ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Night:คืนอันตรายป่วนหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : One night: EP04 เธอเจ็บ ฉันเสียใจ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 56


     
    One night:04 เธอเจ็บ ฉันเสียใจ



     



    “นี่เธอสินะ คือคนในรูปน่ะ”

    เมื่อฉันก้าวขาออกห้องน้ำ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งทักขึ้นเธอยืนกอดอกจ้องหน้าฉัน พร้อมเพื่อนเธออีกสามสี่คนที่ยืนล้อมรอบฉันอยู่

    “รูปอะไรหรอ ฉันไม่รู้เรื่องนะ”นอกจากฉันและผู้หญิงที่กำลังมองหน้าฉันอยู่แล้ว ในห้องน้ำนี้ก็ไม่มีใครอีกเลย

    “ยังจะมาบอกไม่รู้เรื่องอีกหรอ”ผู้หญิงอีกคนหนึ่งทักขึ้น พร้อมกับชูโทรศัพท์ที่มีรูปฉันกับวินเนอร์จับมือเดินที่ตลาดนัดเมื่อวันก่อน

    “ไม่รู้หรอไง ว่าเขาน่ะกำลังคบกับฉันอยู่”ผู้หญิงคนเดิมที่ยืนกอดอก พูดขึ้นอีกครั้ง

    “ฉันกับเขาเราเป็นเพื่อนกัน ทำงานกลุ่มเดียวกันเราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”ไม่ฉันพูดจบ ก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนที่กำลังเดินเข้ามา พอเธอเห็นสายตาของฉันเธอก็รีบออกจากห้องน้ำไป ทีนี้ก็คงไม่มีใครช่วยฉันได้เลยสินะ

    “ฉันไม่เชื่อ เธอคงกำลังอ่อยวินฉันรู้ นังหน้าด้าน”พูดจบแค่นั้นเธอ ก็เดินเข้ามาใช้มือข้างนึงจับผมฉันไว้

     “ยัยแว่นอย่างเธอน่ะ เขาไม่สนหรอกจำไว้”เมื่อฟังประโยคนั้นจบ ฉันรู้สึกถึงน้ำหนักของมือที่ตบมาที่แก้มซ้ายและแก้มขวาฉัน

    “มองหน้าฉันไว้ ฉันคือแฟนของวิน น้ำหน้าอย่างเธอน่ะไม่โอกาสหรอก”แล้วเธอก็ตบหน้าฉันไปมา จนฉันรู้สึกชาและรับรู้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากของฉัน เมื่อเธอตบจนพอใจแล้วก็ใช้เท้าเขี่ยฉันที่นอนหมดสภาพบนพื้น ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วฉันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ทำไมนะทำไม ไม่มีใครช่วยฉันบ้าง

    Rrrrrrr….

         เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเตือนสติให้ฉันพยายามลืมตาที่แสนหนักอึ้ง แล้วก็ดับลงดังเดิม ฉันจึงพยายามควานมือหาแว่นที่ตอนนี้ไม่รู้ร่วงกระเด็นไปที่ใหน เมื่อควานไปทั่วไหร่ก็ไม่เจอ ฉันใช้แขนตัวเองดันกับพื้น ยื่นมือเกาะกับอ่างล้างมือพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น รวบรวมแรงอันน้อยนิดยืนขึ้นพร้อมกับก้าวขาออกช้าๆ เพียงแค่ก้าวขาฉันก็รู้สึกว่าแรงเพียงเท่านี้ และบวกด้วยอาการปวดแผลที่เริ่มจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉันก้าวขาออกได้แค่นั้น แล้วภาพและการกระทำของฉันทุกอย่างก็ดับลง

     

     

     

     

     

     

    Winnner talks

             ทันทีที่ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำหญิงก้าวแรกที่ผมเห็นทำให้ผมแทบก้าวขาไม่ออกภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ใบหน้าบวมช้ำแถมแก้มทั้งสองเป็นรอยนิ้วทั้งห้านิ้วเริ่มจะมีสีเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เธอพยายามจะหยัดยืนได้เรี่ยวแรงอันน้อยนิด ผมจึงรีบไปพยุงเธอไว้เมื่อเธอหมดสติจะล้มลงไปนอนกับพื้น

    “มัฟฟิน มัฟฟิน”ผมเขย่าตัวเธอไปสองสามครั้ง แต่เธอก็แน่นิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบผมเลย ผมก็ช้อนตัวเธอออกจากห้องน้ำ พร้อมกับสายตาของผู้คนมากมายที่อยู่บริเวณนั้น ผมรีบก้าวขาเร็วๆไปที่รถ

     

          เมื่อถึงห้องผมรีบวางเธอลงที่เตียง เดินไปหายาแก้ปวดพร้อมน้ำมาให้เธอ

    “มัฟฟินกินยาก่อนนะ”ผมสะกิดเธอให้รู้สึกตัว เธอก็หลับตาแต่อ้าปากรับยาเข้าปากพร้อมกับดื่มน้ำ ผมก็รีบห่มผ้าให้เธอ นั่งมองหน้าเธอที่หลับใหลพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่รินไหลมากจากหางตาให้ไปด้วย เธอเจ็บมากเลยนะและตัวเธอก็เริ่มจะร้อนขึ้นด้วย ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหาเสื้อผ้าของผมที่ตัวเล็กที่เธอพอจะใส่ได้ มาเปลี่ยนให้เธอ แล้วลุกไปเอาผ้าและกะละมังเล็กๆใส่น้ำ มาเช็ดแขนและขาเธอไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปสองสามชั่วโมงผมก็เช็ดให้เธอไปเรื่อยๆ พร้อมกับเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นตามหน้าผากและใบหน้าของเธอ ผมรีบพยุงตัวเธอให้นั่งแล้วเอาหมอนดันหลังเธอไว้ให้ พร้อมกับป้อนยาและน้ำให้เธอ ก็ให้เธอได้นอนต่อ ผมก็เช็ดตัวเธอไปเรื่อยๆ จนตะวันเริ่มที่จะลับขอบฟ้า ความร้อนจากตัวของเธอก็ลดลงมากบ้างแล้ว ผมก็เดินไปที่ครัวทำอาหารมาให้เธอกิน เพราะเวลานี้เธอต้องลุกมาทานอะไรได้แล้วจะได้กินยา ไม่นานผมก็เดินกลับห้องพร้อมกับถ้วยข้าวต้มร้อนๆ

    “มัฟฟิน มัฟฟิน ตื่นกินข้าวก่อนนะ”ผมบอกพร้อมกับพยุงตัวเธอให้นั่งชิดหัวเตียง

    เธอมองหน้าผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก็เธอไม่ได้ใส่แว่นนี่คงมองไม่ชัดเลยไม่พูดอะไรผม พร้อมกับผมที่ตักข้าวต้มจ่อที่ปากเธอ แล้วผมก็ตักข้าวต้มป้อนเธอเรื่อยๆจนหมดก็รีบส่งยาให้ เธอกินยาแล้วก็นอนต่อ ผมก็เดินเอาถ้วยไปเก็บแล้วก็กลับเข้าห้องเดินผ่านปลายเตียงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ  พอออกจากห้องน้ำผมก็ก้าวไปนอนบนเตียงเดียวกับที่เธอนอนอยู่เอื้อมแขนไปกอดจากด้านหลัง

             
           
              ผมลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรขยุกขยิกที่หน้าอกผม แล้วผมก็เลื่อนสายตาลงไปมอง เธอขยับตัวมาใกล้ผม พร้อมกับใบหน้าเธอที่ซุกอกผมอยู่ แขนผมที่กอดเธอตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่ได้ละออกจากตัวเธอ มันยังอยู่ที่เอวเธอเหมือนเดิม ผมก้มหน้าลงให้ริมฝีปากผมแตะที่ขมับของเธอ ตัวของเธอกเป็นปกติไม่ร้อนแล้ว เว้นแต่ใบหน้าเธอที่ช้ำจนเห็นได้ชัด จนผมอดโมโหไม่ได้ยัยบ้านั่นทำมัฟฟินเกินไปแล้ว โมน่ะเป็นคนควงคนล่าสุดของผมเราเจอกันเมื่อสามสี่วันในผับที่ผมเจอกับมัฟฟินเราสองคนมีอะไรกันในคืนนั้น และต่อมาเธอก็พยายามจะติดต่อกับผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรคืนนั้นเธอเป็นคนที่มาหาผมเอง ผมก็บอกเธอไว้แล้วว่าเราจะนอนด้วยกันแค่คืนเดียวเธอก็พยักหน้าเข้าใจ แต่เมื่อวานเธอทำเกินไปจริงๆ เธอมาหาผมที่คลาสแล้วถามผมเรื่องรูปภาพที่ผมจับมือมัฟฟิน ผมก็ตอบไปตรงๆว่าไม่มีอะไร เธอก็ไม่จบไม่ฟังวุ่นวายกับผมจนผมรำคาญเลยบอกไปว่ามัฟฟินน่ะคือคนที่ผมสนใจ เท่านั้นผมก็ไม่สนใจเธออีก

              ในคลาสผมนั่งมองไปที่ประตูโดยไม่สนใจอาจารย์ที่สอนอยู่ เวลาก็ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีเธอก็ยังไม่เข้าห้อง ถ้าปกติเธอจะมาตรงเวลา ไม่งั้นก็ก่อนอาจารย์จะเข้าสอนด้วยซ้ำ ผมนั่งคิดไปเรื่อยกังวลว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า นึกเรื่อยก็ฉุกคิดได้ว่าโมน่ะไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ ผมก็รีบลุกออกจากที่นั่งเดินไปเรื่อยๆ แถวๆห้องน้ำหญิง เห็นผู้หญิงคนสองสามคนยืนชะเง้อหน้ามองเข้าไปใหนห้องน้ำหญิง ใจผมเต้นแรงมากภาวนาอย่าให้มีอะไรเกิดกับมัฟฟินเลย ผมก็รีบเดินไปหยุดที่หน้าห้องน้ำหญิง มองเข้าไปก็เจอกับคนที่ผมตามหาอยู่ 
     

       “อืม “ เสียงเธอคราง พร้อมกับเปลือกตาที่เริ่มขยับ ผมก้มมองหน้าเธอ เธอก็เงยหน้ามาสบตากับผม

       “หิวมั้ย”ผมถามเมื่อรู้สึกว่าหน้าเธอเริ่มแดง พร้อมกับเอาหลังมือไปแตะที่หน้าผากเธอ

       “ตัวไม่ร้อน เดี๋ยวฉันไปทำอะไรมาให้กิน แปรงสีฟันสีฟ้าน่ะเธอใช้ได้นะ ฉันยังไม่ได้ใช้”ผมบอกพร้อมกับเดินไปที่ครัว เธอก็พยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป 
     

                ระหว่างที่เราสองคนนั่งกินข้าวกันต่างคนต่างไม่มีใครพูดเลย มันเป็นการกินข้าวที่เงียบมาก ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ เธอคงไม่เป็นแบบนี้สินะ ผมก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง ได้แต่แอบเธอที่ก้มหน้ากินอาหารเธออย่างตั้งใจ ผมก็ได้แต่นั่งถอนหายใจไปตักข้าวไป

    “เดี๋ยวฉันไปส่งที่หอ”ผมบอก เมื่อตัดสินใจว่าต้องเป็นคนเริ่มคุยก่อน

    “อืม” เธอพยักหน้า นี่คือการจบการสนทนาบนโต๊ะอาหารของเราสองคน          

                เมื่อเราสองคนกินข้าวเสร็จ เธอก็กลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดเดิมจากเมื่อวาน ถึงแม้สภาพจะดูไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ก็เหอะ เธอเดินผ่านหน้าผมไป แต่จังหวะนั้นผมรีบคว้ามือไปจับที่ต้อนแขนเธอ ทำให้เธอหมุนตัวมาอยู่ในอ้อมกอดของผม 
    "เธอคงเจ็บมาสินะ ฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้"ผมพูดพร้อมกับ ยกมือลูบผมเธอไปมา แต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบผมเลย  สุดท้ายแล้วผมควรทำอย่างไรดี ผมอยากให้เธอกลับมาพูดกับผมเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ที่เธอเป็นแบบนี้เพราะผม 


                                        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×