คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การปรากฏตัวของซีโร่
“ไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากที่ให้ชายหญิงสิบคนที่ถูกเลือกนั่งคอยอยู่ที่เก้าอี้ ที่ทำจากกระดูกคนเป็นๆ ไอมองด้วยสายตาเย็นชากับกระดูกที่เธอเห็น ทั้งๆที่ในใจนั้นขยะแขยงเต็มที พวกเขาและเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้โครงกระดูก และเดินตามชายหนุ่มชุดดำตามคำสั่ง
“ขอโทษนะ...” ไอเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินขึ้นไปเสมอชายหนุ่มชุดดำ โดยไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย “เมื้อกี้ที่เรานั่งรอกันน่ะ เรากำลังรออะไรอยู่เหรอค่ะ?”
ชายหนุ่มมองไอเล็กน้อย ด้วยสายตาไร้ความรู้สึก ก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รอคนที่มีเกียรติกว่าพวกคุณยังไงล่ะครับ”
“คนที่หนีออกมาได้เหรอค่ะ?”
“ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ” ชายหนุ่มหยุดเดิน มองดวงตากลมโตที่ดูไร้เดียงสาในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับเขาแล้ว สายตาของไอนั้น อันตรายกว่าที่คิดไว้ “เกมนี้มีขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนฆ่ากันด้วยสมอง ไม่ใช่การหนี”
“...ให้ฆ่ากัน” ไอพูดเสียงเบาๆ”งั้นก็...”
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ให้เหลือรอดเป็นคนสุดท้าย แต่ให้ซีโร่หลั่งน้ำตา”
“เด็กคนนั้นเหรอ” ไอนึกถึงเด็กหนุ่มชุดดำขึ้นมาทันที ชายหนุ่มพยักหน้ารับ และเดินนำทางต่อไป ไอยืนนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
หลั่งน้ำตา...
“ขอโทษนะ...” เด็กสาวชาวอังกฤษสองคนเดินมาหาไอที่ยืนนิ่งอยู่ พวกเธอดูหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ไอมองด้วยสายตานิ่งเฉย แต่ก็ฉีกยิ้มออกเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตร “ขะ ขอไปด้วยคนได้ไหม?”
“อะ อืมได้จ๊ะ” ไอตอบ
รอยยิ้มของเด็กสาวชาวอังกฤษทั้งสองยิ้มด้วยความดีใจ ทั้งสามเดินด้วยกันอย่างอุ่นใจ เพราะการรวมตัวกันแบบนี้ ยิ่งเป็นผลดี และปลอดภัยสำหรับพวกเธอ...
หลังจากการเดินทางที่กินเวลาประมาณสิบนาทีจบลง ชายหนุ่มเปิดประตูไม้ที่อยู่ตรงหน้าให้ชายหญิงทั้งสิบ เพื่อเข้าเล่นเกม แต่ก่อนอื่น พวกเขาต้องฝากนาฬิกาทรายไว้กับชายหนุ่ม
“พวกคุณสามารถขอนาฬิกาทรายจากผมได้ก็ต่อเมื่อพูดว่า ‘เจ็บ’ ‘อย่าฆ่าฉัน’ครับ” ชายหนุ่มพูดเตือน เมื่อชายหนุ่มวัยกลางคนที่เป็นคนสุดท้ายก้าวออกจากประตูแล้ว ประตูก็ปิดลง
ท่ามกลางคฤหาสน์หลังใหญ่ มีเนื้อที่ราวสิบกว่าไร่ ทำให้ทุกคนยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก ไม่สิ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรนอกจากนี่ดีต่างหาก...
ไม่มีแสงอาทิตย์ให้ความสว่าง มีเพียงท้องฟ้าที่ถูกหมู่เมฆปกคลุมเป็นจำนวนมาก เด็กสาวชาวอังกฤษจับมือกันแน่น ไอมองสำรวจดูพื้นที่ที่สามารถหลบภัยได้บ้าง ก่อนจะชุกคิดมาได้ว่ายังมีประตูด้านทางเข้าอยู่ หากเปิดเข้ามาเล่นเกมได้ก็สามารถเปิดออกกลับไปได้
ไอเดินไปเปิดประตู ท่ามกลางสายตาที่มองเธอ ก่อนจะเห็นกำแพงอิฐที่เป็นรั้วของคฤหาสน์
มันเป็นเพียงประตูที่ติดอยู่กับกำแพงอิฐสูงเท่านั้น...
“อะไรกันมันขังเราอยู่ในนี้เนี่ยนะ?!” นา ศศินา หญิงสาววัยกลางคนในชุดสุภาพแบบสาวออฟฟิศโวยวายขึ้น
“...คงจะเป็นอย่างนั่นค่ะ ฉันว่าเราเข้าไปในคฤหาสน์ดีกว่านะค่ะ”
“นั่นสิค่ะเข้าไปเถอะ เหมือนฝนจะตกแล้วด้วยค่ะ” เจสสิก้า เด็กสาวผมยาวแฝดคนพี่พูดขึ้น ทำให้ทุกคนเดินเข้าไปในคฤหาสน์ เพราะท่าทีของเธอดูไม่แข็งแรง...
ภายในคฤหาสน์ที่มีแต่เทียน และเฟอร์นิเจอร์ในสมัยโบราณตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ พวกเขานั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกของคฤหาสน์ ชายหญิงทั้งสิบคนต่างนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้...
“ยังไม่ลงมือกันอีกเหรอ?...” เสียงเด็กหนุ่มชุดดำเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำให้พวกเขาตกใจไม่น้อย ที่เห็นการปรากฏตัวของเด็กหนุ่ม “นึกว่าตายไปสักสองคนแล้วซะอีก...”
“ตายอะไรกัน นายพูดอะไร?!...” ศักดิ์ ศุรศักดิ์ ชายหนุ่มวัย21ปีพูดขึ้นอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ถูกนุช วรนุช จับข้อมือห้ามไว้ “ช้าก่อนค่ะ การพูดของเขาก็พอจะรู้ได้บ้างนะค่ะว่าเขาหมายถึงอะไร...”
“...คุณรู้เหรอครับ...” รันถามเหมือนลองภูมิ
“อ้าว พ่อหนุ่มนี่ก็ยังไม่รู้อีกเหรอว่าเขาต้องการให้เราฆ่ากันเอง...”
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มออกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นเพื่อพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกไอตัดหน้าไป
“คุณนี่...”
“คุณนี่รู้ดีจังนะค่ะ” ไอส่งสายตาคมกริบออกไปหานุช “เหมือนกับว่า...รู้อยู่แล้ว...”
ทุกคนต่างนิ่งเงียบ มีแต่เจสซิก้าที่สั่นเทาด้วยความกลัว “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันไม่เสียใจเลยนะ...” เด็กหนุ่มชุดดำเดินเข้ามาใกล้ไอมากขึ้น “...ที่จับฉลากได้เธอมาน่ะ จะให้ผมบอกไหมครับคุณนุช ว่าน้องสาวของคุณเคยเล่นเกมนี้แล้วตาย คุณก็เลย...”
“เดี่ยวปากแกก็เป็นสีหรอก!” นุชพูดขู่ แต่เด็กหนุ่มกลับหัวเราะฮึๆในลำคอ “ไม่ครับผมไม่กลัวหรอก จะทำอะไรก็เชิญ ผมขอแค่ ฆ่ากันเท่านั้น...ไม่เห็นยากเลย”
ศักดิ์วิ่งไปประชิดตัวเด็กหนุ่ม ก่อนจะใช้มือตีที่ท้ายทอยของเด็กหนุ่มชุดดำอย่างแรง แต่สิ่งที่สัมผัสถูกซอกของเขา มีเพียงผ้าคลุมสีดำที่ว่างเปล่า...
ความคิดเห็น