ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ) [ภาคต่อจอมใจจอมมาร]

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่7 เข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัล1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.95K
      419
      3 ก.พ. 67

    ย่ำรุ่งวันต่อมา

    ชายหนุ่มร่างสูงโครงหน้าหล่อเหลา เดินออกจากประตูโรงเตี๊ยมร้อยห้อง ด้วยอารมณ์เครียดขรึมใบหน้าบึ้งตึง มิรู้ได้ว่านอนตกเตียงหรืออย่างไร?

    รองแม่ทัพและพลทหารติดตามพากันมองหน้ากันและกันอย่างงุนงง

    ท่านแม่ทัพกำลังโกรธใครกระนั้นหรือ?

    มีแต่คำถามไร้ซึ่งคำตอบ ไม่มีใครกล้าปริปากไขข้อข้องใจเลยสักคน

    กระทั่งทั้งหมดเดินออกมาได้ระยะทางหนึ่ง แม่ทัพหนุ่มก็หันหน้าไปหาพลทหารติดตามนายหนึ่ง ซึ่งเป็นทหารหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาในขบวนเดินทาง

    เขาตวัดแขนแกร่งโอบรอบลำคอทหารผู้นั้นเข้าหา แล้วเดินกอดคอกันไปทั้งอย่างนั้น

    “อะไรเล่า!?” เสียงกระซิบกระซาบดังออกมาจากริมฝีปากเล็กของพลทหารผู้ที่โดนกอดคอ “ข้าก็เดินทางมากับท่านแล้วอย่างไร จะแง่งอนอันใดอีก?

    สายตาคมปลาบตวัดมอง ก่อนกระซิบดุดัน “ข้าให้เจ้าเดินทางไปเที่ยวเล่นในเมืองกับข้าอย่างเปิดเผย มิใช่ให้เจ้าปลอมตัวเป็นบุรุษใส่ชุดทหารเยี่ยงนี้”

    หยวนจงเอ่ยเสียงต่ำพลางไล่สายตาคมดำมองไปทั่วใบหน้าคนงาม ที่ยามนี้มีหนังหน้าที่เปลี่ยนไป

    จากนวลเนียนขาวผ่องใสกระจ่าง เป็นดำทะมึนน่ากลัว แถมมีหนวดเคราเขียวครึ้มอีกด้วย

    นางปลอมตัวได้แนบเนียนนัก!

     

     

    ฟางหลันกลอกตาไปมา ลอยหน้าลอยตาไม่ต่อคำใด

    เขาต้องการให้นางติดตามเขาเพื่อเข้าไปเที่ยวทั่วเมือง นางก็ตามใจแล้วอย่างไรเล่า

    แต่ถ้าจะให้นางแต่งกายงดงามเดินเฉิดฉายข้างกายเขาไปอย่างเปิดเผยเข้าวังหลวงเพื่อรายงานผลการศึก เช่นนั้นก็มิต่างอันใดกับคณิกาที่ถูกซื้อตัวมาจากชายแดนเลยสักนิด  

    สถานะนางคงเป็นได้แค่เพียง

    เมียบ่าวของท่านแม่ทัพหยวน ปะไร!

    ใครเห็นก็มีแต่จะดูถูกทั้งนั้น!

    หลายเดือนที่ผ่านมา นางได้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมเนียมจริยาของสตรีชาวเมืองหลวงมาหมดแล้ว นางล้วนรู้แจ้งในทุกเรื่อง นางไม่โง่หรอกนะ

    หึ! อย่าได้มาดูถูกกันเชียว

    ฟางหลันในอาภรณ์ทหารใส่หน้ากากหนังหน้ามนุษย์ปลอมตัวเป็นชาย เอื้อมมือของตนยกแขนกำยำของแม่ทัพหนุ่มออกจากลำคอตน แล้วเดินไปอย่างรื่นเริง ยกยิ้มพริ้มเพราแฝงความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ

    หยวนจงนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเหลือจะกล่าว นางปลอมตัวถึงเพียงนี้

    เห็นแล้วหมดอารมณ์สิ้นดี! มานี่เลย!

    ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับดึงฟางหลันเข้ามาใกล้อีกครั้ง แล้วคล้องคอนางแนบชิด จนร่างทั้งสองสนิทแนบแน่น แล้วเดินไปด้วยกัน โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น!

    ภาพของท่านแม่ทัพกับทหารหนุ่มผู้หนึ่ง ที่ดูจะสนิทสนมเดินกอดคอกันเยี่ยงนั้น เหล่าทหารคนอื่นๆ ได้แต่มองตามด้วยสายตายากอธิบาย

     

    เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยาม

    แม่ทัพหยวนจงและทหารติดตามก็เข้ามายังอาณาเขตของวังหลวงต้าโจว เป้าหมายคือเข้ารายงานตัวและรายงานผลทางการทหารต่อหน้าพระพักตร์

    เมื่อเดินเข้ามาภายในพระราชวัง ฟางหลันในอาภรณ์ทหารที่เป็นชายหน้าโหด ก็มองซ้ายมองขวาไปมาอย่างตื่นตะลึงพรึงเพริด ในความงามวิจิตรและอลังการของตำหนักต่างๆ

    นางจำได้ว่าวันนั้น ที่ลอบเข้ามาหาองค์หญิงเหม่ยหลินถึงตำหนักชั้นใน ทุกสิ่งก็สวยงามเช่นนี้ แต่ทว่าครานั้นเป็นยามวิกาลมีความมืดบดบัง ความงามที่เห็นจึงมิได้ชัดเจนสักเท่าไหร่ มิสู้ยามนี้ที่แสงแดดสาดส่องสว่างเจิดจ้ามองเห็นได้อย่างถ้วนทั่ว

    อา...ช่างผิดกับสำนักหมื่นโลกันต์และสำนักหมื่นดาราของนางยิ่งนัก หากเปรียบเทียบกัน คงไม่แคล้วสรวงสวรรค์ชั้นฟ้ากับขุมนรกอเวจี 

    ที่วังแห่งนี้คือสวรรค์ ที่บ้านเดิมนางเป็นนรกนั่นเอง

    ฟางหลันอมยิ้มกรุ้มกริ่มลอบเก็บรายละเอียดการตกแต่งตามมุมต่างๆ ของพระราชวังเอาไว้ เพื่อนำไปตกแต่งโรงเตี๊ยมของตนเองบ้าง

    อืม...แม้มิอาจเทียบเท่าก็ขอแค่ใกล้เคียงก็พอ

    หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดยามเดินมาตามทางของพระราชวัง โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

    “อาหลัน!” เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นอย่างดุดัน

    “เจ้าจะเดินไปทางใด มานี่!

    “...”

    ปลายเท้าน้อยๆ ของฟางหลันพลันชะงักงัน นางกะพริบตามองรอบบริเวณ เห็นเป็นศาลาริมบึงบัว รอบด้านเป็นบุปผานานาพันธุ์ สวยงามมาก ทว่ามิใช่ทางไปท้องพระโรงหรอกหรือ?

    หยวนจงอยากจะจับนางอุ้มแนบอก แล้วพานางเดินไปด้วยกันยิ่งนัก ปลอมกายเป็นชายหน้าโหดแต่เดินยิ้มกริ่มประหนึ่งกำลังเดินเล่นบนปุยเมฆกระนั้น ทั้งยังไม่สนใจเขาเลยด้วย

    อุทยานแห่งนี้น่าสนใจมากกว่าเขาที่ใดกัน!

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาและเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงดุดันอีกครั้ง

    “หากรายงานตัวเสร็จแล้ว ข้าจะพาเจ้าเดินชมด้วยตนเอง ดีหรือไม่?

    ความหมายของรูปประโยคช่างแตกต่างจากน้ำเสียงดุเดือดนั่นเหลือเกิน

    เหล่าทหารติดตามคนอื่นๆ ได้แต่มองท่านแม่ทัพกันอย่างฉงนเป็นหนักหนา เพราะว่าแต่ก่อนนั้น หากท่านแม่ทัพหยวนเสร็จศึกเมื่อใด มักจะรีบเข้ามารายงานผลเอาความดีความชอบอย่างไว ไม่แม้แต่จะหยุดพักกลางทาง ชื่นชอบการสะสมผลงานเป็นที่สุด

    แต่ครานี้ นอกจากจะพาพวกเขาเดินอ้อมเมืองแล้ว ยังจะแวะพักโดยใช่เหตุ ทั้งยังจะเสียเวลาเดินชมนกชมไม้ภายในอุทยานหลวงอีกด้วย  

    น่าแปลกใจยิ่ง!

    ท่ามกลางสีหน้าอันแปลกใจของเหล่าทหาร ฟางหลันยกยิ้มงดงามกว้างขวาง อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ท่าทางประหนึ่งดังสาวน้อย หลงลืมเสียสิ้นว่าปลอมตัวอยู่

    “ท่านพูดจริงหรือ?

    “อืม! มาเถิด สายมากแล้ว” หยวนจงก้มหน้ารับคำแล้วจับจูงมือพานางในคราบทหารหน้าเหี้ยมเดินไปยังทิศทางของท้องพระโรง

    ลักษณะที่แสดงออกว่าสนิทสนมของคนทั้งคู่ ยิ่งนำพาให้ใบหน้าของเหล่าทหารติดตาม เพิ่มความหลากหลายทางอารมณ์

    บางคนเริ่มคิดการณ์ไกล เกี่ยวกับรสนิยมของท่านแม่ทัพหยวนเข้าให้แล้ว

     

    เมื่อเดินเข้ามายังหน้าประตูใหญ่ของท้องพระโรง เสียงขันทีขานนามก็ดังกังวานก้อง

    “ท่านแม่ทัพหยวนจงมาถึงแล้ว...”

    เสียงนั้นทั้งแหลมทั้งทรงพลัง สมกับเป็นขันทีผู้ส่งเสียงหน้าห้องอันกว้างใหญ่

    ทำให้เหล่าขุนนางด้านในหันมามองหยวนจงและเหล่าทหารเป็นตาเดียวกันในทันใด

    สีพระพักตร์ขององค์ฮ่องเต้พลันส่องสว่างแสดงความปิติไม่ปิดบัง เพราะหยวนจงมักจะชนะศึกกลับมาทุกครั้ง ไม่เคยทำให้พระองค์ผิดหวังในสักครา 

    เมื่อทุกคนในท้องพระโรงได้เห็นสีพระพักตร์ขององค์เหนือหัว

    วันนี้คงเป็นวันดีอีกหนึ่งวัน ที่จะได้มีการมอบสมรสพระราชทานเป็นของกำนัลหลังชนะศึกเป็นแน่แท้

    เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างลงความเห็นได้เช่นนั้น อยู่ภายในใจโดยมิได้นัดหมาย

    ร่างสูงสง่าของหยวนจงในอาภรณ์แม่ทัพ เดินอย่างองอาจผึ่งผาย พาใบหน้าหล่อเหลาคมคายแผ่ประกายความเจิดจรัสแห่งเสน่ห์บุรุษเพศเข้ามากลางท้องพระโรง ก่อนจะคุกเข่าทำความเคารพเจ้าเหนือหัวแบบเต็มพิธีการ

    “ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”

    ตามด้วยเสียงของทหารติดตามคนอื่นๆ ที่กล่าวคำเดียวกันหลังจากคุกเข่าเต็มพิธีการกันทุกคน

    ฟางหลันผู้ไม่เคยปฏิบัติ พยายามทำตามอย่างแนบเนียนเป็นที่สุด ลำตัวของนางเกร็งไปหมด จนต้องนึกขันตนเองขึ้นมา แต่ทว่าก็ให้นึกภาคภูมิใจอยู่หลายส่วน เพราะว่าชาวเมืองคนอื่นๆ หาโอกาสเยี่ยงนางได้ยากยิ่ง ได้เข้ามายังท้องพระโรงอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยลพระพักตร์เจ้าแห่งแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่

    อา...ปลื้มปริ่มเหลือเกิน

    ฮ่องเต้ผู้นี้ ช่างมีบารมีที่สูงส่งนัก เรือนร่างสง่างามในอาภรณ์สีทองอร่าม ช่างเปล่งประกายราศีแห่งเทพเซียนเสียจริง

    อืม...แต่จะว่าไป ความน่าเกรงขามที่แฝงความน่าสะพรึง กลับมิอาจเทียบเคียงกับท่านประมุขหงซือกวนของนางได้เลย

    สายตาที่ลอบชำเลืองของฟางหลัน ถึงกับมองเหม่อ จิตใจถึงกับล่องลอย นางแอบพิจารณาทุกสิ่งในท้องพระโรงไปเรื่อยๆ ในยามที่หยวนจงกำลังรายงานผลการศึกที่ผ่านมา

    หยวนจงกำลังกล่าวคำใด ฮ่องเต้ทรงตรัสสิ่งใด เหล่าขุนนางพากันพูดอันใด นางล้วนไม่ใส่ใจ เพราะกำลังถูกใจกับความหรูหรายิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้หนักหนา

    นอกจากความสง่างามสูงส่งเปี่ยมไปด้วยบารมีของฮ่องเต้แล้ว ยังมีสตรีงดงามหรูหราปานนางสวรรค์บนชั้นฟ้าอีกหลายคน

    นั่นคงเป็นฮองเฮา และสตรีเหล่านั้นคงเป็นองค์หญิง

    อา...มีองค์ชายด้วย แต่ละคนรูปงามกันทั้งนั้น

    หญิงสาวไล่สายตาแพรวพราวมองไปจนทั่ว ก่อนจะสะดุดลงตรงองค์หญิงผู้หนึ่ง

    องค์หญิงผู้นี้งดงามมาก นางกำลังทำท่าทางเอียงอายอย่างน่าเอ็นดู พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ ใบหน้าเล็กหลุบต่ำจนเห็นแพขนตายาวงามงอนกระเพื่อมระริกรัวสั่นไหว ก่อนจะค่อยๆ ช้อนสายตามองมาทางหยวนจง

    หือ! มองหยวนจง?


     คลิกเรื่องที่เกี่ยวข้อง >>>จอมใจจอมมาร

    ฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ)
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    กาลก่อน เขามักจะได้ลิ้มลองหญิงงามจนอิ่มหนำทุกค่ำคืน แต่ยามนี้เขามิใคร่อยากจะทำเช่นนั้น แค่คิดว่ายามร่วมรักกับสตรีอื่นแล้วมีใบหน้าของนางมารตนหนึ่งลอยมา ตามด้วยกรงเล็บเข้าจิกหน้าเขา แหวกอกเขา จังหวะที่กำลังเสพสมก็พลันหยุดลงจนอารมณ์หดหาย มิใช่ว่ากลัวตาย แต่ไม่รู้ว่าทำไม นางมารตนนั้นช่างน่ากลัวนัก! หากนางโกรธเขาขึ้นมาจริงๆ เขาต้องบ้าตายเป็นแน่!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×