คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เริ่ม!
ไม่นานผู้ที่สามารถเดินผ่านประตูมาได้ก็เหลือเพียงแค่ 75คน เท่านั้น ไม่มีใครตอบได้ว่าทำไม ประตูถึงไม่ปล่อยใบมีดใส่ทุกคน เหมือนมันเลือกผู้ที่เหมาะสม ที่จะผ่านไปยังเกมต่อไปงั้นเหรอ?
“ต่อไปผมจะพาทุกท่านไปยังแบบทดสอบต่อไปครับ ถ้าเป็นไปได้ อย่าส่งเสียงดังเด็ดขาดนะครับ”
ชายหนุ่มพาผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมดเดินหน้าไปยังแบบทดสอบต่อไปทันที ไอกำนาฬิกาทรายไว้แน่น ก่อนจะนึกสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง
ทำไมทุกคนต้องมีนาฬิกาทรายด้วยล่ะ?
“นี่...นี่...” ไอเรียกรันที่อยู่ข้างๆ ด้วยเสียงที่แผ่วเบาเท่าที่จะทำได้ “นาฬิกาทรายนี่มันอะไรกัน”
“...” รันค่อยๆจับคำมาต่อกันจากการอ่านปากของไอ “นี่เหรอ?” รันชี้ไปที่นาฬิกาทรายของตัวเอง
“เขามีเอาไว้เป็นชีวิตสำรองของผู้ผ่านเข้าไปในเกมได้”
“อะไรนะ...?”
ไอเอียงตัวเข้าใกล้รันมากขึ้น เพื่อฟังเด็กหนุ่มให้ชัดขึ้น
“มันเป็นชีวิตสำรอง”
“ดังๆหน่อย ฉันไม่ได้ยิน”
ไอเขย่งตัวให้เท่ารัน ทั้งสองแทบจะไม่ได้ยินการพูดของแต่ละคนเลยแม้แต่น้อย รันเริ่มจับขมับตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจยาวๆด้วยเสียงเบาๆ
“ชี...วิต...สำ...รอง...”
รันพูดช้าๆให้ไออ่านปากได้ง่ายขึ้น ไอมองนาฬิกาทรายที่เธอถือ เธอพยักหน้าเล็กน้อย ทำให้รันโล่งใจมากขึ้น หลังจากที่พยายามสนทนากันมานาน
“แล้วใช้ได้ตอนไหนล่ะ?”
“ตอนที่เธออ้อนวอนขอความตายไงล่ะ” ชายหนุ่มชุดดำพูดขึ้น ทุกคนที่เดินตามหลังเขา หยุดเดินโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง “จะคุยกันอีกนานไหม กรุณาเดินตามผมมาเงียบๆด้วยครับ”
ไม่มีใครเอ่ยคำพูดที่ไม่ควรพูดออกมาแม้สักคน ถึงแม้สิ่งที่พวกเขาอยากรู้ จะล้นเหลือ จนแทบจะทะลักออกมาจากปากของพวกเขาก็ตาม
ท่ามกลางทางเดินที่เริ่มมืดลงที่ละน้อย ทุกที่ที่ฝีเท้าของพวกเขาก้าวไป ต่างเต็มไปด้วยกับดัก ที่อันตราย จนแม้แต่คนที่ผ่านโลกมามากมาย ยังร้องอ้อนวอนขอชีวิต
ชายหนุ่มชุดดำหยุดอยู่หน้าห้องที่มืดสนิท ไม่มีแม้แต่แสงจันทร์ ที่พวกเขาอยากออกไปเห็น ไม่มีเสียงที่พวกเขาต้องการ และไม่ต้องการ ทุกอย่างเงียบสนิท เงียบเสียจน ได้ยินเสียงลมหายใจของคนข้างๆ อย่างชัดเจน
“ห้องที่อยู่ตรงหน้าของพวกคุณ คือด่านสุดท้ายที่พวกคุณจะต้องทดสอบตัวเอง...” เขากล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ผมขอเตือนด้วยความหวังดีนะครับ กรุณาอย่าแสดงความกลัวของคุณออกมา และอย่าแสร้งทำเป็นไม่กลัวด้วยครับ”
เมื่อเขาพูดจบ ชายหนุ่มชุดดำก็เดินเข้าไปภายในห้องมืดตรงหน้า เสียงฝีเท้าที่พร้อมจะวิ่งหนี ดังกึกก้องอยู่ในห้องตลอดเวลา
“กรุณาเดินยกเท้าด้วยครับ” ชายหนุ่มชุดดำกล่าวอีกครั้ง
ไอไม่รู้ว่า เขาหันมามองคนข้างหลังเขารึเปล่า เพราะจากที่เธอเห็น และรู้สึก เธอได้ยินเสียงแลบลิ้นที่แผ่วเบาของคนข้างๆ ไอไม่ทราบเพศ หรืออายุ ของเขาหรือเธอคนนั้น เหมือนเยาะเย้ยชายหนุ่มชุดดำ
“อ๊ากกกกก!!!”
เสียงของเขาดังขึ้นข้างๆไอ ก่อนที่จะมีน้ำเหลวๆ กระเด็นใส่ผู้คนในบริเวณใกล้เคียง ไอสะดุ้งโหยง เมื่อมือข้างขวา สัมผัสถึงน้ำเหลวๆ เธอแทบจะไม่ต้องเดาเลยว่านั่น คือน้ำอะไร...
สุดสายตาที่ปลายห้องมืด ผู้คนที่เหลือรอดชีวิตมาได้ 74 คน ก็ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง แสงสีขาวสว่างเสียจนต้องหรี่ตา
“ยินดีต้อนรับสู่ทางเข้าของเกมนี้ครับ...” เสียงของเด็กหนุ่มที่คุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง ไอมองไปที่กระจกบานเท่าตัว ที่ใสสะอาดจนแสบตา “ผมจะจับฉลากชื่อที่อยู่ในโถน้ำนี้ เพื่อหาคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเกมนี้...เพราะผมไม่ต้องการคนที่หวาดกลัวมาเหยียบเกมอันศักดิ์สิทธิ์ของผม”
ชายหญิงนับร้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม นิ่งสนิท แทบจะหยุดหายใจ ไอมองเด็กหนุ่มตรงหน้า ถึงเธอจะนิ่งเงียบ แต่ภายในใจกลับสั่นเทา เธออยากจะกรีดร้องสุดเสียง เพื่อระบายความอึดอัดในใจให้ออกไป ไม่นาน เธอก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว เพราะเธอไม่อาจจะปฏิเสธความจริงได้ว่า เธอกลัวมากแค่ไหน เธออยากจะออกไปจากที่นี่ กลับไปใช้ชีวิตนักเรียนม.ปลาย ที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร...
‘กลัว....กลัว....กลัว...’
เธอพูดในใจด้วยเสียงที่สั่นเทา ถ้าหากเธอไม่ได้ผ่านไปสารอบต่อไปล่ะ? จะเกิดอะไรกับเธอ หากชื่อที่ประกาศมาไม่มีชื่อเธอล่ะ?
ความกลัวถาโถมเข้ามาที่เธอ ไออยากจะลุกหนีออกไปจากที่นี่ สิ่งที่เธออยากจะทำมากที่สุดคือ กลับบ้าน ไปหาพ่อและแม่ของเธอ ที่พร้อมจะโอบกอดเธอไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พ่อและแม่ที่แท้จริงก็ตาม...
“ไม่เป็นไร...” มือที่ใหญ่และอบอุ่นมาจับกุมมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้ ไอหันมองเจ้าของมือที่เธอรู้จักดี รันหันมาสบตากับเธอ และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ไออยากจะสะบัดมือที่กุมเธอไว้ให้ออกไป เพราะมันเป็นมือที่ทำให้เธอ ไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่ความรู้สึกที่เข้ามา ทำให้เธอจับกุมมือของเขาตอบ
“ศรันรัตน์ อิทธิพลรบ”
“ศศินา คมตระกูล”
“ศุรศักดิ์ หมื่นมนตรี”
“วีรพัตน์ วาสนา”
“อรชุน ไมตรี”
“สาริษา จันทร์งาม”
“...อารญา หมื่นมณี”
เสียงผู้คนดังหือขึ้นพร้อมกัน เมื่อได้ยินชื่อของทั้งเจ็ดคน รันยิ้มให้ไอด้วยความยินดี จู่ๆก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
“แล้วคนที่ไม่ได้ถูกเรียกชื่อล่ะ? แล้วคนที่ได้รับเลือก มีแค่นี้เองเหรอ?”
เด็กหนุ่มชุดดำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ก็มีแค่นี้นี่ครับ แล้วคนที่ผมไม่ได้เรียกชื่อก็...”
“ไอ้สารเลว!” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งทนต่อการกระทำของเด็กหนุ่มไม่ไหว จึงหยิบปืนที่ซ่อนไว้ขึ้นมา ก่อนจะลั่นไกลใส่เด็กหนุ่ม
ปัง!!
ไอมองเด็กหนุ่มด้วยอาการตกใจ แต่แล้วความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความแปลกใจ ที่ลูกกระสุนหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มขุดดำ เด็กหนุ่มฉีกยิ้มออก ก่อนจะเกิดลมที่แรงมากจนทำให้ลูกกระสุนกระเด็นลับไปหาชายหนุ่มคนที่ยิงมา
“สิ้นคิดที่สุด...” เด็กหนุ่มสบถออกมา ก่อนจะมองไปเห็นกระดาษที่ลอยอยู่เหนือน้ำสามแผ่น เด็กหนุ่มหยิบขึ้นมาคลี่อ่าน และฉีกยิ้มกว้างออกมา “ทุกท่านครับ รู้สึกว่า วันนี้จะเป็นวันดีของท่านผู้มีเกียรติอีกสามท่านนะครับ...”
เสียงฮือดังขึ้นอีกครั้งด้วยความตกใจ ไอมองไปที่ประตูทางเข้าด้านหลังที่เดินเข้ามาในห้องนี้ แต่มันกลับกลายเป็นกำแพงที่ไร้ทางออก ไอรีบมองไปด้านบนเพื่อหาหน้าต่างที่พอจะหนีออกไปได้บ้าง หากเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับกลายเป็นเพียงหลังคาที่ทำจากหินอ่อนเท่านั้น
แล้วคนที่ไม่ถูกเรียกชื่อจะหนีไปยังไงล่ะ?!...
“วรนุช สินทรัพย์”
“เอริก้า วิลล์ สวอน”
“...เจสสิก้า สวอน”
เสียงของเด็กหนุ่มเงียบลง เขามองไปที่ชายหนุ่มชุดดำเพื่อสั่งให้พาคนที่ถูกเลือกไปที่เกม ชายหญิงที่ถูกเลือกทั้งสิบคน เดินตามชายหนุ่มชุดดำไปที่ประตูทางออกของมุมห้อง เพื่อไปเล่นเกม...
ความคิดเห็น