คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การทรยศต่อจักรพรรดิ!
การทรยศต่อจักรพรรดิ!
ณ ท้องพระโรงแห่งราชสำนักต้าฉู่
ร่างสูงสง่าของจักรพรรดิหนุ่มซึ่งมีใบหน้านั้นอาบโลหิตสีแดงกำลังเงื้อกระบี่อาญาสิทธิ์สีทองของพระองค์ นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นฉายแววเนตรแห่งความเป็นเพชรฆาตพร้อมปลิดชีวิตไว้ในอุ้งหัตถ์ เรือนเกศาสีดำสนิทคลายออกจากการเกล้ามวยจนหลุดรุ่ย พร้อมกับมีเสียงทารกน้อยอายุประมาณหนึ่งขวบร้องไห้ดังลั่น และมีเด็กคนนั้นอยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มร่างบอบบางปานดอกไม้แรกแย้มซึ่งอยู่ในอาภรณ์สีฟ้าอ่อนและเปรอะเปื้อนด้วยโลหิตเหมือนกับร่างสูงกว่าเบื้องหน้า นัยน์ตากลมโตหวาดหวั่นนักหนา...
แงๆ...แงๆ...
“พี่! พี่! ตี้เอ๋อร์ร้องใหญ่แล้วนะ”
จักรพรรดิหนุ่มในอาภรณ์สีแดงเลือดหมูส่ายหน้าไปมาพร้อมกับตวัดกระบี่ในมือ
เขาพยายามปกป้องทั้งพระอนุชาและพระโอรสองค์น้อยไว้จากเหล่าศัตรูผู้ทรยศ...
ไม่มีใครมาช่วยจื่อหมิงชางคนนี้ได้แล้ว...เขาต้องทำเองคนเดียว!...
“ ไม่เป็นไร...ข้าจะปกป้องพวกเจ้าเอง กอดหลานไว้...อย่าปล่อยเขานะ...เพ่ยเพ่ย...”
ฮ่าๆ...ฮ่าๆ...
เสียงหัวเราะดังสนั่นแสดงถึงความอำมหิตของผู้มาเยือนได้เข้ามาเปิดประตูใหญ่แห่งท้องพระโรงขึ้น
บุรุษร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำสนิท นัยน์ตาเรียวงามบนใบหน้าแสนหล่อเหลาปานเทพบุตร..หรือจอมมารร้าย...นัยน์ตาดำสนิทแสดงถึงความกระหายอยากด้วยความใคร่เต็มเปี่ยม
“เจ้ายอมยกบัลลังก์ให้ข้าไหม จื่อหมิงชาง”
“เจ้า...เจ้าคนทรยศ...สารเลว...ไอ้คนเลว!”
ฮ่องเต้หนุ่มเงื้อกระบี่ขึ้นเบื้องหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ แต่ว่าบุรุษผู้นั้นกลับสั่งให้เหล่าทหารเข้าต่อสู้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังอิดโรยเต็มที แม้ว่าจื่อหมิงฉางได้ใช้วรยุทธที่ยังสู้ต่อไปสังหารพวกทหารนั้น
แต่กลับเป็นว่าบุรุษร่างสูงนั้นก็ได้ใช้กระบี่เข้าสู้กับพญามังกรหนุ่มนั้นด้วยตัวเอง
และยังใช้กระบี่ฟาดฟันวรกายของจักรพรรดิแทบโลหิตไหลหมดออกจากร่างกายนั้น
จื่อหมิงชางล้มลงพร้อมกับกระอักโลหิต เด็กหนุ่มผู้บอบบางจึงตะโกนร้องลั่นพร้อมร้องไห้
“ พี่! เสี่ยวชาง! พี่!”
บุรุษหนุ่มร่างสูงแข็งแกร่งก็ได้เหยียบหน้าอกของพญามังกรหนุ่มผู้นั้นพร้อมกับฉายรอยยิ้มเยาะ
“ ยอมยกบัลลังก์ให้ข้าซะ...คนสวย...ถ้าเจ้าไม่อยากตายอย่างทรมาน”
“ ไม่..คนทรยศ...เจ้า...ข้าไม่ควรนับเจ้าเป็นพี่มาตั้งแต่แรก! เฉินหวัง”
“อ๋อเหรอ จุ๊ๆ มังกรทองแห่งต้าฉู่ที่ได้กลายเป็นแค่หนอนเน่าเฟะ...แต่ข้ายอมต้องการมากกว่านั้น
...ให้ข้าได้เชยชมเจ้าก่อนที่เจ้าจะตายไง...เสี่ยวชางคนสวย...”
บุรุษหนุ่มผู้ชั่วร้ายจึงได้กระชากเรียวหน้าซีดมนแห่งองค์จักรพรรดิขึ้นมาพร้อมกับประกบริมฝีปากแดงอิ่มนั้นด้วยเรียวปากบางและฟันแหลมของตนเอง ฮ่องเต้หนุ่มน้อยอุทานลั่นพร้อมกับพยายามผลักไสร่างสูงนั้นออกไปเสีย แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการกระทำแสนชั่วร้ายแบบนี้ได้
“ พี่! พี่! แงๆ แงๆ”
“น่ารำคาญ ไอ้พวกเด็กเวร!”
เฉินหวังผู้นี้ได้สั่งให้ทหารนั้นเข้ามาดึงเรียวแขนและเรียวขาขององค์จักรพรรดินั้นไว้พร้อมกับบังคับให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นเสียพร้อมกับถูกกระชากกางเกงยาวออกจากเรียวขา จื่อหมิงชางอุทานลั่นเพราะว่ากำลังจะถูกการกระทำที่อุกอาจที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงถูกกระทำได้
“ ไม่...อย่านะ...อย่า...”
“ช่างงามนัก ฮ่องเต้น้อยของข้า...เด๊่ยวสิ...ข้าไม่ให้เจ้าได้สนุกคนเดียวหรอก...”
จื่อหมิงชางได้ยินฝีเท้าของชายร่างใหญ่และมีใบหน้าครึ้มเคราน่าสยดสยองพร้อมกับกลิ่นเหล้าอบอวลตลบพร้อมกับเสียงหัวเราะคำรามราวกับมาจากขุมนรก!
“ อ่า...ท่านอ๋อง...ไหนล่ะ...องค์ชายเพ่ยของข้า...”
ดวงตานั้นจ้องมองไปยังร่างบอบบางซึ่งยังอุ้มทารกไว้ในอ้อมกอดไว้แน่น
เจ้าคนมาใหม่นี่คือ ไห่อู่ถง เจ้าเสนาบดีทรยศ...เจ้าคนวิตถาร...มันชอบร่วมสังวาสเสพสุขกับเด็กหนุ่มเป็นปกติอยู่แล้ว...จื่อหมิงชางก็รู้ดี แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย...เขาทำอะไรไม่ได้เลย...
“ดูซะสิ เพ่ยเพ่ยของเจ้า จะได้รับความสุขสมจากเสนาของข้าแล้วนะ หมิงชาง”
แล้วภาพที่องค์จักรพรรดิต้องมาทนเห็นความเจ็บปวดรวดร้าวใจที่ไม่อาจทนได้ ทารกน้อยนั้นถูกกระชากจากอ้อมแขนบอบบางของเพ่ยเพ่ย ทำให้เด็กหนุ่มหวีดร้องลั่นก่อนถูกร่างใหญ่กำยำของไห่อู่ถงเข้าทาบลงกับพื้น
“ พี่! พี่! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
“อย่า! พวกเจ้าเอาอะไรก็เอาไป อย่าทำเพ่ยเพ่ย! อย่าทำน้องข้า! อย่าทำลูกข้า! ทำข้าคนเดียว!
ทำข้าคนเดียว! ปล่อยน้องกับลูกข้านะ! ”
เจ้าอ๋องเฉินนั้นกลับสั่งให้ทหารที่อุ้มทารกน้อยนั้นตรงเข้าปิดปากเด็กเสีย...
“ถ้าเจ้าไม่ยกบัลลังก์ให้ข้า น้องรัก ตี้เอ๋อร์น้อยของเจ้าจะได้ถูกมันหักคอจนตาย...”
ไม่...ไม่...ไม่...
“ปล่อยเพ่ยเพ่ย! ปล่อยตี๋เอ๋อร์! ไอ้พวกสารเลว! ไอ้พวกอัปรีย์! ไอ้คนจัญไร! แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น!”
“ พี่! ช่วยด้วย! พี่! พี่! ”
ร่างบอบบางขององค์ชายเพ่ยนั้นถูกกระชากเสื้อผ้าออกจากฝีมือหยาบของไห่อู่ถงซึ่งมันพึงพอใจนักที่ได้สังวาสกับเด็กหนุ่มผู้งดงามเหนือคำบรรยายใด แต่สติปัญญาจำกัดเหมือนเด็กเล็กวัยสี่ห้าขวบ
จื่อหมิงชางรู้ดีว่าเพราะอะไร...เขารักและห่วงใยพระอนุชาจื่อเพ่ยเหอองค์นี้ที่สุด...และรักพระโอรสกำพร้ามารดา...ตี้เอ๋อร์น้อย...ตัวแทนของนาง...นางซึ่งจากข้าไป...
แต่พวกคนทรยศแสนชั่วช้านี้ใช้กำลังเพื่อเข้าย่ำยีเขากับน้องและจะฆ่าลูกน้อยต่อหน้า!
เจ้าเฉินเจียอิน! เจ้าคนถ่อย! คนสารเลว!
“เป็นไง หมิงชางจะยอมข้าไหม ยอมข้าเถอะ คนสวย เจ้าเป็นของข้า ไม่ใช่ของเจ้าคนเถื่อนนั้น”
องค์จักรพรรดิหนุ่มรู้สึกถึงแก่นกายกร้านที่เข้ามาทะลุยังช่องทางของตน พร้อมกับเรียวขาที่ถูกกดไว้แน่น แม้แต่ใบหน้าเรียวมนงดงามก็ถูกแนบกับพื้น น้องชายของเขาก็กำลังจะถูกเจ้าคนต่ำช้าย่ำยีต่อหน้าอีก...ดวงตาของเพ่ยเพ่ยนั้นเบิกกว้างและยังเรียกชื่อของพี่ชาย
องค์จักรพรรดิหนุ่มผู้เคยงามสง่ากว่าบุรุษใดกำลังถูกขืนใจหน้าบัลลังก์ของตัวเอง!
“พี่! พี่! จื่อหมิงชาง! ช่วยด้วย!”
“สวรรค์ไม่ยุติธรรม! โอ้ สวรรค์! สวรรค์!”
น้ำตาหยดไหลอาบรินลงบนพวงแก้มซีดจางนั้นพร้อมกับหลับตานิ่งและน้ำตาใสที่ไหลริน..
ตอนนี้จื่อหมิงฉางได้นึกถึงแต่บุรุษหนุ่มที่ตนรักและวางใจมากที่สุดเท่านั้นเอง...
“พี่เหยียน! พี่เหยียน! ช่วยข้าด้วย!”
เสียงประตูท้องพระโรงก็ถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับปรากฎร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะทองคำตราพญามังกร ใบหน้าคมสันและสะท้านหัวใจของผู้คนที่ได้มองมาเประเปื้อนเลือดสีแดงสด กลิ่นคาวเลือดกระจายอยู่เต็มห้อง ท่วงท่าการเดินแฝงด้วยความร้ายกาจปานจอมปีศาจจากขุมนรก เขาเงื้อง้าวขึ้นในมือใหญ่นั้นพร้อมกับนัยน์ตาแดงกำ่ดังเปลวอัคคี ซึ่งทำให้เหล่าทหารพากันถอยหนีห่างด้วยความกลัว
อ๋องเฉินหวังจึงละจากร่างเพรียวบางที่กำลังย่ำยีนั้นด้วยความไม่พอใจ
“เจ้า...เจ้าคนถ่อย...ยังไม่ตายอีก...ตายยากจริงๆ”
“ข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งหมดไปลงนรกเดี๋ยวนี้!” บุรุษผู้นั้นคำรามลั่นดังราชสีห์แห่งพนาไพร
พี่เหยียน!
~*~*~*~*~*~
นานาขอรีไรท์ใหม่นะคะ เรื่องนี้ เราเตือนแล้วว่า แรงนะคะ แรงแต่ต้น แต่ก็จะไม่ให้ดราม่าเกินไปนะ
เรื่องนี้ดาร์ก คนละสไตล์กับเรื่อง "พระมาตุลา" เลยนะคะ ดาร์กพอตัวเลยล่ะ ฝากด้วยนะ >///< เ
ปิดตัวฮ่องเต้ของเราก่อนนะจ้ะ ^^
ความคิดเห็น