ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวใช้พระกาฬ

    ลำดับตอนที่ #42 : ตอนที่39 พี่น้องสกุลหลวน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.99K
      1.99K
      17 มิ.ย. 66

    ชายป่าอีกฝั่งหนึ่งของตัวเมืองต้าฉู่

    “แม่นางหนิงเหมยเป็นผู้มีพระคุณของข้า เรื่องของนางคือเรื่องของข้า เช่นนั้นแล้ว ข้าต้องห่างจากท่านสักพัก เพื่อดูแลนางอย่างเต็มที่” ซูเจินเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ยามเดินตามแผ่นหลังของคนตัวโต ที่กำลังโกรธกรุ่นจากคำว่า ห่างกันสักพักของนาง

    แต่...อืม...แล้วเขาจะโกรธทำไม แล้วนางจะง้อทำไม ไม่เห็นเข้าใจ!

    หยางเหอจินเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าเขาจะโกรธน้องน้อยทำไม เขาจึงปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ แล้วเอ่ย “เจ้าคิดจะทำสิ่งใด แค่บอกข้า ไม่ควรคิดการอยู่คนเดียว เรื่องของโลกภายนอกหุบเขาเช่นนี้ ยังมีอะไรมากมายนัก เจ้าควรตระหนักเอาไว้ ห้ามเอาความแค้นเป็นที่ตั้ง”

    หญิงสาวผู้ถูกสอนสั่ง ได้แต่เดินตามอย่างตั้งใจฟังตาปริบๆ และมันก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้ง ที่นางไม่รู้ตัวเลยว่า เหตุใดนางต้องเชื่อฟัง

    ชายหนุ่มยังคงเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “เรื่องที่เจ้าต้องการให้แม่นางหนิงเหมยแต่งงานกับรัชทายาทก็เช่นกัน เรื่องราวเหล่านั้น พวกเราล้วนเป็นคนนอก ไม่ควรยุ่งเกี่ยว” แต่จะว่าไป หลานชายของเขากับคุณหนูคนนั้นก็เหมาะสมกันจริงๆ เรื่องนี้ไม่อาจปฏิเสธ

    ซูเจินกลอกตาคิดตามอย่างไม่มีเงื่อนไข นางพร้อมเชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขเช่นกัน น่าแปลกใจยิ่ง!

    หญิงสาวได้แต่แหงนหน้ามองชายหนุ่มร่างใหญ่ พร้อมเดินตามเพื่อฟังคำเขาอย่างเหม่อลอย ไม่สงสัยด้วยซ้ำว่า เขารู้เรื่องของนางได้อย่างไร

    ในขณะที่คนหนึ่งเพียรพร่ำสอน อีกคนหนึ่งพร้อมตั้งใจฟัง เสียงหนึ่งพลันดังมาไกลๆ

    “พี่ใหญ่ ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว”

    เสียงนั้นเป็นเสียงของหลวนเหยาที่ตามติดด้วยหลวนเยว่

    “อดทนไว้ น้องพี่”

    สองพี่น้องหมอเทวดาพากันวิ่งหนีคนบางกลุ่มมาตามทาง

    แม้ไม่ได้หันหน้าไปมอง แต่หยางเหอจินกับซูเจินล้วนจดจำได้เป็นอย่างดี ทว่าสิ่งที่ทั้งสองสนใจกลับไม่ใช่สองพี่น้องแปลกประหลาดคู่นี้ เมื่อหางตาของคนทั้งคู่เหลือบไปเห็นคนชุดดำที่มีสัญลักษณ์ขลิบสีเหลืองเด่นบริเวณสาบเสื้อตรงลำคอ

    หมาป่าทมิฬ!

    ดวงตากลมโตบนใบหน้าจิ้มลิ้มพลันเย็นเยียบ กลิ่นอายสังหารพลันเข้มข้น ซูเจินเริ่มจับอาวุธประจำกาย

    ครานี้ หยางเหอจินย่อมไม่ให้น้องน้อยต้องออกแรง เห็นได้ชัดว่านางยังไม่สามารควบคุมพลังของตนเองเมื่อผสานกับอาวุธร้ายกาจนั่น

    ชายหนุ่มจึงเอื้อมฝ่ามือขึ้นแตะไหล่บางของหญิงสาวหมายห้ามปราม ก่อนเบี่ยงร่างสูงใหญ่ออกมายืนบังร่างเล็กเอาไว้ ขุมพลังมากมายพลันถูกส่งออกมาจากเรือนร่างเขา พลังลมปราณไม่ธรรมดาพร้อมกลิ่นอายสังหารเหนือสามัญไหลวนอยู่รอบกายแกร่ง แม้ไร้อาวุธในมือแต่ความสะพรึงกลับเด่นชัดยิ่งกว่าเครื่องจักรสังหารใด

    ซูเจินรับรู้ได้ถึงคลื่นความรุนแรงที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเขา แววตาคู่คมบนใบหน้าหล่อเหลาของชายตรงหน้าทอประกายเฉียบขาด ทั้งเย็นชาร้ายกาจและดำสนิทจนน่าตกใจ

    นั่นคือสายตาเดียวกับท่านพ่อ ขุมพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นเช่นกัน คลื่นพลังลมปราณเหล่านั้นนางจับกระแสได้  

    พยัคฆ์คำรามของท่านพ่อ...

    ราชาพยัคฆ์ผงาดเหนือเมฆา เคียงคู่ยาตราหงส์สง่าเหนือน่านฟ้าท่องปฐพี

    พยัคฆ์เมฆาหงส์ฟ้าเหิน!

    เมื่อมีหงส์ฟ้าเหิน ย่อมต้องมีราชาพยัคฆ์พิทักษ์เคียง

    หญิงสาวถึงกับเหม่อลอยจ้องมองพี่ชายคนงามไม่วางตา ความเย็นเยียบพร้อมกลิ่นอายสังหารของตนพลันตกไป

    คลื่นพลังอันแกร่งกล้าของหยางเหอจิน มิใช่ว่ามีเพียงซูเจินเท่านั้นที่รับรู้ได้ กลุ่มชุดดำหมาป่าทมิฬก็รับรู้ได้เช่นกัน พวกมันพากันหันขวับมามองอย่างตะลึงลานคล้ายตกใจคล้ายไม่อยากเชื่อ

    กลุ่มชุดดำคล้ายกับรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแห่งความชั่วร้ายที่พวกมันสัมผัสได้ถึงหายนะ หากยังดันทุรังคงมีแต่พลาดพลั้งให้เปลี่ยนจากฝ่ายล่าเป็นฝ่ายถูกคร่าชีวิต พวกมันพากันผงะ ก้าวเท้าผิดจังหวะในชั่วอึดใจ ก่อนจะพากันหายตัวไปคล้ายหนีตาย

    หลวนเยว่และหลวนเหยาพากันหันหน้ามองหาต้นเหตุที่ทำให้กลุ่มชุดดำพากันหนีไป เมื่อเห็นแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองก็แทบจะติดปีกโบยบินพร้อมโฉบเข้ามา

    ที่แท้ก็ว่าที่สามีกับผู้มีพระคุณนี่เอง

    ความคิดของทั้งสองเป็นเช่นนั้น ช่างเหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ

    เมื่อสายตาพราวระยับกับรอยยิ้มประหลาดของสองพี่น้องเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ทำหยางเหอจินต้องส่งสายตาคมดุดุจเหยี่ยวตัวใหญ่มองกราดอย่างไม่ไว้วางใจ รอบเรือนกายสูงสง่าส่งกลิ่นอายกระแสเย็นเยียบปานน้ำแข็งพันปีเข้าปกคลุม

    สองพี่น้องสกุลหลวนถึงกับเท้าสะดุดจนหัวทิ่ม เมื่อสัมผัสได้ถึงดวงตาเฉียบคมที่คล้ายกับมีมีดคมกริบพร้อมเชือดเฉือนอันแสนน่ากลัว  เป้าหมายในการพุ่งตัวเข้าหา ว่าที่สามี จึงเปลี่ยนไปทันที

    “ท่านผู้มีพระคุณ...” เสียงแหลมสูงอันเสียดแทงแก้วหูของหลวนเหยาถูกส่งมาทางซูเจิน

    ตามด้วยเส้นเสียงทุ้มนุ่มของหลวนเยว่พลันตามติดมา “แม่นางน้อยผู้งดงาม”

    หยางเหอจินหรี่ตามอง นึกขัดเคืองกับประโยคคล้ายเกี้ยวพานั่น  กระแสเย็นเยียบพลันเปลี่ยนไปในบัดดล ความเข้มข้นของกลิ่นน้ำส้มฉุนจัดเข้าแทนที่ อ้อมแขนแข็งแกร่งจึงตวัดขึ้นมารัดร่างบางที่ยังคงมองเขาแบบตาค้างเข้าสู่อ้อมกอด

    สาวน้อยไม่มีปฏิเสธ นางชอบอ้อมอกอุ่นของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอ่อนวัยกว่าท่านพ่อมากโข แต่วงแขนนี้เหมือนของท่านพ่อไม่ผิดเพี้ยน  ทั้งทรงพลังและแข็งแกร่งเหนือผู้ใด

    ซูเจินซุกซบอยู่ในแผงอกหนั่นแน่น กลิ้งใบหน้าขลุกขลักไปมา อากัปกิริยาบอกได้คำเดียวว่าชมชอบหนักหนา ทว่าหยางเหอจินกลับมิได้รับรู้ เขามัวแต่กอดรัดนางอย่างหวงแหน หลบเลี่ยงคู่พี่น้องประหลาด สายตาคู่คมเฉียบขาดฟาดใส่ไม่มียั้ง ทำเอาหลวนเยว่กับหลวนเหยาต้องชะงัก แล้วยืนกอดกันเอง

     

    โรงเตี๊ยมโหย่วอี้ในตัวเมืองต้าฉู่

    ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด กำลังมีบุคคลสี่ชีวิตนั่งมองหน้ากันคล้ายหยั่งเชิงกันตรงโต๊ะกลางห้อง

    “เรื่องที่ข้ากล่าวออกมา ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น” เส้นเสียงทุ้มนุ่มของหลวนเยว่เอ่ยอีกครา เมื่อมองสายตาคมดุที่ดำสนิทลึกล้ำบนใบหน้าคมคายที่ฉายแววไม่เชื่อถือกันยามฟังคำ “พวกหมาป่าทมิฬต้องการตัวข้ากับน้องสาวให้ไปรักษาคนผู้หนึ่ง”

    หลวนเหยารีบต่อคำพี่ชายตน “คนผู้นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส จากศึกหนักบนหุบเขานภาเคลื่อน”

    หยางเหอจินยิ่งหรี่ตามองอย่างคลางแคลงใจ ส่วนซูเจินพลันทอประกายเย็นเยียบในแววตา ริ้วรอยแรงสะเทือนในอารมณ์เริ่มผุดพราย

    ศึกหนักบนหุบเขานภาเคลื่อน มิใช่สำนักพยัคฆ์เมฆาหงส์ฟ้าเหินของท่านพ่อหรอกหรือไร?

    หลวนเยว่ยังคงเอ่ย “ตัวข้าเป็นหมอ ส่วนน้องสาวเป็นคนปรุงยา พวกมันจึงต้องการพวกข้าสองพี่น้องไปรักษาคนผู้นั้นที่บาดเจ็บปางตายจากศึกครานั้น”

    เสียงทุ้มต่ำแฝงความเย็นชาเริ่มเอ่ยจากปากหยักได้รูปของหยางเหอจิน “พวกเจ้าเป็นหมอเทวดาฉายาฝ่ามือสวรรค์”

    “เอ่อ...” หลวนเหยาตอบรับเสียงเบา “ย่อมเป็นเช่นนั้น”

    หยางเหอจินยังคงสงสัย “คนที่ต้องการให้เจ้าไปรักษาย่อมเป็นบุคคลสำคัญ และมีอิทธิพลกับพวกหมาป่าทมิฬไม่น้อย”

    ใบหน้างดงามราวหยกสลักของหยวนเยว่พยักหน้ารับ

    หยางเหอจินยังคงหยั่งเชิง “เหตุใดพวกเจ้าไม่ไปรักษาให้”

    หลวนเหยาเป็นฝ่ายตอบ “พวกมันเป็นพวกไร้มโนธรรม ไร้จิตสำนึก สมคบคิดกับพวกราชสำนักฝ่ายกังฉิน”

    “เจ้ารู้ได้อย่างไร?” หยางเหอจินเลิกคิ้วถาม

    หลวนเหยายังคงเอ่ย “ข้าได้ยินพวกมันคุยกัน ยามที่พวกมันกำลังตามไล่ล่าตัวข้ากับพี่ชาย” ยามนั้นข้าขุดรูหลบอยู่ใต้ฝ่าเท้าพวกมัน ประโยคหลังหลวนเหยาไม่ได้กล่าวออกมา

    หลวนเยว่ขยายความน้องสาวตน “ข้ายังได้ยินอีกว่า หากรักษาคนผู้นั้นจนหายดีแล้ว พวกมันจะร่วมด้วยช่วยกัน เข่นฆ่าล้างผลาญไปเรื่อยๆ เพื่อล้มล้างสำนักใหญ่ในยุทธภพ หมายขึ้นเป็นหนึ่งในใต้หล้า โดยมีราชสำนักของแคว้นฉู่อันยิ่งใหญ่คอยหนุนหลัง”

    หยางเหอจินได้ยินพลันสะท้านอยู่ในอก เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าพี่ชายของเขาจะคิดการอันโง่เขลาถึงเพียงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เฟยหลงจวิ้นจะคิดคดเข้าพวกกับชาวยุทธฝ่ายอธรรมแบบนั้น ต้องมีเบื้องหลังอะไรอีกเป็นแน่! เขาไม่อาจปล่อยให้บุคคลที่รักดั่งบิดาคิดกระทำการที่ผิดมหันต์ เห็นทีคงต้องกลับไปหาพี่ชายเสียแล้ว

    ซูเจินได้ยินอย่างนั้นจึงนั่งนิ่งตั้งใจฟังพลางขบคิด นางยังจำได้ดีถึงวันที่จักรพรรดิแห่งแคว้นฉู่เอ่ยคำปราศรัยกับเจ้าอาวาสฉินไท่ เป็นไปได้ว่า เรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในอันใดแอบแฝง ไม่แน่ว่าราชวงศ์เฟยหลงที่เทียบดั่งต้นไม้ใหญ่ แต่มีสัตว์เดรัจฉานปีนป่ายเล่นเล่ห์  

    เดรัจฉานพวกนั้นปล่อยข่าวให้กษัตริย์แคว้นฉู่รับไป เพื่อที่พวกมันจะได้แอบคิดการใหญ่โดยที่จะไม่เป็นเป้าให้ใครจับตา เมื่อทวนเปิดเผยหลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับยากระวัง

    ศัตรูเปิดเผยไม่น่ากลัวเท่าศัตรูที่ซ่อนเร้น เช่นนั้นแล้วการกระโจนตัวเข้าไปหมายเข่นฆ่าให้ตายตกอย่างอุกอาจย่อมมิใช่วิถีที่ควรกระทำ  ในเมื่อศัตรูมีแผนการอันแยบยลมากนัก การต่อกรเพื่อตอกกลับจึงมิใช่เรื่องง่าย การวางแผนเล่นเล่ห์ที่เหนือชั้นต่างหากที่สมควร การฝึกฝนย่อมจำเป็น นางจักต้องทำอย่างไร?

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงหันหน้าไปมองพี่ชายคนงามพร้อมส่งสายตาคล้ายขอคำปรึกษา

    หยางเหอจินรับรู้ได้ด้วยหางตาจากน้องน้อยคนงาม เขาจึงเอ่ยไปทางสองพี่น้องสกุลหลวน “พวกเจ้าจะหนีไปทางใด”

    ชายหญิงผู้ถูกถามรีบหันหน้ามามองทางซูเจิน แล้วเรียกขานอย่างพร้อมเพรียง “ท่านผู้มีพระคุณคนงาม...”

    “...!?

     

    เนื่องจากสองพี่น้องสกุลหลวนยึดถือเจินเจินน้อยเป็นผู้มีพระคุณ ทั้งยังได้เห็นนางมีฝีมือร้ายกาจให้ประจักษ์เมื่อครั้งก่อนหน้า ว่าจะสามารถปกป้องพวกเขาได้ เป้าหมายในการยึดเหนี่ยวเพื่อซ่อนเร้นตัวตนของพวกเขา ย่อมไม่อาจเป็นอื่น

    หยางเหอจินย่อมรู้แจ้งในทุกเรื่องราว เขาจึงเลือกที่จะใช้ตนเองเป็นเป้าให้ศัตรูปรากฏตัวจากที่ลับ โดยการรับตัวหมอเทวดาสองพี่น้องที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มมืดเอาไว้กับตัวเสียเอง ทำให้หลวนเยว่กับหลวนเหยาดีใจมาก ทำท่าทางคล้ายกับจะบินได้ ชายหนุ่มจึงแผ่ม่านหมอกสีดำทะมึนที่มองไม่เห็นแต่ให้รู้สึกหวาดหวั่นสั่นสะพรึง เข้าปกคลุมโดยรอบเรือนกาย สร้างกำแพงหนาใหญ่จากสองพี่น้องแปลกประหลาด

    ระหว่างที่ซูเจินเดินทางกลับไปยังคฤหาสน์สกุลหลิ่ง โดยมีหยางเหอจินร่วมเดินทางมาด้วยโดยไร้เหตุผล ตามติดด้วยสองพี่น้องสกุลหลวนที่มีสีหน้าร่าเริงเบิกบานเหลือเกิน ดวงตาคู่โตของสาวน้อยพลันเหลือบไปเห็นชายคุ้นหน้าที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่ง

    เขาผู้นั้นคือ หลิ่งหมิง บิดาของหนิงเหมย

    นายท่านหลิ่งคงกำลังติดต่อเจรจาการค้าอยู่กับคนกลุ่มหนึ่งภายในโรงน้ำชาแห่งนั้น ซูเจินรับรู้มาจากคนในคฤหาสน์ว่านายท่านหลิ่งมีกิจการวาณิชย์หลากหลาย ต้องเดินทางไปทำการค้าทั่วสารทิศ ปล่อยบ้านหลังใหญ่ให้ฮูหยินรองเป็นคนจัดการ

    ซูเจินหลุบตาลงต่ำพลางครุ่นคิดถึงหนิงเหมย ภาพครอบครัวอบอุ่นเมื่อวานนางจำได้ ภาพที่มีสามคนพ่อแม่ลูกรักใคร่กลมเกลียวแลมีความสุขเหลือเกินอยู่ตรงหน้าหนิงเหมย

    คุณหนูของนางยืนมองภาพนั้นอย่างโดดเดี่ยว

    นางแน่ใจว่าภาพนั้นมิได้มีเพียงแค่ครั้งเดียว แต่คงจะมีมาตลอดตั้งแต่หนิงเหมยเกิดมา นางจำได้ดีว่าหนิงเหมยเคยเล่าสิ่งใดให้ฟัง

    ฮูหยินรองคนนั้นเข้ามาแทรกกลางระหว่างบิดามารดาของหนิงเหมย กระทั่งหนิงเหมยต้องตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวเช่นนั้นตลอดมา

    ซูเจินเอียงหน้าน้อยๆ ครุ่นคิดหนักหน่วงจนเรียวคิ้วบนดวงตากลมโตขมวดพันกัน

    นางไม่ชอบเอาเสียเลยกับภาพเมื่อวาน

    ภาพที่หนิงเหมยถูกกระทำจากสามคนพ่อแม่ลูกนั่น

    ไม่ชอบจริงๆ


    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับจบบริบูรณ์ คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ(ภาค 1)

    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับ E-Book คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTU0NTM5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg1ODk5Ijt9


    Thumbnail Seller Link
    สาวใช้พระกาฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อทายาทสาวน้อยจ้าวยุทธ์ ต้องมาอยู่ในคราบสาวใช้ของนายสาวผู้อ่อนแอ..."คุณหนูท่านรักบุรุษผู้นั้น""ข้ากับเขาคบหากันมา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×