คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่7 เข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัล1
ย่ำรุ่งวันต่อมา
ชายหนุ่มร่างสูงโครงหน้าหล่อเหลา เดินออกจากประตูโรงเตี๊ยมร้อยห้อง ด้วยอารมณ์เครียดขรึมใบหน้าบึ้งตึง มิรู้ได้ว่านอนตกเตียงหรืออย่างไร?
รองแม่ทัพและพลทหารติดตามพากันมองหน้ากันและกันอย่างงุนงง
ท่านแม่ทัพกำลังโกรธใครกระนั้นหรือ?
มีแต่คำถามไร้ซึ่งคำตอบ ไม่มีใครกล้าปริปากไขข้อข้องใจเลยสักคน
กระทั่งทั้งหมดเดินออกมาได้ระยะทางหนึ่ง แม่ทัพหนุ่มก็หันหน้าไปหาพลทหารติดตามนายหนึ่ง ซึ่งเป็นทหารหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาในขบวนเดินทาง
เขาตวัดแขนแกร่งโอบรอบลำคอทหารผู้นั้นเข้าหา แล้วเดินกอดคอกันไปทั้งอย่างนั้น
“อะไรเล่า!?” เสียงกระซิบกระซาบดังออกมาจากริมฝีปากเล็กของพลทหารผู้ที่โดนกอดคอ “ข้าก็เดินทางมากับท่านแล้วอย่างไร จะแง่งอนอันใดอีก?”
สายตาคมปลาบตวัดมอง ก่อนกระซิบดุดัน “ข้าให้เจ้าเดินทางไปเที่ยวเล่นในเมืองกับข้าอย่างเปิดเผย มิใช่ให้เจ้าปลอมตัวเป็นบุรุษใส่ชุดทหารเยี่ยงนี้”
หยวนจงเอ่ยเสียงต่ำพลางไล่สายตาคมดำมองไปทั่วใบหน้าคนงาม ที่ยามนี้มีหนังหน้าที่เปลี่ยนไป
จากนวลเนียนขาวผ่องใสกระจ่าง เป็นดำทะมึนน่ากลัว แถมมีหนวดเคราเขียวครึ้มอีกด้วย
นางปลอมตัวได้แนบเนียนนัก!
ฟางหลันกลอกตาไปมา ลอยหน้าลอยตาไม่ต่อคำใด
เขาต้องการให้นางติดตามเขาเพื่อเข้าไปเที่ยวทั่วเมือง นางก็ตามใจแล้วอย่างไรเล่า
แต่ถ้าจะให้นางแต่งกายงดงามเดินเฉิดฉายข้างกายเขาไปอย่างเปิดเผยเข้าวังหลวงเพื่อรายงานผลการศึก เช่นนั้นก็มิต่างอันใดกับคณิกาที่ถูกซื้อตัวมาจากชายแดนเลยสักนิด
สถานะนางคงเป็นได้แค่เพียง
เมียบ่าวของท่านแม่ทัพหยวน ปะไร!
ใครเห็นก็มีแต่จะดูถูกทั้งนั้น!
หลายเดือนที่ผ่านมา นางได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมเนียมจริยาของสตรีชาวเมืองหลวงมาหมดแล้ว นางล้วนรู้แจ้งในทุกเรื่อง นางไม่โง่หรอกนะ
หึ! อย่าได้มาดูถูกกันเชียว
ฟางหลันในอาภรณ์ทหารใส่หน้ากากหนังหน้ามนุษย์ปลอมตัวเป็นชาย เอื้อมมือของตนยกแขนกำยำของแม่ทัพหนุ่มออกจากลำคอตน แล้วเดินไปอย่างรื่นเริง ยกยิ้มพริ้มเพราแฝงความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ
หยวนจงนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเหลือจะกล่าว นางปลอมตัวถึงเพียงนี้
เห็นแล้วหมดอารมณ์สิ้นดี! มานี่เลย!
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับดึงฟางหลันเข้ามาใกล้อีกครั้ง แล้วคล้องคอนางแนบชิด จนร่างทั้งสองสนิทแนบแน่น แล้วเดินไปด้วยกัน โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น!
ภาพของท่านแม่ทัพกับทหารหนุ่มผู้หนึ่ง ที่ดูจะสนิทสนมเดินกอดคอกันเยี่ยงนั้น เหล่าทหารคนอื่นๆ ได้แต่มองตามด้วยสายตายากอธิบาย
เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยาม
แม่ทัพหยวนจงและทหารติดตามก็เข้ามายังอาณาเขตของวังหลวงต้าโจว เป้าหมายคือเข้ารายงานตัวและรายงานผลทางการทหารต่อหน้าพระพักตร์
เมื่อเดินเข้ามาภายในพระราชวัง ฟางหลันในอาภรณ์ทหารที่เป็นชายหน้าโหด ก็มองซ้ายมองขวาไปมาอย่างตื่นตะลึงพรึงเพริด ในความงามวิจิตรและอลังการของตำหนักต่างๆ
นางจำได้ว่าวันนั้น ที่ลอบเข้ามาหาองค์หญิงเหม่ยหลินถึงตำหนักชั้นใน ทุกสิ่งก็สวยงามเช่นนี้ แต่ทว่าครานั้นเป็นยามวิกาลมีความมืดบดบัง ความงามที่เห็นจึงมิได้ชัดเจนสักเท่าไหร่ มิสู้ยามนี้ที่แสงแดดสาดส่องสว่างเจิดจ้ามองเห็นได้อย่างถ้วนทั่ว
อา...ช่างผิดกับสำนักหมื่นโลกันต์และสำนักหมื่นดาราของนางยิ่งนัก หากเปรียบเทียบกัน คงไม่แคล้วสรวงสวรรค์ชั้นฟ้ากับขุมนรกอเวจี
ที่วังแห่งนี้คือสวรรค์ ที่บ้านเดิมนางเป็นนรกนั่นเอง
ฟางหลันอมยิ้มกรุ้มกริ่มลอบเก็บรายละเอียดการตกแต่งตามมุมต่างๆ ของพระราชวังเอาไว้ เพื่อนำไปตกแต่งโรงเตี๊ยมของตนเองบ้าง
อืม...แม้มิอาจเทียบเท่าก็ขอแค่ใกล้เคียงก็พอ
หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดยามเดินมาตามทางของพระราชวัง โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
“อาหลัน!” เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นอย่างดุดัน
“เจ้าจะเดินไปทางใด มานี่!”
“...”
ปลายเท้าน้อยๆ ของฟางหลันพลันชะงักงัน นางกะพริบตามองรอบบริเวณ เห็นเป็นศาลาริมบึงบัว รอบด้านเป็นบุปผานานาพันธุ์ สวยงามมาก ทว่ามิใช่ทางไปท้องพระโรงหรอกหรือ?
หยวนจงอยากจะจับนางอุ้มแนบอก แล้วพานางเดินไปด้วยกันยิ่งนัก ปลอมกายเป็นชายหน้าโหดแต่เดินยิ้มกริ่มประหนึ่งกำลังเดินเล่นบนปุยเมฆกระนั้น ทั้งยังไม่สนใจเขาเลยด้วย
อุทยานแห่งนี้น่าสนใจมากกว่าเขาที่ใดกัน!
ชายหนุ่มเดินเข้ามาและเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงดุดันอีกครั้ง
“หากรายงานตัวเสร็จแล้ว ข้าจะพาเจ้าเดินชมด้วยตนเอง ดีหรือไม่?”
ความหมายของรูปประโยคช่างแตกต่างจากน้ำเสียงดุเดือดนั่นเหลือเกิน
เหล่าทหารติดตามคนอื่นๆ ได้แต่มองท่านแม่ทัพกันอย่างฉงนเป็นหนักหนา เพราะว่าแต่ก่อนนั้น หากท่านแม่ทัพหยวนเสร็จศึกเมื่อใด มักจะรีบเข้ามารายงานผลเอาความดีความชอบอย่างไว ไม่แม้แต่จะหยุดพักกลางทาง ชื่นชอบการสะสมผลงานเป็นที่สุด
แต่ครานี้ นอกจากจะพาพวกเขาเดินอ้อมเมืองแล้ว ยังจะแวะพักโดยใช่เหตุ ทั้งยังจะเสียเวลาเดินชมนกชมไม้ภายในอุทยานหลวงอีกด้วย
น่าแปลกใจยิ่ง!
ท่ามกลางสีหน้าอันแปลกใจของเหล่าทหาร ฟางหลันยกยิ้มงดงามกว้างขวาง อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ท่าทางประหนึ่งดังสาวน้อย หลงลืมเสียสิ้นว่าปลอมตัวอยู่
“ท่านพูดจริงหรือ?”
“อืม! มาเถิด สายมากแล้ว” หยวนจงก้มหน้ารับคำแล้วจับจูงมือพานางในคราบทหารหน้าเหี้ยมเดินไปยังทิศทางของท้องพระโรง
ลักษณะที่แสดงออกว่าสนิทสนมของคนทั้งคู่ ยิ่งนำพาให้ใบหน้าของเหล่าทหารติดตาม เพิ่มความหลากหลายทางอารมณ์
บางคนเริ่มคิดการณ์ไกล เกี่ยวกับรสนิยมของท่านแม่ทัพหยวนเข้าให้แล้ว
เมื่อเดินเข้ามายังหน้าประตูใหญ่ของท้องพระโรง เสียงขันทีขานนามก็ดังกังวานก้อง
“ท่านแม่ทัพหยวนจงมาถึงแล้ว...”
เสียงนั้นทั้งแหลมทั้งทรงพลัง สมกับเป็นขันทีผู้ส่งเสียงหน้าห้องอันกว้างใหญ่
ทำให้เหล่าขุนนางด้านในหันมามองหยวนจงและเหล่าทหารเป็นตาเดียวกันในทันใด
สีพระพักตร์ขององค์ฮ่องเต้พลันส่องสว่างแสดงความปิติไม่ปิดบัง เพราะหยวนจงมักจะชนะศึกกลับมาทุกครั้ง ไม่เคยทำให้พระองค์ผิดหวังในสักครา
เมื่อทุกคนในท้องพระโรงได้เห็นสีพระพักตร์ขององค์เหนือหัว
วันนี้คงเป็นวันดีอีกหนึ่งวัน ที่จะได้มีการมอบสมรสพระราชทานเป็นของกำนัลหลังชนะศึกเป็นแน่แท้
เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างลงความเห็นได้เช่นนั้น อยู่ภายในใจโดยมิได้นัดหมาย
ร่างสูงสง่าของหยวนจงในอาภรณ์แม่ทัพ เดินอย่างองอาจผึ่งผาย พาใบหน้าหล่อเหลาคมคายแผ่ประกายความเจิดจรัสแห่งเสน่ห์บุรุษเพศเข้ามากลางท้องพระโรง ก่อนจะคุกเข่าทำความเคารพเจ้าเหนือหัวแบบเต็มพิธีการ
“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”
ตามด้วยเสียงของทหารติดตามคนอื่นๆ ที่กล่าวคำเดียวกันหลังจากคุกเข่าเต็มพิธีการกันทุกคน
ฟางหลันผู้ไม่เคยปฏิบัติ พยายามทำตามอย่างแนบเนียนเป็นที่สุด ลำตัวของนางเกร็งไปหมด จนต้องนึกขันตนเองขึ้นมา แต่ทว่าก็ให้นึกภาคภูมิใจอยู่หลายส่วน เพราะว่าชาวเมืองคนอื่นๆ หาโอกาสเยี่ยงนางได้ยากยิ่ง ได้เข้ามายังท้องพระโรงอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยลพระพักตร์เจ้าแห่งแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่
อา...ปลื้มปริ่มเหลือเกิน
ฮ่องเต้ผู้นี้ ช่างมีบารมีที่สูงส่งนัก เรือนร่างสง่างามในอาภรณ์สีทองอร่าม ช่างเปล่งประกายราศีแห่งเทพเซียนเสียจริง
อืม...แต่จะว่าไป ความน่าเกรงขามที่แฝงความน่าสะพรึง กลับมิอาจเทียบเคียงกับท่านประมุขหงซือกวนของนางได้เลย
สายตาที่ลอบชำเลืองของฟางหลัน ถึงกับมองเหม่อ จิตใจถึงกับล่องลอย นางแอบพิจารณาทุกสิ่งในท้องพระโรงไปเรื่อยๆ ในยามที่หยวนจงกำลังรายงานผลการศึกที่ผ่านมา
หยวนจงกำลังกล่าวคำใด ฮ่องเต้ทรงตรัสสิ่งใด เหล่าขุนนางพากันพูดอันใด นางล้วนไม่ใส่ใจ เพราะกำลังถูกใจกับความหรูหรายิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้หนักหนา
นอกจากความสง่างามสูงส่งเปี่ยมไปด้วยบารมีของฮ่องเต้แล้ว ยังมีสตรีงดงามหรูหราปานนางสวรรค์บนชั้นฟ้าอีกหลายคน
นั่นคงเป็นฮองเฮา และสตรีเหล่านั้นคงเป็นองค์หญิง
อา...มีองค์ชายด้วย แต่ละคนรูปงามกันทั้งนั้น
หญิงสาวไล่สายตาแพรวพราวมองไปจนทั่ว ก่อนจะสะดุดลงตรงองค์หญิงผู้หนึ่ง
องค์หญิงผู้นี้งดงามมาก นางกำลังทำท่าทางเอียงอายอย่างน่าเอ็นดู พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ ใบหน้าเล็กหลุบต่ำจนเห็นแพขนตายาวงามงอนกระเพื่อมระริกรัวสั่นไหว ก่อนจะค่อยๆ ช้อนสายตามองมาทางหยวนจง
หือ! มองหยวนจง?
คลิกเรื่องที่เกี่ยวข้อง >>>จอมใจจอมมาร
ฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>
|
ความคิดเห็น