ่องเริ่มมีน้ำตาอาบแก้ม

    ทว่าหลี่หยางจื้อจะให้คนอื่นในท้องพระโรงเห็นว่า องค์จักรพรรดิทรงอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้


    เขาไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติของจ้าวเทียนอี้!


    ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ฝ่าบาท!” หลี่หยางจื้อกำชับเสียงแผ่วเบา หากว่าหนักแน่นดังภูผา


    ไม่...ข้าไม่ลุกขึ้น...จนกว่าน้าจื้อจะลุกขึ้น...ฮือ...ฮือ...”


    อย่าร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นได้ไหม เทียนเอ๋อร์...เด็กคนนี้นิ...” น้ำเสียงเข้มทุ้มหนัก


    เหมือนพร้อมจะดุหลานชายอีกครั้ง อย่างที่ทำมาเสมอ...


    ไม่...ไม่...” ฮ่องเต้องค์น้อยเริ่มสะอื้น “ ข้าผิดเองที่ไม่สามารถเอาชนะความกลัวของข้าได้ และทำให้ท่านได้รับการลงทัณฑ์จากกฎบ้าๆพวกนั้น ข้าขอสั่งท่าน เสด็จน้า ลุกขึ้นเถอะ ลุกสิ...”


    ฝ่าบาท...ทรงอยู่ต่อหน้าใครรู้ไหม ต่อหน้าขุนนาง ข้ารับใช้ของพระองค์ ข้าไม่สามารถปกป้องท่านจากอุบัติเหตุครั้งนี้ กฎย่อมเป็นกฎ ผู้พิทักษ์แห่งองค์จักรพรรดิ ถ้าทำผิดแล้วต้องได้รับโทษเช่นนี้!”


    ไม่...ไม่...ข้าอยู่ต่อหน้าเสด็จน้าคนเดียว...ลุกขึ้นๆ หลานคนนี้ขอร้องล่ะ! น้าจื้อ! น้าจื้อ!”


    แต่ว่าพระมาตุลาหนุ่มไม่สามารถตอบสนองคำวิงวอนของจักรพรรดิน้อยซึ่งหมอบและผงกศีรษะของเขาไปมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มซีดทั้งสองข้าง


    ...นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการแสดงให้เห็นว่า ต่อให้เขาเป็นถึงผู้ปกครองสูงส่งของฮ่องเต้แห่งต้าเหวิ่น...


    ...เขาก็ย่อมอยู่ใต้กฎมณเทียรบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพของราชวงศ์จ้าวไว้...


    ...เขาต้องปฏิบัติเพื่อรักษาเกียรติยศของเทียนเอ๋อร์...ให้เห็นว่า เขาไม่ได้เหนือกว่าหรือดีกว่า


    พระภาคิไนย ผู้เป็นเจ้าเหนือหัวของเขา...นี่คือ ความจงรักภักดีที่เขายึดถือมาเป็นเวลาสิบปี!


    พระปิตุลาอ๋องเคอโจว...ได้โปรด...นำฝ่าบาทเชิญเสด็จนอก...พวกเจ้าจงโบยข้าเดี๋ยวนี้...”


    แต่...หลี่หยางจื้อ...”


    พระมาตุลาหนุ่มประกาศก้องดังราวกับสีหนาทแห่งพนาไพร


    เชิญเสด็จฝ่าบาทประทับนอก! จงโบยข้าต่อไป!”


    ไม่เอานะ! น้าจื้อไม่ฟังข้าเลย! อาหลิวปล่อยข้า! น้าจื้อ! น้าจื้ออออออ!!!”


    ฝ่ายท่านอ๋องเคอโจวจำพระทัยแสนขมขื่น ยามต้องอุ้มฮ่องเต้องค์น้อยที่ดิ้นรนพร้อมเสียงร้องไห้ออกไปจากท้องพระโรง ซึ่งพวกมหาดเล็กต้องยอมปฏิบัติตามคำสั่งของพระมาตุลาเอกองค์น้อมรับบทลงโทษด้วยพระองค์เอง!เสียงไม้หนักกระทบนั้น...ดังขึ้นอีกครั้งและอีกหลายครั้ง!


    ~*~*~*~*~*~


    เทียนเอ๋อร์...ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรแล้ว...”


    จ้าวอิงหลิวทรงลูบแผ่นหลังบางของหลานชาย ซึ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนทรวงอกของเขา จนน้ำตาขององค์จักรพรรดิน้อยเปื้อนเสื้อผ้าสีครามแถมองค์ชายจ้าวเจิ่งฟงเองก็ร้องไห้ตามด้วยอีกพระองค์หนึ่งด้วยความตกใจและสงสารพระเชษฐา


    เสด็จอาหลิว...ข้าผิดเอง ข้าผิด ทำให้เขาต้องได้รับโทษแบบนี้...ข้าผิดเอง...ฮือๆ”


    เสด็จน้าเพียงได้รับการโบยเท่านั้น ไมไ่ด้รับโทษต้องประหาร เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว


    ฝ่าบาทต้องทรงเข้มแข็ง...เข้าไว้ แล้วอย่ากันแสงนะ เข้าใจไหม...”


    น้าจื้อไม่ฟังข้าเลย...” ฮ่องเต้องค์น้อยยังร้องไห้ต่อไป ฝ่ายเปาชิงเทียนก็คลานมานั่งบนตักของเขา


    เทียนอี้ลูบหลังของมัน แล้วยังไม่อาจทำให้น้ำตาหยุดไหลได้...


    เขาไม่เป็นไรอยู่แล้ว...เทียนเอ๋อร์ หลี่หยางจื้อ พระมาตุลาของเจ้า ไม่ธรรมดา อย่าได้กังวล


    ฝ่าบาทต้องเข้าพระทัย เขาต้องดำรงหน้าที่ของตนเอง ถ้าเขาทำผิด เขาต้องรับโทษตามกฎมณเทียรบาล แม้แต่พระองค์เองก็เช่นกัน”


    จ้าวเทียนอี้ยังปล่อยน้ำตายังไหลจนถึงริมฝีปาก “ เสด็จอาหลิว...ข้า...จะเลิกไอ้กฎบ้าๆนั้น ในวันพรุ่งนี้ มันทำให้เสด็จน้าจื้อต้องเจ็บ...ข้าจะเลิกมัน !”


    อย่าเอาแต่พระทัยตนเองเป็นที่ตั้งเชียวนะ! ฝ่าบาท!”


    พระปิตุลาอ๋องห้า ผู้ซึ่งนานๆครั้งจะตำหนิหลานชาย ทำให้เด็กหนุ่มตะลึงงัน


    องค์ชายน้อยเจิ่งฟงผู้เป็นพระอนุชาจึงดำเนินมากอดองค์ฮ่องเต้


    พี่เทียนเอ๋อร์ พี่ต้องไม่เป็นไรเหมือนกันนะ พี่เทียน...”


    จ้าวเทียนอี้โอบกอดร่างป้อมแสดงความขอบคุณในน้ำใจของน้องชายอย่างแนบแน่น


    แววตาของเจ้ากระรอกน้อยยังคงโศกเศร้าตามไปด้วย...


    ท่านอ๋องห้าจึงต้องโอบกอดฮ่องเต้และองค์ชายน้อยไว้ด้วยความรักดุจดังบิดาบังเกิดเกล้า


    ~*~*~*~*~*~


    ร่างสูงโปร่งของพระมาตุลาหนุ่ม ซึ่งหมดสติของตนไปจากการโบยด้วยไม้หนักห้าสิบครั้ง


    ได้รับการอัญเชิญกลับสู่ห้องบรรทมของพระองค์เอง โดยมีหมอหลวงผู้เฒ่าเหลียงหวัน


    ซึ่งเป็นแพทย์หลวงประจำราชสำนักมาตั้งแต่รัชสมัยของพระบิดาเสวียนหวังตี้


    เขาต้องรักษาด้วยยาสมุนไพรชั้นเลิศเพื่อรักษาและฟื้นฟูพระวรกายของผู้สำเร็จราชการแห่งแคว้นเหวิ่นด้วยความสามารถของเขาทั้งหมด จนกระทั่งเขาได้ถวายบังคมต่อจักรพรรดิองค์น้อย


    หมอหวัน เป็นอย่างไรบ้าง น้าจื้อของข้าล่ะ น้าข้าเป็นอย่างไร”


    พระทัยเย็นลงก่อนพะย่ะค่ะ พระมาตุลาทรงต้องพักอิริยาบถเป็นเวลาสามวันสามคืน เพื่อให้ลมปราณภายในกลับสู่ปกติ โชคดีว่าพระองค์ทรงมีสติสมบูรณ์จนถึงการโบยครั้งสุดท้าย ทำให้พลังในจิตของพระองค์มั่นคง อวัยวะภายในไม่กระทบกระเทือนมาก นับว่าพ้นขีดอันตราย”


    พระมาตุลาจะตื่นบรรทมยามใด” ท่านอ๋องห้าอิงหลิวถามเสียงขรึม


    ประมาณรุ่งสางของวันพรุ่งนี้พระเจ้าค่ะ” หมอหลวงกราบทูล


    ฮ่องเต้องค์น้อยจึงดำเนินเข้าไปในห้องบรรทมของพระมาตุลาหลี่หยางจื้อ มือเรียวบางแตะหัตถ์ใหญ่ พร้อมกับกันแสงอีกครั้ง โดยที่น้ำตาหยดน้อยนั้นหยดลงบนเรียวมือแข็งแรง


    พวกท่านออกไปเถอะ ข้าจะเฝ้าเสด็จน้าเอง จนกว่าจะทรงตื่น”


    นางกำนัลและขันทีพากันอำ้อึ้ง แต่ว่าเทียนอี้ยังตอกย้ำดังลั่น


    บอกให้ไปไงเล่า ไปเถอะ ไป๊!”


    เมื่อพวกเขาทยอยกลับออกไป พระปิตุลาอ๋องอิงหลิวยังมองใบหน้างามคมคายของชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิท เขาเองก็อยากอยู่เฝ้าด้วยความรัก แต่ก็ไม่อยากขัดใจหลานชาย


    อากลับก่อนนะ เทียนเอ๋อร์ พรุ่งนี้พบกัน”


    ฮ่องเต้องค์น้อยจึงตรงเข้าโอบกอดชายหนุ่มผู้เป็นอา ผู้ใกล้ชิดที่รักอีกคนหนึ่งด้วยความขอบคุณ


    ขอบพระทัย เสด็จอาหลิว...ขอบพระทัยจริงๆ”


    แล้วพบกัน ฝ่าบาท” อ๋องอิงหลิวทรงโอบตอบแน่น แล้วลาจากไป


    ฝ่ายฮ่องเต้องค์น้อยก็ทรงกลับมานั่งบนเก้าอี้ข้างพระแท่น พร้อมกับนอนซบมือแกร่งของหลี่หยางจื้อ ด้วยความรักของผู้เป็นหลานชาย...ทำไมเสด็จน้าจื้อต้องมาเจ็บตัวเพราะข้าด้วย...

    จ้าวเทียนอี้สางเกศาดำขลับยาวสยายของร่างสูงสง่าซึ่งนอนหลับไร้สติสมประดี แถมน้ำตาก็ยังไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้าง...


    ...ข้าผิดเอง ถ้าข้าไม่กลัวความสูง...น้าจื้อ...ก็ไม่ต้องยอมให้ตนเองได้รับโทษ...


    ...ข้าผิดเอง...ที่ทำให้เสด็จน้าต่้องเป็นแบบนี้....ข้าผิดเอง...ข้าผิดเอง...


    แล้วร่างบอบบางก็ลุกจากเก้าอี้แล้วแสดงความเคารพต่อพระมาตุลาที่ยังหลับใหล


    ข้าขอคารวะท่าน...เสด็จน้าจื้อ...ห้าสิบครั้ง ให้ครบจำนวนเท่ากับท่านได้รับการโบยในวันนี้!”


    องค์จักรพรรดิผู้ยังเยาว์วัยจึงคารวะต่อพระมาตุลาผู้นิทราพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินไปดังสายลำธารที่ไม่อาจหยุดไหลได้เลย...ราวกับฝันร้ายที่ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น...


    ~*~*~*~*~*~


    เสียงสกุณาน้อยร้องออกหากินรวมถึงแสงตะวันสาดส่องผ่านในยามรุ่งอรุณ ชายหนุ่มผู้ได้รับการลงทัณฑ์เริ่มรู้สึกขยับกายของตนได้ ดวงตาเรียวงามของเขากระพริบไปมา พร้อมทั้งรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากแผ่นหลังกว้างของเขา แล้วน้ำหนักของศีรษะที่วางบนเรียวหัตถ์ซ้าย เรือนผมสีดำนุ่มยุ่งเหยิง กับใบหน้านวลกระจ่าง อ่อนเยาว์แสนเอ็นดู หากว่ามีคราบน้ำตาอาบแก้มนิ่มทั้งสองข้าง...เทียนเอ๋อร์...เทียนเอ๋อร์...ฮ่องเต้องค์น้อย...หลานชายของข้า...เขาปลอดภัยดีแล้ว...


    หลี่หยางจื้อจึงอมยิ้มและอยากลูบศีรษะหลานรัก แต่อาการเจ็บที่เขาเลือกให้มันเกิดขึ้น


    ทำให้เขาขยับกายไม่สะดวกนัก...เขาจึงต้องทำหน้าที่พระมาตุลาต่อไป...


    เทียนเอ๋อร์...เทียนเอ๋อร์...ตื่นได้แล้ว”


    ดวงตากลมโตของโอรสสวรรค์องค์น้อยกระพริบขึ้น แล้วรู้สึกตัวเช่นเดียวกัน ลืมตามาก็พบใบหน้างามคมคายที่คุ้นเคยมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่เขาจำความได้...ใบหน้าของพระมาตุลาแย้มยิ้มงดงาม...


    น้าจื้อ...น้าจื้อ! ท่านตื่นแล้วๆ”


    ด้วยความดีใจจนเกินขอบเขต ทำให้ฮ่องเต้องค์น้อยกระโดดกอดร่างสูงสง่าบนเตียงทันที


    เทียนเอ๋อร์! โอ้ยๆ”


    เสด็จน้าจื้อตื่นแล้ว ข้าดีใจจริงๆ ข้าคิดว่า ท่านจะเป็นอะไรไป...เสด็จน้า ฮือๆ”


    ชายหนุ่มจึงต้องผละหลานชายออก พร้อมกับกระแอมว่า “ เจ็บแล้วๆ ฝ่าบาททรงลุกก่อน”


    ข้าจะไปหาอาหารเช้าถวายท่าน และท่านต้องเสวยยา ใช่ๆ ต้องกินยา”


    เฮ่อ...เฮ่อ...” พระมาตุลาหนุ่มถอนหายใจ “ เทียนเอ๋อร์นี่นะ ไปแต่งองค์ก่อนได้ไหม ไปทำองค์ให้เรียบร้อยก่อน...โอ้ย...” ชายหนุ่มเอื้อมไปกุมแผ่นหลังกว้างของตนเอง


    เสด็จน้า...ท่านยังเจ็บมาก...งั้นนอนต่อเถอะนะ”


    ทำตามที่ข้าทูลได้แล้ว ฝ่าบาทจ้าวเทียนอี้”


    เวลาสำคัญจริงๆสินะ...ฮ่องเต้องค์น้อยพยักหน้ารับโดยดุษฎี


    เสด็จน้าของข้า...ท่านจะเรียกชื่อจริงของข้าทุกครั้งในเวลาสำคัญ...


    ร่างโปร่งบางของหนุ่มน้อยจึงยอมเดินออกจากห้องบรรทม โดยที่เหลียวกลับมองชายหนุ่ม


    พร้อมกับหลั่งน้ำตาแล้วคลอเสียงสะอึกสะอื้นชวนสงสาร


    เสด็จน้าจื้อ...ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นเพื่อข้าอีกได้ไหม...”


    หากว่าน้าชายผู้นี้กลับส่ายพักตร์ “ ได้โปรดไปทำหน้าที่ของพระองค์เถิด ฝ่าบาท...”


    เทียนอี้จึงต้องเช็ดน้ำตาเม็ดโตที่ยังไหลอยู่แล้ว เดินออกไปเพื่ออาบน้ำและแต่งองค์อีกครั้ง


    แม้ว่าออกมาจากนอกพระตำหนัก...มือเรียวเล็กเช็ดน้ำตาแล้วถอดเสียงสะอื้น


    เมื่อพบกับร่างสูงโปร่งซึ่งคุกเข่ารอคำบัญชาจากเขา แถมกระรอกน้อยเปาชิงเทียนก็นั่งเล่น


    อยู่บนไหล่ของชายหนุ่ม ฮ่องเต้หนุ่มน้อยวัยสิบหกปีรู้สึกยินดีนัก


    พี่ฮุยกับอาเปา รอข้าอยู่เหรอ...”


    ~*~*~*~*~*~


    โอ...ดราม่าไปนิดนะคะ...แต่ความรักของเสด็จน้าจื้อ สุดยอดมากกกก ~!!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×