ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Soy milk latte and Silent Barista LUMIN #LMsilent

    ลำดับตอนที่ #7 : 7-- (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 58


    (7)….







     

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนที่เงียบสงบ ทำให้คนที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียงนุ่มตื่นขึ้นมาดึงผ้าห่มคลุมหน้าหลบแสงแดดที่น่ารำคาญพวกนั้น

     


    เดี๋ยวนะ... นี่ไม่ใช้ห้องนอนที่เค้าแชร์กับอี้ชิงนี่นา!


     

    ชายหนุ่มขยี้ผมที่ชี้โด่ชี้เด่พลางนึกถึงย้อนไปเมื่อคืน


     

    อ๋อ... ที่นี่... อพาร์ทเม้นของมินซอก


     

    ชายหนุ่มได้ยินเสียง กรอบแกรบเบาๆ ข้างๆหัวทิ้งหลังตัวลงบนเตียงนุ่มสบายอีกครั้ง เมื่อลองเอื้อมมือไปหาต้นเสียงก็เจอกระดาษแผ่นนึง พร้อมข้อความที่บาริสต้าตัวเล็กเขียนไว้ให้



     

     เมื่อคืนนอนหลับสบายรึเปล่า ตอนนี้ไข้ผมลดลงจนเกือบปกติแล้วล่ะ และตอนที่คุณอ่านข้อความนี้อยู่ ผมน่าจะกำลังอยู่ในห้องอาบน้ำ .. ระหว่างนี้ เดินดูอะไรได้ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวผมก็ออกมาแล้ว

    ปล ถ้าลู่หานอยากจะรีบกลับบ้านเลยก็ไปได้ไม่เป็นไรนะ แต่ส่งข้อความรึเขียนบอกไว้นิดนึงแล้วกันผมจะได้ไม่ตกใจ

     

    -M

     



    น่ารักจริงๆเลย นักศึกษาหนุ่มได้แต่ยิ้มกับตัวเองพลางพับกระดาษแผ่นนั้นวางข้างหัวเตียง ลู่หานลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อส่องกระจกบานเล็กที่แขวนไว้ข้างผนัง และพยายามใช้มือสางๆให้ผมที่ฟูจนน่าประทับใจบนหัวของเขาดูพอรับได้มากขึ้น ตามด้วยจับๆดึงๆเสื้อที่ยับยู่ยี่บนตัวของเขาให้เข้าที่ (ด้วยความเหนื่อยและตื่นเต้น ลู่หานนอนทั้งชุดที่เค้าใส่มาหามินซอกเลยโดยที่ลืมคิดว่าวันรุ่งขึ้นเสื้อของเขาจะยับจนน่าอายซะขนาดนี้)  ก่อนจะเดินออกจากห้องนอน

     


    เสียงน้ำจากอีกฝั่งของอพาร์ทเม้นคงเป็นมินซอกที่อาบน้ำอยู่สินะ


     

    แดดอ่อนๆในยามเช้า ทำให้อพาร์ทเม้นที่ไม่ได้เปิดไฟ ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นไปพร้อมๆกัน และยังมีกลิ่นหอมของกาแฟและกลิ่นเบเกอรี่อ่อนๆคละคลุ้งอยู่ทั่วห้อง

     


    สถานที่แห่งนี้กับบาริสต้าตัวเล็กนี่ เหมือนกันจริงๆ


     

    ในห้องโถงหลักของอพาร์ทเม้นมีเพียงแค่เก้าอี้นวมสไตล์คลาสสิคที่ดูนุ่มๆน่านั่ง กองหนังสือสองสามกอง และแลปท็อปหนึ่งเครื่องเท่านั้น มีประตูทางซ้ายและขวาของห้อง บานหนึ่งต่อไปถึงห้องนอนของมินซอก และอีกบานหนึ่งคือประตูของห้องนอนเสริม ที่ลู่หานได้ยืมพักพิงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนทางเดินตรงไปต่อไปที่ห้องครัว และห้องน้ำ  เมื่อไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ชายหนุ่มผู้มาขอยืมที่ค้างคืนจึงทิ้งตัวลงนั้งกลางห้องรอให้เจ้าของบ้านออกมาจากห้องน้ำ

     


    ไม่กี่น่าทีต่อมา เจ้าของห้องตัวเล็กก็ออกจากห้องน้ำในชุดเสื้อฮู้ดและกางเกงวอร์มย้วยๆพร้อมผ้าเช็ดผมพาดหัวไว้ลวกๆ เดินเข้ามาที่ห้องโถง และแทบจะสะดุดล้มหัวทิ่มเมื่อเห็นแขกนั่งจุ้มปุ๊กยิ้มทะเล้นให้อยู่บนพื้น มินซอกหน้าขึ้นสีด้วยความเขินก่อนอายกับท่าทางเปิ่นๆของเขา พลางดึงผ้าเช็ดผมบนหัวให้ดูเรียบร้อย

     


    ลู่หานยื่นกระดาษที่เขียนเตรียมไว้ขณะนั้นรอให้อีกฝ่ายอ่าน


     

    -เป็นไง รู้สึกโอเคขึ้นรึยัง-

     


    -โอเคขึ้นนิดหน่อยแล้ว-

    คนตัวเล็กเขียนตอบก่อนจะล้วงมือเล็กเข้าไปในกระเป๋ากางเกงวอร์มและดึงมาส์กปิดปากออกมา

    -นี่ ผมจะใส่ไว้แบบนี้จะได้ไม่แพร่เชื้อให้ลู่หาน ตอนนี้อาการหวัดแทบหายหมดแล้วล่ะ แต่ว่ายังไอกับเจ็บคออยู่นะ ผมกลายเป็นตัวแพร่เชื้อเคลื่อนที่ได้ซะแล้ว ฮ่าๆ-

     


    -ดีแล้ว เริ่มจะหายแล้ว :D อย่าเพิ่งกลับไปทำงานเลย ผมว่ามินซอกน่าจะพักจนหายดีก่อนนะ-


     

    -แต่เดี๋ยวอีกไม่นานจงแดก็จะกลับมาทำงานแล้วล่ะ ผมจะมีเวลาอีกเยอะเลย-


     

    -ถ้าจงแดกลับมาแล้ว ...มินซอกจะยังทำงานที่นี่ต่อไปมั้ย?-


     

    -ถ้าเค้าจ้างผมไหวนะ ฮ่าๆ ผมชอบที่นี่ด้วยแหละ-


     

    -ดีจังเลย ...ไม่งั้นผมคงคิดถึงแย่-


     

    ดวงตากลมของบาริสต้าหนุ่มฉายแววเขินอายเล็กน้อยในขณะเขียนตอบกลับไป

    -ถ้าเกิดว่าผมไม่ได้ทำงานที่นั้นต่อ ลู่หานคิดว่าพวกเราจะยังมาเจอกันบ้างรึเปล่า-

     


    -แน่นอนสิ! ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องนั้นเลย แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็หวังว่าเราจะยังได้เจอกันอยู่เรื่อยๆนะ-

    ลู่หานตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างขณะยื่นกระดาษกลับไปให้อีกฝ่าย

     


    -ดีมาก! ผมก็คิดแบบนั้น .. นี่ จริงๆผมยังไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับลู่หานเลย เล่าเรื่องเรื่องของคุณให้ผมอ่านหน่อยสิ-

     

     

    นักศึกษาหนุ่มพยักหน้าแล้วหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาจรดปากกาเล่าชีวิตของเขาให้อีกฝ่ายฝ่านตัวอักษร

    -เริ่มที่อย่างก็อย่างที่คุณรู้เลย ผมชื่อหาน แซ่ลู่ จริงๆผมไม่ใช่คนที่นี่หรอก ผมเกิดที่จีน ..ที่ปักกิ่งน่ะ มินซอกเคยไปรึเปล่า ผมมาอยู่ที่นี่ได้สิบกว่าปีแล้วล่ะ ตอนนี้ผมอายุยี่สิบสี่และกำลังจะเรียนจบมหาลัยที่อยู่ใกล้ๆนี่แหละ ถ้าจบไปผมอยากจะทำงานเกี่ยวกับการดีไซน์น่ะ .. ผมชอบเล่นฟุตบอล ฟังเพลง แล้วก็เล่นอะไรที่มันบริหารสมอง แบบพวกรูบิค อะไรแบบนี้น่ะ ..ผมเกิดวันที่ 20 เมษา ...อ่านผมไม่รู้จักเล่าอะไรอีกดีแล้วฮ่าๆ แล้วมินซอกล่ะ ไหนลองเล่ามาให้ผมอ่านมั่งสิ :)

     


    มินซอกถือกระดาษอย่าทะนุถนอมในมือเล็ก อ่านไปยิ้มไป หลังจากนั้นก็รับปากกามาจากอีกฝ่ายเพื่อเขียนบ้าง .. หลังจากเวลาผ่านไปนาน (อาจจะไม่นานมากขนาดนั้น แต่ที่นานเพราะลู่หานตื่นเต้นอยากรับกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านมาก) กระดาษมีตัวอักษรเป็นระเบียบเรียบร้อยเขียนบนนั้นเกินครึ่งแผ่นก็ถูกส่งกลับมาที่นักศึกษาหนุ่มอีกครั้ง


    -อ่า มันอาจจะยาวไปนิดนึงนะ ... ก็อย่างที่ลู่หานรู้ ผมชื่อคิมมินซอก เกิดที่เกาหลีใต้นี่แหละ ตอนนี้ผมอายุ24ปี ผมฝันอยากเป็นบาริสต้ามาตลอดเพราะว่าผมชอบกาแฟมากๆ พอได้มาทำงานที่ร้านของจงแดนี่ยิ่งชอบมากๆเลย .. ผมเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเล็กๆแถวบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงนึง แล้วก็ดร็อปออกมา ...ผมชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกัน! แต่ว่าการทรงตัวของผมไม่ดีเพราะผมมีปัญหาเรื่องหู  ทำให้ผมเล่นกีฬาทุกอย่างไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่ .. คุณคงสงสัยอยู่แต่ไม่ได้ถาม ไม่ต้องเกรงใจหรอก! ถามได้ตลอดเลย ทุกคนต้องสงสัยอยู่แล้วแหละ  ผมหูหนวกมาตั้งแต่เกิดเลย ผมมีเสียงพูดนะแต่ว่า ผมไม่เคยได้ยินเสียงตัวเองหรือคนอื่นพูด ผมเลยไม่ได้เรียนที่จะพูดสื่อสารกับคนอื่น แต่ตอนช่วงนี้ ผมไปนักแก้ไขการพูด สามครั้งต่ออาทิตย์ ผมคิดว่าผมเริ่มพัฒนาแล้วนะ !

     

    ตอนเด็กๆ ผมเข้าโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ แต่พออายุได้สิบขวบ ครอบครัวผมย้ายที่อยู่เลยไปโรงเรียนปกติแทน จงแดก็เข้าโรงเรียนเดียวกับผม แล้วช่วยผมให้กำลังใจผมตลอดเลย เพราะว่าผมสื่อสารไม่ได้เลยไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าไปหาคนอื่น แต่จงแดก็มาช่วยแปลช่วยให้ผมได้มีเพื่อนด้วย ...ช่วงตอนนั้นก็ดีนะ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนๆแล้ว ช่วงมัธยมปลายของผมไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็มีแค่ เกรดแย่ๆ กับเรื่องไม่น่าจำซะเท่าไหร่ เพราะงั้นผมจะข้ามไปแล้วกันนะ

     

    เรื่องของผมก็ประมาณนี้แหละ .. ไม่น่าสนใจอย่างที่คุณคิดไว้ใช่มั้ย ฮ่าๆ-

     


    ลู่หานกวาดสายตาอ่านกระดาษในมือสองสามครั้ง น่าสนใจ..  การได้รู้จักมินซอกมากขึ้นแบบนี้ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว เขาคิดรู้ว่าคนตัวเล็กนี่ทำกาแฟได้อร่อย แต่ก็ไม่เคยรู้ว่า การเป็นบาริสต้าเป็นถึงอาชีพในฝัน การที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบมากขนาดนี้ตลอดนี่ดีจริงๆเลย ... โอ๊ะ เราสองคนชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกันด้วย ดีจัง

     

    -ทำไมจะไม่น่าสนใจล่ะ มินซอกน่าสนใจจะตาย!- ลู่หานเขียนตอบ

     


    -จริงหรอ ฮืมม ผมนึกว่ามันมันจะดูน่าเบื่อซะอีก ..  เรื่องของลู่หานก็น่าสนใจเหมือนกัน-

     


    -มินซอกต้องมั่นใจในตัวเองนะ ผมไม่อยากให้มินซอกมองตัวเองแบบนี้-

     


    -ผมจะพยายาม .... ขอบคุณนะ-

    แม้ว่าตอนนี้จะมีหน้ากากอนามัยปิดใบหน้าของมินซอกกว่าครึ่งจนเห็นแค่ดวงตา ลู่หานก็ยังดูออกว่า อีกฝ่ายกำลังยิ้มน่ารักออกมาอยู่ เพียงแต่ตาของเขาดูใสๆราวกับมีน้ำตาคลอเล็กน้อย

     


    -เป็นอะไรรึเปล่า มินซอกไม่สบายใจรึเปล่า- 

    ลู่หานส่งกระดาษให้อีกฝ่ายที่รับมาอ่านแล้วรีบส่ายหัว แล้วซับขอบตาด้วยแขนเสื้อฮู้ดดี้ที่ใหญ่กว่าตัวหลายไซส์

     


    -โอเค- ลู่หานเขียนอีกครั้ง –แต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจบอกผมได้นะ-

     


    บาริสต้าตัวเล็กพยักหน้าตอบ ก่อนจะเริ่มไอออกมาอีกครั้ง ลู่หานเอื้อมมือไปตบหลังเบาๆ


     

    -มินซอกไปนอนพักต่อดีกว่ามั้ย-


     

    -ผมไม่เป็นไร!- เขียนเสร็จก็ไอจนตัวโยนอีกครั้ง จนแก้มกลมแดงจากการไอที่รุนแรง


     

    -ไปนอนพักเถอะ เอาข้าวเช้ารึอะไรมั้ย?-


     

    มินซอกทำหน้าเสียดายเล็กน้อย ใจจริงก็อยากจะนั่งคุยกันต่อ แต่ดูจากสภาพของตัวเองแล้ว ทำตามที่อีกคนบอกน่าจะดีกว่า

    -อ่า.. มีข้าวเหลือนิดหน่อยในตู้เย็นน่ะ เท่ากันก็พอแล้ว ขอบคุณมากนะ-

     


    ชายหนุ่มเดินพยุงคนตัวเล็กผมสีลูกกวาดกลับไปที่ห้องนอนและอยู่เป็นเพื่อนจนมั่นใจว่าอีกฝ่ายโอเค ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวเพื่อไปเตรียมมื้อเช้า





     

    ... Soy milk latte and silent barista ...






    ลู่หานมองไปรอบๆห้องครัวและเจอตู้เย็นเครื่องเล็กสีขาวส่งเสียงหึ่งๆเบาๆอยู่ที่มุมห้อง ชายหนุ่มเดินตรงไปล้างมือที่อ่างล้างมือและเช็ดให้แห้ง เมื่อมือสะอาดเรียบร้อยก็เดินไปค้นตู้เย็นว่าพอมีอะไรอยู่บ้าง จริงอย่าที่มินซอกว่า ในตู้เย็นมีเพียงอาหารที่เหลือนิดหน่อยจากคืนก่อนเท่านั้น ชายหนุ่มยกกล่องอาหารออกมาและเดินหาชามมาใส่

     


    ฝาตู้ใต้ซิงค์ล้างจานเต็มไปด้วยแผ่นโพสอิท ซึ่งลู่หานเองก็ห้ามความสงสัยไม่ไหวแอบอ่านไปบางส่วน


     

    ส่วนใหญ่จะมาจากจงแดทั้งนั้น .. คงเป็นห่วงมินซอกมากจริงๆเลยสินะ

     


    นี่! เราเข้ามาตอนนายนอนอยู่นะ ลืมล็อคประตูอีกแล้ว อันตรายนะรู้มั้ย

     

    ไปฝึกการพูดเป็นไงมั่ง ตอบข้อความมั่งสิ

     

    แม่นายพยายามโทรหานายนะ

     

    พักมั่งก็ได้นะพี่ หยุดหักโหมเถอะ

     

    นายลืมล็อคประตูอีกแล้ว เราเลยบุกเข้ามาขโมยแล็ปท็อปไปเรียบร้อยแล้วล่ะ วะฮ่าฮ่า

     

    ประกันสุขภาพช่วยออกค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว อย่าคิดมาก รีบๆหายอย่างเดียวพอ แล้วแน่ใจหรอเรื่องที่จะดร็อปน่ะ? ส่งแมสเสจมาตอบด้วยนะ

     

    อพาร์ทเม้นผุ่นจับหมดแล้วตอนนายไม่อยู่เลยช่วยปัดกวาดไปให้หน่อย

     



    หลังจากได้อ่านแล้ว มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ชายหนุ่มห้ามใจตัวเองไม่ให้อ่านมากไปกว่านี้ เค้าไม่ควรที่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ควรจะขออนุญาตมินซอกก่อน

     


    ลู่หานจัดการอุ่นข้าวและจัดแจงใส่ผักและไข่ที่เห็นวางๆอยู่แถวนั้นลงไปด้วย ไหนๆก็จะเตรียมอาหารเช้าให้คนไม่สบายแล้ว ก็ขอทำให้มีสารอาหารนิดนึง


     

    หลังจัดแจงวางถ้วยลงบนถาดพร้อมกับช้อนและน้ำหนึ่งแก้ว ชายหนุ่มก็ยกอาหารไปให้คนไม่สบาย ที่มองมาด้วยสายตาตื่นตันจนเขาแอบเขินเล็กน้อย


     

    นักศึกษาหนุ่มไม่รู้จะทำอะไรได้แต่นั่งเล่นกับแขนเสื้อตัวเองอยู่ที่ปลายเตียงในตอนที่มินซอกทานอาหาร เมื่อข้าวเช้าในชามลงท้องไปหมด คนผมชมพูก็หันมายิ้มกว้าง พลางทำท่า ขอบคุณ ให้ลู่หาน

     

    ไม่เป็นไร ลู่หานทำท่าตอบ ก่อนจะหยิบกระดาษอีกแผ่นมา ชั่งใจซักพักว่าจะเขียนดีหรือไม่

     


    -เห็นจงแดเขียนโน้ตแปะไว้ให้คุณเต็มเลย เค้าดูเป็นน้องที่ดีมากๆเลยนะ-

     


    -ใช่แล้ว เค้าขี้เป็นห่วงมากๆเลยล่ะ-


     

    -ดีจังเลย-


     

    คนตัวเล็กหรี่ตาลงมองลู่หานก่อนจะเขียนตอบอีกครั้ง

    -ลู่หานอ่านโน้ตพวกนั้นไปหรอ? ผมไม่ได้จะว่านะ ไม่เป็นไรๆ-


     

    ลู่หานชะงักเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะพยักหน้าแล้วเขียนตอบ 

    -ขอโทษนะ ผมไม่น่าทำแบบนี้เลย-

     


    -ไม่ๆ ไม่เป็นไรจริงๆ ผมแค่ไม่อยากให้ลู่หานกลับไปพร้อมกับคำถามในใจ เพราะว่าโน้ตพวกนั้นต้องทำให้คุณสงสัยหลายๆอย่างเลยใช่มั้ยล่ะ-


     

    -อ่า.. ก็จริง.. แต่ไม่ต้องบอกผมก็ได้นะ ผมไม่ควรจะไปอ่านของส่วนตัวมินซอกแบบนี้-


     

    -ไม่เป็นไรจริงๆ ลู่หานอย่าคิดมาก จงแดเค้าเป็นห่วงผมมากจริงๆ บางทีผมก็คิดว่าเค้าไม่ใช่น้องชาย แต่เป็นพี่ชายผมด้วยซ้ำ .. ไม่สิ ผมว่าน่าจะเป็นแม่เลยมากกว่า-


     

    ลู่หานขำออกมาเมื่ออ่านข้อความที่มินซอกเหมือนจะชมจงแด ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ แล้วเขียนตอบกลับไป 

    -ผมถามนิดนึง ตกลงเค้าบุกเข้ามาจิ๊กแล็ปท็อปมินซอกไปจริงอ่อ-

     


    มินซอกรับไปอ่านแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะสำลักแล้วก้มลงปิดหน้าไอออกมา ลู่หานได้แต่ถือแก้วน้ำรอและส่งให้ทันทีเมื่ออีกฝ่ายหยุดไอ

     


    -ไม่ต้องขำขนาดนั้นก็ได้นะมินซอก ผมจะพยายามตลกให้น้อยลง- ลู่หานส่งกระดาษพร้อมข้อความล้อเลียนขำๆไปให้ อีกฝ่ายก็แลบลิ้นใส่กลับมาแทนคำตอบ ก่อนจะเขียนอีกครั้ง

     


    -ผมทำไม่ได้ละ อยากรู้เรื่องโน้ตพวกนั้นมั้ย ผมจะอธิบายใ..-


     

    ลู่หานที่มองตัวอักษรที่อีกฝ่ายเขียนอยู่รีบจับแขนให้หยุดเขียน ก่อนจะส่ายหน้าแรงแล้วแย่งกระดาษไปเขียนเอง 

    -ไม่เป็นไรมินซอก ไม่ต้องเล่าก็ได้ จริงๆนะ-

     

    -แต่ผมอยากเล่านะ ถ้าต่อไปนี้เราจะสนิทกันมากกว่านี้ ผมก็ไม่อยากให้คุณเก็บคำถามอะไรเอาไว้หรือต้องเดา ผมอยากจะเป็นคนบอกคุณด้วยตัวเอง-

     

    เมื่อเห็นสายตาแน่วแน่ของอีกฝ่าย ชายหนุ่มจึงพยักหน้าช้าๆ แล้วรอให้มินซอกค่อยๆเขียนในสิ่งที่ต้องการจะอธิบายลงบนกระดาษแผ่นใหญ่ และพยายามเก็บความตื่นเต้นให้มิดเมื่อกระดาษนั้นถูกส่งมาถึงมือ

     

    -โอเค ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี .. คือจงแดทิ้งโน้ตไว้ให้ผมเยอะมาก ตอนช่วงที่เขามาเฝ้าบ้านให้ผมบ่อยๆตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาล และบางอันก็ก่อนนั้นนิดหน่อย คุณคงสงสัยว่ามันเกิดอะไรใช่มั้ย อ่า..ผมจะบอกยังไงดี ... เอาเป็นว่าตอนช่วงมัธยมปลายน่ะ ผมค่อนข้างอ้วน ..อ้วนมากเลยแหละ ทำให้ผมไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย.. แล้วยังมีข่าวลือมั่วๆเกี่ยวกับผมออกมา ทำให้หลายๆคนมองผมแปลกๆ และแกล้งผมนิดหน่อย จนวันนึงผมเลยเริ่มกินน้อยลง จนแทบจะไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยในแต่ละวัน ... ผมทำแบบนั้นกับตัวเองจนถึงช่วงมหาลัยปีสอง ตอนนั้นผมต้องยอมรับเลยว่าผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมเป็นลมล้มไปเลยหลายครั้ง จนในที่สุดจงแดก็ทนดูไม่ไหวแล้วลากผมไปเข้าห้องฉุดเฉินที่โรงพยาบาลเลย จริงๆแล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมนะ แต่ผมอายมากเลยล่ะตอนนั้น หลังจากที่ออกจาโรงพยาบาลได้ผมก็ยังต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ เพราะว่าผมสร้างความเสียหายให้ร่างกายตัวเองมากกว่าที่ผมคิด มันแย่มากเลยล่ะ... ตอนที่ผมรักษาตัวจงแดเลยมาดูแลที่นี่ให้ผมประจำ จบเท่านี้แหละ-

     

    นักศึกษาหนุ่มที่นั่งตั้งใจอ่านข้อความอดรู้สึกหัวใจพองโตเล็กๆไม่ได้ เมื่อได้รับรู้ว่ามินซอกเปิดใจเล่าให้เขาอ่านขนาดนี้ ถึงแม้ตอนนี้จะนั่งก้มหน้าไม่สบตาเขาและดูอึดอัดไม่น้อยก็เถอะ .. ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าจะตอบกลับไปยังไง ยิ่งเรื่องที่เป็นประเด็นอ่อนไหวขนาดนี้


     

    ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วก็เขียนไปตามที่คิด


     

    -ผมดีใจนะ ที่มินซอกวางใจบอกเรื่องนี้กับผมขนาดนี้ ...ผมอยากจะบอกมินซอกว่า ตอนนี้คุณดูแข็งแรงและสดใสมากๆ (ยกเว้นที่เป็นปอดบวมนะ) ผมดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าคุณผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้.. แล้วที่คุณบอกว่า มหาลัยปีสอง แสดงว่ายังไม่นานใช่รึเปล่า-


     

    ชายหนุ่มวางแผ่นกระดาษลงบนมือของอีกฝ่าย




     

    ...แต่แทนที่จะดึงมือกลับให้มินซอกรับไปเขียนตอบ ..




    ....ลู่หานจับมือเล็กที่สั่นเทาเอาไว้ซักพักก่อนดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้แน่นๆ...



     

    ในตอนแรกมินซอกเกร็งตัวด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆผ่อนคลายและยกแขนเล็กๆทั้งสองข้างขึ้นมากอดตอบ



     

    ทั้งสองค้างอยู่ในท่านั้นพักใหญ่ สื่อสารความห่วงใยและความเข้าใจ...และส่งกำลังใจผ่านอ้อมกอดแน่นๆนี้

     






    ... Soy milk latte and silent barista ...






    ในที่สุดอ้อมกอดก็ค่อยๆคลายออก และมินซอกก็หยิบกระดาษที่โดนขยำซะยู่ยี่ในมือของเขามากางออกเพื่ออ่าน พร้อมร้อยยิ้มน้อยๆบนใบหน้า มันอาจจะไม่ใช่รอยยิ้มกว้างที่โชฟันซี่หน้าน่ารัก แต่มันเป็นรอยยิ้มเล็กๆที่ค่อยๆกว้างขึ้นในทุกๆคำที่คนตัวเล็กอ่าน รอยยิ้มที่ดูจริงใจและเข้มแข็ง

     


    -มันอาจจะฟังดูตลกนะแต่ผมรู้สึกไว้ใจลู่หานมากๆเลย ผมดีใจจริงๆที่ได้รู้จักกับลู่หานนะ ขอบคุณมากที่คุยกับผม .. อ้อ ใช่! เรื่องปีสอง ถูกแล้วล่ะ มันเพิ่งไม่นานมานี้เอง ผมเพิ่งได้หยุดไปรักษาตัวโรงพยาบาลบ่อยๆเมื่อสองเดือนก่อนเอง แต่ตอนนี้ก็ยังต้องไปตรวจร่างกายเรื่อยๆน่ะ-

     


    -อ้อ อย่างนี้นี่เอง ... ต่อไปถ้ามีอะไรที่ผมช่วยมินซอกได้ จะอะไรก็ตาม ต้องบอกผมนะ-

     


    -ได้เลย! ขอบคุณนะ ... ตอนนี้ผมกำลังฟื้นตัวดีอยู่ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะรีบบอกนะ- 

    เขียนตอบไปขำๆพร้อมรอยยิ้มซุกซนที่ทำให้หัวใจอีกฝ่ายอ่อนระทวยอีกครั้ง

     


    -ดีแล้วๆ แล้วอาหารเมื่อกี้โอเครึเปล่า-

     


    -ดีมากเลย ขอบคุณอีกครั้งนะ!-

     


    -ยินดีเสมอครับ ฮ่าๆ ตอนนี้ ผมคงต้องกลับแล้วล่ะ ...เฮ้อ จริงๆ ยังไม่อยากกลับเลยเนี่ย แต่ผมต้องไปขึ้นรถใต้ดินกลับ อ้อแล้วก็น่าจะต้องไปเจอกับรูมเมทที่ยืนถือมีดรอผมอยู่ด้วยแน่ๆ-

    ลู่หานเขียนพลางนึกถึงใบหน้าของคริส เจ้าของจักรยานคันหรูและใหม่เอี่ยมที่โดนขโมยไปเมื่อคืน ... อยากจะขอบคุณโจรคนนั้นนิดหน่อยนะ แต่ก็เกรงใจไอ้รูมเมทยักษ์นี่


     

    -โอเค พรุ่งนี้ผมน่าจะไปทำงานที่ร้านนะ แล้วเจอกัน! เอ้อแล้วแผนดินเนอร์ของเรายังไม่หมดอายุใช่มั้ยเนี่ย-


     

    -ไม่มีวันหมดอายุอยู่แล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะ-

     


    กอดลากันอีกทีก่อนจะแยกตัวออกมา ลู่หานออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ ยังไม่อยากให้การมาค้างครั้งนี้จบลงเลย 







    ... Soy milk latte and silent barista ...






    ระหว่างทางในรถไฟใต้ดินกลับบ้าน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหม่อมองหน้าต่างที่มืดสนิท และมีแสงไฟสีขาววิ่งผ่านเป็นระยะๆ ชายหนุ่มลงจากขบวนเมื่อถึงป้ายของเขา และเดินเหม่อไปจนถึงอพาร์ทเม้นที่คุ้นเคย


     

    คริสและเทากำลังนั่งเลยวีดีโอเกมแข่งกันอยู่ในตอนที่ลู่หานเปิดประตูเข้ามา ลู่หานมองดูรูมเมทตัวโตของเขาที่ดูสบายๆไม่ได้มีท่าทีโมโหอะไรมากมาย และถอดรองเท้าวางเก็บเข้าที่ ถอดเป้วางลงบนหลังจื่อเทาที่นอนเล่นเกมส์ด้วยสมาธิแก่กล้า เทาไม่แม้แต่จะสนใจกระเป่าที่เขาวางเลยด้วยซ้ำ

     


    “เก่งมากลู่หาน ทำจักรยานหายได้” คริสเปิดประเด็นออกมาเสียงเรียบ


     

    “แถวนั้นพอมืดแล้วมันน่ากลัวจริงๆ เ-“


     

    “ล้อเล่นน่า โอ๋ ไม่ต้องคิดมาก ช่างมันเหอะ”


     

    ลู่หานได้แต่งง “ทำไมไม่โมโหอะ จักรยานหายเลยนะ”


     

    “ก็ไปแจ้งความมาเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า”


     

    “...บางทีก็ไม่เข้าใจนายเลยจริงๆว่ะ คริสอู๋”


     

    “ฮึ ดี” ตอบรับสั้นๆก่อนจะกลับไปเล่นวีดีโอเกมแข่งกับรูมเมทเด็กสุดต่อ







    ... Soy milk latte and silent barista ...





     

    ลู่หานลุกขึ้นปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินเกาพุงด้วยความหิวโหยตรงมาที่ห้องครัวเล็กๆเพื่อหาข้าวเช้าที่เลยเวลามามากทาน เมื่อกลับมาที่ห้องโถงใหญ่ เทาก็ยิงคำถามใส่ทันที


     

    “ได้ข่าวว่าไปดูแลคนป่วยมา”


    “อาฮะ”


    “ใครล่ะ คนที่น่าชอบใช่ปะ”


    “ประมาณนั้นแหละ ใช่”


    “ไปค้างบ้านหนุ่มที่พวกเรายังไม่เคยเจอด้วยซ้ำ โอ้ย ตายแล้ว ลู่หานน้อยของเราโตเป็นหนุ่มแล้วทุกคน”


    “ชู่ว!! เงียบไปเลยไอ้บ้า เรานอนแยกห้องกัน”


    “ใครพูดว่านอนห้องเดียวกัน อู้ย คิดอะไร เด็กอะไรลามก”


    “เด็กบ้าอะไร ยี่สิบสี่แล้ว !!!!


     

    เทาหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะเดินกลับไปเล่นเกมส์อีกครั้ง ทิ้งให้ลู่หานยืนเขินจนหน้าแดงอยู่คนเดียว

     




    เด็กน้อยอายุยี่สิบสี่ปีที่ยังหน้าแดงเพราะเรื่องแค่นี้ น่ารักจังเลยน้า คนมีความรักเนี่ย

     

     

     ____________________________________________



     

    สวัสดีค่ะ ! ช้ามากเลยใช่มั้ย ขอโทษน้า 5555 วุ่นวายกับบัตรคอนน่าดูเลย(ข้ออ้าง555555) ทุกคนหากันได้รึยัง ขอให้หากันได้ตามที่อยากได้นะ ทุกคนเลย แล้วก็ใครซื้อต่อ ระวังบัตรปลอม รึว่าโกงเงินกันดีๆน้า  

    ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นม์ในนี้ และก็สกรีมติดแท็กในทวิตเตอร์นะคะ ชื่นใจจัง TT หลายๆคนมาทุกตอนเลยด้วย ขอบคุณนะคะ <3<3<3<3 


    อย่าลืมติดแท็ก #LMsilent กันนะคะ ;)   คอมเม้นท์ในนี้ รึจะมาตามทวงในทวิตเราก็ได้เลยค่ะ 55555 


    ปล ใครที่ติดตามเรื่องนี้ แล้วจะไปมีทลู่หมินด้วย แสดงตัวหน่อยทางไหนก็ได้นะ เราจะแอบกั๊กของที่แจกในมีทให้ XP  


    jam_mml

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×