ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lair Game

    ลำดับตอนที่ #8 : เกมที่ไม่มีทางออก...

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 55


    ผมขอออกจากเกมนี้ได้ไหมครับ? ศักดิ์เอ่ยถามขึ้น ทุกสายตารวมไปอยู่ที่เขา เพราะการที่ได้เข้ามาอยู่ในเกมนี้แล้ว หากจะขอออกจากการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก...

    ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้นล่ะครับ ชายหนุ่มชุดดำถามเขา ศักดิ์ใช้มือขวาของเขาแตะที่หน้าอกข้างซ้าย เพื่อจับจังหวะการเต้นของหัวใจ และเพื่อให้ตัวเขาเองได้รับรู้ว่า เขายังคงมีชีวิตอยู่

    ผมไม่อยากได้แล้วล่ะครับ เงินมหาศาลอะไรนั่นที่คุณบอกน่ะ...

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้น มองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะหันไปมองพัตน์ เหมือนกำลังจะถามว่า คุณจะออกไปด้วยไหม? ชายหนุ่มฉีกยิ้มออก หยิบนาฬิกาทรายที่อยู่ในเสื้อคลุมออกมา ทรายที่อยู่ภายในหลั่งไหลตามธรรมชาติ ก่อนที่มันจะตกลงพื้น...

    เพล้ง!...

    ร่างไร้วิญญาณของศักดิ์ล้มลงกับพื้น ท่ามกลางสายตาของผู้เล่นที่เหลือ พัตน์มองร่างของศักดิ์อย่างสิ้นหวัง เขานึกไม่ออกเลยว่า ถ้าเขาไม่ขอมีชีวิตอยู่มันก็จะเป็นแบบนี้เหรอ แล้วเวลาที่เหลือล่ะ เขาจะทำอะไรได้?...

    ไอมองเหงื่อที่เกิดขึ้นตามร่างกายของพัตน์ ลางสังหรณ์ของเธอสั่งให้เธอหนีไปซะ เพราะอาการแบบนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คงหนีไม่พ้นสติแตก แล้วก็ฆ่าคนที่เหลืออยู่ทีละคน

    ตาม...ฉัน...มา...นะ...

    ไอพูดโดยไม่ออกเสียงเพื่อให้เอริก้า และพวกของรันรู้ รันมองไปที่พัตน์ ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป รันมองซ้ายและขวาเพื่อความแน่ใจ เพราะสิ่งที่เขาคิดนั้นมันดูง่ายเกินไป แต่ก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะหนีออกจากวินาทีหลังจากนี้

    รันสั่งให้พวกของไอวิ่งนำไปก่อน เขาผลักร่างของพัตน์ที่ตอนนี้น่าหวาดกลัวเต็มที ร่างของชายหนุ่มพิงกับผนัง ก่อนที่จะหยิบลวดที่เอาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มารัดคอของชายหนุ่มชุดดำไว้

    ฮ่า ฮ่า แค่นี้แกก็อยู่ในกำมือฉัน... น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปมาก ราวกับคนละคน ชายหนุ่มฉีกยิ้มออก และหัวเราะเบาๆเหมือนจะเยอะเย้ย

    ฮะ นี่คุณจะฆ่าผมเหรอ คิดใหม่ได้นะ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถอยไปด้านหลังให้แผ่นหลังของเขาชนกับพนัง ลวดที่รัดคอของเขาอยู่ ตัดคอของเขาให้ออกจากร่างไปทันที น้ำสีแดงสดพุ่งกระจายไปคนละทิศละทาง ชายหนุ่มชุดดำล้มลงกับพื้น พร้อมกับน้ำสีแดงสด...

     

    เสียงวิ่งของหนุ่มสาวทั้งห้าคนดังลั่นคฤหาสน์หลังใหญ่ เอริก้าร้องขึ้นด้วยเสียงอื้ออึงและช้ำไปที่ห้องรับแขก ทั้งสี่คนหันไปที่ห้องรับแขก และดูเหมือนว่าทั้งสี่คนจะคิดเหมือนกัน เพราะการกระทำของเอริก้าเหมือนกำลังจะบอกว่า ให้ไปหลบอยู่ที่นั่นสิ

    เดี๋ยวสิน้อง จะหลบอยู่ที่นี่ทั้งห้าคนเลยเหรอครับ? ชุนถามขึ้น เพราะการหลบอยู่ในที่เดียวกัน สามารถหาตัวของแต่ละคนได้ไม่ยาก แต่การหลบซ่อนคนละที่กัน ก็จะไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นได้เลย ห้องมันก็กว้างอยู่หรอกนะ แต่จะหลบอยู่ในห้องห้องเดียวมัน...

    ฉันว่านะ ที่นี่น่ะดีแล้วแหละ หรือนายจะไปหลบอยู่ห้องนอนที่อยู่ไกลกว่ากัน... สาพูดขึ้น ฉันว่าหลบอยู่ที่นี่ดีแล้ว ไอ้ที่จะโดนจับได้ก็เพราะเรามัวแต่ยืนคิดกันอยู่นี่ไง

    ไอมองเข้าไปในห้องรับแขกในสไตล์ยุโรป ภายในห้องจะสวยกว่านี้แน่หากมีแสงสว่างเข้ามา ไอจับมือของเอริก้าไว้แน่น เพื่อพาเธอวิ่งไปที่ห้องนอน ที่อยู่ห้องถัดไป

    ไอจะไปไหนน่ะ? รันจับแขนของไอไว้ทัน เด็กสาวหันมาและพูดอย่างรวดเร็วว่า ห้องนี้คนหลบไม่พอหรอก ไอรีบวิ่งไปที่ห้องนอนตามทางเดินเท่าที่จะจำได้

    รันมองชุนและสา เหมือนกับว่า อยากจะขอความเห็น แต่ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงของสิ่งของบางอย่างถูกลากอยู่บนพื้นไม้ที่พวกเขายืนอยู่ รันหันซ้ายหันขวาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะวิ่งไปที่ห้องนอนตามไอที่วิ่งไปก่อนแล้ว

    สาวิ่งเข้าไปหลบอยู่หลังรูปปั้นหญิงสาวตัวใหญ่ที่ไว้ตกแต่งห้อง รูปปั้นสีขาวใสเหมือนใหม่ที่ตั้งอยู่ในมุมต่างๆของห้อง แต่เธอเลือกที่จะหลบอยู่ที่มุมห้องใกล้กับชั้นวางหนังสือ ซึ่งอยู่ในรัศมีเดียวกับประตูทางเข้าพอดี

    ลวดลายของรูปปั้นปกปิดตัวเธอได้เป็นอย่างดี หญิงสาวมองผ่านแขนของรูปปั้นก็พบว่า ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ ในห้องสี่เหลี่ยมที่กว้างใหญ่ เพียงคนเดียว...

    เสียงที่ไม่คุ้นหูดังใกล้เข้ามามากขึ้น หญิงสาวหลับตาลงก่อนจะรู้ตัวว่า น้ำตาของเธอได้พลั่งพลูออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้ว

    ฉันน่าจะวิ่งตามน้องไปตั้งแต่แรก...

    เพล้ง!!!

    กรี๊ด!!!?... หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่เสียงของเธอแผ่วเบาเกินกว่าจะมีใครมาได้ยินหญิงสาวปิดปากของเธอไว้ เพราะมันสามารถแผดเสียงร้องให้อีกฝ่ายรู้ได้ทุกเมื่อ

    ฉันรู้ว่าแกอยู่ในนี้!!! ออกมาดีกว่าน่า... พัตน์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของเขา เธอนึกย้อนกลับไปเมื่อยังอดีต ที่เธอกำลังเดินกลับบ้านบนถนนที่คุ้นเคย...

    เสียงของนกที่ร้องจิ๊บ จิ๊บ ไปมาดูน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นดีไม่น้อย ทั้งๆที่เป็นเวลาเย็น แต่ก็ยังมีความงดงามหลงเหลืออยู่

    สำหรับหญิงสาวมหาวิทยาลัยปี 4 แล้ว ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับเธอ นาเดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดีเหมือนเคย แต่กลับมีสายตาที่ไม่เหมือนเคยจ้องมองเธออยู่...

    ฟิ้ว...

    มีใบกระดาษแผ่นหนึ่งตกลงมาตรงหน้าเธอ หญิงสาวหยิบมันขึ้นมา และเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มชุดดำกระโดดลงมาพอดี เขามองและพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า ชายหนุ่มส่งมือถือให้เธอ และถามคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

    คุณสนใจจะเล่นเกมนี้ไหมครับ?...

    เพล้ง!!!

    ว้ายยยยยยย!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!” รูปปั้นที่นาหลบอยู่ถูกขวานของพัตน์ตีจนแตก ก่อนจะจิกผมของเธอและลากตัวของเธอที่อยู่กับพื้น นาพยายามแกะมือของชายหนุ่มให้หลุดออก

    เสียงร้องของเธอดังไปถึงห้องนอนที่ไออยู่ เส้นผมของเธอร่วงหล่นลงพื้นไม้ พัตน์ปล่อยตัวของหญิงสาวลงกับพื้น เขาเดินไปที่เตาผิง ทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่รู้ทันทีว่า เขาคิดจะทำอะไร

    นารีบลุกขึ้นเธอพยายามวิ่งออกจากห้อง แต่แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บและแสบไปทั้งขา ร่างของเธอล้มลงกับพื้นอีกครั้ง นาไม่หันมองสิ่งที่เกิดขึ้นกับขาของเธอ นาพยายามคลานออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด ทั้งๆที่ขาของเธออ่อนแรงเต็มที เพราะขวานที่พัตน์ขว้างใส่ขาทั้งสองข้างของเธอ

    ขอให้ฝันดีนะ... เมื่อพัตน์พูดจบ มือของเขาก็ปล่อยไม้ที่มีไฟติดอยู่ใส่ร่างของหญิงสาว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!” ร่างของเธอลุกเป็นจุน สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างเห็นได้ชัด เขาฉีกยิ้มออกพึงพอใจกับผลงานตรงหน้าเป็นอย่างมาก

    พัตน์หยิบขวานขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเดินออกไปที่ห้องต่อไป จริงอยู่ที่เขาไม่รู้ว่าคนที่เหลือหลบอยู่ที่ห้องไหน เพราะฉะนั้นทุกห้องที่เขาผ่าน จะต้องถูกทำลายจนกว่าเขาจะแน่ใจว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×