ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โชคชะตานำพารัก [จบ]

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่4 แรกพบแต่ไม่สบตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.18K
      625
      10 พ.ย. 66

    นิยายเรื่องนี้มีฉบับอีบุ๊ค


    คลิกเลย >>> โชคชะตานำพารัก

    *

    สวนพฤกษาที่ห่างไกลหมู่บ้านออกมาจากตัวเมืองหลวงของแคว้นจ้าวไม่ไกลกันนัก

    บนต้นไม้หนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมธารที่มีสายน้ำไหลเอื่อยเฉื่อย ให้รู้สึกเย็นฉ่ำกำลังเคลื่อนตัวกระทบแสงวิบวับกับดวงตะวันบนฟ้า

    บนต้นไม้ต้นนี้นอกจากจะให้ร่มเงาแก่ผู้เดินทางเพื่อใช้หลบเลี่ยงแสงแดดอันแรงกล้าซึ่งแผดเผาแล้ว ยังเป็นที่พำนักพักพิงเพื่อหลบเร้นซ่อนกายให้แก่บุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง สำหรับให้เขาได้นั่งทอดอารมณ์ขุ่นเคืองเกี่ยวกับเรื่องราวหลากหลายที่ได้เจอะเจอมาในแต่ละวัน

    บุรุษผู้กำลังนั่งอยู่บนต้นไม้ มีรูปกายที่งดงาม ใบหน้าหล่อเหลา  สันจมูกตั้งตรงรับกับริมฝีปากสีแดงสด โครงหน้าคมสันนี้มีความคมคายที่ละมุนละไมยิ่ง ทว่าดวงตาคมเข้มใต้คิ้วเรียวยาวกลับเย็นชามาก เนื่องจากชื่นชอบการแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาวธรรมดา ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบสีสันแสบตา ทั้งยังไม่นิยมชมชอบการอยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก โดยเฉพาะในวังหลวงที่มีบุปผาล่อลวง

    ในรั้วในวัง เขา  ไม่  ชอบ!

    เขามีนามว่า จ้าวหนิงหลง องค์ชายที่ใครๆ มักจะคิดว่าเขาเป็นโอรสสุดที่รักของฮ่องเต้จ้าวเฟยเซียน นั่นจึงทำให้เขามีชีวิตในแต่ละวันภายในรั้วพระราชวังอย่างไม่เป็นสุขเท่าใดนัก

    เสด็จแม่ของเขาเป็นแค่สนมธรรมดาคนหนึ่ง เพียงแต่...เสด็จแม่มิใช่แค่สนมธรรมดา แต่เสด็จแม่ของเขาเป็นคนรักที่แท้จริงของเสด็จพ่อ

    หากว่าเสด็จพ่อของเขามิใช่ฮ่องเต้ ก็คงจะดีไม่น้อย

    เสด็จแม่ของเขาก็คงไม่ถูกเหล่าสนมและฮองเฮารุมอิจฉาริษยาจนสิ้นชีวิตไปอย่างอัปยศอดสู แม้แต่เสด็จพ่อกับเขาก็ไม่อาจเอื้อมมือเข้าช่วยได้ทันการ  แต่ทว่า นั่นมิใช่ประเด็น

    นั่นมิใช่ประเด็นของเรื่องในวันนี้

    ประเด็นของเรื่องในวันนี้ที่ทำให้จ้าวหนิงหลงต้องขุ่นเคืองในใจจนต้องมานั่งทอดอารมณ์บนต้นไม้นี่ เรื่องอันน่าขัดเคืองของวันนี้ก็คือการบังคับหมั้นหมายกับสตรีนางหนึ่ง

    ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ และเขามิได้ชมชอบนาง

    มิได้ต้องการหมั้นหมายหรือแต่งงานกับสตรีนางใดเพื่อการเมือง

    แต่จะว่าไปแล้ว...

    สตรีที่จะได้หมั้นหมายกับเขาเป็นใครกัน?

    เป็นสตรีที่ไหน?

    เป็นธิดาของใครกัน?

    เขาลืมถามเสด็จพ่อไปเสียได้!

    ในขณะที่จ้าวหนิงหลงกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนต้นไม้อยู่นั้น ภายใต้ต้นไม้ต้นเดียวกันนั่น พลันปรากฏกายของบุคคลสองคนในอาภรณ์ของบุรุษหนึ่งคนกับอาภรณ์สตรีหนึ่งคน

    พวกเขาเดินมานั่งหลบแดดที่กำลังแผดเผาอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนี้ เพื่อใช้ร่มเงาของมันช่วยแบ่งเบาไอความร้อน ที่กำลังแผ่กำจายอยู่โดยรอบเรือนกายในยามกลางวัน

    ท่ามกลางแสงแดดซึ่งกำลังบั่นทอนอากาศจนร้อนระอุแสบตา กระแสเสียงใสกังวานดังขึ้น

    จ้าวหนิงหลงรึ?

    บุคคลผู้แต่งกายสตรีปกติเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแหลมสูงไปทางบุคคลที่ใส่อาภรณ์บุรุษ

    นางเอ่ยนามของคนที่อยู่บนต้นไม้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งไม่รู้ว่ามีคนอยู่บนต้นไม้

    เสียงหวานของอีกคนหนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยชุดบุรุษเอ่ยขึ้นบ้าง ใช่แล้วล่ะ เป็นองค์ชายด้วยเชียวนะ องค์ชายองค์ใดกัน?”

    ทั้งนามทั้งประโยคที่เอื้อนเอ่ยเช่นนั้นพาเอาบุรุษรูปงามซึ่งกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนต้นไม้ต้นเดียวกันพลันสะดุดหู

    “เขาเป็นองค์ชายคนใด ข้าก็ไม่รู้จัก หน้าตาหรือข้าก็ไม่เคยเห็น สงสัยหน้าตาคงจะขี้ริ้วขี้เหร่เป็นแน่ ไยต้องหมั้นหมาย ข้าไม่เห็นเข้าใจ สตรีงดงามอย่างข้าไม่เข้าใจเสียจริง

    ประโยคและน้ำเสียงแว่วหวานที่ขัดกับอาภรณ์ที่สวมใส่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องอยู่ใต้ต้นไม้

    ทุกคำทำเอาเจ้าของนามที่ถูกบุคคลใต้ต้นไม้เรียกขานคิ้วกระตุก

    เขาหรี่ตาลงมองเจ้าของน้ำเสียงหวานๆ ที่ผิดกับชุดที่นางสวมใส่

    นางว่าเขาขี้ริ้วแล้วใต้หล้านี้จะมีใครรูปงามกันเล่า?

     “เป็นถึงองค์ชาย ไยไม่หาคู่ครองเองล่ะ จะมาบังคับหมั้นหมายกับสตรีดีเลิศอย่างข้า ชิ!ฝันไปเถอะ

    ประโยคถัดมาทำเอาจ้าวหนิงหลงเกือบตกต้นไม้

    เสียงของบุคคลในอาภรณ์บุรุษใต้ต้นไม้ยังกล่าว เป็นองค์ชายคิดว่าดีนักหรือไร? มีบุรุษอื่นดีกว่าเยอะแยะ เฮ้อ!”

    ประโยคนั้นพลันเงียบหายไปหลังจากเสียงถอนหายใจเกิดขึ้นอย่างปลดปลง

    ใจเย็นๆ ก่อนจิวซินเสียงของสตรีที่มาด้วยกันเริ่มเอ่ยปลอบพลางตบไหล่ของบุคคลในอาภรณ์บุรุษอย่างเห็นอกเห็นใจ

     “ข้าจึงคิดจะหนีไปทำใจก่อน ยังทำใจไม่ได้จริงๆ นะ ข้าไม่อยากแต่งงานกับองค์ชายอะไรนั่นเลยนะ ลู่ชิง

    สตรีในอาภรณ์บุรุษยังคงเอ่ยคำตัดพ้อต่อโชคชะตา

    จ้าวหนิงหลงถึงกับต้องก้มหน้าลงมองเจ้าของเสียงในฉับพลัน

    และคนถูกมองกลับมิได้รู้ตัวสักนิด

     

    สายลมเย็นโชยเอื่อยท่ามกลางแสงแดดแผดจ้า ใต้ต้นไม้ให้ร่มเงา หญิงสาวสองคนนั่งคุยกัน

    คนแต่งกายเป็นบุรุษเป็นใครไปมิได้นอกจากจิวซิน นางมีนามว่า หยางจิวซิน ธิดาคนเดียวของหยางเซิง องครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้  

    นางแอบได้ยินท่านพ่อกับท่านแม่คุยกันว่าจะต้องหมั้นหมายกับองค์ชายผู้หนึ่ง นามว่าจ้าวหนิงหลง

    ซึ่ง...

    เขาเป็นองค์ชายคนใด นางก็ไม่รู้จัก

    วังหลวงหรือนางก็ไม่เคยได้เข้าไป

    ท่านพ่อของนางเป็นองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ก็จริง

    แต่ทว่า...ท่านพ่อของนางมิใช่ขุนนางใหญ่โต มิใช่ข้าราชบริพารที่จะต้องออกงานเลี้ยงสังสรรหรือออกหน้าออกตาต่อธารกำนัล

    ท่านพ่อของนางทำงานเป็นองครักษ์เงา

    ซึ่ง...ไร้ตัวตน...

    ไร้ผู้ใดพบเห็น ...นอกจากฮ่องเต้

    และยิ่งถ้าเป็นบุคคลในครอบครัวของบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์เงาด้วยแล้ว ยิ่งไม่สมควรปรากฏตัวตนออกสู่สาธารณชน

    แล้วไยต้องให้นางหมั้นหมายกับองค์ชายด้วยเล่า

    ชีวิตในรั้วในวังนางชอบเสียที่ไหน

    เฮ้อ!” จิวซินถอนหายใจออกมาอีกครา ก่อนนั่งลงเอาแผ่นหลังพิงต้นไม้แล้วหลับตาเอียงหน้าขึ้นอิงศีรษะกับต้นไม้เพื่อพักผ่อนสายตา

    อา...แต่จะว่าไปสตรีในอาภรณ์บุรุษใต้ต้นไม้ยังคงกล่าว เสื้อผ้าของท่านพ่อนี่ใหญ่เกินไปนะว่าแล้วก็ลืมตาผงกศีรษะยกแขนขึ้นทั้งสองข้าง แต่ก็ดีนางเอ่ยประโยคถัดมาอย่างหลายใจหลากอารมณ์ ใหญ่อย่างนี้ก็ดีจะได้บดบังหน้าอกอวบนูนนุ่มอิ่มของข้าได้อย่างมิดชิด

    จบประโยคก็เอื้อมมือของตนลูบๆ คลำๆ แล้วบีบเคล้นเน้นเบาๆ ที่หน้าอกของตนเอง

    จ้าวหนิงหลงถึงกับเผลอกลืนน้ำลาย

    เจ้าอยู่ที่นี่นั่นเองเสียงของบุรุษผู้หนึ่งพลันดังขึ้น

    มาแล้วหรือ? อาเหอจิวซินเอ่ยทักทายบุรุษผู้กำลังเดินมาไกลๆแต่เสียงดังโวยวายก่อนตัวเสมอ

    เขามีนามว่าจิ้นเหอ เป็นสหายของจิวซิน ทั้งยังเป็นบ่าวชายในคฤหาสน์ใหญ่โตแห่งหนึ่งนอกเขตเมืองของวังหลวงในแคว้นจ้าวแห่งนี้

    นี่เจ้าปลอมตัวแล้วรึ?” จิ้นเหอถามจิวซินทันทีที่เดินมาถึงสตรีในอาภรณ์บุรุษที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้

    ใช่จิวซินตอบ

    ไยยังงดงามปานนั้นจิ้นเหอถามออกมาตรงๆ ตามวิสัย

    จิวซินยังไม่กล่าวตอบสิ่งใด นางเพียงยกฝ่ามือขึ้นแล้วกุมแก้มของตนเอง

    เช่นนั้น ทำอย่างไรดี?” นางเอียงหน้าถาม

    จิ้นเหอมองสำรวจโดยละเอียดก่อนเอ่ย เจ้าเห็นดินโคลนดำๆ ตรงริมลำธารหรือไม่?”

    จิวซินหันไปมองพลางตอบ อืม...เห็น

    เจ้าเดินไปหยิบมันมา

    จิวซินลุกขึ้นเดินแล้วไปหยิบดินโคลนมาตามคำ

    แล้วทาเข้าไปที่ใบหน้าของเจ้า

    จิวซินหยิบดินโคลนมาป้ายหน้าตามที่จิ้นเหอบอก

    "เช่นนั้นแหละ รอให้มันแห้งสักครู่ก็ใช้ได้แล้ว" จิ้นเหอกล่าวขึ้นพร้อมมุมปากยิ้มเล็กๆ แต่เจ้าเล่ห์มาก

    อืม...จิวซินพยักหน้าน้อยๆ แต่...เดี๋ยวนะ

    จิ้นเหอที่รู้แล้วว่าบุคคลที่ตนกำลังคิดจะกลั่นแกล้งรู้ตัวเสียแล้ว เขาจึงรีบกลับหลังหันแล้ววิ่งหนีไปอย่างเร็ว

    หยุดนะอาเหอ...จิวซินวิ่งตามจิ้นเหอไปติดๆ

    อ๊ะรอข้าด้วยเสียงของสตรีอีกนางหนึ่งที่มาด้วยกันพลันวิ่งตามไปติดๆ เช่นเดียวกัน

    ยามนี้...ทุกผู้คนที่อยู่บนพื้นดินได้หายหมดไปแล้ว

    แต่ยังคงเหลือเอาไว้เพียงบุรุษคนหนึ่งที่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนต้นไม้

    และ...จ้าวหนิงหลงที่นั่งอยู่บนต้นไม้จึงได้เห็น

    ว่าที่คู่หมั้นของตน...

    โดยบังเอิญ...

    Thumbnail Seller Link
    โชคชะตานำพารัก
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    นางไม่ยินยอมให้ตนเองถูกจับหมั้นหมายและแต่งงานกับบุรุษที่เป็นถึงองค์ชายสูงศักดิ์ นางไม่อยากเข้าไปอยู่ในวัง ไม่อยากถูกขังในกรง จึงหนีออกมาเป็นบ่าวชายรับ...
    Get it now

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×