ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - Divine Blessing -

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานเเละความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 49


               ในสมัยก่อนนั้น เกิดการเเตกเเยกระหว่างอาณาจักรต่างๆ จึงทำให้เกิดสงครามมากมายนับไม่ถ้วนเเละเพราะความไม่สามัคคีกันนั้นเอง ทำให้เหล่าปีศาจมีโอกาสที่จะยึดครองโลกของเหล่ามนุษย์

                วันหนึ่งนั้นเอง พวกปีศาจก็ได้ยกทัพขึ้นมาบนโลกมนุษย์เพื่อยึดครองโลก พวกมันได้ฆ่าพวกมนุษย์ไปมากมายเเละยิ่งมันฆ่ามากพลังของพวกมันก็มากขึ้นไปด้วย เเละด้วยเหตุที่มนุษย์ไม่มีความสามัคคีกันทำให้เมืองต่างๆถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว พวกปีศาจเลยสามารถบุกยึดพื้นที่ของโลกไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง

                ด้วยเหตุการณ์บนโลกมนุษย์ ทำให้บรรดาเทพไม่อาจอยู่ได้อย่างสงบเนื่องด้วยกลัวว่าปีศาจฆ่ามนุษย์ไปมากจนอาจมีพลังเหนือเทพเเละบุกขึ้นมายึดสวรรค์ได้ จึงได้มอบของวิเศษเเก่เหล่ามนุษย์ 5 อย่างเพื่อกำจัดปีศาจ ซึ่งสิ่งที่บรรดาเทพให้มาก็ คือ ดาบ โล่ห์ คฑา หนังสือเเละหีบ ซึ่งมนุษย์ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์อะไร เเต่เหล่าเทพกลับบอกว่ามันมีพลังมหาศาล มนุษย์จึงได้คัดสรรค์คนมา 5 คน เพื่อให้ใช้ของวิเศษเหล่านี้ คนทั้ง 5 ก็ได้นำของวิเศษไปสู้กับปีศาจเเละผลก็ออกมาเหลือเชื่อ บรรดาปีศาจต่างพ่ายเเพ้เเก่ของวิเศษ จึงทำให้พวกเขาสามารถกำจัดพวกปีศาจได้ เเต่ว่าพลังของเหล่าปีศาจไม่หายไปจึงทำให้พวกเขาต้องสกดพวกมันไว้ใต้พิภพเเทน เพื่อไม่ให้มันสามารถมาอาละวาดบนโลกได้ เเต่ผนึกก็คงสกดมันไว้ไม่ได้นาน

                เเต่ด้วยอำนาจของของวิเศษทำให้มีบรรดาผู้นำอาณาจักรต่างๆมาพยายามช่วงชิงไปเพื่อการทำสงคราม บรรดาคนทั้ง 5 จึงได้ผนึกวิญญาณของตัวเองลงของวิเศษเเลใช้อำนาจเพื่อให้ผู้ที่ถูกเลือกใช้ได้เท่านั้น เมื่อไม่มีใครสามารถใช้ของวิเศษได้ บรรดาผู้นำจึงหันมาจับมือร่วมกันเเละมีเมืองใหม่ๆเกิดขึ้น 7 เมือง คือ

               

                1. เซเลสต้า  เมืองท่าเเห่งการค้าขายซึ่งใหญ่ที่สุดใน 7 อาณาจักร ทำให้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดีเเละมีพันธมิตรอยู่มากมาย

               

                2. พรีสเต้  เมืองศักสิทธิ์เเห่งการเเพทย์ เป็นเมืองที่มีการใช้วิทยาศาสตร์เเละเวทย์มนต์ทางการเเพทย์ทำให้ดูลำ้หน้ากว่าเมืองอื่นๆ

                3. บลูสกาย  เป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากความมหัศจรรย์คือจะมีท้องฟ้าเป็นสีครามทั้งกลางวันเเละกลางคืน เป็นเมืองที่สงบสุขเเต่ก็มีกำลังทหารที่เเข็งเเกร่งเหมือนกัน

                4. เเวร์เร็ธธ่า  เป็นเมืองที่มีอารยธรรมเก่าเเก่เเละเป็นเมืองที่มีเเต่อารยธรรมจากเวทย์มนต์เท่านั้น เเละเวทย์มนต์เป็นสิ่งที่รำ่เรียนได้ยากเเต่เมืองนี้สามารถใช้ได้ทุกคนทำให้มีอิทธิพลด้านสงครามสูง

                5. เเม็กชาน่า  เมืองเเห่งจักรกลเพราะส่วนใหญ่สิ่งที่หาได้จากเมืองนี้จะเป็นเเร่ธาตุจำพวกเหล็กเสียส่วนใหญ่เเละมีเหมืองหินที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในครอบครอง

                6. เรเดี้ยน  เมืองเเห่งนักบวช เชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเทพเจ้าเคยมาอาศัยอยู่โดยสังเกตุจากอารยธรรมโบราณเเละภาษาที่ใช้ซึ่งมีความซับซ้อนเเต่กลับให้ความรู้สึกถึงพลังมหาศาลซึ่งเพียงคำเดียวก็ฆ่าคนได้

                7. เเอสทาวน์  เเหล่งรวมบรรดาคนที่เดินทางสายมืด เมืองนี้เทิดทูนเงินเปรียบดังพระเจ้าเเละมักจะมีงานที่เป็นใต้ดินไม่ว่าจะเป็นรับจ้างขโมย ฆ่า หรือว่าการค้าข่าวเเม้เเต่ขายของผิดกฏหมายก็หาง่ายในเมืองนี้

                เมืองทุกเมืองก็ได้อยู่กันอย่างสงบ เเต่ว่าคงไม่นานก่อนที่ ผนึกสะกดปีศาจจะคลาย

              ณ อาณาจักรบลูสกาย ได้มีการจัดงานฉลองเนื่องจากเป็นงาน เทศกาลประจำเมือง บรรดาประชาชนทั้งหลายจะได้รับการเชื้อเชิญไปร่วมงานที่พระราชวังทุกๆปี เเบบไม่เเบ่งเเยกชนชั้นเเละมีกฏระเบียบทำให้ประชาชนอยู่ได้กันอย่างสงบสุข

                บริเวณพื้นที่จัดงานของพระราชวังหลวงกลุ่มคนหลายคนกำลังจ้องมองเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีผมสีฟ้าตั้งชันไปด้านหลัง พร้องด้วยดวงตาสีฟ้าครามที่กำลังนั่งหน้าบึ้งอยู่คนเดียวในงาน

               

                "นั่นน่ะเหรอ เจ้าชายลำดับที่ 2 น่ะ"

               

    "ใช่ที่ชื่อเจ้าชาย คลาวด์ ดี. เรนไนท์ หรือเปล่า"

               

    "ใช่เเล้วๆ"

               

    "ไม่เห็นเหมือนเจ้าชายบลูคนพี่เลยนะ"

               

    "ซุบซิบๆ..."

                เมื่อได้ยินคนคุยกันเรื่องของตนมากเข้าจึงทำหน้าตาบูดบึ้งมากกว่าเดิมเเละรีบลุกเดินออกไปก่อนที่คนจะพูดถึงตนต่ออย่างรวดเร็ว

                "เฮ้อ--ทำไมคนชอบพูดถึงเราจังน้า"

                เจ้าชายเดินเลยออกมาจนถึงสวนด้านหลังวังพร้อมกับเดินไปบริเวณส่วนขนาดย่อมที่มีสนามหญ้าที่นุ่มกับดอกไม้หลากสีอยู่ เมื่อเลือกที่เหมาะได้ก็เอนตัวลงนอนพลางมองท้องฟ้าที่เป็นสีเดียวกันตลอด นอนไปนอนมาก็คิดได้ถึงเรื่องที่คนในงานพูดกันเมื่อกี้นี้

                "เราต่างกับพี่ตรงไหนอ่ะเนี่ย ผมเหรอ..อืมไม่น่าใช่ อายุ..เอ้อ! เราอายุ 11 ส่วนพี่เราก็ตั้ง 14 นี่เนอะเรื่องนี้น่ะเอง"

                พูดเสร็จก็เขกหัวตัวเองหนึ่งที ดังโป้ก!เลย

                "อูย..เจ็บ"

                บ่นเสร็จก็สำรวจหัวตัวเองที่เริ่มจะปูดๆขึ้นมา

                "เเต่ ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ"

                เสียงของบุรุษลึกลับดังขึ้น ทำให้เจ้าชายลุกขึ้นมามองทันที

                "คุณเป็นใคร เเล้วเมื่อกี้หมายความว่าไง"

                "อ๋อ..ผมเป็นคนมาเที่ยวในงานน่ะครับ เเล้วก็ผมว่าไม่ใช่อายุนะครับ"

    บุรุษลึกลับตอบเสร็จ ก็พลางยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เจ้าชาย

    "เเล้วมันคืออะไรล่ะ"

    "ก็น่าจะเป็นด้านความสามารถ อะไรประมาณนี้เเหละครับ ก็พี่คุณน่ะเก่งตั้งหลายเรื่อง เเต่คุณไม่ค่อยมีจุดเด่นน่ะ"

    "เเล้วทำยังไงชั้นถึงจะมีอ่ะ?"

    "อืมผมก็พอช่วยได้อ่ะนะ อืม..นี่อ่ะ"

    บุรุษลึกลับล้วงมือไปในกระเป๋าพลางหยิบห่อของสิ่งหนึ่งออกมายื่นให้เจ้าชาย

    "อะไรอ่ะเนี่ย?"

    "อย่าพึ่งรู้จะดีกว่านะ"

    "คุณอยากเก่งไม่ว่ายังไงก็ตามใช่ไหมครับ?"
                
                ชายลึกลับถามซ้ำเพื่อความเเน่ใจ

                
    "ก็ใช่อ่ะดิ ใครไม่อยากเก่งบ้าง บ้าอ๊ะป่าว"

    เจ้าชายตอบด้วยนำ้เสียงออกจะกวนๆหน่อย

    "งั้นก็เตรียมใจไว้ได้เลย"

    ชายลึกลับพูดพลางประกบมือไว้ตรงอก พร้อมเสียงพึมพำที่ทำให้เจ้าชายถึงกับผงะ

    "ด้วยอำนาจเเห่งกาลเวลา.."

    "เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ

                เจ้าชายรีบเอ่ยถามก่อนที่ชายลึกลับจะร่ายเวทย์ไปมากกว่านี้

    "จงทำให้ความทรงจำ.."

    "เดี๋ยวๆ หยุดก่อนนน

                เจ้าชายรีบตะโกนห้ามด้วยสีหน้าที่เริ่มซีด เนื่องจากไม่รู้ว่าชายลึกลับท่องมนต์อะไรเเต่ดูเหมือนว่าผู้สนทนาด้วยจะไม่ได้รับฟังอะไรเลย 

    "ของบุคคลเบื้องหน้าข้าหายไป"

    ฉับพลันมีเเสงสว่างออกมาจากมือของชายลึกลับเเละที่หัวของเจ้าชาย

    "จ้ากกกก!"

    เสียงร้องของเจ้าชายดังขึ้นก่อนที่จะสลบลงไป

    "ข้าขอโทษ เเต่ข้าต้องให้ท่านรู้จักชีวิตภายนอกมากกว่านี้ซะก่อน เพราะท่านคือผู้ถูกเลือก"

    ชายลึกลับพูดเสร็จพลางอุ้มเจ้าชายที่สลบอยู่ขึ้นมา

    "เร็วๆ ทางนี้ ข้าได้ยินเสียงเจ้าชายมาจากทางนี้"

    บรรดาทหารกรูกันออกมาที่บริเวณสวนด้านหลังวัง ที่ๆเจ้าชายอยู่เเต่บัดนี้เจ้าชายหายไปเเล้ว

    3 ปีต่อมา...

                ณ ห้องนอนที่ทำขึ้นจากไม้ในบ้านที่หมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากเเละมีการจัดเเต่งห้องเรียบง่ายเเละเรียบร้อย เตียงที่มุมห้องมีร่างหนึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่

                "ลูกตื่นได้เเล้ว สายเเล้วนะ"

                เสียงของเเม่ดังมาจากข้างล่างด้วยเสียงอันดังส่งผลให้ร่างที่หลับอยู่ตื่นทันทีด้วยความงัวเงีย

                "ตื่นเเล้วคร้าบ"

                บอกกลับไปก่อนที่เเม่จะขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจ เตรียมตัวอาบนำ้ เเปรงฟันต้อนรับวันใหม่ เมื่ออาบนำ้พร้อมหวีผมให้เรียบร้อยเเล้วก็ค่อยๆเดินลงมาที่ห้องครัวกันสดุด พร้อมกับกินขนมปังเเละซุปที่ผู้เป็นเเม่เตรียมไว้ให้อย่างอร่อย

                "เเม่ฮะ! เดี๋ยวผมไปเดินเล่นกับเพื่อนนะฮะ"

                "รีบกลับมาก็เเล้วกัน มีงานจะให้ช่วย"

                "ง่า.. จะรีบกลับมาก็เเล้วกัน"

                พูดเสร็จก็รีบวิ่งออกไปกลัวเดี๋ยวไปนาน เจอเพื่อนยืนรออยู่หน้าบ้านพอดี

                "อ้าว? ลาร์คมานานยังเนี่ย"

                รีบวิ่งไปหาเพื่อนพลางทักทายเด็กหนุ่มที่มีผมทองตัดสั้น พร้อมเสื้อกล้ามเเละกางเกงขาสั้น ซึ่งยืนทำหน้าเซ็งๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนซี้เพิ่งโผล่หน้ามา

                "ทำไมตื่นสายจังอ่ะเนี่ย"

                "ช่างเหอะ วันนี้ไปไหนดี?"

                เด็กหนุ่มถามขึ้นขณะเดินอยู่รอบๆหมู่บ้าน

                "ไปหาเอ็ดเถอะ เห็นคุณปู่มีเรื่องเล่าเรื่องใหม่ล่ะ"

                "อื้ม เอาสิ"

                เมื่อตกลงกันเรียบร้อยเเล้ว ทั้งสองก็รีบวิ่งไปที่ลานกลางหมู่บ้านทันทีก็พบเด็กหนุ่มนามว่าเอ็ดนั่งรออยู่ 

                "เฮ้! เอ็ดหวัดดี"

                "อ้าว?หวัดดีลาร์ค อ๊ะนั่นหวัดดีคลาวด์"

                เด็กหนุ่มผมสีฟ้าที่เเต่ก่อนเคยชันไปด้านหลัง ถูกหวีใหม่จนยาวลงมาเเทนเเละดวงตาสีฟ้าครามที่มองทักทายเพื่อนพร้อมด้วยรอยยิ้ม

                "หวัดดี"

                เขาก็คืออดีต เจ้าชาย คลาวด์ ดี. เรนไนท์ นั่นเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×