คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่2.3 สิ่งที่อยู่ในโลงศพ
โลงศพทรงโบราณที่สมัยนี้มีให้เจอน้อยมากตั้งอยู่บนฐานโดยมีกระจกใสครอบอยู่ ตัวโลงทำจากไม้ ทาสีดำทั้งหมด ลายก็ยังคงเป็นลายดอกไม้แบบที่ฐาน ด้านล่างของกล่องแก้วที่ทำจากกระจกเหมือนจะมีบานพับติดกับฐานซึ่งท่าทางตัวกล่องแก้วเหมือนจะเปิดได้
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ฉันนึกถึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาว่า ในสมัยก่อนร่างที่ไร้วิญญาณของเจ้าของบ้านจะถูกนำมาไว้ชั้นใต้ดินของบ้าน ตอนแรกคิดว่าไม่จริงซะอีก แต่สิ่งที่ฉันเห็นเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี
มือของฉันเริ่มมีเหงื่อออกมาเพราะความตื่นเต้น ตอนนี้ในห้องดูสว่างเพราะแสงไฟจากไฟฉายไปกระทบกับฐานตั้งโลงศพ มันสว่างก็ดีอยู่หรอกแต่ดันเป็นสีแดงเหมือนเลือดนี่สิ น่ากลัวชะมัด -^-
ฉันยังคงเอามือปิดปากไว้แน่น ค่อยๆ เดินถอยหลังอ้อมกลับไปทางบันไดโดยไม่ละสายตาไปจากโลงศพ
กึก
เท้าของฉันเหยียบไปโดนอะไรบางอย่างเข้า เป็นผลให้กล่องกระจกใสที่ครอบอยู่เปิดขึ้นมา ดูเหมือนว่าเท้าฉันดันไปโดนกลไกอะไรบางอย่างที่ทำให้มันเปิดขึ้นมา ซวยแล้วฉัน
ตุบๆ
ฉันทำตาโตไม่กล้ากระพริบตา หัวใจเต้นแรงขึ้น แรงขึ้นเลื่อยๆ
ถ้ายังคงเต้นไม่หยุดฉันคงจะได้เป็นโรคหัวใจเป็นแน่ เอาไงดีฉันจะปิดยังไงละทีนี้
ฉันค่อยๆ ก้มลงมองที่เท้าของตัวเอง มีหินก้อนหนึ่งบุบลงไปนั่นคงจะเป็นตัวการทำให้กล่องกระจกเปิดขึ้นมาแน่ๆ ที่แย่ก็คือดูท่าเหมือนมันจะไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ เอาไม้มาแงะก็คงจะไม่ขึ้นมาให้แน่เลย
ฉันหันไปมองรอบตัว ห้องทั้งห้องก็มีแต่หิน หิน หิน! หินไปหมดทุกตารางนิ้ว นี่ฉันจะต้องเดินเหยียบมันให้หมดทุกก้อนเลยไหม! เพื่อที่จะให้ไอ้กล่องแก้วนั้นปิดลงมาคืน แล้วถ้าเผื่อดันไปเหยียบเจอจุดที่มันมีกลไกอย่างอื่นละ เช่นมีดพุ่งเข้ามาแทงอะไรอย่างนั้น ไม่ได้ตายดีแน่งานนี้ แถมศพก็ไม่สวยและยังต้องเน่าอยู่ที่นี่อีกเพราะไม่มีใครหาพบ แง~T^T
แล้วนี่ฉันจะมาคิดให้มันกลัวไปเพื่ออะไร?
คิดได้ดังนั้นก็เริ่มเดินหากลไกที่จะทำให้มันปิดลง สุดท้ายฉันก็มายืนจ้องโลงศพอย่างอารมณ์เสียเพราะเดินไปทั่วห้องก็ยังไม่พบอะไรที่พอจะทำให้มันปิดลงได้
ความกลัวเริ่มหดหายเพราะอารมณ์โมโหเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาแทนที ดวงตาจ้องโลงศพไม่กระพริบ ????
“อิโด่” กระตุกยิ้มขึ้นเพื่อเยอะเย้ยตัวเองหนึ่งที
“หลงกลัวตั้งนาน นี่อยู่ด้วยกันเกือบชั่วโมงละยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ดันกลัวไปได้ฉัน” ส่ายหัวไปมาก่อนจะเดินรอบโลงศพอีกครั้งเพื่อดูว่าจะสามารถปิดกล่องแก้วลงมาคืนที่เดิมได้ยังไง
แม้ฉันจะพยายามดันให้มันลงมาแต่ก็ยังค้างอยู่ที่เดิม จะปล่อยไว้อย่างนี้ก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเดือดร้อนอีก
“แล้วนี่อะไรเนี่ย” ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างติดอยู่บนฝาโลง ไม้กางเขนขนาดเท่าฝ่ามือติดอยู่ที่ฝาของโลงศพ ฉันเอื้อมมือไปจับอย่างลืมตัวว่าไม่ควรแตะ
ปึก
“เอ้า>>>เฮ้ย>>> ซวยแล้ว O.O” ฉันถอยหลังออกมาจากตัวโลงหลายก้าว เมื่อกางเขนที่ฉันจับมันดันบุบลงไปซะงั้น
ฝาโลงค่อยๆ เปิดออกช้าๆ
ตุบๆ
หัวใจฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ดวงตาจ้องโลงศพไม่กระพริบ ฉันกลัวจนลืมหายใจไปชั่วขณะ ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ผ่อนลมหายใจที่กลั้นไว้ออกมาอย่างโล่งอกเพราะไม่มีอะไรโผล่ออกมา เท้าค่อยๆ ก้าวไปหาโลงอย่างกล้าๆ กลัวๆ และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ( อีกแล้ว )
มือข้างที่ถือไฟฉายส่องไปในโลงในขณะที่มืออีกข้างปิดปากกับจมูกไว้แน่น
“ไม่จริงน่า -*-” ฉันขมวดคิ้วพูดเสียงอู้อี้ผ่านนิ้วมือ รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในโลง
ในโลงคือชายหนุ่มหน้าขาวซีดไร้เลือดฝาด ดวงตาปิดสนิท ขนตายาวเป็นแพสีเงิน ผมยาวสลวยสีเงิน จมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียว ปากหยักสวยไร้สีสันทว่าดูน่าหลงใหล คิ้วหนาของเขาเป็นสีเดียวกันกับเส้นผม มือสองข้างไขว้กันเป็นรูปกากบาทที่หน้าอก ชุดท่านเคาท์ที่สวมใส่ดูเข้ากับเขาอย่างที่สุด แถมยังเป็นสีขาวอีกต่างหาก
สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจไม่ใช้ความหล่ออันน่าหลงใหล แต่เขาคือคนเดียวกับคนในฝันของฉัน
ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดเข้ามา ทั้งตื่นเต้น ตกใจ และดีใจที่ฉันไม่ได้กินมากแล้วฝันมากไปเอง
ฉันชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ ร่างที่นอนนิ่งอยู่ในโลง ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกเหมือนมีความเย็นปะทะใบหน้า คิ้วของฉันขมวดเข้าหากันเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
ชายคนนี้ไม่มีลมหายใจแถมกล่องแก้วที่ครอบอยู่ก็มีฝุ่นเกาะหนาขนาดนั้นแต่ทำไมศพของเขากลับยังไม่เน่าละ
พึบ!!!
แต่แล้ว...
(เจอกันได้สักทีเนอะนางเอกกับพระเอกเนี่ย แฮะๆ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ)
ความคิดเห็น