ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อ๋องทมิฬ [จบ]

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่5 รู้ได้อย่างไร?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.93K
      819
      11 พ.ย. 66

    เรือนพักส่วนพระองค์ของรุ่ยอ๋องตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศเหนือของค่ายทหาร

    แม่นางน้อยลี่เซียนถูกผู้ดูแลพาเรือนร่างอรชรในอาภรณ์บางพลิ้วสีชมพูอ่อนหวานมายืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าประตูเรือนของท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ โดยมีเย่เสียตามห่วงใยไม่ห่าง ก่อนจะถูกผู้ดูแลฉุดกระชากลากตัวออกไปอีกทาง

    ก่อนจากกันเย่เสียยังพินิจลี่เซียนโดยละเอียดหัวจรดเท้า ดวงตาทอประกายวาววับแล้วเอ่ยคำด้วยสีหน้าจริงจังอีกว่า

    “เจ้างดงามถึงเพียงนี้ ท่านอ๋องต้องพึงใจมากเป็นแน่ หากเป็นไปได้จงทำให้พระองค์ลุ่มหลง ต่อไปย่อมมีชีวิตสงบสุข สมปรารถนาทุกประการ”

    กล่าวจบก็ยื่นน้ำมันหอมชนิดหนึ่งใส่มือให้ลี่เซียนทั้งยังกระซิบคำเสียงเครียดว่ามันคือยาวิเศษใช้เพื่อการณ์นี้

    หวังว่าจะใช้ได้ผลกับอ๋องปีศาจเช่นเขาผู้นั้น

    ลี่เซียนเพ่งพิศน้ำมันหอมในมืออย่างละเอียด นางเอียงหน้าน้อยๆ ทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ของเย่เสีย

    ดวงเนตรกลมโตดำขลับทอประกายพร่างพราวทันใด เมื่อเข้าใจได้กระจ่าง

    แท้จริงมันคือสิ่งที่ใช้สะกดจิตวิญญาณของชายผู้นั้นให้โปรดปรานนางนั่นเอง หากนางทำให้เขาโปรดปรานได้สำเร็จ อาจมีหนทางกลับหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ดั่งใจปรารถนา

    เมื่อใคร่ครวญเสร็จสรรพ มือขาวอ่อนนุ่มก็ยัดน้ำมันหอมใส่อกเสื้อไว้ เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกควบคู่กับตำราวสันต์ครวญ

    แม่นางน้อยลี่เซียนเป็นคนที่มีจิตใจละเอียดอ่อนมาก ทุกสิ่งที่ผู้อื่นให้มาช่างมีค่าหาใดเปรียบ แต่เนื่องจากชุดถูกเปลี่ยนเป็นบางพลิ้วกว่าเดิมจึงไม่อาจใส่แขนเสื้อได้อีก จำต้องยัดตรงอกเสื้อแล้ว

    ยามนี้เนินเนื้อหยุ่นนุ่มจึงดูอวบอูมขึ้นมากทีเดียว

    ลี่เซียนจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนครู่หนึ่งจนเรียบร้อย ก่อนเดินไปทางหน้าประตูเรือนด้วยกิริยาเนิบช้าตามจริตที่ได้ฝึกมาถึงสามวัน ซุกซ่อนความซุกซนเอาไว้ได้แนบเนียน

    ดวงเนตรกลมโตกระจ่างใสเพ่งพิศรอบทิศอย่างต้องการเรียนรู้ทุกสรรพสิ่ง นางเห็นทหารยามตัวใหญ่ยืนอยู่เต็มสองฝั่งทั้งซ้ายขวาที่ด้านหน้าประตูเรือน มือหนึ่งของพวกเขาถือด้ามหอกตั้งชันกับพื้นดิน มืออีกข้างไขว้หลัง ท่าทางแข็งขันถมึงทึงมาก ถัดไปยังมีทหารยามยืนเรียงรายมากมาย ในท่วงท่าดุจเดียวกัน มองไปคล้ายรูปปั้นของเทพเฮยอู่ฉาง[1]ก็ไม่ปาน

    แม่นางน้อยมองด้วยความสนใจ บรรยากาศของที่นี่ แตกต่างจากอารามผิงอันในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์อย่างสิ้นเชิง เพราะที่นั่นมีแต่นักพรตอาภรณ์ขาว สีหน้าแย้มยิ้มแช่มช้อยเปี่ยมไมตรี

    ที่นี่น่าสนใจจริงๆ

    ชั่วจังหวะครุ่นคิดอย่างอารมณ์ดี พลันมีทหารนายหนึ่งเดินมาขวางหน้า ส่งสายตาเหี้ยมเกรียมเพ่งมอง

    “เจ้าเป็นใคร?

    เสียงห้วนต่ำเอ่ยถามอย่างดุดัน หอกในมือของคนผู้นั้นยื่นออกมาขวางเบื้องหน้าลี่เซียนอย่างหยาบคาย

    แน่นอนว่าคนผู้หนึ่งซึ่งเป็นถึงเหรินเซียนในแดนมนุษย์ย่อมมิอาจเผยออกไปได้ว่าตนเป็นถึงเซียนมิใช่มนุษย์ธรรมดา

    หญิงสาวจึงหยุดฝีเท้าไม่ก้าวเดินต่อ พลางเอียงคอมองทหารตัวใหญ่ด้วยดวงตากลมใส มิได้พรั่นพรึง ก่อนตอบเสียงนุ่มตามความจริงแค่บางส่วนว่า “ข้ามีนามว่าลี่เซียน มาทำหน้าที่ปรนนิบัติท่านอ๋องตามคำสั่งหัวหน้าทหารเจ้าค่ะ”

    ทหารอีกคนเดินขึ้นหน้ามาเมื่อได้ยินวาจาเช่นนั้น สีหน้าของเขาฉายแววเข้มงวด หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างไม่เชื่อคำเท่าใด

    “ท่านอ๋องมีรับสั่งให้หัวหน้าทหารไปเรียกใช้คณิกาหรือ?

    “เจ้าค่ะ” ลี่เซียนตอบตามสัตย์ “มีหัวหน้าทหารคนหนึ่งไปแจ้งกับท่านแม่ตั้งแต่ยามอิ่วสี่เค่อ และข้าคือผู้ถูกเลือก”

    นางกล่าวพร้อมแย้มยิ้มเฉิดฉายวาดไปถึงดวงตา ทั้งพิลาสล้ำและกระจ่างใสดุจดวงดารารัตติกาลเหมันต์ แลดูพราวระยับจับจิตจับใจ งดงามอย่างมาก

    แม่นางน้อยไม่รู้ตัวเลยว่า ตนเองเป็นสาวงามเหนือใคร สามารถละลายหัวใจผู้คนที่พบเห็นได้ปานใด  

    ทหารนายนั้นที่ไม่เชื่อถือกันในคราแรกพลันสติเหม่อลอย สองตาเริ่มเหม่อมอง พลางปลดความระแวดระวังลงหลายส่วน ด้วยเข้าใจว่าคณิกาที่สะคราญโฉมถึงเพียงนี้ ท่านอ๋องคงต้องการปลดปล่อยจริงๆ เป็นแน่

    บุรุษด้วยกันย่อมเข้าใจ

    ทว่าเขายังไม่ทันเอ่ยปากอนุญาตให้สาวงามเดินเข้าไป

    จังหวะนั้น ...ทหารคนแรกที่บังเกิดรักแรกพบเพราะรอยยิ้มดุจฟ้าประทานของลี่เซียน เริ่มแปรเปลี่ยนสายตาข่มขวัญเป็นสายตากรุ่มกริ่ม เขาเบี่ยงหอกออกจากด้านหน้าของสาวงามมาถือแนบที่ลำตัว เดินประชิดเข้ามา หรี่ตาเล็กน้อย ยกยิ้มยียวน

    อึดใจชายผู้นี้พลันยื่นปลายนิ้วเชยคางมน ก้มหน้าลง แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงดุดันที่แปรผันเป็นแหบต่ำทุ้มพร่า 

    “ข้าคิดว่า นางคณิกาเช่นเจ้าคงไม่แคล้วใช้เล่ห์กลมารยาขั้นเซียนเพื่อเข้าหาท่านอ๋องของพวกเรา มิเช่นนั้นบุรุษสูงศักดิ์ที่ถือเนื้อถือตัวเช่นรุ่ยอ๋องจะเรียกหาได้อย่างไร? มิสู้ให้พวกข้าได้พิสูจน์เจ้าเสียก่อนโดยการเชยชม...อ่ะ”

    วาจาบุรุษยังไม่ทันจบ สติพลันดิ่งวูบ หมดสติสลบไป

    ทั้งทหารคนที่ทำเจ้าชู้กรุ่มกริ่ม ทหารอีกคนที่เดินเข้ามาถามไถ่คาดคั้น รวมถึงทหารที่ยืนยามทั้งหมด ต่างพากันล้มตึง ไม่ทราบสาเหตุ

    ลี่เซียนเห็นเช่นนั้นพลันตกใจ นางรีบสะกดอาการแตกตื่นของตนเอาไว้ เก็บพลังเร้นลับกลับคืนรวดเร็ว

    ที่เป็นเช่นนี้เพราะประโยคที่ว่า

    ใช้เล่ห์กลมารยา ขั้นเซียน เพื่อเข้าหาท่านอ๋อง

    “โอว...เขารู้ได้อย่างไรว่าข้าใช้เป็นถึงขั้นนั้น!

    สาวน้อยพึมพำเสียงสั่น ยกมือกุมหน้าอก หัวใจเต้นแรง

    นางตระหนกอย่างมากกับวาจานั้น จึงเผลอส่งพลังปรานสายหนึ่งออกมา ทำทหารสลบเหมือด

    ทุกคนเลย

    ด้วยจิตใต้สำนึกยังเป็นเพียงเด็กน้อยไม่ประสา ปฏิกิริยาแรกเมื่อพลั้งเผลอทำผิด ลี่เซียนจึงวิ่งหนีพี่ๆ ทหารแบบไม่คิดชีวิต นางเร่งฝีเท้าก้าวปราดเข้าเรือนตรงหน้า หายตัวแวบไปทันใด


    ---

    [1] เทพเฮยอู่ฉาง (黑无常) สวมชุดสีดำและหมวกทรงกรวยสูงสีดำมีหน้าตาดุดัน 


    ***นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค***

    Thumbnail Seller Link
    อ๋องทมิฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    เมื่อฮ่องเต้มีรักปักใจเพียงฮองเฮาโดยไม่คิดรับสนมชายา การบริหารบ้านเมืองจึงเหน็ดเหนื่อยหนักหนา เหล่าบุตรสาวและบุตรชายจึงไม่อาจนิ่งดูดาย พวกเขาพร้อมใจกั...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×