คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : One night: EP01 เกิดเรื่องแล้วละสิ
EP01 เกิดเรื่องแล้วละสิ
“เฮ้ ฉลองงงงงงงงงงง”
“เต็มที่เลยนะพวกเรา ดื่มให้เต็มที่ สมกับที่เราเหนื่อยไปเล๊ยยยย”
“โว้วๆๆ สุดยอดไปเลยคร๊าบ”
“นี่ มัฟฟินดื่มอีกหน่อยสิ่ ”
“เอ่ออ นี่มันก็มากแล้วนะ ฉันกลัวกลับหอไม่ได้น่ะ” ฉันตอบดีนที่เป็นประธานสีของฉันเอง พลางมองที่แก้วของตัวเอง
ฉันชื่อ มัฟฟิน เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ปีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้พวกเราอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งในย่านชื่อดังของกรุงเทพ คือว่าพวกเรามาฉลองหลังจากที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันกีฬาเฟรชชี่ที่พวกเราได้ลงทุนลงแรงฝึกซ้อมตั้งแต่ก่อนหมดเทอมหนึ่งเลย
การแข่งนี้จัดขึ้นทุกปีสำหรับเฟรชชี่ซึ่งหอหญิงต้องเป็นบัดดี้กับหอชาย ที่จริงแล้วฉันก็ไม่อยากมาฉลองหรอกนะ ฉันอยากกลับไปอาบน้ำนอนพักที่หอมากกว่า แต่จะปฏิเสธไม่มาก็ไม่ได้ เพราะฉันเป็นเฮ็ดบีบีหญิงน่ะสิ่ คงงงสินะว่าบีบี คือไร คือว่ารุ่นพี่ตั้งให้พวกฉันน่ะ บีบี ย่อมากจากเจเนรอลเบ้อ็อฟเจเนรอลเบ้ไงล่ะ เรียกง่ายๆ ก็คือเบ้ นั่นแหละ เรียกย่อๆให้ดูดีไปงั้น ส่วนดีนก็เป็นประธานสีของหอพวกเราปีนี้น่ะ ตอนนี้พวกเรามาฉลองกันโดยเฉพาะคณะกรรมการสี พวกเฮ็ดของแต่ละหน้าที่ในกีฬาสีน่ะ และก็รุ่นพี่ที่คณะกรรมการหอที่ช่วยเหลือพวกฉันมาตลอดน่ะ
“มัฟฟิน ทำไมดื่มน้อยจังเลยล่ะ ไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า ที่เรามาฉลองกันนี่ก็มีแต่คนกันเองทั้งนั้น” เสียงพี่แคลบอกฉัน พี่แคลน่ะเป็นพี่ที่หอฉันเอง
“เอ่อ ค่ะพี่แคล” แล้วฉันก็ต้องยกดื่มจนหมดแก้วเลย ว่าไปแล้วที่ฉันดื่มนี่รสชาติไม่ขมเลยแฮะ ออกจะหวานๆ เปรี้ยวๆ อร่อยอะ งั้นฉันก็ดื่มเลยนะ ไม่ต้องห่วงละ ยังไงก็ยังมีรุ่นพี่ที่หอฉันเยอะ
“โห่วมัฟฟิน ดื่มไปเถอะน่า ในนี้ไม่มีใครพิศวาสยัยแว่นหนาเตอะหรอกน่า” ทันทีที่ไทม์พูดจบประโยคทุกคนในโต๊ะต่างหัวเราะเป็นเสียงเดียวกัน
“เอ่อ ขอบคุณมากไทม์ฉันซึ้งมากที่เป็นเพื่อนกับนายน่ะ”ฉันตอบนี่ถ้าไม่เกรงใจพี่ๆและเพื่อนๆร่วมโต๊ะนะ จะเดินไปดึงหัวนายแล้วเนี่ย =_=
00.50 น.
อ้าวนี่มันจะตีหนึ่งแล้วนี่ สงสัยฉันต้องกลับแล้วแหละ เพราะฉันเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วตาจะปิดแล้วอ่า แถมมองอะไรก็เริ่มมึนๆ นี่อย่าบอกนะว่าฉันจะเมาแล้วน่ะ งั้นฉันต้องรีบกลับห้องดีกว่านี่ก้ไม่รู้ว่าพวกที่เหลือจะอยู่จนถึงเมื่อไหร่
“เอ่อ ทุกคนคะฟิน ขอกลับก่อนนะคะ”ฉันบอกพลางลุกขึ้นจะเดินออก
“แล้วใครจะมารับล่ะ” พี่โค๊ทถามฉัน
“อ่อเดี๋ยวให้ปอปัดมารับค่ะ”ฉันตอบปอปัดเป็นเมทของฉันเองแหละ เพราะว่าถ้าต้องให้รอกลับพร้อมพี่ๆก็คงจะนาน จะขึ้นแท็กซี่กลับปอปัดก็ไม่ให้กลับเธอบอกว่ามันอันตรายคนขับไว้ใจไม่ได้ บอกว่าจะมารับฉันเลยต้องรบกวนปอปัดมารับนี่แหละ เพราะผับนี้ปอปัดรู้จักดีเลยแหละเพราะปอปัดมาบ่อยน่ะ ฉันบอกรุ่นพี่ก็พยักหน้าฉันจึงลาพวกพี่ๆแล้วถึงเดินออกมา ระหว่างทางออกจากร้านให้ตายสิ่ฉันเริ่มรู้สึกว่าเดินจะไม่ไหวแล้วอะ ตามันพร่ามัว พื้นเริ่มหมุนโคลงเคลง ฉันต้องพยายามมากที่จะเดินผ่านผู้คนที่หนาแน่นในร้านไฮโซแห่งนี้โดยที่ไม่ชนใครเข้า ในที่สุดฉันก็เดินออกมารอปอปัดที่หน้าร้าน และดีจังเลยอะ ออกมารอปั๊บปอปัดก็ขับรถตรงหน้าฉันเลย แล้วฉันก็เปิดประตูเข้าไปนั่งข้างปอปัด
“ปัดฉันไม่ไหวแล้วอะ ง่วงมากฉันนอนละนะ” ฉันบอกปอปัดแล้วก็ปิดเปลือกตาเลยไม่ไหวแล้ว
Winner talks
ให้ตายเถอะนี่ยัยแว่นหนาเตอะมาจากใหนเนี่ย มาหลับในรถผมได้ไงวะ ผมมีนัดกะเพื่อนนะ อะไรวะจะมาจอดรถหน้าผับให้เด็กเอารถไปเก็บแล้วอยู่ดีๆยัยนี่ก็มานั่งแล้วยังพูดอะไร มุบมิบคนเดียวอีกต่างหาก แล้วดูสภาพเหอะแต่งตัวอย่างนี้น่ะนะ เข้าผับเขาให้เข้าได้ไงวะเนี่ย ใส่แว่นหนาเตอะ มัดผมรวบธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีนรองเท้าผ้าใบ ผับนี้มั้นผับชื่อดังนะเนี่ยแต่งตัวแบบนี้มาได้ไง แต่จะว่าไปยัยนี่ก็หน้าคุ้นๆนะ
“เฮ้ เธอตื่นๆ ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอนะ” ผมปลุกยัยนี่หวังว่าจะตื่นนะ แต่ก็สกิดแล้วสกิดอีกก็ไม่ตื่น เมื่อนั่งคิดได้สักพักผมถึงคิดได้ว่าผมน่าจะเอาโทรศัพท์ของเธอมาดูนะเผื่อทีจะได้โทรให้ใครมารับได้บ้างแล้วผมก็เปิดกระเป๋ายัยนี่หาโทรศัพท์ แต่เฮ่ย! อะไรวะแบ็ตหมดนี่นะ เมื่อผมไม่รู้จะทำยังไงยัยนี่พลิกหน้ามาทางผม จำได้ละยัยแว่นนี้นี่เองเธอเรียนคลาสเดียวกับผมเองแหละ แล้วผมจะทำไงดีเนี่ยจะปล่อยไว้มันก็ยังไงอยู่นะ อย่างน้อยก็เพื่อนคลาสเดียวกันช่วยหน่อยก็คงไม่หนักหนาอะไรหรอกนะ
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
"เฮ้ วินเนอร์ แกถึงใหนแล้ววะ" ดีเลย์ถามผม ก็จะไม่ให้มันโทรตามได้ไง วันนี้พวกผมมีนัดมาดื่มกันเหมือนทุกวันนั่นแหละ แต่วันนี้ผมมาช้ากว่าคนอื่น
"มาถึงแล้ว แต่ฉันไม่เข้าไปนะ เจอเพื่อนน่ะจะไปส่งเพื่อนว่ะ"ผมตอบ
"อ่อ ก็ได้ๆ"ว่าจบมันก็ตัดสายไป
แล้วผมก็หันมามองหน้ายัยนี่อีกรอบ จะทำไงดีเนี่ย คิดยังไงก็คิดไม่ออกพาไปที่คอนโดผมก็แล้วกัน คอนโดผมน่ะก็ไม่ห่างจากมหาลัยเท่าไหร่หรอก เผื่อยัยนี่ตื่นจะได้กลับง่าย
“เธอตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว” ผมปลุกอีกครังเมื่อถึงที่คอนโดผมเอง
“ฮืมมมมม”
“ ฮืม!! ฮืมนี่นะ นี่ยัยแว่นฉันปลุกให้ตื่นไม่ใช่ฮืม ตื่นๆตื่นเดี๋ยวนี้” ให้ตายเหอะปลุกยัยนี่โคตรยากเลย ปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น สุดท้ายผมก็ต้องอุ้มขึ้นคอนโดผมจนได้ ถึงแม้ผมจะหิ้วสาวขึ้นคอนโดมาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่จะมาในสภาพแบบยัยนี่นะ
“อืมมม ร้อนอะ” อะไรอีกวะเนี่ยพอวางลงที่เตียงก็บอกว่าร้อนนี่ขนาดผมเปิดแอร์แล้วนะ ผมได้แต่ยืนถอนหายใจมองดูยัยนี่ เฮ้อจะทำไงต่อดีเนี่ย จะเอาไปราดน้ำก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แน่นอน เฮ้อผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าการดูแลคนเมาที่เราไม่รู้จักเนี่ยมันช่างลำบากเหลือเกิน จะทำอย่างนู้นก็ไม่ได้ อย่างนี้ก็ไม่ได้ ถ้าเป็นคู่ควงแต่ละที่มากับผมป่านนี้ไม่ต้องกลุ้มหรอก ถอดให้หมดแล้วทำอย่างว่าค่อยอาบก็สิ้นเรื่อง แต่ยัยนี่สิดูซื่อๆ โง่ๆ ไงก็ไม่รู้ผมละไม่อยากจะโดนตัวเลย แต่ยัยนี่ยังบ่นว่าร้อน จะให้นอนไปอย่างนี้ก็คงจะลำบากเผลอๆ ลุกขึ้นมาแก้ผ้านอนแล้วตื่นมาจะไม่โวยวายบ้าบอไปทั่วเลยหรอ งั้นก็คงมีทางเดียวคือเช็ดตัวนี่แหละ ไม่ต้องแก้ผ้าแค่เลิกเสื้อขึ้นก็คงเช็ดได้แล้วมั้ง
แล้วผมก็เริ่มที่จะเช็ดใบหน้ายัยนี่ โดยต้องก่อนถอดแว่นหนาๆของยัยนี่ ให้ตายแค่ถอดแว่นออกทำให้มือผมที่กำลังจะเช็ดหน้าให้ถึงกับชงักเลย ทำไมยัยนี่ถอดแว่นแล้วต่างจากใส่แว่นมาก ใบหน้าเล็กๆ ปากนิดจมูกหน่อย มองรวมๆแล้วยัยนี่ถึงกับน่ารักมากนะเนี่ย แต่ติดอยู่ที่ชอบมัดผม และใส่แต่แว่นหนาๆ นี่แหละ เมื่อเช็ดหน้าเสร็จแล้วผมก็เช็ดแขนเช็ดขา ต่อมาก็คงเหลือที่สุดท้ายผมพยายามอย่างมากที่จะต้องเช็ดที่ลำตัวของเธอแต่จะไม่เช็ดมันก็คงจะเหนียวแหละนะ ผมก็ได้ถอนหายใจแล้วถลกเสื้อเธอขึ้นทีละนิดจนถึงลำคอ พระเจ้ายัยนี่ซ่อนรูปมาก คือไซส์มันไม่ได้เล็กอย่างที่ผมคิดเลยนะแบบว่าแค่มองผมก็รู้ว่ามันเต็มไม้เต็มมือเลยแหละ ผิวขาวๆของยัยนี่มันช่างน่าฝากรอยไว้นะ นี่ผมคิดไรของผมวะเนี่ยนี่มันไม่ใช่สเป็คผมเลยนะ แต่ผู้ชายอย่างผมช่วยเหลือฟรีๆก็คงดูดีเกินไป คิดดังนั้นผมก็ก้มจูบปากยัยนี่ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจูบเธอนานขนาดใหนรู้แค่ว่าไม่อยากจะผละจากริมฝีปากนั้นเลย ทำไมจูบยัยนี่ช่างหวานอย่างนี้ส่วนอื่นจะหวานมั้ยนะผมคิดพลางมองไปที่ลำตัวที่ยังไม่ได้ถลกเสื้อลงมา แล้วผมก็เริ่มไซร้ซอกคอยัยนี่ไปเรื่อยๆจนถึงเนินอก นี่ผมเริ่มจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วนะ
“คิก คิก โอป้านี่น่ารักจังเลย”อยู่ๆยัยนี่ก็ปรือตามองผมนิดนึงพร้อมทั้งพรึมพรำคนเดียว แล้วก็ปิดเปลืกตาลงอีกครังราวกับคนละเมอ แล้วผมก็เลื่อนหน้าไปจูบปากเธอ แล้วก็เงยหน้ามามองหน้ายัยนี่อีกครั้งแล้วจึงปล่อยผมที่เธอมัดให้มันดูจะนอนไม่สบายนะให้มัดนอนอย่างนี้น่ะ แต่เมื่อปล่อยผมยัยนี่แล้ว ผมลอนสยายเต็มหมอนพร้อมกับใบหน้าขาวใสที่ตอนนี้แดงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ตอนนี้ยัยนี่โคตรยั่วผมเลย แสงไฟจากหัวเตียงทำให้ใบหน้าเธอโคตรจะเซ็กซี่เลย หึ หึ หัวเราะหรอยัยตัวดี ฉันไม่มีความอดทนมากที่จะไม่จับก้อนเนื้อแสนหวานที่อยู่ตรงหน้าฉันหรอกนะ แล้วผมก็ก้มลงไปจูบเธออีกครั้ง จนมันไม่จบที่จูบนี่แหละ เสื้อผ้าทั้งของผมและยัยนี่ต่างกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
End Winner talks.
“ฮื่ออ!!”ฉันสะบัดลมหายใจ พร้อมปัดมือไปมาใกล้ๆใบหน้าเมื่อรู้สึกว่ามีอะไร มาคลอเคลียที่บริเวณคอของฉัน คนยิ่งกำลังฝันหวานๆอยู่ เมื่อคืนนี้ฉันมีอะไรกับอูยองอะ อูยองวงทูพีเอ็มเลยนะ แบบเร่าร้อนมากเลยแถมอูยองขอฉันหลายรอบมากเลยอะ กรี๊ดดดดด ฟินเว่อร์ค๊า ขอฝันแบบนี้อีกซักสิบรอบเลยนะ
“อีกรอบนะ”อยู่ๆก็มีเสียงกระซิบที่ข้างหูฉัน เอ๊ะนี่เสียงใครอะ เสียงของปอปัดปอปัดไม่ทุ้มขนาดนี้หรอก อีกอย่างวันนี้ยัยนี่ต้องไปเรียนตั้งแต่เช้าแล้วนะ
“ไม่ตอบแสดงว่าตกลงนะ”เสียงเดิมพูดอีก พร้อมกับรู้สึกถึงการรุกรานที่หน้าอกของฉัน เฮ่ย!! นี่มันเสียงผู้ชายนี่ แล้วฉันไม่ได้อยู่ที่ห้องหรอกหรอ เมื่อคิดได้แล้วฉันจึงรีบลืมตา กวาดสายตามองไปข้างเตียง นี่มันไม่ใช่ห้องของฉันกับปอปัด เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็ได้หันมามองที่ตรงกลางห้อง ฉันเห็นกลุ่มผมดำๆ กำลังคลอเคลียอยู่ที่หน้าอกของฉัน เมื่อสมองฉันเริ่มจะทำงานปกตินะ ฉันถึงคิดได้ว่าเมื่อกี้เสียงผู้ชาย แล้วภาพห้องที่ลางตาแต่ก็พอจะเดาได้ว่าไม่ใช่ห้องของฉัน แล้วนี่ฉันอยู่ที่ใหน? แล้วเสียงผู้ชายนั่นเสียงใคร? คิดดังนั้นฉันจึงรีบควานมือหาแว่น โชคดีนะที่แว่นอยู่ใกล้บริเวณที่มือฉันควานไปพอดี เมื่อเจอก็รีบสวมแว่นทันที
“กรี้ดดดดดดดดดดด”
“นะ นะ นายทำอะไรฉัน”ฉันถามพลางมองใบหน้าของคนที่เพิ่งเงยหน้ามามองหน้าฉัน เอ๊ะนี่นึกออกแล้วเขาคือ วินเนอร์ เพื่อนร่วมคลาสของฉันเอง ถึงจะแม้จะเพื่อนร่วมคลาสแต่ก็ไม่ได้เคยคุยกันเลย เขาออกจะหยิ่งๆ แต่นี่อย่าบอกนะว่าฉันกับเขาน่ะเรา... ไม่ฉันไม่อยากจะคิดเลย เมื่อฉันเลื่อนสายตาจากใบหน้าเข้าลงมาลำตัวขาวๆของเขา มีรอยเล็บข่วนเล็กน้อยที่บริเวณไหล่ ซิกแพ็คตรงหน้าท้อง ฉันไม่อยากปฏิเสธเลยว่าตอนนี้เขาเซ็กซี่มาก
“ก็อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ ยัยหื่น”เขาตอบอย่างหน้าตาเฉย ทำให้ฉันที่จ้องลำตัวของเขาไม่วางตาสะดุ้งรู้สึกตัว
เมื่อได้ยินคำตอบที่ชัดเจนอย่างนั้นแล้วฉันรีบผลักอกเขาออกจากตัวรวบผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าของฉันที่ตกอยู่ที่พื้น เข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่มองเขาเลย เขาต้องโป๊อยู่แน่ๆเลย โอ๊ยยยยย เมื่อคิดได้ฉันก็ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับหอโดยด่วนป่านนี้ปอปัดต้องตามหาฉันแย่แน่เลย
ห้องน้ำฉันก็เห็นวินเนอร์แต่งตัวเสร็จแล้ว และก็หันมาสบตากับฉันพอดีเลย เราสองคนต่างสบตากัน แต่ก็ไม่มีใครพูดไรออกมา สุดท้ายเราสองคนต่างหันหน้าหนีฉันก้าวเดินจะไปที่ประตูห้อง จะได้กลับหอซะทีโดนบ่นยาวแน่เลย
“เดี๋ยวนั่นเธอจะไปใหนน่ะ”เขาถามขึ้น พร้อมกับหันมามองหน้าฉัน
“กลับห้องสิ”
“นี่เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
“ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันว่าก็ไม่มีอะไรต้องคุยหรอก ปล่อยไปเถอะ” ฉันตอบพร้อมกับเดินไปจับลูกบิดประตู แต่มือของวินเนอร์มาจับที่มือฉันที่จับลูกบิดอยู่
“เธอคิดได้ยังไง ว่าปล่อยมันไปเถอะ นั่นมันครั้งแรกของเธอเลยนะ”
“ฮึกๆ ก็ไม่เป็นไรไง”ฉันตอบแล้วให้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้ววินเนอร์ก็จับไหล่ฉันให้หมุนไปทางเขา พลางจ้องมาที่หน้าฉันแล้วเช้ดน้ำตาออกจากใบหน้าของฉันอย่างเบามือ เราสองคนต่างสบตากัน แล้ววินเนอร์ก็เลื่อนลิมฝีปากมาหยุดที่ริมปากของฉัน ปลายลิ้นของเขาสำรวจทั่วปากของฉัน ฝ่ามือที่ผลักเขาตั้งแต่ทีแรกกลับต้องยึดไหล่เขาเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ร่วงไปกับพื้น เขาจูบฉันเนิ่นนานจนฉันคิดว่าฉันคงไม่มีอากาศหายใจแล้ว
“เจ็บมั้ย? ”เขาถามฉัน แต่ใบหน้าของเขาก็ยังอยู่ใกล้ใบหน้าฉันเหมือนเดิม
“อืม”ฉันตอบพร้อมพยักหน้า ไม่กล้าสบตาเขาเลยให้ตายเหอะ
“ฉันขอโทษนะ”เขาพูดพร้อมกอดฉันไว้ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงห่วงใยความรู้สึกของฉันนะ ถ้าจากดูภายนอกเขาก็ต้องบอกว่า เรื่องของเธอ เธอผิดเองสิ่ แต่นี่เขากลับกอดฉัน ปลอบฉัน ทั้งที่ฉันกับเขาเพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่ถึงชั่วโมงเองนะ แต่ก็แปลกนะที่ฉันกลับไม่ผลักไสกอดของเขาเลย กลับรู้สึกว่าฉันอยากให้เขากอดแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“ฉันจะรับผิดชอบเธอเองนะ”
“อย่าเลย ฉันลำบากใจน่ะ”ฉันว่าพร้อมผละออกจากอ้อมกอดเขา
“ฉันรู้ว่านายไม่สนใจฉันหรอก เราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะดีแล้ว ต่างคนต่างใช้ชีวิตแบบเดิม ไม่เคยคุยกันไม่เคยมองหน้ากัน เหมือนเดิมน่ะดีแล้ว”ฉันยิ้มให้เขา แล้วหันหลังเดินออกจากห้องนอนของเขา แต่ละก้าวของฉันที่ก้าวผ่านห้องนั่งเล่นไปที่ประตูนั้นช่างยากเหลือเกิน ฉันเดินพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มฉันแล้วก้าวออกจากห้องนั้น โดยที่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่ว่าฉันไม่เสียใจนะ แต่จะทำไงได้เรื่องที่เกิดขึ้นนั่นมันความผิดของฉันเอง ถ้าเมื่อคืนฉันไม่เมามากขนาดขึ้นรถผิดคันเรื่องมันนคงไม่เป็นอย่างนี้ ก็รถของเขากับรถของปอปัดน่ะสีเหมือนกันน่ะสิ่ แต่ความที่ฉันเมามากไม่สามารถแยกลักษณะรถไม่ออกเลยล่ะ อย่าได้เจอกันอีกเลยแอลกอฮอล์
“มัฟฟิน แกไปใหนมา”ปอปัดถามทันทีที่ฉันถึงห้อง ที่ห้องฉันน่ะมีฉัน ปอปัด และก็ อิงเอย แต่ฉันไม่ค่อยได้เจอกับอิงเอยซักเท่าไหร่จะเจอก็ตอนกลางคืน เพราะเรียนคนละคณะกันน่ะ แต่ฉันกับปอปัดก็คนละคณะกันนะ แต่บางวิชาฉันกับปอปัดจะได้เรียนด้วยกัน เราจึงพูดคุยกันมากกว่าฉันกับอิงเอยน่ะ
“ไปนอนบ้านเพื่อนมาน่ะ”
“บ้านเพื่อนที่ใหนของแก นี่รู้มั้ยฉันห่วงแกมากเลยนะ แล้วโทรศัพท์แกน่ะทำไมโทรไม่ติดล่ะ”
“อ่อ แบตหมดน่ะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ”ฉันตอบพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมจะไปอาบน้ำ
“แกนี่นะ ฉันนะขับรถไปรับแก ไม่เจอแก พอจะโทรหาก็โทรไม่ติด ฉันนี่ต้องถามการ์ดหน้าผับว่าเห็นแกมั้ย พอเขาบอกว่าแกขึ้นรถไปแล้ว มีรถมาจอดรับ ฉันถึงโล่งใจว่าแกไปกับเพื่อนที่ไว้ใจได้”ไว้ใจได้ที่ใหน ? ฉันละอยากจะตอบไปอย่างนี้จังเลย
“ว่าแต่มัฟฟิน แกไปค้างใหนกับใครน่ะ เพื่อนหรือรุ่นพี่คนของแกฉันต้องรู้จักสิ”
“เพื่อนเก่าน่ะ ไม่ได้เจอกันนาน คนนี้ฉันก็ไม่เคยเล่าให้แกฟังด้วยสิ”
“อ่อ แล้วว่าแต่เมื่อคืนสนุกมั้ยอะแก”เจอคำถามฉันถึงกับขนลุกเลย
“ก็สนุกดีนะ”
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”ว่าแล้วฉันก็ตัดบทโดยไปอาบน้ำนี่แหละ ไม่อยากจะนึกถึงเลย
ความคิดเห็น