คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [บทนำ
สองสาวซึ่งกำลังเดินคุยกันกะหนุงกะหนิงลงบันไดจากชั้นสองต่างพากันชะงักงันเมื่อสายตาเหลือบแลผ่านผนังกระจกใสแจ๋วออกไปเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังยืนอวดสรีระอยู่ริมขอบสระ เขาสวมเพียงกางเกงว่ายน้ำสีดำตัวเดียว มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู ส่วนอีกข้างยกขึ้นเสยผมเปียกชื้นลวกๆ แล้วจึงเปลี่ยนมาขยับมือควบคู่การสนทนากับปลายสาย โดยมีแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ทอประกายระยิบระยับสะท้อนผิวน้ำเป็นฉากประกอบอันงดงาม
ชญานินมองตามสายตาน้องสาวแล้วทำเสียงขึ้นจมูกคล้ายนึกหมั่นไส้เต็มแก่ อีกฝ่ายได้ยินจึงรีบถอนสายตาจากเรือนกายกำยำของชายหนุ่มกลับมาขมวดคิ้วมองพี่สาวเป็นเชิงถาม ขณะทั้งคู่เริ่มเดินกันต่อไปด้วยจังหวะก้าวเท้าตามปกติ
“พี่นินว่าไงนะคะ”
“เปล่าซะหน่อย” คนเป็นพี่ไหวไหล่ยิ้มๆ ด้วยกิริยายียวน “จะว่าไปเด็กสาวอย่างเธอนี่มันช่างโชคดีเสียจริงนะจ๊ะยัยนีท ถึงสามีจะจากไปเร็วสักหน่อย แต่ตอนนี้เธอก็ได้มีชีวิตสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์หลังงามกับชายหนุ่มน่าฟัดแบบคุณก้องแค่สองต่อสอง” พูดพลางหันไปชำเลืองผ่านกระจกอีกครั้งจนสระว่ายน้ำลับจากสายตา
“สองต่อสองที่ไหนกัน แม่บ้าน เด็กรับใช้ คนสวน คนรถ รวมๆ ก็ห้าคนเข้าไปแล้วค่ะ ไหนจะ รปภ. อีกล่ะ”
“แต่ตกกลางคืนในตึกใหญ่ก็จะเหลือแค่เธอกับเขา”
“คุณก้องเพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงครึ่งปี แล้วที่ผ่านมานีทก็แทบไม่ได้เจอกับเขาเลยด้วยซ้ำ”
“ก็นั่นเธอต้องไปอยู่โรงพยาบาลกับพี่ปุ๊นี่จ๊ะที่รัก ทว่าแต่นี้ต่อไปเธอก็ต้องกลับมาอยู่บ้านตามปกติ@@@กับคุณก้องสองต่อสองจริงๆ”
“นี่พี่นินคิดอะไรอยู่กันแน่คะ” ชนิษฐาเม้มปาก ขึงตาวาววับอย่างขัดใจ พยายามจะไม่แสดงอาการร้อนตัวเพราะคำพูดจี้ใจดำของอีกฝ่ายมากนัก
“แหม ก็คิดอกุศลกึ่งอิจฉาน่ะสิจ๊ะ เอ คุณก้องนี่อายุเท่าไหร่นะตอนนี้ สามสิบสองใช่ไหม ก็แปลว่าแก่กว่าพี่เจ็ดปี กำลังพอเหมาะพอดีเลยนะเนี่ย รูปร่างเขานี่มันทั้งฟิตทั้งเฟิร์ม เซ็กซี่ได้ใจดีจังนะว่าไหม” ระยะหลังมานี้เหตุผลที่ทำให้ชญานินมาเยี่ยมเยียนน้องสาวบ่อยขึ้นก็เป็นเพราะ ‘เขา’ คนนี้ บางครั้งก็โชคดีได้พบหนุ่มผู้เป็นชายในฝัน แต่บางทีก็พลาดหวังที่จะได้เจอเขา “หูย แค่มองไกลๆ ด้วยตาเปล่าก็แทบจะละลายอยู่แล้ว”
คนเป็นน้องได้แต่นิ่งฟัง
“มาเห็นแค่แป๊บๆ แวบๆ แบบนี้ไม่คุ้มเลยแฮะ เห็นทีพี่ต้องหาเรื่องมาค้างบ้านเธอบ่อยๆ ซะแล้วสิ ได้ไหมจ๊ะ”
“ตามใจสิคะ”
“หือ” คราวนี้พี่สาวเลิกคิ้วมองเธอด้วยสายตาล้อเลียนกึ่งจับผิด “เอ นี่เธอไม่คิดจะกีดกันพี่สักหน่อยเลยเหรอ ไม่กลัวรึไงว่าพี่อาจจะมาแย่งเขาไป”
“พี่นิน!”
“ทำไม”
“อย่าพูดอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้นสิ”
“โธ่ ยัยนีทเอ๊ย มองตาเธอแวบเดียวพี่ก็รู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ ยิ่งตอนที่เธอจ้องไปที่คุณก้องน่ะ เด็กห้าขวบยังอ่านสายตาเธอออกเลย อย่าพยายามปฏิเสธเสียให้ยาก” คนเป็นพี่ทำเสียงกระซิบด้วยท่าทีรู้เท่าทันอย่างเป็นต่อ ดวงตาเป็นประกายแฝงนัยหลากหลายประการ “พี่กับเธอถึงจะมีไลฟ์สไตล์ต่างกันสุดขั้ว แต่บางทีเราก็ใจตรงกันออกบ่อยไป โดยเฉพาะเรื่องนี้@@@พี่รู้ว่าเธอคิดยังไง เธอเองก็แอบชอบคุณก้องเหมือนกับพี่นั่นแหละ จริงไหม ยอมรับมาซะดีกว่า”
“ตัวเองชอบเขาก็ชอบไปคนเดียวสิคะ อย่ามาเหมารวมคนอื่นไปด้วย” คนเป็นน้องละล่ำละลักปฏิเสธเสียงแข็ง ปั้นหน้าแทบไม่ถูกเมื่อโดนรุกตรงๆ เช่นนี้ จึงได้แต่เม้มปากถลึงตาเอาเรื่องอย่างเก็บอาการไม่มิดเอาเสียเลย “นีทขอล่ะ อย่าพูดอะไรแบบนั้นได้ไหมคะ ใครมาได้ยินเข้าจะว่ายังไง แค่นี้@@@ภาพพจน์ของนีทก็ตกต่ำย่ำแย่มากพอแล้ว คุณก้องเขาก็เป็นเหมือน ‘น้องสามี’ ของนีทนะคะ อยากจะให้นีทถูกมองเป็นนางพระยาเทครัวที่คอยแต่จะจับกินผู้ชายบ้านนี้ให้ครบทุกคนเลยรึยังไง”
“ก็อันที่จริงแล้วเธอยังไม่เคยได้ ‘กิน’ ใครสักคนเลยไม่ใช่เหรอ ทั้งปาณัท ทั้งพี่ปุ๊สามีของเธอเอง”
คำพูดของพี่สาวทำให้ชนิษฐาตัวชาวาบ ชะงักงันไปชั่วขณะ โดยเฉพาะที่อีกฝ่ายเอ่ยถึง ‘ปาณัท’ เด็กหนุ่มผู้เป็นคู่กรณีเก่าของเธอเมื่อกว่าสามปีก่อน ด้วยชื่อนั้นเปรียบเสมือนเข็มแหลมที่สามารถทิ่มแทงจิตใจเธออย่างรุนแรงได้ไม่เสื่อมคลาย “พี่นินหมายความว่ายังไง” เธอมองพี่สาวด้วยสีหน้าหวาดหวั่นเคลือบแคลง
“เปล่า อย่าสนใจที่พี่พูดเลยดีกว่า” ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกระจ่างกลบเกลื่อนคำพูดตัวเอง “ถึงยังไง@@@สามีเธอเขาก็เสียไปแล้วนี่นา เท่ากับตอนนี้เธอเป็นอิสระและโสด”
“นั่นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่มากกว่า พอสามีตายไปก็จะรีบตะครุบน้องสามีทันทีเลยงั้นหรือคะ นีทไม่อยากให้ใครมาคิดอกุศลกับนีทแบบนั้น ทำไมพี่นินไม่เข้าใจความรู้สึกนีทตอนนี้บ้างเลยนะ”
ท่าทางโอดครวญอย่างเดือดเนื้อร้อนใจจริงจังนั้นทำให้พี่สาวเบิกตาโต รีบเปลี่ยนท่าทีหันมาโอบกอดไหล่อีกฝ่ายด้วยแขนข้างหนึ่งอย่างเอาใจ “โอ๋ๆๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่รู้สึกไม่ดีเลยรู้ไหม พี่ขอโทษจ้ะที่รัก”
ชนิษฐาทราบดีว่าพี่สาวหาได้คิดร้ายต่อเธอ แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนสวยที่ถูกใครๆ เอาใจจนเสียนิสัยไปบ้าง แต่กับน้องสาวคนเล็กอย่างเธอแล้ว ชญานินทั้งรักและห่วงใยสารพัดเสมอมาไม่เคยเปลี่ยน ชนิษฐามีพี่สาวสามคน ชญานินเป็นพี่คนกลางที่สนิทกับเธอมากที่สุด และตอนนี้ก็เป็นพี่สาวคนเดียวที่ยังโสด ในขณะที่พี่สาวคนโตแต่งงานแล้ว ส่วนคนที่สามก็มีคนรักเป็นตัวเป็นตน ไม่มีเวลามาใส่ใจน้องสาวอย่างเธออีกต่อไป
“เดี๋ยวพี่ขับเองจ้ะ” เมื่อมาถึงตรงที่รถจอดซึ่งอยู่บริเวณด้านหลัง ชญานินก็แย่งกุญแจไปจากมือน้องสาว หากกลับไม่ยอมกดรีโมตเปิดรถง่ายๆ เธอยืนจ้องหน้าชนิษฐาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากอย่างตัดสินใจ “นีท พี่ว่า@@@จริงๆ แล้วพี่น่าจะย้ายมาอยู่กับเธอที่นี่อย่างถาวรซะเลยดีไหม”
“เอ๊ะ”
“พี่ชอบบ้านหลังนี้@@@ชอบมาก ทุกซอกทุกมุมสวยน่าอยู่ยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวซะอีก” ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายระยับขณะกราดมองไปรอบๆ บริเวณบ้านอันกว้างใหญ่ซึ่งถูกจัดแต่งอย่างมีรสนิยม มองไปทางไหนก็มีเสน่ห์งดงามเกินบรรยายด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดและศิลปวัตถุหลากหลายรูปแบบ “ตอนนี้สามีเธอก็เสียไปแล้ว ถ้าเธออยู่กับคุณก้องตามลำพังต่อไปมันก็คงจะดูไม่ค่อยดีใช่ไหมล่ะ@@@”
“อย่าห่วงเลยค่ะ นีทตั้งใจว่าปลายเดือนนี้นีทจะย้ายออกจากที่นี่ อาจจะกลับบ้าน หรือไม่ก็ไปอยู่ทาวน์เฮ้าส์ที่พี่ปุ๊ซื้อไว้ให้”
คนฟังตื่นตระหนกจนตาแทบเหลือกถลน “ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องอะไรต้องย้ายออกจากบ้านนี้ด้วย ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเธอจะถูกตัดขาดจากตระกูลไกรกิตติกรโดยปริยายเลยน่ะสิ เธอต้องไม่ทำอย่างนั้น”
“นีทไม่ได้ใช้นามสกุลไกรกิตติกรมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่คะ พี่ปุ๊เป็นน้องชายคุณรัศมี เขาไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกันกับคุณก้องซะหน่อย”
“รู้แล้ว แต่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็เหมือนเป็นคนในตระกูลนี้อยู่ เท่ากับเป็นไฮโซตามฐานะของบ้านไกรกิตติกร แต่ถ้าย้ายออกไปเมื่อไหร่ก็เป็นอันจบ”
“ช่างเถอะค่ะ”
“ไม่ได้นะยัยนีท พี่ดูออกนะจะบอกให้ว่าคุณก้องเขาคิดกับเธอยังไง เขาดูถูกเธอ เขาดูแคลนว่าสาวน้อยใจแตกเห็นแก่เงินอย่างเธอมาแต่งงานกับพี่ชายเขาเพราะความโลภตัวเดียว แม้แต่คนงานในบ้านนี้ก็เหมือนกัน แต่ละรายมองเธอด้วยสายตาพิลึกๆ ทั้งนั้น พวกเขาต่างก็ดูถูกเธอเหมือนกันหมด”
ชนิษฐาเม้มปากกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ เธอรู้ซึ้งในสิ่งเหล่านี้ดีและไม่ต้องการให้ใครมาตอกย้ำ “ก็เพราะแบบนี้ไงคะ พอไม่มีพี่ปุ๊แล้วนีทถึงไม่อยากอยู่บ้านนี้อีก”
“ใครว่า เธอยิ่งต้องอยู่ต่อต่างหาก อยู่ต่อเพื่อพิสูจน์ให้พวกนั้นรู้ความจริงว่ามองเธอผิดมาตลอด พี่ย่อมรู้ดีว่าน้องของพี่เป็นคนยังไง” พี่สาวหยอดยาหอมในการเกลี้ยกล่อม
“ไม่เห็นจำเป็นเลย นีทไม่สนใจ ไม่เห็นจะต้องไปแคร์ใครในบ้านนี้เลยสักคน นีทเคยอยู่บ้านนี้ได้เพราะพี่ปุ๊ เมื่อไม่มีพี่ปุ๊ ทุกคนในบ้านก็ไร้ความหมาย”
“ยัยเด็กโง่ เรื่องนี้มันจำเป็นนะ ถ้าปล่อยให้พวกเขาคิดว่าเธอแต่งงานเพราะเป็นเด็กใจแตกหิวเงิน มันก็จะกลายเป็นตราบาปที่ติดตัวแม่ม่ายยังสาวอย่างเธอไปตลอดชีวิตรู้ไหม ในฐานะพี่สาว พี่จึงยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด”
“แต่นีท@@@”
“เอ๊ะ! พี่บอกว่าห้ามย้ายก็ต้องไม่ย้าย เธอต้องอยู่ต่อไป แล้วพี่จะย้ายเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเอง ที่สำคัญบ้านนี้ก็อยู่ใกล้ออฟฟิศมากด้วย พี่จะได้สะดวกสบายขึ้น แล้วพี่จะทำให้ทุกคนรู้เองว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงร้ายกาจอย่างที่พวกเขาคิด นะ@@@ตกลงเอาตามนี้แหละ”
“แต่@@@”
“เชื่อพี่เถอะนีท เธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้พวกเขาเห็นก่อนแล้วค่อยจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ที่สำคัญ@@@ใจจริงเธอเองก็อยากอยู่ใกล้ๆ คุณก้องเหมือนกันไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยแค่ระยะหนึ่งก็ยังดี จะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำยังไงล่ะ ถึงไม่คิดว่าจะได้เขา แต่เธอก็คงไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดๆ จนมองเธอในแง่ร้ายตลอดไปไม่ใช่เหรอ”
“นีทไม่เห็นจะสนใจ@@@”
พี่สาวยิ้มอ่อนๆ พลางส่ายหน้าไปมาอย่างแช่มช้า ดวงตาคู่สวยมีแววปลอบประโลมกึ่งข่มขวัญอย่างจงใจ “เธออย่าพยายามปิดบังพี่เลยดีกว่า ไม่ต้องกลัวไปหรอก วางใจเถอะว่าตราบใดที่เธอยังอยู่ในบ้านหลังนี้ พี่จะไม่พูดความลับของเธอกับใคร และจะไม่บอกความรู้สึกในใจของเธอให้ใครรู้อย่างแน่นอน พี่สัญญา”
ความคิดเห็น