ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บอดี้การ์ดจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 52


    ตอนที่ 1

     

                    หญิงสาวรูปร่างสูงเพรียวผิวขาวอมชมพูผมยาวดำมันวาวในชุดสูทกระโปรงหนังสีดำสั้นเหนือเข่าอวดเรียวขาสวยงาม เสื้อตัวในเป็นผ้าลูกไม้สีขาวสวมรองเท้าส้นสูงสามนิ้วสีดำใส่แว่นตากันแดดสีดำอันใหญ่ปกปิดใบหน้าไปเกือบครึ่ง มือซ้ายหอบแฟ้มเอกสารมือขวาห้อยกระเป๋าแบรนด์ดังและถือแก้วกาแฟเย็นที่ซื้อมาจากร้านเซเว่น   เธอกำลังเดินอย่างรีบเร่งไม่ได้สนใจสิ่งรอบกายรวมไปถึงชายหนุ่มหน้าเข้มที่เดินสวนทางอยู่ข้างหน้า......

    ในขณะที่เธอกำลังจะเลี้ยวไปทางแยกด้านซ้ายมุมตึก  จึงชนเข้าอย่างจังกับหนุ่มหน้าเข้มที่คิดจะเลี้ยวขวาพอดิบพอดี

                    โอ๊ย! ขอโทษค่ะฉันกำลังรีบ  

                     ขอโทษครับไม่ทันมอง

                    ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน 

                    เอมิกา พิศาลสมบัติ หรือคุณหนูอีฟ  พยายามพยุงกายลุกขึ้นหลังจากรู้สึกว่าตัวเองชนกับกำแพงสูงหรือหินผาเข้าอย่างจังและคิดว่าคงต้องเจ็บตัวแต่เช้าแน่แล้ว  เอ๋!..แต่ทำไมวันนี้พื้นมันถึงได้นิ่มเหมือนมีใครเอาพรมมาปูไว้แถวนี้กันน๊าหนูอีฟก้มดูพรมที่ว่าตามความคิดของเธอ โอ้ยกรี๊ดๆๆ! สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของเธอผู้ชายค่ะ ว๊าวววว! สุดหล่อ หล่อม๊าก มากๆๆๆๆผู้ชายตรงหน้ามีผิวสีแทนผมสีดำสนิทยาวตรงเคลียบ่า หน้าผากโหนกนูนดวงตายาวรีคมเข้มสีน้ำตาลมีแววหวานขนคิ้วเข้มเรียงกันเป็นระเบียบไม่รกรุงรังขนานไปกับดวงตา  จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าได้อย่างลงตัว ริมฝีปากหยักบางสวยเหยียดออกยิ้มบางๆ ปากสวยจน      น่าลูบไล้สัมผัสเหมือนพระเอกในฝันของเราเลย หนูอีฟหลับตาเคลิ้มฝันลืมความคิดคำนึงไปชั่วขณะ

                    นี่คุณไม่ทราบว่าจะอยู่บนตัวผมอีกนานไหมครับ...ลุกขึ้นไปจากตัวผมได้แล้วชาติที่แล้วเป็นตุ๊กแกหรือไงถึงเกาะไม่ปล่อยเชียว  นายหน้าเข้มพูดแบบไม่รักษาน้ำใจคนฟังแม้สักนิด 

                    หนูอีฟตกใจกับเสียงที่ดังแสบแก้วหูก็หายงงเป็นปลิดทิ้ง แหมนายหน้าเข้มฉันอุตส่าห์ชื่นชมนายอยู่เชียวทำไมมันตรงกันข้ามกับที่เราวาดฝันเอาไว้นะจะพูดจากับคนงามอย่างเราให้ลื่นหูกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้

                     เออ..ขอบคุณที่มาเป็นพรมรองรับความเจ็บปวดให้นะคะ....ไม่เป็นไรมากใช่ไหมค่ะ...งั้นฉันขอตัวก่อนคะ...บาย    พูดพร้อมเก็บข้าวของ ตนเองที่กระจายอยู่บนพื้นแล้วเตรียมจะเดินหนี

                     อ้าวๆ คุณทำอย่างนี้ไม่สวยเหมือนรูปร่างหน้าตาซะแล้วเคยบ้างไหม........เคยคิดจะลองหันมามองดู    สักนิดบ้างไหม ดูซิครับว่าผลจากการกระทำของคุณมันเกิดอะไรตามมาบ้าง   ดูให้เต็มตาซิคุณคนสวยแต่รูป เอกสารผมเปื้อนหมดแล้วไม่เป็นไรมากได้อย่างไงห๊า......แบบนี้แถวบ้านผมเขาเรียกว่าผิดแล้วไม่รับเข้าใจไหมครับ?”  ชายหนุ่มยื่นกระดาษที่เปื้อนให้ดู

                    ว๊าย!......ทำไมเป็นแบบนี้ได้ หนูอีฟร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเอกสารในมือของหนุ่มหน้าเข้มเปื้อนคราบกาแฟของเธอเป็นจุดสีดำดวงใหญ่ด้วยดวงหน้าจืดเจือน

                    ทำไงดีค่ะคุณฉันไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ นะคะ   คุณพอจะมีเอกสารสำรองไว้หรือป่าว  กลับไปเอาได้ไหมคะหรือจะให้ฉันพิมพ์ใหม่ให้ก็ได้นะคะ?”  พูดพรางยกข้อมือตามองไปที่นาฬิกาเรือนหรูเพื่อดูเวลา คิดในใจว่างานนี้ซวยแน่ จะเข้าประชุมใหญ่ประจำเดือนทันไหมอี่ตาหน้าเข้มนี่ท่าทางจะเอาเรื่องเราให้ได้

                    ว่าไงค่ะคุณจะกลับไปเอาข้อมูลหรือต้องการค่าเสียหาย  หนูอีฟนึกขึ้นมาได้จึงเปิดกระเป๋าแล้วหยิบแบงก์พันส่งให้ชายหนุ่ม

                    นี่ค่ะค่าเสียหายรับไปซิค่ะจะได้จบๆ ซะทีฉันรีบนะเนี๊ย

                    โธ่คุณให้หนึ่งพันบาท.....คุณคิดว่าเอกสารของผมเป็นอะไรให้เงินแค่เนี้ย......ผมไม่ยอมหรอกเราต้องมีเรื่องคุยกัน     อีกยาวแน่ คุณรู้ไหมเอกสารแผ่นนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมถ้าไม่มีมันผู้มีพระคุณของผมต้องเล่นงานผมแย่แน่และผมไม่มีข้อมูลสำรองไว้หรอกมีคนให้ข้อมูลมาอีกทีเห็นว่าได้มาอย่างยากลำบากเสียด้วยนะครับ 

     

                    ชายหนุ่มมองดูสาวสวยตรงหน้า สาวสวยหรือ...นี่เขาคิดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงสวยใช่ไหมเขาตอบตัวเองว่าใช่หล่อนสวยหวาน รูปร่างดี ทรวดทรงได้ใจเขาไปเต็มร้อยจากการปะทะกันเมื่อสักครู่แต่ไอ้แว่นตาดำอันใหญ่บนหน้าหล่อนนี่ซิทำให้มองไม่เห็นว่าดวงตาหลังกรอบแว่นจะสวยเหมือนที่เขานึกไว้หรือป่าว......แถมตัวหล่อนก็ห๊อมหอมเหมือนกลิ่นดอกไม้แรกแย้มซะด้วยเพราะเขาแอบสูดดมเข้าเต็มปอดตอนที่สองแขนของเขาโอบรัดร่างอรชรไว้ เขาเห็นหล่อนเซถลาจึงต้องเข้าไปรวบร่างไว้ในฐานะที่เป็นผู้ชายอกสามศอกนี่หล่อนยังมาว่าเขาเป็นพรมเสียอีกไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหล่อนเอาเขาไปเปรียบกับพรมประเภทไหนกัน   ถึงสวยแต่นิสัยไม่ดีแบบนี้ใช้ไม่ได้เห็นคนอื่นหน้าเงินเหมือนตนเองไปหมด ใช้เงินซื้อความรีบของตัวเองได้อย่างไร.......นิสัยของพวกคนรวยโดยแท้เชียว.....เขาจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด  เอกสารสำคัญนะเหรอถ้าหล่อนรู้ว่ามันคืออะไรจะต้องโกรธอย่างแน่นอน   ดีหล่ะ!  ท่าทางหยิ่งแบบนี้ต้องเจอกับนายเข้มหลานกำนันขามซะแล้วแม่คนสวยแต่รูป 

                    แล้วนายจะให้ฉันทำอย่างไงบอกมาเร็วๆ เข้าเสียเวลา  หนูอีฟพูดเมื่อเห็นว่าเสียเวลากับเรื่องนี้มามากแล้ว

                    เอางี้แล้วกัน คุณทำงานตึกนี้ใช่ไหม   เขาเห็นหล่อนพยักหน้าจึงพูดต่อ

                    งั้นคุณบอกมาว่าอยู่แผนกอะไรชั้นที่เท่าไหร่อ๋อขอโทษทีเอานามบัตรก็ได้ครับถ้าผมว่างจะมาหาคุณเองง่ายดี            หนูอีฟหยิบนามบัตรส่งให้ชายหนุ่มอย่างตัดความรำคาญ   เห็นเขารับไปแล้วก้มดูแบบไม่ตั้งใจ

                     ดีเหมือนกันเพราะวันนี้ฉันรีบไม่มีเวลาคุยกับนายหรอก...นี่นายถ้าจะมาหากรุณาโทรบอกล่วงหน้าตามเบอร์ข้างล่างนี้นะเดี๋ยวฉันไม่ว่างขึ้นมาจะมาว่าไม่รับผิดชอบอีกแค่นี้ใช่ไหมฉันไปได้หรือยัง?”

                    เชิญตามสบายเลยครับคุณผู้หญิงขอให้เดินทางโดยไม่ชนกับใครอีกนะครับ แบ๊ะ!....หนูอีฟแอบแลบลิ้นใส่ตอนเขาเผลอไปหนึ่งที่เมื่อได้ฟังที่เขาพูดแล้วเตรียมจะก้าวเดิน

                     เดี๋ยวครับๆ  คุณผมลืมไปอย่างหนึ่ง 

                    หนูอีฟหันหน้ากลับมาอ้าปากเตรียมจะถาม.....อะไร?”....ว๊า..ย...แล้วร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจก่อนที่เสียงจะหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหยักเรียวบางที่หล่อนแอบชื่นชมใคร่สัมผัสฉกวูบมาที่ปากของเธออย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด.............รู้สึกอัดอัดในตอนแรกเมื่อริมฝีปากอีกฝ่ายบดเคล้าลงมาอย่างแผ่วเบาและหนักหน่วงขึ้นตามลำดับจนเธอรับรู้ได้ถึงรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยลิ้มลองหวาน.....ใช้มันหวานเหลือเกิน หวานมาก หญิงสาวยังยื่นงงไม่หายเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าโบกมืออยู่ไหวๆ  

                    ลานะครับคุณเอมิกา....ขอบคุณสำหรับค่ามัดจำผมชอบค่ามัดจำหวานๆ แบบนี้มากครับไม่ผิดหวัง....ที่คิดทำคนสวย    อย่าลืมคิดถึงผม.......ผมชื่อเขมชาตินะครับจำไว้ด้วย  ชายหนุ่มยักคิ้วให้อย่างล้อเลียนก่อนเดินหายไปจากมุมตึก

                     ไอ้บ้า......ไอ้ลามก...ไอ้ขี้ขโมย..... นายมาจูบฉันทำไมรู้ไหมมันเป็นจูบแรกของฉันเชียวนะ ไอ้หน้าเข้มบ้า หนูอีฟ เอามือปัดไปมาที่ริมฝีปากอย่างแรงเหมือนจะลบลอยที่ยังรู้สึกว่ามันอุ่นวาบอยู่ในใจ 

                    คอยดูเจอคราวหน้ารับรองได้เห็นดีกันแน่นอน  ไอ้หน้าเข้มเอ๊ยวันนี้ฝากไว้ก่อนแล้วกัน หน๊อย!  รู้จักฉายาหนูอีฟ   จอมอึดขึ้อ้อนน้อยไปเสียแล้ว

     

                    หนูอีฟกวาดสายตามองรอบกายดีนะที่บริเวณนี้เป็นมุมตึกพอดีประกอบกับเวลาเจ็ดโมงเช้าอย่างนี้พนักงานยังมากันไม่มากจึงไม่มีใครมาเห็นภาพที่ กอ.บอ.วอ.  เห็นแล้วต้องเซ็นเซอร์แบบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่    นึกแล้วเจ็บใจไม่หายเพราะนมตู๋คนเดียวแท้ๆ ไม่ยอมปลุกเรา ทำให้ตื่นสายจึงต้องรีบเดินจนชนกับอีตาหน้าเข้มเข้าได้   หนูอีฟเดินบ่นมาจนถึงห้องทำงานเธอวางเอกสารบนโต๊ะแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำส่วนตัวตรงไปยังกระจกเงาบานใหญ่เพราะมีความรู้สึกว่าริมฝีปากของตนเองเห่อบวมร้อนวูบวาบแต่เมื่อมองหน้าตนเองที่สะท้อนกลับมาก็พบว่าริมฝีปากของเธอยังคงรูปกระจับเรียวบางเหมือนเดิมเพียงแต่ลิปสติก   สีมันจืดจางกว่าที่ทามาตอนเช้าเท่านั้นเอง....เห็นดังนั้นแล้วจึงเปิดกระเป๋าหยิบลิปสติกมาทาเพิ่มให้มีสีสันเท่าเดิมก่อนเดินออกมานั่งที่โซฟารับแขกอย่างเพลียๆ ในหัวใจ

                     อ้าวคุณอีฟขาวันนี้มาทำงานแต่เช้าเลยเชียวไม่ทราบว่าอยากทานอะไรค่ะข้าวต้มร้อนๆ  หรือกาแฟดีคะ?”  ไอติมเลขาหน้าห้องแสนดีของเธอถามอย่างเอาใจ

                    ขอกาแฟเหมือนเดิมนะจ๊ะ

                    ได้ค่ะรอสักครู่นะคะอ้อคุณอีฟขาเมื่อตอนหกโมงเช้าคุณโคมโทรมาบอกว่าวันนี้งดประชุมนะคะเพราะคุณโคมขับรถ ไปชนท้ายรถคนอื่นจนเขาได้รับบาดเจ็บต้องพาไปโรงพยาบาลและคงเจรจากันนานคิดว่ามาไม่ทันแน่นอนขอเลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าค่ะ ไอติมบอกข้อความถึงเจ้านายแล้วเห็นอาการของนายสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยเต็มที่จึงอธิบายต่อว่า

                     คือคุณโคมบอกว่าโทรหาคุณอีฟแล้วแต่ติดต่อไม่ได้โทรไปที่บ้านก็มีคนบอกว่าออกมาแล้วค่ะขอตัวไปชงกาแฟก่อนนะคะหนูอีฟรีบพยักหน้าให้ไอติมแล้วเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าขึ้นมาดูเพราะไม่แน่ใจว่าเปิดเครื่องหรือป่าว

                    อ้าวลืมเปิดเครื่องจนได้ จำได้ว่าปิดเครื่องไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะมัวทบทวนเรื่องที่จะนำเข้าประชุมในเช้าวันนี้กลายเป็นว่ารีบร้อนฟรีแถมมีเรื่องให้หงุดหงิดหัวใจอีก คิดพรางนึกถึงนายหน้าเข้มตาคมผมดำคนนั้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนน๊า ดวงตาแบบนี้ ริมฝีปากแบบนี้  ชื่อก็คุ้นหูเหลือเกิน  แต่นึกไม่ออก

                    เมื่อนึกถึงริมฝีปากเขาก็ทำให้ต้องยกมือมาสัมผัสริมฝีปากของตนเองทำไมมันยังมีความรู้สึกอบอุ่นวาบหวามอยู่นะไม่เข้าใจเลยอย่าไปคิดถึงมันดีกว่าคิดไปก็เปลืองเนื้อที่ของสมองเอาเวลาไปคิดสร้างสรรค์ผลงานคราวหน้าเวลาเจอกับเขาดีกว่าว่า    จะทำอะไรให้เขาจดจำถึงเราเหมือนที่เราจดจำการกระทำของเขาในวันนี้และคงจะจำไปอีกนาน...........

                    โทรหาพี่โคมดีกว่าเป็นไงมั้งไม่รู้   หนูอีฟปัดเรื่องรกสมองหยิบโทรศัพท์มากดหมายเลขที่ต้องการเมื่ออีกฝ่ายรับสาย  ก็ยิงคำถามเป็นชุดทันที

                     พี่โคม..เป็นไงบ้างคะบาดเจ็บตรงไหนหรือป่าวให้หมอทำแผลหรือยังคู่กรณีเป็นไงบ้างต้องนอนโรงพยาบาลนานไหม เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?”  หยุดพุดพร้อมกับหายใจเฮือกใหญ่  

                    หนูอีฟจ๋า...พี่ตอบไม่ถูกแล้วถามเยอะเหลือเกินเอาเป็นว่าพี่ไม่เป็นอะไรเลยส่วนคู่กรณีเป็นผู้หญิงเขาหน้าผากโนกับบาดเจ็บตามร่างกายอีกนิดหน่อยเท่านั้นแต่ที่มีปัญหาเพราะว่าคู่กรณีของพี่เขาเป็นดาราทีวีชื่อดังคุณอรฤดี ไม่รู้ว่าหนูอีฟรู้จัก      หรือป่าว

                    อ้อคุณอรฤดี นางร้ายในละครทีวี รู้จักซิค่ะเธอเป็นนางร้ายเบอร์หนึ่งของเมืองไทยทำไมจะไม่รู้จัก ยังงี้พี่โคมก็ต้องดูแลเธอให้ดีที่สุดนะค่ะเพราะเธอเป็นขวัญใจของชายฉกรรจ์ทั้งหลาย ถ้าพี่โคมไปทำให้ร่างกายเธอบาดเจ็บระวังพี่โคมจะโดนสกรัมอย่างทารุณก็ได้หนูอีฟแอบยิ้มกับโทรศัพท์เมื่อเธอพูดหยอกล้อกับพี่ชายเหมือนที่ทำอยู่เป็นประจำ

                    ได้ครับผม ผมจะปฏิบัติตามคำบัญชาของท่านไม่ให้ตกหล่นแม้สักข้อครับ เท่านี้ก่อนนะครับหนูอีฟแล้ววันหลังพี่จะไปสาธยายให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบนะครับ...บาย  พี่โคมของหนูอีฟพูดจบก็ตัดสายไป......

                    ยังมีอารมณ์มีล้อเล่นกับน้อง แสดงว่าไม่ซีเรียสเท่าไหร่ เฮ้อ! โล่งใจไปที่ หนูอีฟถอนหายใจ แล้วลุกจากโต๊ะทำงานที่มีเอกสารกองโตตั้งอยู่เต็มไปนั่งที่โซฟามุมห้องเพื่อผ่อนคลาย.....

                    หนูอีฟมานั่งคิดว่าระยะหลังมานี้ครอบครัวของเธอเจอแต่เรื่องวุ่นวายตลอดนับแต่คุณพ่อเสียไป เมื่อคิดถึงคุณพ่อน้ำตาแห่งความอาลัยก็หยดลงมา เป็นสาย   คุณพ่อขา..หนูอีฟคิดถึงพ่อ....คิดถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นอ่อนโยนที่หนูอีฟต้องได้ทุกครั้งที่เรียกร้อง......แต่ตอนนี้ไม่มีคุณพ่อแล้วต่อไปหนูอีฟจะเรียกร้องหาอ้อมกอดอันอบอุ่นได้จากใครคะพ่อขา?” หนูอีฟเหม่อมองออกนอกหน้าต่างสายตาทอดมองออกไปข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง    เหงาความรู้สึกลึกๆ  ของใจมันบอก...แต่จะตอบสนองความต้องการเพื่อคลายเหงาได้หรือไมนั้นเธอไม่อาจรู้ได้เลยจริงๆ*********

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×