ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RO Fiction:มหากาพย์แห่งชีวิต (The Lord of Life)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่3 ความมืดแห่งมหาอนันตการ กำเนิด “ราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 50


    บทที่3 ความมืดแห่งมหาอนันตการ กำเนิด ราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”

     

    หลังจากโซดัสควบขี่คลามิตี้จากไป มิลและโรนัลยังกอดกันอยู่ภายในบ้านของหญิงสาว

     

    พวกเขาต่างตัวสั่นเทาในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่เกิดจากดวงตาของโซดัสที่เปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีแดงดุจเลือดและรังสีอำมหิตที่แผ่พุ่งขึ้นพร้อมกับกลิ่นอายแห่งความตาย

     

    พวกเขานั่งกอดกันอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน

     

    ในที่สุดพวกเขาก็คืนสติขึ้นมาได้ แต่เวลานั้นก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วความกลัวยังคงฝังรากลงไปในใจของคนทั้งสอง

     

    ป...ปะ...เป็นอะไรรึเปล่ามิลโรนัลกล่าวอย่างห่วงใยเมื่อเห็นสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมอกเขายังคงเนื้อตัวสั่นเทาอยู่หล่อนค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆมองไปยังใบหน้าของผู้ที่ถาม

     

    ม...มะ...ไม่ ไม่เป็นไรแล้วละหล่อนส่ายหน้าและตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

     

    เรื่องวันนี้ต้องไม่ให้ท่านพ่อรู้เป็นอันขาดนะ มิลโรนัลกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

     

    ทำไมละ? โรนัล ในเมื่อเราต่างบริสุทธิ์ใจและตอนนี่โซดัสก็รับรู้แล้วด้วยมิลถามด้วยความประหลาดใจ

     

    แค่ตอนนี้เท่านั้น รออีก2วันหลังจากข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองNiflheimแล้วข้าจะพูดกับท่านพ่อท่านแม่เองโรนัลตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ

     

    ท่านพ่อยกตำแหน่งเจ้าเมืองNiflheimให้กับข้าเพราะว่ากษัตริย์แห่งเมือง Glast Heim ซึ่งเป็นเมืองหลวงใหญ่ได้มาคุยกับท่านพ่อเองเพื่อขอให้ท่านพี่โซดัสไปเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์และยังเป็นแม่ทัพใหญ่คุมกำลังทหารทั้งหมดในอาณาจักรนี้ด้วยท่านพ่อจึงไม่อยากให้ท่านพี่จมปรักอยู่กับแค่ตำแหน่งเจ้าเมืองNiflheimแห่งนี้โรนัลกล่าวต่อด้วยสีหน้าที่ยินดีกับพี่ชายของตนเอง

     

    และ ท่านพ่อและท่านแม่เห็นเจ้ากะท่านพี่คบกันมานานพวกท่านคิดจะสู่ขอเจ้าให้ท่านพี่แต่งงานด้วยก่อนที่ท่านพี่จะย้ายไปยังเมือง Glast Heim ครั้งนี้ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเจ็บปวด และมีสีหน้าซีดเซียวลงเพราะเขารู้ดีว่าพี่ชายของเขารักมิล มากเพียงใด

     

    แม้มิลไม่เคยรู้เลยว่าโซดัสนั้นคอยคุ้มครองหล่อนอยู่เสมอเนื่องจากหล่อนเป็นคนสวยและเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคนแต่เนื่องจากหล่อนเป็นคนรักของโซดัสจึงไม่มีใครกล้ามาจีบหล่อนแต่ก็มีบางพวกที่มีความคิดชั่วร้ายโดยวางแผนที่ฉุดหล่อนไปย่ำยี

     

    แต่โซดัสมักจะรู้สึกได้ถึงเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดชั่วๆพวกนี้และเขาจะจัดการกับคนเหล่านั้นก่อนที่คนเหล่านั้นจะได้ทำตามแผนแม้ว่าจำนวนคนที่ร่วมกันกระทำแผนชั่วนั้นจะมากเพียงใดก็ตาม

     

    และที่สำคัญตัวเขาเองในตอนนี้ก็ได้ทรยศพี่ชายที่ห่วงใยและคอยดูแลเขามาตั้งแต่เล็กไปเสียแล้ว

     

    เมื่อมิลเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวและได้ยินน้ำเสียงที่เจือความเจ็บปวดของโรนัลหล่อนจึงพยักหน้ารับ

     

    ณ กลางป่าลึก

     

    โซดัสยังคงร้องไห้อยู่โดยมีคลามิตี้ม้าคู่ใจของเขานั่งอยู่ข้างๆ

     

    มันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของมันแต่มันก็พยายามปลอบใจนายของมันโดยการเอาหน้าไปดันตัวนายของมัน

                   

    ซักพักหนึ่งโซดัสก็เงยหน้าขึ้นบัดนี้ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีแดงดุจเลือดไปแล้วไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกและผมของเขาก็เปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีขาวทั้งหัวเขามองมายังม้าคู่ใจ

     

    ขอบใจมากนะคลามิตี้เมื่อเขากล่าวเสร็จเจ้าม้าแสนรู้ก็สะบัดหัวพร้อมร้องออกมาอย่างดีใจที่ได้เห็นนายของมันกลับมาเหมือนเดิม

     

    โซดัสลุกขึ้นยืนพร้อมกับคลามิตี้แล้วมองไปรอบๆเขาพบว่าเวลานี้มืดมากแล้วและเขาก็อยู่ริมทะเลสาปซึ่งเขาเองเขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนใดในป่าแต่เขาก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาป

     

    เขาเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งและมันเรืองแสงได้

     

    เขาเกิดความสงสัยจึงได้ขึ้นขี่คลามิตี้แล้วควบมันไปยังอีกฝั่งของทะเลสาบ

     

    ณ เมืองNiflheim

     

    ที่หน้าบ้านพักเจ้าเมืองNiflheimได้มีชายหญิงมีอายุคู่หนึ่งยืนอยู่ฝ่ายชายสวมชุดเกราะอัศวินเขาคือเบเวอริลเจ้าเมืองNiflheimคนปัจจุบันนั่นเองส่วนข้างๆมีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ50ปีเช่นเดียวกับเบเวอริลหล่อนมีผมสีน้ำตาลปนด้วยเส้นผมสีขาวมีเค้าความงามในอดีตอยู่หล่อนยืนรอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ

     

    ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเจ้าโซดัสกับเจ้าโรนัลให้มากเลยนี่ริน พวกเค้าสองคนก็โตๆกันแล้วนะ กลับบ้านมืดค่ำบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่เบเวอริลกล่าวกับหญิงที่ยืนข้างๆเขา

     

    นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะคะ ยิ่งโซดัส หายไปตั้งแต่เมื่อวานด้วยท่านพี่ไม่เป็นห่วงเลยรึไงคะรินตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจในตัวสามีของหล่อน

     

    เฮอะ ถ้าใครกล้าสู้กับเจ้าโซดัสที่ได้รับฉายาว่า นักฆ่าหมื่นศพละก็คนผู้นั้นไม่เป็นเทพก็ต้องเป็นปีศาจเท่านั้นละถึงจะกล้าไปสู้กับเจ้าลูกชายจอมมุทะลุของพวกเราเขาตอบภรรยาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

    ส่วนเจ้าโรนัล ใครๆก็รู้ว่ามันเก่งวิชาดาบพอๆกะพี่ชายของมันเพียงแต่มันไม่มีพลังและความสามารถเทียบเท่าพี่ชายของมันได้เท่านั้นเองเบเวอริลกล่าวต่ออย่างสบายใจ

     

    ข้าว่าที่น่าห่วงน่าจะเป็นไอ้พวกโง่ที่บังอาจไปยุ่งกับทั้งสองคนนั้นมากกว่านะ ฮึ ฮึเบเวอริลกล่าวต่ออย่างนึกขบขันแต่ผู้เป็นภรรยาไม่ได้ขบขันด้วยหล่อนมองค้อนผู้เป็นสามีจนเบเวอริลต้องหยุดหัวเราะและก้มหน้าสำนึกผิด

     

    ไม่นานนักก็มีนกตัวใหญ่มีขนสีเหลืองทั้งตัวซึ่งคนส่วนใหญ่เรียกว่าPecopecoตัวหนึ่งวิ่งมาตามถนนตรงมายังทั้งสองและผู้ที่ขี่นกตัวนั้นคือ โรนัล

     

    เมื่อเขาขี่ใกล้จะถึงบ้านเขาก็พบว่าพ่อกับแม่ของเขายืนคอยอยู่

     

    เขาจึงเข้าไปหาและเมื่อผู้เป็นมารดาเห็นลูกชายหนึ่งในสองคนของตนกลับมาอย่างปลอดภัยก็มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังแฝงแววโกรธ

     

    ไปไหนมา ฮึ โรนัลถึงได้กลับมาเอาป่านนี้ รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงขนาดไหนรินถามด้วยความโมโห

     

    ข...ขะ...ข้าขอโทษครับท่านแม่โรนัลกล่าวด้วยสีหน้าสลด

     

    เฮ้อ ช่างเถอะอย่างน้อยไม่เกิดเรื่องอะไรกับเจ้า แม่ก็ดีใจแล้วรินถอนหายใจแล้วพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มแล้วเข้าไปกอดลูกชายคนรองของตน

     

    โรนัลหันมายิ้มและกอดตอบกลับแม่ของตน

     

    เออจริงสิ เจ้าเห็นเจ้าโซดัสมั่งไหมละ โรนัลเบเวอริลถามขึ้น

     

    ม...มะ...ไม่เจอเลยครับท่านพ่อโรนัลตอบแต่สีหน้าไม่ดีนักเพราะเขาไม่อยากบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านของมิลให้พ่อแม่ของเขารู้รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับมิลด้วย

     

    ท...ทะ...ทำไมหรือครับท่านพ่อ พี่โซดัสยังไม่กลับมาเลยรึครับโรนัลฝืนยิ้มแล้วถามขึ้นบ้าง

     

    อือ หายหัวไปตั้งแต่เมื่อวานคอยดูนะถ้ากลับมาพ่อจะลงโทษซะให้เข็ดเบเวอริลตอบด้วยสีหน้าที่โกรธปนด้วยความห่วงใยในตัวลูกชายที่แสนมุทะลุของเขา

     

    เอาเถอะตอนนี้พวกเรากลับเข้าบ้านกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ เจ้าต้องเตรียมตัวเพื่อเข้าพิธีรับตำแหน่งเจ้าเมืองแล้วนะ โรนัล

     

    ส่วนเจ้าโซดัสคงไปเที่ยวเล่นจนเพลินไม่ยอมกลับบ้านวันนี้แน่ๆ ยังไงก็ไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่านะ เบเวอริล กล่าวจบแล้วโอบไหล่ทั้งสองเพื่อพาเดินเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าที่ยังเป็นห่วงโซดัสอยู่โดยทั้งสามหารู้ไม่ว่าลูกชายผู้มุทะลุและพี่ชายที่น่าเป็นห่วงของพวกเขากำลังจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้

     

    ณ กลางป่าริมทะเลสาบ

     

    โซดัสควบขี่คลามิตี้ลัดเลาะตามทะเลสาบไปจนใกล้ต้นไม้ที่เรืองแสงนั้น โซดัสก็ลงจากหลังของคลามิตี้แล้วจูงมันเดินเข้าไปใกล้ๆ

     

    เมื่อพวกเขาไปถึงใต้ต้นไม้นั้นเขาได้พบว่าต้นไม้นั้นใหญ่มาก มันมีใบเรืองแสงจริงและใบมันม้วนเป็นเกลียวอย่างน่าประหลาด

     

    นอกจากนี้เขาสังเกตเห็นว่าต้นไม้ต้นนี้ขึ้นอยู่ใกล้ๆกับทะเลสาบมีรากบางส่วนอยู่ในน้ำ และรอบๆต้นไม้ก็มีผลไม้รูปร่างประหลาดตกอยู่

     

    แต่ทางด้านซ้ายของต้นไม้นี้กลับเป็นท้องฟ้าสีดำทมิฬแฝงความน่าสะพรึนกลัวไว้แต่ทางด้านขวากลับเป็นท้องฟ้าสีฟ้าสว่างสดใส สวยงามมากเขาเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้นั้นและเขาก็นึกได้ถึง

     

    ตำนานของต้นไม้แห่งชีวิต “Yggdrasil”

     

    แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ก็มีเสียงลึกลับดังขึ้นในหัวของเขา

     

    ในที่สุดเจ้าก็หาที่แห่งนี้พบจนได้นะ โซดัสเสียงลึกลับกล่าวและโซดัสก็จำได้ว่าเสียงนี้คือเสียงที่เขาได้ยินในความฝันของเขา

     

    ท่านเป็นใคร? แล้วท่านอยู่ที่ไหน?”โซดัสถามหาพร้อมกับมองไปรอบๆ

     

    หึ หึ เจ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใครอย่างนั้นรึ?”เสียงลึกลับดังขึ้นอีก

     

    ใช่ ข้าอยากรู้ว่าท่านเป็นใครแล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่า... ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับข้าโซดัสถามพร้อมกับเสียงที่แสดงถึงความเคียดแค้นในใจเขา

     

    หึ หึ ก็ได้ ถ้าเจ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใครก็จงมาที่ข้างทะเลสาปแล้วมองลงไปสิแล้วเจ้าจะรู้ว่าข้าเป็นใครเสียงลึกลับกล่าวด้วยเสียงที่เยือบเย็น

     

    โซดัสได้ยินดังนั้นเขาก็ทำตามทันที เขาจูงคลามิตี้ไปยังริมทะเลสาปแล้วก้มลงไปมองในทะเลสาบแต่เขาไม่พบสิ่งใดเลยนอกจากเงาของเขาและคลามิตี้ในน้ำแล้วเขาก็หันไปมองรอบๆทะเลสาบ

     

    ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่ ท่านอยู่ที่ไหนกันแน่?”โซดัสกล่าวอย่างมีอารมณ์

     

    เจ้าไม่เห็นข้ารึไง ข้าก็อยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วไงละ โซดัสเสียงลึกลับดังขึ้นอีกโซดัสมองไปข้างหน้าแต่ก็ไม่พบอะไรแต่ทันทีที่เขาก้มหน้าลงเขาก็ตกใจสุดขีดเพราะเงาสะท้อนของเขาในน้ำกำลังวาดมือและค้อมตัวลงให้เขา

     

    ยินดีที่ได้รู้จัก โซดัส ข้าคือด้านมืดในจิตใจของเจ้ายังไงละเงาในน้ำกล่าว

     

    ด...ดะ...ด้านมืดในจิตใจของข้าอย่างนั้นรึโซดัสกล่าวอย่างไม่เชื่อที่เขาเห็นและได้ยิน

     

    ถูกต้องแล้วตัวข้าอีกคนข้าคือด้านมืดในจิตใจของเจ้า ข้าเกิดมาตอนที่เจ้ากำลังจะถูกสังหารในสงครามเมื่อ 10ปีก่อนยังไงละ

     

    ข้าเกิดมาในฐานะผู้ทำลายซึ่งข้าเป็นคนจัดการสังหารทหารนับหมื่นคนด้วยมือของข้าเองยังไงละเงาในน้ำกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงถึงความพอใจและยินดีที่ได้ทำสิ่งที่กล่าวมาอย่างยิ่ง

     

    และยิ่งเจ้าเจ็บปวด, ผิดหวังและเคียดแค้นมากขึ้นเท่าใด ข้าก็ยิ่งมีตัวตนมากขึ้นเท่านั้นและยิ่งตอนนี้ในใจของเจ้าเต็มไปด้วยความแค้นต่อทุกสิ่งที่มีชีวิตมันจึงกลายเป็นพลังให้ข้าจนข้าสามารถพูดคุยกับเจ้าได้ยังไงละเงาในน้ำกล่าวด้วยเสียงที่ยินดียิ่งขึ้น

     

    แล้วเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าทำไมกันละ?”โซดัสถามขึ้นบ้าง

     

    หึ หึ โซดัส ในใจเจ้าตอนนี้เต็มไปด้วยความผิดหวัง, ความเจ็บปวดและความเคียดแค้นรึเจ้าไม่อยากล้างแค้นเล่า ตัวตนของข้าอีกคนเงาในน้ำกล่าวอย่างร่าเริงและที่มุมปากมีรอยยิ้มที่เยือกเย็นและเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น

     

    แน่นอน

     

    ข้าอยากแก้แค้น แต่ด้วยพลังของข้าตอนนี้ข้าไม่อาจทำลายพวกมันทั้งหมดได้นี่โซดัสตอบด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเจ็บใจในความอ่อนด้อยของตน

     

    เรื่องนั้นไม่ยากเงาในน้ำรีบตอบกลับ

     

    เจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้นไม้นี่คือต้นอะไร?”เงาในน้ำถามเขา

     

    มันคือต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasil”โซดัสพยักหน้าแล้วตอบเงาของเขาในน้ำ

     

    ถูกต้องแล้วเจ้ารู้ตำนานของมันหรือไม่ละเงาในน้ำถาม

     

    โซดัสก็พยักหน้ารับและเล่าตำนานต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasil

     

    ตำนานกล่าวไว้ว่าตอนที่โลกยังไม่ได้แบ่งเขตเป็น สวรรค์ โลกมนุษย์และ นรกนั้นดินแดนทั้ง3แห่งได้เชื่อมต่อกันและเจ้าแห่งธาตุทั้ง7ได้สร้างต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasilขึ้นเพื่อให้เป็นสิ่งที่ให้กำเนิดชีวิตและต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasilก็ได้ให้กำเนิด เทพ ปีศาจ “Monster” ต้นไม้และมนุษย์ทั้ง108สายพันธุ์ขึ้น

     

    แต่อยู่มาวันหนึ่ง ปีศาจโดยการนำของเทพโลกิได้ก่อสงครามทำลายล้างสิ่งมีชีวิตอื่นขึ้น

     

    โดยสิ่งที่ทำให้เทพโลกิทำเช่นนั้นก็เพราะเกราะและอาวุธของเขาซึ่งมีพลังแห่งความมืดเข้มข้นอยู่ภายในได้ครอบงำเขาและทำให้เขาก่อสงครามที่จะทำลายล้างทุกสิ่งขึ้น

     

    แต่แล้วในที่สุดเทพโอดินพร้อมกับเหล่าเทพทั้งหลายก็ได้ช่วยเทพโลกิให้หลุดพ้นจากการควบคุมของชุดเกราะและอาวุธของเขาได้สำเร็จ

     

    แต่จิตใจและพลังของเทพโลกิได้ถูกพลังของชุดเกราะและอาวุธของเขาแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความมืด

     

    แต่ก่อนที่เทพโลกิจะถูกความมืดครอบงำเขาได้ใช้พลังของเขาร่วมกับเทพโอดินสร้างกำแพงกั้นโดยแบ่งโลกเป็น3มิติ โดยมีต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasilเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อทั้ง3มิติเอาไว้ด้วยกัน

     

    และเทพโลกิก็ได้ปกครองนรกดินแดนของเหล่าปีศาจ ส่วนเทพโอดินก็ปกครอง สวรรค์ดินแดนแห่งเหล่าเทพ ส่วนโลกมนุษย์ก็มีเหล่า Monster, ต้นไม้และมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน

     

    ข้ารู้ตำนานเพียงเท่านี้โซดัสบอกแก่เงาของเขา

     

    งั้นเจ้ารู้ไหมว่าชุดเกราะและอาวุธที่ทำให้กับเทพโลกิเป็นปีศาจนั้นอยู่ที่ไหน?”เงาในน้ำถามโซดัสด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    ข้าไม่รู้ ตำนานไม่ได้กล่าวไว้นี่โซดัสตอบ

     

    งั้นข้าจะบอกให้

     

    ชุดเกราะและอาวุธที่ทำให้กับเทพโลกิเป็นปีศาจนั้นได้ถูกเทพโลกิรวมพลังกับเทพโอดินและเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายปิดผนึกมันเอาไว้ในถ้ำใต้ต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasilแห่งนี้พร้อมกับอัญมณีแห่งความมืดทั้งห้าที่สามารถสร้างลูกน้องที่เป็นสุดยอดให้กับพวกเราได้ยังไงละเงาในน้ำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โซดัสพยักหน้าเป็นการตอบรับว่าเข้าใจ

     

    นั้นคือสิ่งที่เราจะใช้ในการแก้แค้นของพวกเรา ไปสิ ไปเอาสิ่งเหล่านั้นมา โซดัสเงาในน้ำบอกกับโซดัส

     

    โซดัสพยักหน้ารับแล้วก็เดินจูงคลามิตี้เข้าไปใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตYggdrasil

     

    ที่ฐานรากของต้นไม้เขาได้พบถ้ำขนาดใหญ่

     

    ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปในถ้ำคลามิตี้รับรู้ได้ถึงพลังที่ชั่วร้ายมันร้องอย่างตกใจและพยศจนโซดัสต้องเข้าไปปลอบมัน

     

    เมื่อคลามิตี้สงบลงและพร้อมที่จะให้นายของมันพาเข้าไปในถ้ำพวกเขาก็เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง

     

    ภายในถ้ำชื้นอับเขาไม่พบมีสิ่งมีชีวิตใดเลยแม้แต่แมลงซักตัวก็ตามเขาเดินเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรเขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่เขาไม่เคยพบมาก่อน

     

    ในที่สุดเมื่อถึงด้านในสุดของถ้ำเขาก็ได้พบห้องกว้างห้องหนึ่งที่ตรงกลางห้องมีอัญมณีวางอยู่5อันและอีกฝากของห้องมีชุดเกราะสีขาววางอยู่บนบัลลังย์หินทางซ้ายของชุดเกราะเป็นโล่ขนาดใหญ่รูปกางเขนส่วนทางด้านขวาเป็นทวนขนาดใหญ่และข้างๆทวนนั้นมีรูปปั้นม้าซึ่งบนรูปปั้นนั้นก็มีเกราะสีขาวสวมอยู่เช่นกัน

     

    นั่นคือสิ่งที่ข้าพูดถึงยังไงละ โซดัส ไปหยิบมันมาสวมสิเสียงจากด้านมืดในจิตใจของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

     

    โซดัสพยักหน้าและถอดเกราะรวมทั้งวางอาวุธทั้งหมดของเขาไว้กับพื้นและเดินไปยังอีกฝากของห้องโดยมีคลามิตี้เดินไปพร้อมกัน

     

    เมื่อเขาไปยืนอยู่ตรงหน้าชุดเกราะสีขาวบนบัลลังย์แล้วเขาก็หยิบหมวกเกราะขึ้นมาจะสวมมันลงไปบนศีรษะของเขา

     

    เดี๋ยวก่อน! โซดัสเสียงจากด้านมืดในจิตใจของเขาขัดขึ้นทำให้โซดัสชะงัก

     

    ก่อนที่เจ้าจะสวมมันจงปฏิญาณต่อความแค้นของเจ้า จงให้ความแค้นในใจเจ้าเป็นสิ่งที่ดึงเราทั้งสองคนมารวมกันเป็นหนึ่งเพื่อทำให้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการเป็นจริงเสียงจากด้านมืดในจิตใจของเขากล่าวอย่างภูมิใจ

     

    โซดัสพยักหน้ารับแล้วกล่าวอย่างช้าๆด้วยดวงตาที่ปรากฎแววแห่งความแค้นที่ลึกล้ำ

     

    ในอดีตข้าเคยอุทิศทุกสิ่งเพื่อคนที่ข้ารัก เพื่อเมืองที่ข้ารัก เพื่ออาณาจักรที่ข้ารัก

     

    แต่สิ่งที่ข้าได้รับตอบแทนกลับมาคือการรังเกียจ ความหวาดกลัวและการทรยศหักหลัง

     

    และสิ่งเหล่านี้ได้นำมาซึ่งความผิดหวัง ความเจ็บปวดในใจของข้าและบัดนี้มันได้กลายเป็นความแค้นเสียแล้ว

     

    บัดนี้ข้าจะขอสาปแช่งทุกชีวิต ข้าจะทำลายทุกชีวิต ข้าจะทำให้ทุกชีวิตทรมารจนตาย และข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นดังที่ความแค้นในใจของข้าต้องการ จงมอบพลังให้กับข้า จงมาเป็นหนึ่งเดียวกับข้าเมื่อกล่าวจบโซดัสก็ได้สวมหมวกลงบนศีรษะของเขา

     

    เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อขึ้นชุดเกราะส่วนที่เหลือลอยขึ้นและสวมลงบนตัวของโซดัสในทันทีตาของเขากลายเป็นสีแดงฉานดุจเลือดชุดเกราะสีขาวแฝงกลิ่นอายแห่งความตายและหายนะตอนนี้โซดัสและด้านมืดในจิตใจของเขาได้รวมกันอย่างสมบูรณ์แล้วเขารู้สึกได้ถึงพลังที่เปี่ยมล้นอยู่ในตัวเขาและก่อนที่เขาจะถูกความแค้นในใจครอบงำเขาหันไปยังคลามิตี้

     

    คลามิตี้เจ้าจะไปกับข้ารึไม่เจ้าเพื่อนยาก ถ้าเจ้าไม่ไปกับข้า เจ้าก็จงรีบออกไปจากที่นี่ซะไปให้ไกล เจ้าเพื่อนยากโซดัสใช้จิตใจของมนุษย์ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดกล่าวกับคลามิตี้เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ เพื่อนผู้ร่วมเป็นร่วมตายกับเขามานานเป็นครั้งสุดท้ายโดยหวังว่าตัวเขาเองจะไม่ต้องสังหารเพื่อนของเขาตัวนี้ด้วยมือเขาเอง

     

    แต่เจ้าคลามิตี้กลับเดินเข้าไปหานายของมันและหยุดตรงหน้ารูปปั้นม้าและร้องเป็นเชิงบอกว่าจะตามนายของมันไปไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือตัวมันต้องเปลี่ยนเป็นอะไรก็ตาม

     

    โซดัสมองมันอย่างยินดีและเขาได้นำชุดเกราะบนรูปปั้นม้าหินมาสวมให้กับมัน

     

    บัดนี้คลามิตี้ก็เปลี่ยนไปร่างกายของมันใหญ่ขึ้นดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานเช่นเดียวกับโซดัสมันร้องออกมาอย่างน่ากลัวเหมือนเสียงที่สามารถพรากวิญญาณทุกชีวิตได้

     

    เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างเขาก็เข้าไปหยิบหอกและโล่มา ทันทีที่เขาสัมผัสกับหอกและโล่เขาก็รู้สึกถึงพลังที่ไหลเข้ามามากขึ้น มากขึ้น

     

    เขารู้ทันทีว่าตอนนี้เขามีพลังมากพอที่จะทำลายทุกสิ่งได้แล้วและเขายังได้รับรู้ถึงเวทมนตร์, ความรู้, ความสามารถต่างๆและพลังที่เขาได้รับมาอย่างครบถ้วน

     

    เขาหันไปยังอัญมณีแห่งความมืดทั้งห้าอันที่อยู่กลางห้อง

     

    เหล่าอัญมณีแห่งความมืด เอ๋ย ด้วยข้าคือผู้เป็นนายแห่งเจ้าทั้งห้า

     

    ข้าขอสั่งเจ้าอัญมณีแห่งการหลอกลวง, อัญมณีแห่งความหวาดกลัว, อัญมณีแห่งความเจ็บปวด, อัญมณีแห่งความโลภและอัญมณีแห่งความแค้นจงปรากฏร่างที่แท้จริงของเจ้าเบื้องหน้าข้า ณ บัดนี้

     

    เมื่อโซดัสกล่าวจบเขาก็ชี้หอกไปยังอัญมณีแห่งความมืดทั้งห้าอันพร้อมกับมีแสงสีดำพุ่งจากปลายหอกไปยังอัญมณีทั้งห้าอัน

     

    อัญมณีแห่งความมืดทั้งห้าอันลอยขึ้นพร้อมกับสั่นอย่างรุนแรงและเปร่งแสงสีดำออกมา

     

    และแล้วอัญมณีแห่งความมืดทั้งห้าอันก็แปรสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตห้าตนพวกมันคุกเข่าลงต่อหน้าเขา

     

    อัญมณีแห่งการหลอกลวงชื่อของข้าคือDoppelganger”สิ่งมีชีวิตทางซ้ายมือสุดของโซดัสกล่าวขึ้นรูปร่างของมันเป็นนักดาบที่ร่างกายแปรเปลี่ยนตลอดเวลา บัดเดี๋ยวจางซีดแทบเลือนหายบัดเดี๋ยวเข้มชัดมีเนื้อหนังมังสา ผมสีทองเปลี่ยนสลับกับสีดำทมึน ดวงตาทอแสงวูบวาบ ใบหน้าหล่อเหลาแต่ซูบซีดราวซากศพ

     

    อัญมณีแห่งความหวาดกลัวชื่อของข้าคือBaphomet”สิ่งมีชีวิตที่อยู่ถัดไปทางขวากล่าวขึ้นรูปร่างของมันเป็นแพะตัวใหญ่มีดวงตาสีแดงแต่มันยืนด้วยสองขามีมือเหมือนมนุษย์และในมือของมันเป็นเคียวด้ามยักษ์

     

    อัญมณีแห่งความเจ็บปวดชื่อของข้าคือDracula”สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงกลางกล่าวขึ้นมันมีรูปร่างเป็นชายร่างสูงคนหนึ่ง หนวดเคราผมเผ้าสีแดงสด ในชุดขุนนางที่มีขลิบทองระบายที่ปก

     

    อัญมณีแห่งความโลภชื่อของข้าคือ Dark Snake Lord”สิ่งมีชีวิตที่อยู่ถัดไปกล่าวขึ้นรูปร่างของมันเป็นงูสีขาวขนาดใหญ่มียันต์บนตัวที่ด้านขวามีพู่กันด้านซ้ายมีไหหมึกที่บริเวณหลังลำตัวมีเงาดำที่มีหน้าคล้ายคนอยู่

     

    อัญมณีแห่งความแค้นชื่อของข้าคือ Dark Lord”สิ่งมีชีวิตที่อยู่ทางขวามือสุดกล่าวขึ้นร่างลอยอยู่เหนือพื้น ตาสีแดงก่ำหลุบลึกในเบ้าตาบนใบหน้าที่คล้ายหัวกะโหลก วงแหวนลอยเหนือศีรษะราวเทวทูต แต่กลับมีเขาแหลมเล็กของมารร้ายงอกเป็นแนวโค้งต่ำจากขมับสองข้าง ไหล่ซ้ายขวามีหัวกะโหลกประดับอยู่ ผ้าคลุมสีดำราวกลางคืนที่มีปกเป็นปลายแหลมห้ายอด ชายผ้าคลุมคล้ายขนสัตว์ที่ขาดรุ่งริ่ง มีออร่าสีดำไหลออกมาราวเลือดจากบาดแผล

     

    พวกข้าปีศาจทั้ง5พร้อมจะรับใช้นายคนใหม่ของพวกเรา เชิญสั่งมาได้เลยขอรับเจ้านายปีศาจทั้ง5กล่าวขึ้นพร้อมกัน

     

    ชื่อของข้าคือ...โซดัสเงียบไปเขาคิดได้ว่าบัดนี้เขาไม่ใช่โซดัสอีกต่อไปแล้วเขาจึงไม่ควรใช้ชื่อเดิมให้มันเป็นอัปมงคลต่อตัวเขาเองอีกต่อไป

     

    เขานึกอยู่ครู่หนึ่งเขาก็คิดได้ว่าเหล่าผู้คนตั้งฉายาเขาว่านักฆ่าหมื่นศพและบัดนี้เขาตั้งใจที่จะมอบความตาย ความทุกข์ทรมาร และหายนะให้แก่ทุกชีวิตและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลก

     

     

    บัดนี้ ชื่อของข้าคือราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”ข้าจะเป็นผู้ที่มอบความตาย ความทุกข์ทรมารและหายนะให้แก่ทุกชีวิตและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลก

     

    ขอรับ ตามแต่ท่านจะบัญชาท่านราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”ปีศาจทั้ง5กล่าวพร้อมลุกขึ้น

     

    จงมากับข้าไปมอบความตาย ความทุกข์ทรมารและหายนะให้กับทุกสิ่งร่วมกับข้า ณ บัดนี้โซดัสกล่าวพร้อมกับขึ้นไปขี่คลามิตี้และควบมันออกไปโดยมีปีศาจทั้ง5วิ่งตามหลังไป

     

    บัดนี้ไม่มีชายหนุ่ม ผู้ที่พ่อและแม่ของเขารักและภูมิใจอีกต่อไปแล้ว

     

    บัดนี้ไม่มีชายหนุ่มผู้ที่เคยเป็นพี่ชายที่แสนดีและห่วงใยน้องชายของตนอีกต่อไปแล้ว

     

    บัดนี้ไม่มีชายหนุ่มผู้ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเมืองที่ตนรักอีกต่อไปแล้ว

     

    และบัดนี้ไม่มีชายหนุ่ม ผู้ที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมากจนถึงขั้นที่มอบหัวใจและชีวิตให้หล่อนได้อีกต่อไปแล้ว

     

    บัดนี้มีเพียงปีศาจร้ายที่มีแต่ความผิดหวัง,ความเจ็บปวด,ความเคียดแค้นและต้องการที่จะทำให้ทุกชีวิตและทุกสิ่งพบกับความตาย ความทุกข์ทรมารและหายนะเท่านั้น

     

    บัดนี้มีเพียง                ราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”

     

    จบบทที่3 ความมืดแห่งมหาอนันตการ กำเนิด ราชันย์แห่งความตาย (Lord of Death)”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×