ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Night:คืนอันตรายป่วนหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : One night: EP03 ยังไงก็เพื่อนกัน

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 56


    One night: EP03 ยังไงก็เพื่อนกัน

       


       “มัฟฟิน วันนี้พวกเราจะไปทำงานกันที่คอนโดไอ้วินน่ะ เธอสะดวกไปมั๊ย”ต่อถามฉันเมื่อ ฉันก้าวเข้าคลาส แล้วทำไมต้องไปที่นั่นด้วย แต่ถ้าฉันปฏิเสธที่จะไม่ไป ก็คงจะดูไม่ดีนะถึงแม้ฉันจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มจะทำให้เพื่อนลำบากใจก็คงไม่ดี

       “ได้สิ แล้วคอนโดอยู่ที่ใหนหรอ”ฉันแกล้งถามพวกเขา ทั้งๆที่เมื่อหลายวันก่อนฉันเพิ่งก้าวออกคอนโดของเขาเองทำไมจะจำไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากกลับไปที่เดิมอีกก็คงทำไม่ได้

       “ไม่ไกลจากมหาลัยมากหรอก เดี๋ยววันนี้มัฟฟินก็ไปกับไอ้วินนะ เรากับต่อจะไปซื้ออุปกรณ์น่ะ”เป็ปบอก

       “เอางั้นเลยหรอ ให้เราไปซื้อให้ก็ได้นะ”

       “ไม่เป็นไรหรอก ฉันกับต่อน่ะรู้จักกับคนขายถ้าพวกฉันไปซื้อเขาจะลดให้เยอะเลยแหละ ส่วนมัฟฟินก็ไปซื้อเสบียงกับไอ้วินไปก่อน ให้มันพาไปเดินเที่ยวแถวๆตลาดนัดใกล้คอนโดมันก็ได้นะ”เมื่อเป็ปพูดจบแล้วก็หันหน้าบุคคลที่เพื่อนพูดถึง ซึ่งเขาก็นั่งทำหน้านิ่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ของเขาไปมองดูก็เหมือนคนที่ไม่สนใจใคร

       “อืมก็ได้ พวกนายอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวฉันซื้อไปให้”พูดจบฉันก็เดินไปนั่งข้างเรด้า

       “ฟินกลุ่มแกเริ่มทำโปรเจ็คยังอะ”เรด้าหันหน้ามาถามฉัน ทันทีที่นั่งที่เก้าอี้วันนี้เรามีเรียนภาษาอังกิดน่ะ ซึ่งอาจารย์จะให้นั่งตามเลขที่ ส่วนเขานั้นนั่งข้างหลังเยื้องๆฉันนิดนึง

       “ก็จะเริ่มทำวันนี้แหละ แล้วกลุ่มเธอล่ะ”

       “ก็เริ่มวันนี้เหมือนกันแหละ กลุ่มเธอนี่ดีมากเลยนะมีทั้ง เป็ป ต่อ ที่เรียนเก่งฉันว่าแกสบายเลยแหละไม่ต้องอะไรมาก แล้วอีกคนล่ะคือใคร”

       “วินเนอร์น่ะ”

       “โห ทำไมกลุ่มแกมีแต่คนเก่งๆละฟิน ฉันละอยากเปลี่ยนกลุ่มกับแกแล้วเนี่ย”เรด้าพูดพร้อมทำหน้าตกตะลึง ก็จิงแหละนะกลุ่มของฉันน่ะมีแต่คนเก่งๆทั้งนั้น ถึงแม้วินเนอร์ จะชอบเที่ยวกลางคืน ไม่ตั้งใจเรียนในห้องเล่นแต่เกมส์ แต่ไม่อยากจะพูดเลยว่าเขาน่ะเก่งมากเลยแหละ คะแนนสอบนี่ก็อันดับต้นๆ เลย แล้วนี่ฉันหลงเข้ามาในกลุ่มนี้ได้ไงเนี่ยยังสงสัยอยู่เลย ทั้งต่อ เป็ป วินเนอร์ ที่มีคะแนนละดับต้นๆของคลาสฉันเลยนะ แล้วดูฉันสิคะแนนดีบ้าง แย่บ้างสลับกันไป

       “เรด้าเธอพูดยังกะอยู่กลุ่มกับฉันแล้ว ไม่สบายงั้นแหละ เดี๋ยวไล่ออกจากกลุ่มซะเลยนี่” เพื่อนซีพูดขึ้น ซีก็เป็นผู้ชายคนนึงที่เรียนคะแนนสอบอยู่อันดับต้นๆไม่เป็นรองใครเลย เขานั่งข้างฉันน่ะ สรุปก็คือข้างซ้ายของฉันคือเรด้า ข้างขวาคือซี

       “โอ๋ๆ ซีฉันก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อยน่า อย่าไล่ฉันเลยนะ”

       “นี่ๆ มัฟฟินสนใจเปลี่ยนใจเปลี่ยนกลุ่ม  มาอยู่กับเรามั้ยเดี๋ยวเราไล่เรด้าออกเอง”ซีแกล้งถามฉัน

       “นี่นายซีนายจะไล่ฉันออกหรอ ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆนะ ไม่สงสารหรอไง”เสียงเพื่อนสองคนที่เถียงกันไปมา ทำให้ฉันที่เป็นคนฟังอดอมยิ้มไม่ได้

       “ไม่เป็นไรหรอกซี ฉันละสงสารผู้หญิงตาดำๆแบบเรด้าน่ะ”เมื่อฉันพูดซีก็หัวเราะ พลางมองยักคิ้วให้เรด้า

       “ชิส์ จำไว้เลยนะมัฟฟิน อยู่กับซีไปเลยนะ ส่วนอูยองโอปป้าน่ะฉันขอละฉัน”ว่าจบเรด้าก็แกล้งฉันก็สะบัดหน้าหนีฉันกับซี

       “นี่ๆหันหน้ามาได้แล้ว อาจารย์มาแล้ว”ฉันบอกเรด้า เมื่อเห็นอาจารย์กำลังเปิดกระตูเข้าห้อง

     

     

     

       “แล้วเจอกันนะ มัฟฟิน อย่าลืมซื้อของกินไปเยอะๆนะ”ต่อบอกฉัน พร้อมเดินจากไปพร้อมกับเป็ป ทิ้งฉันให้ไปกับวินเนอร์นี่นะ ว่าไปฉันจะไปกังวลทำไมนะเวลาที่อยู่วินเนอร์สองคนน่ะ ในเมื่อวินเนอร์ก็ทำตัวเป็นปกติกับฉันเหมือนเราไม่เคยมีไรกัน  ฉันว่าฉันควรปล่อยวางเรื่องนี้ซะทีนะยังไงเราก็เรียนคลาสเดียวกัน แถมยังทำโปรเจ็คเดียวกันอีก อย่าสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นฉันไม่เสียใจเลยหรอ ฉันก็เสียใจสิแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าการที่ฉันปิดตัวเองให้เกลียดเขาก็คงจะไม่ได้ ในเมื่อเราก็ต่างผิดด้วยทั้งคู่ ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวฉันเองจะเสียใจปิดกั้นตัวเองจากเขาทำไม ในเมื่อเขาก็คือเพื่อนคนนึงที่ซึ่งเขาก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรนี่ เมื่อคิดดังนั้นฉันว่าฉันก็ควรจะทำเป็นว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันแบบปกติดีกว่า ยังไงฉันก็ทำความรู้จักกับเขาไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร

        แล้วฉันก็เผลอยิ้มให้ตัวเอง เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันยิ้มให้กับความผิดพลาดครั้งนี้น่ะ หลังจากที่หมกมุ่นอยู่แต่กับความผิดพลาด ตอกย้ำตัวเองตลอด ยังไงมันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

       “เราไปกันเถอะ เธออยากจะไปซื้อของที่ใหนล่ะ”วินเนอร์ถามฉัน

       “นี่วินเนอร์ นายว่าพวกนั้นจะไปซื้อของนานมั้ย”

     

    Winner talk   

             เกิดอะไรขึ้นกับยัยนี่  อยู่ดีๆก็ยิ้มให้กับผมเป็นครั้งแรกมันไม่เหมือนรอยยิ้มที่ฝืนยิ้มให้ผมเหมือนวันนั้นเลย รอยยิ้มของยัยนี่โคตรน่ารัก ตั้งแต่เรื่องวันนั้นเวลาที่คุยกับผม หรือเห็นหน้าผม ผมจะไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเธอเลย

       “นี่วินเนอร์ นายว่าพวกนั้นจะไปซื้อของนานมั้ย”เธอถามผมระหว่างทางที่เราเดินไปที่จอดรถ

       “คงนานแหละ ร้านที่พวกนั้นไปน่ะมันไกล แล้วยิ่งช่วงเวลาแบบนี้รถคงติดน่าดู”

       “งั้นเราไปซื้อของที่ห้างใกล้ๆ มหาลัยกันมั้ย ถ้าพวกนั้นยังไม่มานายช่วยไปส่งฉันที่ตลาดนัดใกล้ๆคอนโดนายหน่อยสิ เป็ปบอกว่ามีตลาดนัดใช่มั้ยฉันอยากไปเดินเล่นน่ะ ตั้งแต่อยู่ที่นี่ฉันยังไม่ไปตลาดนัดข้างคอนโดนายเลย เพื่อนๆฉันบอกว่าของถูกเยอะน่ะ”ผมถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อได้ยินเธอพูดกับผม เธอไม่เคยคุยกับผมด้วยประโยคที่ยาว และพูดแบบสบายๆ เหมือนผมกับเธอเราเพิ่งรู้จัก  แต่ก็จริงแหละเราสองคนเพิ่งรู้จักกันก็เมื่อวันนั้นที่คอนโดของผม เทอมที่แล้วเราก็เรียนคลาสเดียวกันแต่เธอก็ไม่เคยคุยกับผมเลย เพราะโลกของเธอกับผมต่างกันมั้ง เมื่ออยู่ในคลาสเธอจะคุยแต่กับเรด้า และก็คุยกับคนอื่นๆบ้าง ส่วนผมก็ไม่เล่นเกมส์ก็นอนหลับในห้องน่ะ 

       “เดี๋ยวฉันไปซื้อก่อนนะ นายจะเอาอะไรมั้ย”เธอถามพร้อมกำลังเปิดประตู จะก้าวลงจากรถ

       “ไม่เป็นไร ไปด้วยกันนี่แหละ เธอไม่ได้นัดใครไว้ใช่มั้ย”ผมถามเผื่อเธอจะนัดกับใครไว้ผมจะได้ไม่ทำให้เธอลำบากใจ

       “ไม่มีนี่ นายจะไปด้วยหรอ”

       “อืม” ผมตอบพร้อมพยักหน้า ก้าวลงจากรถเดินไปพร้อมเธอ 

    Rrrrr...

         ระหว่างที่เรากำลังเดินซื้อของอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของยัยนี่ก็ดังขึ้น

       “ฮัลโหลปัด ปัดทำงานกับเพื่อนอยู่หรอ แล้วจะกลับห้องมั้ยคืนนี้น่ะ”ระหว่างที่ยัยนี่คุยไปยิ้มไป เมื่อคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ทำให้ผมได้แอบมองรอยยิ้มของยัยนี่ จากใบหน้าเพียงครึ่งหน้ามันทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเป็นคนยิ้มเก่งยิ้มแล้วโลกสดใสเลยล่ะ แต่เวลาที่อยู่ในคลาสเธอจะเงียบๆนิ่ง คงเพราะเธอไม่ค่อยรู้จักใครหรอกมั้ง แต่ผมว่าถ้ารู้จักเธอมากขึ้นเธอจะเป็นคนที่ร่าเริงตลอดเวลาเลย

       “ไม่เป็นไรปัด ฟินกลับเองได้ ขึ้นรถเมย์กลับไง ไม่ต้องห่วงน่าไม่ไกลจากมหาลัยมากหรอก โอเคนะ บายจ้า”เมื่อคุยกับเพื่อนของเธอเสร็จแล้ว เธอก็เดินไปหยิบโน่น หยิบนี่ใส่รถเข็นที่ผมเข็นอยู่ไปเรื่อยๆ อย่างกับเด็กแน่ะ พอคิดว่ามันพอสมควรแล้วเราก็เข็นรถไปที่เคาท์เตอร์จ่ายตังค์

       “เดี๋ยวฉันจ่ายเองนะ”เธอบอก

       “ไม่เป็นไรฉันจ่ายเอง”ผมบอก ผมก็เป็นสุภาพบุรุษอยู่นะจะให้ผู้หญิงจ่ายได้ไง

       “งั้นฉันจะช่วยจ่ายคนละครึ่งละกันนะ”เอ๊ะ ยัยนี่นี่ยังไงกันนะ ผมจะจ่ายก็ไม่ยอม

       “ไม่ต้องฉันจะจ่ายเอง”ผมพูดจบแค่นั้นก็หยิบเงินให้พนักงาน

       “เอามานี่ฉันจะช่วยถือ”เธอบอกว่าเห็นผมถือถุงทั้งสองข้าง

       “เอ๊ะ เธอนี่ยังไงฉันให้เดินสบายๆ จะอยากช่วยทำไม”

       “ก็นายเป็นคนจ่ายตังค์ ทั้งยังถือของเอง ฉันรู้สึกว่ามันไม่แฟร์อะ มันต้องเท่าเทียมกันสิ”

       “เดินเฉยๆน่ะดีแล้ว”ผมบอกแค่นั้นแล้วก็เดินไป  เมื่อมาถึงที่รถเธอก็ช่วยผมเอาถุงใส่หลังรถ ยัยนี่อยู่เฉยๆไม่ชอบนะ สังสัยเป็นคนที่ไม่ยอมเอาเปรียบใคร เมื่อคิดดังนั้นอยู่ดีๆผมก็เผลอยิ้มออกมา

     

     

       “จอดตรงนี้แหละ วินเนอร์เดี๋ยวฉันเดินไปเอง”เธอบอกผม พร้อมชะเง้อหน้ามองข้างทางเมื่อเราขับรถมาถึงตลาดนัดใกล้คอนโดผมเอง

       “ไม่ต้องหรอก ไปด้วยกันแหละ ฉันก็ไม่เคยมาเดินเหมือนกัน”ผมตอบเธอ แล้วก็ขับรถไปเรื่อยๆหาที่จอดรถ ตลาดนัดนี่ใช่ว่าจะไม่เคยมาซะหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้มานานแล้วแหละ บอกว่าไม่เคยมานี่แหละยัยนี่จะได้ไม่ต้องเกรงใจผลักไสไล่ส่งผม 

               ตลาดนัดที่นี่มีของขายเยอะมาก ทั้งผู้คนที่มาเดินที่นี่ก็เยอะจนเดินเบียดเสียดกัน แต่ก็ดีที่ตลาดนัดจะมีทุกตอนเย็นวันพุธ และศุกร์ แดดไม่ร้อนมากพอเดินได้ คนที่มาเดินจะเป็นพวกนักศึกษาพนักงานออฟฟิศที่อยู่ใกล้ๆ นี้นี่แหละยิ่งวันนี้เป็นวันศุกร์คนยิ่งเยอะ เยอะมากๆผมว่าแทบจะหลงกันเลยแหละ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงรีบเดินไปจับมือของเธอทันที เธอมองหน้าอย่างสงสัย

       “เดี๋ยวจะหลงกันนะ คนยิ่งเยอะอยู่ ”ผมบอกอย่างนั้น แล้วก็ไม่ได้สนใจ  เมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วก็เดินไปสนใจไอ้ขนมทะโกะยะกิ(ขนมครกญี่ปุ่น) ที่คนขายกำลังนำออกจากกะทะร้อนๆ มาใส่กล่องโฟมพร้อมทั้งราดซอส แล้วก็หันมาถามผม

       “นายจะกินมั้ย ฉันเลี้ยงเอง” ว่าแล้วผมก็ส่ายหน้า แล้วก็หันไปบอกคนขาย

       “เอาทะโกะยะกิสี่กล่องค่ะ”

       “เธอจะซื้อไปทำเยอะแยะ”ผมถาม ก็ถ้าผมไม่กินก็ต้องซื้อซักกล่องสองกล่องสิ่ แต่นี่ตั้งสี่กล่องเลยนะ

       “ก็ให้เป็ป กับต่อคนละกล่องไง ที่เหลือสองกล่องน่ะฉันเอง”เธอตอบผมแล้วหัวเราะนิดๆ

       “นี่ครับสี่กล่อง”

       “ขอบคุณค่ะ”เมื่อจ่ายตังค์เสร็จเธอก็ขอบคุณคนขายนี่นะ

          แล้วเราก็เดินไปเดินไปเรื่อยๆ แวะร้านของกินเกือบทุกร้านซื้อเกือบทุกอย่าง ที่เจอ พร้อมบอกว่าไอ้นู่นไม่ได้กินมาแล้ว ไอ้นี่ก็ไม่ได้กินมานานแล้ว ตกลงเธอจะไม่ได้กินมานานแล้วทุกอย่างเลยรึไง ดูเถอะซื้อตั้งเยอะจนเต็มมือหมดแล้ว

       “มาเดี๋ยวฉันถือให้”ผมบอกพร้อมกับยื่นมือไปจะช่วยเธอถือของ แต่เธอก็ส่งมาให้ผมถือไม่หมด เหมือนแบ่งๆกันถือ จนผมต้องคว้าถุงทั้งหมดมาถือด้วยตัวเอง เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินไปซื้อนู่นซื้อนี่ไปเรื่อยๆที่สำคัญนะมีแต่ของกิน

       “นี่ทำไมเธอไม่เข้าร้านขายเสื้อผ้าด้วยล่ะ ปกติผู้หญิงชอบซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่หรือไง”ผมถามเมื่อเธอไม่แวะเข้าร้านเสื้อผ้าซักร้าน

       “ก็ยังไม่อยากซื้อน่ะ ตอนนี้ฉันอยากซื้อของกินมากกว่าอยู่ที่หอไม่ค่อยได้เจอของกินเยอะๆอย่างนี้นี่ เห็นก็เลยอยากซื้อมากกว่าเสื้อผ้า เดี๋ยวค่อยมาซื้อเสื้อผ้ากับเพื่อนผู้หญิงเอา แล้วนายเป็นผู้ชายเข้าไปในร้านเสื้อผ้ามันไม่ค่อยเหมาะน่ะสิ”สงสัยยัยนี่กลัวใครเขาจะหาว่าเราเป็นแฟนกันแน่เลย แต่เธอคงไม่ได้สังเกตุละสิว่าที่เราเดินกันเนี่ยมีก็มีคนมองเราบ้างนะ แต่ยัยนี่ก็ดันไม่ได้มองคนอื่นเลยสนใจแต่ของกิน อยู่ดีๆผมก็เผลอยิ้มไปไม่รู้ตัวอีกแล้ว เนี่ยตั้งแต่ที่ยัยนี่เริ่มคุยกับผม เหมือนคนปกติทั่วไปผมก็รู้สึกว่าอะไรๆที่เธอพูด และแสดงออกมามันทำให้ผมเผลอยิ้มได้ตลอดเลย

    Rrrrrr.....

       เสียงโทรศัพท์ผมเองแหละ  สงสัยจะไอ้เป็ปมันโทรมา คงใกล้จะถึงคอนโดผมแล้วมั้ง 

       “อืม อยู่ใหนแล้ววะ”ผมกรอกเสียงถามไอ้เป็ปที่โทรเข้ามา

       “เฮ่ย วินรถติดมากเลยว่ะ คงจะประมาณเกือบๆชั่วโมงว่ะ เออเย็นนี้มีอะไรกินมั้ยวะ”สงสัยมันจะหิวอยู่นะ ดีนะที่ตู้เย็นของผมยังพอมีอะไรที่พอจะทำให้มันกินได้

       “อืม มีๆเนี่ยตอนนี้อยู่ตลาดพอดีเลยว่ะ เดี๋ยวซื้ออะไรไปให้”

       “เออดีเลยว่ะ ซื้อไปเยอะๆเลยนะเว่ย พวกฉันหิวมาก เนี่ยหักห้ามใจไม่แวะกินร้านข้างทาง เพราะกลัวแกกับมัฟฟินจะรอนะเนี่ย”

       “เออๆ จะซื้อไปให้น่า รีบๆมาละกันเดี๋ยวอาหารจะเย็นพอดี”ผมบอกพร้อมกับกดวางสายไอ้เป็ป พอเงยหน้าก็เจอกับสายตาของมัฟฟินที่มองผมอยู่

       “เมื่อกี้เป็ปโทรมาหรอ มีอะไรรึป่าว”

       “มันบอกว่าประมาณเกือบชั่วโมงจะถึงน่ะ รถติดมาก มันหิวเลยโทรมาถามว่ามีพอมีอาหารเย็นมั้ย”

       “อ่อ งั้นฉันว่าเราซื้ออะไรไปทำมื้อเย็นกันเถอะ พวกนั้นมาจะได้กินแบบร้อนๆมาจากหม้อเลยเนอะ”เธอบอกผมพร้อมกับพาผมเดินไปโซนที่ขายพวกของสด เธอเดินมองแต่ละร้านๆไปเรื่อย

       “ทำไมไม่ซื้อกับข้าวไปล่ะ เธอจะทำหรอ”ผมถามเพราะเธอเดินผ่านร้านขายอาหารสำเร็จรูปไปพวกร้านที่ขายผัก เนื้อสัตว์

       “อืม ฉันว่าทำกินเองมันคงจะดีกว่า เพราะยังไงถ้าฉันไปที่ห้องนายก็คงไม่มีอะไรทำอยู่ดี”เธอบอกพร้อมกับหยิบผักหลายๆอย่างส่งให้แม่ค้า และเลือกพวกเนื้อสัตว์ ว่าไปยัยนี่ก็มีหลายมุมเลยนะ ผมคิดไม่ผิดจิงๆที่คิดว่ายัยนี่น่ะน่าสนใจ เพราะผมเห็นหลายๆมุมของเธอเพียงไม่กี่วันลยแหละ

     End Winner Talks.

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×