คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ห้องโถง
“งั้นรับสิ่งนี้ไว้ด้วยครับ” ชายหนุ่มชุดดำยื่นนาฬิกาทรายที่ไม่มีทรายอยู่ด้านในให้แก่ออย เด็กหนุ่มรับมาอย่างงุนงง
“กรุณาใช้มือจับที่หัวและท้ายของนาฬิกาทรายด้วยครับ” เมื่อชายหนุ่มสั่ง เด็กหนุ่มก็ทำตาม เขาไม่มีท่าทีต่อต้านหรือฝืนเลยแม้แต่น้อย ทำให้ชายหนุ่มมองไปที่ร่างของไอที่ตอนนี้ไม่ต่างจากตุ๊กตาตัวหนึ่ง และสิ่งที่เขาสังเกตเห็น คือ ดวงตาที่หลับสนิทนั้น กำลังหลั่งน้ำตาสีแดงสดออกมา
เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ฉีกยิ้มออก เพราะในตอนนี้ เขามีน้องชายของเธอ อยู่ในกำมือแล้ว ถึงแม้ว่า เขาจะไม่มีเค้าโครงส่วนไหนเหมือนเธอเลยก็ตาม
“...ให้ทำแค่นี้เหรอครับ...!!!!” ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะพูดจบ มือทั้งสองข้างที่แค่แตะอยู่ที่หัวและท้ายของนาฬิกาทราย ก็ดูดมือของเขาเข้าด้วยกัน
ออยพยายามดึงมือทั้งสองข้างของเขาออก แต่มือของเขากลับติดหนึบมากขึ้น เขาเงยหน้าขึ้น เพื่อเรียกให้ชายหนุ่มชุดดำช่วยเขา แต่รอบข้างของเขากลับมีแต่หมอกควันสีดำทั้งสิ้น
“โอ๊ย!!!” เด็กหนุ่มอุทานขึ้น เมื่อรู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง เมื่อเขามองเข้าไปในนาฬิกาทราย สิ่งที่เขาพบคือ เลือดของเขากำลังไหลลงไปในนาฬิกาทรายอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่ายๆ “อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!”
ไม่นานหลังจากที่เด็กหนุ่มกรีดร้อง ทุกสิ่งทุกอย่างก็หยุดลง ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงความอ่อนล้าของขาที่ยืนอยู่ เด็กหนุ่มล้มลงทันที พร้อมกับนาฬิกาทรายที่หล่นลงพื้น โดยที่ไม่มีเสียง ส่วนมือของเด็กหนุ่ม ที่เป็นรูโหว่ใหญ่นั้น ในตอนนี้เลือดของเขาก็ยังคงไหลออกมา ก่อนที่จะมีใครบางคนมารักษาให้....
เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นเหมือนพึ่งตื่นนอน ภาพที่เขาเห็นคือเด็กสาวผิวขาว กับผมสั้นปะบ่าสีดำ ที่กำลังนอนอยู่ข้างๆเขา
เมื่อเด็กหนุ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็รีบตื่นขึ้นด้วยความตกใจ และสิ่งที่เขาตกใจมากกว่าคือเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป จากเสื้อเชิ้ตสีขาว กลับกลายเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำ กับกางเกงยันต์สีดำ
ออยมองไปรอบๆ ก็เห็นผู้คนทั้งชายหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มากมาย ออยมองอย่างตกตะลึง มือของเขายังคงลูบไม้กางเขนไปมาเพื่อให้จิตใจสงบลงบ้าง
“เลือดเต็มมือเลย...” เสียงทุ้มหวานดังขึ้น ออยมองลงไปด้านล่างก็พบกับเด็กสาวผมยาวปะบ่าที่นอนข้างเขาอยู่
เธอนั่งอยู่กับพื้น ดวงตาของเธอยังคงตื่นไม่เต็มที่มากนัก ใบหน้าของเธอจึงงัวเงียมากเป็นพิเศษ ออยรีบก้มลงไปถามเธอทันที ทั้งๆที่อาจจะไม่ได้คำตอบก็ได้
“นี่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ แล้วที่นี่มันที่ไหนเหรอ?”
“...” เด็กสาวมองหน้าของออยอย่างงัวเงีย เธอแตะที่ผมม้าของออยเบาๆ “สวยจังเลย”
“เธอบ้ารึเปล่าเนี่ย?!” เด็กหนุ่มปัดมือของเด็กสาวออก เด็กสาวมองไปรอบๆและกลับมามองเด็กหนุ่มตรงหน้าใหม่ “คงจะเป็นด่านแรกของ Liar Game ล่ะมั้ง”
เด็กหนุ่มตาโตขึ้น และนึกถึงช่วงเวลาเมื่อครู่นี้ ที่เขาพึ่งได้รับนาฬิกาทราย ก่อนจะรู้สึกตัวอีกครั้งว่า ตัวเองได้มานอนอยู่ที่นี่
เมื่อเด็กหนุ่มนึกถึงนาฬิกาทราย เขาก็รีบหันไปมอง รอบตัว เพื่อดูว่ามีนาฬิกาทรายนั่นอยู่รึเปล่า ออยวอกแวกไปมา เพราะเขารู้สึกถึงสิ่งที่กำลังเข้ามาในอีกไม่ช้านี้
“ขอต้อนรับทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี่” เสียงของชายหนุ่มชุดดำดังขึ้นบนระเบียงชั้นสอง เสียงของเขาดังกังวานไปภายในห้องโถงใหญ่ที่มีผู้คนอยู่มากมาย “บางท่านอาจจะกำลังอยู่นะครับ แต่...ไม่เป็นไรครับ เพราะในเกมนี้ที่พวกท่านเลือกเข้ามานั้น ยังไงต่างคนก็ต่างไปอยู่แล้ว”
ออยรีบพยุงตัวของเด็กสาวที่นั่งอยู่ขึ้นยืน แค่เพียงสัมผัส เด็กหนุ่มก็รู้ทันที ว่าเด็กสาวนั้นไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย ออยมองสายตาของเธอก็พบว่า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้น ไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย
“เดี๋ยวลูกน้องของผมจะแจกกระเป๋าใบนี้ให้นะครับ” ชายหนุ่มยกชุกระเป๋าเป้ลายเสื้อทหารขึ้น เมื่อคำพูดของชายหนุ่มจบลง กระเป๋านับสิบใบ ก็ถูกขว้างปาออกมาจากทิศทางต่างๆ
ผู้คนมากมายต่างกระโดดขึ้นเพื่อรับกระเป๋าที่กำลังจะตกลงสู่พื้น บ้างก็รีบวิ่งมาแย่งจากมือของคนอื่นบ้าง ซึ่งเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก สำหรับชายหนุ่มชุดดำอย่างเขา
ออยสังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน ว่าเขานั้นต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นที่สุด
เมื่อไม่มีวี่แววของกระเป๋าที่ถูกขว้างปามาแล้ว เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้น “มีแค่นี้เหรอ แล้วพวกเราที่เหลือล่ะ?”
ชายหนุ่มเอียงคอเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นตลอดเวลา “นี่คุณยังเป็นห่วงคนอื่นอีกเหรอครับ?” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างขึ้นมากกว่าเดิม “อีกอย่างหนึ่ง คือ กระเป๋าก็มีแค่นั้นนั่นแหละครับ”
เสียงด่าทอต่างๆนานาดังขึ้น คงมีแต่ออยคนเดียว ที่กำลังยืนเงียบเพื่อหาทางออก แต่เพราะเด็กสาวที่เขาพยุงตัวขึ้นอยู่นั้น ยังอยู่ในอาการที่ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น จึงทำให้การมองหาทางออกของเขา ยากกว่าเดิมมาก
“หาทางออกไม่เจอหรอก” เด็กสาวพูดขึ้น “ที่นี่ไม่มีทางเข้าและทางออกหรอก เพราะฉะนั้น หาไปก็ไม่เจออยู่ดี”
ออยสังเกตเห็นสายตาที่สิ้นหวังของเด็กสาวที่อยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มพยายามเขย่งตัวให้สูงขึ้น เพื่อมองหาทางออกที่อาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่ง
“เรามาเริ่มเกมกันเลยดีกว่าครับ” ชายหนุ่มกล่าว พร้อมกับมือข้างซ้ายที่จับมือของอีกฝ่าย ที่กำลังจะปรากฏตัว “ผมขอแนะนำตัวเขาคนนี้ครับ ‘ซีโร่’”
ร่างที่เดาไม่ออกว่าเพศอะไร อยู่วัยไหน ไม่รู้แม้กระทั่งใบหน้าที่แท้จริงของเขาหรือเธอคนนั้น ชุดเสื้อคลุมสีดำที่ยาวเป็นระนาบเดียวกับพื้น และยังคลุมใบหน้าจนไม่เห็นแม้แต่คาง
“ถ้ายังไง ก็รบกวนให้ทุกคนเดินตรงไปที่ประตูที่เปิดอยู่ด้วยครับ” ชายหนุ่มพูด พร้อมกับชี้มือไปที่ประตูที่เปิดอยู่ ข้างประตู มีชายหนุ่มชุดดำอีกคนหนึ่งยืนคุมสถานการณ์อยู่ด้วย “ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าต้องทำให้ซีโร่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ หลั่งน้ำตาให้ได้...”
ออยจิกตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนระเบียง กับซีโร่ที่มองพวกเขาอยู่ ก่อนจะเดินตามผู้คนที่ค่อยๆเดินผ่านเข้าไปในประตู
ทุกก้าวที่ออยก้าวไปนั้น เขาได้เห็นอะไรมากกว่าการแย่งชิงที่ไร้เหตุผล หรือแม้แต่การพยายามฆ่าของชายหนุ่มตรงหน้าเขา
เสียงของชายหนุ่มดังไปทั่วห้อง แต่มีคนจำนวนน้อยมากที่จะให้ความสนใจเขา ชายหนุ่มถกเถียงกับหญิงสาวร่างบางตรงหน้าเขา เพียงเพราะเรื่องกระเป๋าที่ถูกคว้างลงมาอย่างไม่เจาะจงของใครบางคน
“เดี๋ยวครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับมือของเขาที่อยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มพอดี “กรุณาเดินผ่านไปทีละคนด้วยครับ”
เสียงของเขาเรียบนิ่ง ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย “ก็เธอเดินไม่ไหวนี่...” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์อย่างมาก ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในประตู
ตึ้งงงงง!!!
เสียงของโลหะขนาดใหญ่ตกลงมาจากด้านบนประตู เด็กหนุ่มล้มลงกับพื้นทันที “นี่เป็นเพียงการเตือนนะครับ”
เด็กหนุ่มมองผู้ชายตรงหน้าที่ตัวสูงกว่าเขาประมาณ 5 เซนติเมตร “ไม่เป็นไรหรอก เธอเดินไปก่อนเลย”
เสียงของเด็กสาวพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอดูดีขึ้นมาก เด็กหนุ่มจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ประตู แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ของเด็กหนุ่ม ก็คือ การมองใบหน้าของผู้ชายที่เฝ้าอยู่หน้าประตูคนนั้น และเด็กหนุ่มเองก็รู้ตัวดีว่า เขากำลังมองสายตาเฉียบคมของเขาเช่นกัน...
เด็กสาวค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น เธอเดินผ่านประตูไปโดยที่ไม่มีอะไรผิดสังเกต เธอเดินไปยืนข้างๆออยที่ยืนมองชายหนุ่มชุดดำที่เฝ้าอยู่ที่ประตูอย่างไม่วางตา
เด็กสาวมองดูสายตาที่แข็งกร้าวของออยด้วยความสนใจ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยสักนิด ว่าตัวเขากำลังมีสายตาที่ก้าวร้าว
“ส่งสายตาแบบนั้นออกมา มันไม่ดีนะ...”
“...เลิกพูดเหมือนแม่ซะทีได้ไหม!” เด็กหนุ่มตะคอกใส่เด็กสาวที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ เธอสะดุ้งด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินออกจากเธอไป โดยที่ไม่มีท่าทีจะใส่ใจเด็กสาวที่ยืนเดียวดายอยู่เลยสักนิด
ออยยืนกอดอกอยู่ที่พนังอีกฝังหนึ่ง เขาก้มหน้ามองพื้นอิฐที่สกปรกจนต้องเบือนหน้าหนี และสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังเดินผ่านประตูออกมาอย่างง่ายดาย ผิวสีแทนกับผมที่ยาวประบ่าของเขา ทำให้เด็กหนุ่มจำได้ทันทีว่าเขาคือใคร
“กวิน...” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น พร้อมกับส่งสายตาไปที่เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม เด็กหนุ่มผมยาวหันมาทางเสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นเมื่อครู่นี้ทันที รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่มผมยาว มือหนาของเขาจับที่ไหล่ของเด็กหนุ่มผิวขาวตรงหน้า
“นี่นายมาเล่นเกมนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย!”
“ฮึ...” เด็กหนุ่มผิวขาวสบตากับเด็กหนุ่มผิวสีแทน เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ ทำให้เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก เพราะมันทำให้ความทรงจำที่เพิ่งผ่านไปไม่นานกลับมาอีกครั้ง “ก็...ข้อเสนอมันน่าสนใจดีน่ะ”
กวินเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ “หือ บ้านนายก็พร้อมอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องมาเสี่ยงตายเพื่อเงินมหาศาลที่ได้มาด้วยความลำบากขนาดนี้ก็ได้นี่?!”
เด็กหนุ่มผิวขาวก้มหน้าลงเล็กน้อย เขายิ้มอ่อนๆเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องดังกล่าว สายตาของออยเหลือบไปยังพนังอิฐที่มีร่างบางของเด็กสาวอยู่ แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นคือ พนังอิฐที่ไร้เงาของเด็กสาว เขาหันมองไปมาเพื่อตามหาเด็กสาว ก่อนจะส่ายศีรษะเล็กน้อยเพื่อลืมเรื่องของเด็กสาวที่เพิ่งเจอกันทิ้งไป…
การสนทนาของเด็กหนุ่มทั้งสองนั้นยาวนานเสียจนเด็กหนุ่มทั้งสองลืมเรื่องเกมที่พวกเขาจะต้องเจอไปเสียสนิท พวกเขาลืมแม้กระทั่งมองดูว่ามีใครเสียชีวิตในการผ่านประตูมาแล้วบ้าง
“พวกคุณที่เหลือตามผมมาด้วยครับ” เสียงทุ้มต่ำของเด็กหนุ่มที่ยืนคุมประตูอยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น สายตาคมกริบของเด็กหนุ่มจ้องมองไปยังออยที่ยังคงพูดคุยอยู่กับกวิน โดยไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย
ปึก!!!
“กรี๊ดดดดด!”
เสียงมีดปักลงที่หน้าต่างข้างๆร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองพอดี ทำให้เด็กหนุ่มรีบหันไปทางคนที่ขว้างมีดมาอย่างรวดเร็ว เพราะปลายมีดอันแหลมคมเมื่อครู่ผ่านปลายจมูกของสองหนุ่มไปอย่างเฉียดฉิว
“กรุณาตามผมมาด้วยครับ” เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับนำผ้าคลุมที่ถูกเย็บเป็นหมวกคลุมมาคลุมที่ศีรษะ มีเพียงปลายจมูก ปาก และคางของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมาให้เห็น
เด็กหนุ่มทั้งสองเดินตามร่างสูงตรงหน้า พร้อมกับคนหนุ่มสาวประมาณยี่สิบกว่าคนเดินอยู่ข้างหลังของเด็กหนุ่มที่มีดวงตาคมกริบ
“ในการแข่งขันเกมหลอกลวงในครั้งนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อยนะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองเหล่าหญิงชายที่เดินตามเขาอยู่ด้านหลัง
เด็กหนุ่มร่างสูงมองไปยังเด็กสาวชุดดำที่เดินอยู่ด้านหน้าเขา มีระยะห่างจากเขาประมาณสามคน สิ่งที่เขาสังเกตเห็นในตัวของเด็กสาวตรงหน้า คือ เธอไม่มีอาการหวาดกลัวแต่อย่างใด การเดินก็ดูจะปกติ ผิดกับเมื่อครู่นี้มาก
หรือเธอหลอกเขา...
เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ เขาหันไปมองทางเดินอิฐที่เขาเดินผ่านมาแล้วอีกครั้ง มือหนากำสร้อยจี้รูปไม่กางเขนอย่างลืมตัว“งั้นรับสิ่งนี้ไว้ด้วยครับ” ชายหนุ่มชุดดำยื่นนาฬิกาทรายที่ไม่มีทรายอยู่ด้านในให้แก่ออย เด็กหนุ่มรับมาอย่างงุนงง
ความคิดเห็น