ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวใช้พระกาฬ

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่22 วางแผนล่อลวง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.65K
      1.98K
      19 เม.ย. 66

    ภายในร้านอาหารห่าวชือแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเฟิ่งหวง

    ห้องอาหารภายในร้านมีลักษณะเป็นโต๊ะกลมทรงเตี้ยลวดลายประณีต ลูกค้าที่มานั่งล้วนนั่งบนฟูกนุ่มอุ่นสบาย บรรยากาศโดยรอบเรือนกายให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเอง

    หยางเหอจินเลือกห้องชั้นสองที่มีลูกค้าน้อยกว่าชั้นล่าง ถึงแม้จะต้องจ่ายแพงกว่าถึงสองเท่า แต่เพื่อสาวน้อยที่เอียงหน้ายิ้มแย้มอย่างพึงพอใจ ต่อให้จ่ายแพงกว่านี้ถึงสิบเท่า เขาก็ยอม

    เพียงไม่นาน อาหารหน้าตาน่าทานหลากหลายก็ถูกยกมาวางเรียงรายลงบนโต๊ะตรงหน้าซูเจิน

    หญิงสาวรู้สึกดียิ่งนัก เมื่อเห็นอาหารชั้นยอดทรงคุณค่าตรงหน้า

    นี่คือแหล่งพลังงานชั้นดี กินเสร็จแล้วกลับไปออกกำลังฝึกยุทธ์ ย่อมหลับสบายหลายชั่วยาม

    หยางเหอจินลอบยกยิ้มพึงใจ เมื่อเห็นน้องน้อยดีใจอย่างนั้น

    “ข้าไม่เกรงใจพี่ชายแล้วนะ” ซูเจินหันหน้ามามองเขาพลางกล่าวคำอย่างนอบน้อม ดวงตาพราวระยับจับจ้องที่อาหาร

    “เชิญ!” ชายหนุ่มเอ่ยอนุญาตด้วยน้ำเสียงคล้ายประชดประชัน ตั้งแต่มาถึงตัวเมือง นางเคยเกรงใจยามใดกัน?

    “พี่ชายใจดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ” หญิงสาวหยอดคำหวานออดอ้อนเสียหน่อย คนอะไร ทั้งเก่งกาจ ทั้งรูปงาม ทั้งใจดี มีครบครัน

    “ย่อมเป็นเช่นนั้น” หากมิใช่นาง ใครก็อย่าได้หวัง!

    หญิงสาวใช้มือน้อยๆ จับตะเกียบคีบอาหารใส่ปากเล็กบางก่อนจะเคี้ยวอย่างน่ารัก พาใบหน้าจิ้มลิ้มน่าหยิกยิ่งนัก

    ชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามโต๊ะตัวเดียวกันมองกิริยาท่าทางของนางยิ่งยกยิ้มพึงใจ เขาเพียงนั่งจิบชาเป็นเพื่อนนางก็เท่านั้น

    เมื่อครั้งที่นางยังเป็นเด็กตัวอ้วนกลมคลานต้วมเตี้ยม ส่วนเขาเป็นเด็กชายอายุสิบเอ็ดปี เขาก็มักจะชอบมองนางกิน ชอบป้อนข้าวให้นาง ต่อมาเมื่อนางได้หนึ่งขวบปี เขาก็เป็นคนสอนนางให้ใช้ตะเกียบคีบอาหารด้วยตนเอง

    หยางเหอจินนึกถึงภาพเมื่อวันวานขึ้นมา ภาพนั้นเป็นภาพยามที่น้องน้อยนั่งอยู่บนตักของเขา มืออ้วนกลมของนางจับตะเกียบอยู่ในอุ้งมือของเขา อาหารมื้อนั้น นางใช้เวลากินนานมาก แม่นมที่นั่งมองอยู่ไม่ไกลลุ้นจนตัวเกร็ง ว่านางจะกินเองได้เมื่อใด

    ชายหนุ่มอยากจะบอกกับสตรีตรงหน้าเหลือเกินว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร แต่หากบอกออกไปว่า เขาเป็นองค์ชายและเป็นถึงน้องชายของเฟยหลงจวิ้น ผลจักออกมาเป็นเช่นใด?  

    ในขณะที่หยางเหอจินยังคงครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจในชีวิต เนื้อเป็ดหนานุ่มสีแดงฉ่ำหอมกรุ่นพลันถูกยื่นให้ตรงหน้า

    “พี่ชายหิวหรือไร ไยทำหน้าอย่างนั้น” ซูเจินเห็นคนตรงหน้าขมวดคิ้วเหม่อมองนางที่กำลังนั่งกินแบบไม่ลืมหูลืมตา นางจึงคิดว่าเขาหิวเหมือนกันแต่ไม่อยากแย่งนางกิน นางก็เลยคีบเนื้อเป็ดย่างให้เขาอย่างใจดี “กินเสีย..” กล่าวจบก็วางเนื้อเป็ดลงในถ้วยของเขา ก่อนจะคีบเนื้อตุ๋นให้เขาอีกหนึ่งชิ้น แล้วกลับมากินในส่วนของตนเองต่อ

    ชายหนุ่มจึงวางถ้วยชาในมือลงก่อนจะหยิบตะเกียบมาคีบอาหารกินบ้าง

    ทั้งสองจึงนั่งกินอาหารด้วยกันไปเรื่อยๆ มิได้เอื้อนเอ่ยคำใดต่อกัน หากแต่ซูเจินกลับรู้สึกคุ้นชินอย่างประหลาด กับพี่ชายผู้นี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยไม่ธรรมดา ยิ่งได้มองหน้ายิ่งให้ความรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกไว้วางใจมิรู้ได้ว่ามาจากที่ใด

    เมื่อคิดไปคิดมาจึงเคี้ยวอาหารให้หมดปากแล้วเอ่ยเรียกคนตรงหน้าเสียงเบา “พี่ชาย...”

    “หืม..”

    “ท่านมีเมียแล้วหรือไม่?

    หยางเหอจินถึงกับสำลักน้ำแกง

    “หากท่านยังไม่มีใคร ข้าคิดว่า...”

    ซูเจินยังพูดไม่ทันจบ หยางเหอจินก็สำลักจนหน้าแดงหูแดงไปหมด แม้แต่น้ำชาที่พยายามดื่มก็ไม่ช่วยอันใด

    หญิงสาวจึงถอนหายใจเฮือกหนึ่งและพลันได้เข้าใจ ว่าการพูดจาแบบตรงไปตรงมาคงไม่ดีเป็นแน่ เช่นนั้นแล้วนางจึงนิ่งเงียบหยุดพูดไปเสีย

    เฮ่อ!...การเข้าหาบุรุษสักคนให้มาเป็นพวกเดียวกันเพื่อบุกป่าฝ่าดงไปด้วยกัน ต้องทำอย่างไรบ้างเล่า! 

    เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด นางจึงกินอาหารต่อไปโดยไม่สนใจใครบางคนที่กำลังสำลักเกือบตายเพราะนางอีกเลย

     

     

    เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม...

    บนชั้นสองของร้านอาหารห่าวชือ เยื้องไปจากโต๊ะของหยางเหอจินกับซูเจิน มีบุรุษหน้าหยกกับสตรีหน้าหวานนั่งอยู่ที่โต๊ะอีกฟากหนึ่งไม่ไกลกัน

    บุรุษมีนามว่าหลวนเยว่ ส่วนสตรีมีนามว่าหลวนเหยา ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน เดินทางท่องยุทธภพด้วยกันโดยไม่คิดจะเข้าฝักฝ่ายใด

    “พี่ใหญ่ ข้าชอบชายคนนั้น” หลวนเหยาวาดนิ้วเรียวงามชี้ไปทางบุรุษชุดเขียวใบไผ่หรือก็คือหยางเหอจินนั่นเอง “ข้าอยากได้...” นางเอ่ยอย่างออดอ้อนไปทางพี่ชายของตน

    หลวนเยว่จิบชาอึกหนึ่งด้วยท่วงท่างามสง่าเหนือบุรุษก่อนวางถ้วยชาลงแล้วคลึงถ้วยชาเล่นคล้ายไม่ใส่ใจ สายตาเรียวคมของเขาหาได้มองบุรุษชุดเขียวไม่ แต่กลับจ้องตรงไปยังสตรีนางน้อยที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักดวงตากลมโตฉ่ำใส เมื่อพิศมองอยู่ครู่หนึ่ง ริมฝีปากสีแดงสดของเขาก็ยกโค้งขึ้น เผยเสน่ห์ชวนหลงใหล  

    “ข้าจะเดินไปหาเขาเดี๋ยวนี้” หลวนเหยาใจร้อนยิ่งนัก  

    “ช้าก่อน” พี่ชายรีบห้ามปราม

    “ทำไมเล่า?

    “เขามีคนรักแล้ว เจ้าไม่เห็นหรือไร?

    หลวนเหยาแค่นเสียงฮึคำหนึ่ง ไหวไหล่เล็กน้อย “แล้วอย่างไร?

    หลวนเยว่ไม่ต่อคำใด

    คนน้องจึงเริ่มวางแผนการ “พี่ใหญ่ของข้ารูปงามถึงเพียงนี้ ข้าเองก็งดงามมากนัก เอาอย่างนี้ดีหรือไม่? ท่านเข้าไปล่อลวงคนรักของเขา ส่วนข้าก็เข้าไปล่อลวงเขา ให้พวกเขาแยกออกจากกัน”

    คนพี่พยักหน้าน้อยๆ คลี่ยิ้มบางเบา แค่เท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบ

    เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทั้งสองจึงเรียกเสี่ยวเอ้อร์มาเก็บเงินค่าอาหาร จับจังหวะพอดีกับชายหญิงที่โต๊ะเป้าหมายจ่ายเงินแล้วลุกขึ้นเดินจากไป

    หลวนเหยายังไม่ลืมที่จะหันหน้ามากำชับพี่ชายของตนเสียงเข้ม

    “พี่ใหญ่! ท่านอย่าลืมนะ ว่าระหว่างสองคนนั้น ท่านต้องไปล่อลวงสตรี หาใช่บุรุษ!

    หลวนเยว่หันมาส่งค้อนขวับให้น้องสาวแวบหนึ่ง


    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับ E-Book คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTU0NTM5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg1ODk5Ijt9

    Thumbnail Seller Link
    สาวใช้พระกาฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อทายาทสาวน้อยจ้าวยุทธ์ ต้องมาอยู่ในคราบสาวใช้ของนายสาวผู้อ่อนแอ..."คุณหนูท่านรักบุรุษผู้นั้น""ข้ากับเขาคบหากันมา...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×