คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 2 เร่งช่วยเหลือ
“พี่เฟยเทียน!”
เจ้าของนามรีบผละออกจากสตรีตรงหน้า เขาเบิกตามองตามเสียงจึงเห็น...ไป๋ลี่ถิง!
ไป๋หมิงเยว่ลอบกระตุกยิ้มสาสมใจ
ทันทีที่หลี่เฟยเทียนเห็นไป๋ลี่ถิง เขาก็ชะงักงันตัวเกร็ง
อ้อมแขนอบอุ่นที่โอบกอดไป๋หมิงเยว่อย่างอ่อนโยนพลันแข็งค้างไปถนัดตา ไม่ช้ายังรีบผละจากอย่างตกใจ
แน่นอนว่าไป๋หมิงเยว่สัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของเขา เรื่องนี้ยิ่งกว่ามีมีดนับหมื่นเล่มทิ่มแทงนางจนเลือดโชก หญิงสาวเจ็บร้าวเกินทานทนจนกระทั่งต้องปัดแขนเขาออก แล้วหันหลังวิ่งหนีอย่างคนไร้ทางสู้
ไป๋หมิงเยว่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้องร้องไห้อยู่คนเดียวก่อนจะเป็นลมสลบไป
จิ่นซินเห็นเช่นนั้นก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว
แม้คุณหนูจะไม่ให้นำเรื่องราวในจวนไปปรึกษาใคร แต่การเงียบหาใช่ทางออกที่ดีไม่
มีความจริงอยู่หนึ่งประการ แม้จวนไป๋จะเป็นเพียงขุนนางขั้นเจ็ด ทว่ากลับมีพระสนมคนหนึ่งสนิทสนมกับมารดาของไป๋หมิงเยว่มาก เนื่องจากเคยมีบุญคุณต่อกัน
จิ่นซินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าพบพระสนมผู้นั้น
ทั้งลำบากและใช้เวลาเนิ่นนาน แต่สาวใช้ตัวน้อยกลับไม่ย่อท้อ ในที่สุดวันที่เฝ้ารอก็มาถึง จิ่นซินได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าถึงตำหนักพระสนมเว่ยโดยขันทีผู้หนึ่ง
เรื่องราวฟ้องร้องจึงพร่างพรูออกจากปากของจิ่นซิน ตามความเป็นจริงทุกประการโดยไม่มีการหมกเม็ดใดๆ นางเล่าพลางร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนาราวจะขาดใจ
ช่างเป็นสาวใช้ที่ภักดีอย่างยิ่ง
พระสนมให้รู้สึกชื่นชมระหว่างรับฟังเรื่องราวโสมมในจวนไป๋ เมื่อฟังจบจึงบังเกิดความคิดฉุดดึงไป๋หมิงเยว่ให้หลุดพ้นขึ้นจากห้วงทุกข์ระทมขมขื่นใจจึงคิดจับคู่ให้เสียเลย
ช่วงนี้นางกำลังเป็นที่โปรดปราน ใช้เวลานอนคุยเรื่องสัพเพเหระกับฮ่องเต้ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น
และบางครั้งฝ่าบาทก็มักจะพลั้งเผลอพร่ำบ่นเรื่องงานราชกิจออกมาบ้างเล็กน้อย
“แม่ทัพหยางเปี่ยมบารมี ฝีมือสูงส่ง เริ่มเรืองอำนาจมากเกินไป การกำจัดเขามิใช่ทางออกที่ดี ถึงอย่างไรฝีมือสูงส่งของเขายังสร้างคุณประโยชน์แก่แผ่นดินได้อีกมาก”
“เช่นนั้นสมรสพระราชทานเพื่อลดทอนความล้ำเลิศไยมิใช่ควรเกิดขึ้นเล่าเพคะ” พระสนมแย้มยิ้มอ่อนหวานพลางกล่าววาจาเสนาะโสตคล้ายไม่ใส่ใจ
“แม่ทัพผู้แข็งกระด้างปานศิลากับหญิงสาวธรรมดาไร้ยศศักดิ์ไร้อำนาจสนับสนุน มิใช่คู่ที่เหมาะสมหรือเพคะ”
ฮ่องเต้เยี่ยนเลิกคิ้ว อันที่จริงมิใช่ว่าพระองค์จะไม่รู้ว่าสนมแต่ละนางเป็นเช่นใด แอบพบใครบ้างในแต่ละวัน ทว่าเพราะกำลังเสาะหาสตรีที่สมควรเป็นหมากตานี้อยู่พอดีจึงไม่ได้ขัดสนมเว่ยในเรื่องนี้ อีกอย่างพระองค์เองก็ลองถามหยั่งเชิงกับพระสนมคนใดก็มีแต่แนะนำหลานสาวจากตระกูลตัวเองเพื่อเสริมอำนาจแห่งตนไปเสียสิ้น
เมื่อหยั่งเชิงกับขุนนาง พวกเขาก็เอาแต่อ้ำอึ้งอึกอัก มิกล้าออกความเห็น
ทว่าสกุลเว่ยกับสกุลไป๋นั้น สายสัมพันธ์ห่างไกล ไร้เส้นสายโยงใย เรื่องขั้วอำนาจอันใดยิ่งไม่มี
แน่นอนว่าฮ่องเต้ส่งสายลับออกไปสืบหาข้อเท็จจริงในประสงค์ของสนมเว่ยได้ไม่ยาก
สนมเว่ยไหนเลยจะล่วงรู้พระทัยฮ่องเต้ถึงขั้นนั้น นางเพียงแนะนำไป๋หมิงเยว่ตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะมารดาของอีกฝ่ายเคยช่วยนางเอาไว้ครั้งหนึ่ง
เฮ้อ! ถือว่าตอบแทนคุณให้แก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ข้าเองก็ช่วยบุตรสาวของท่านได้เท่านี้ล่ะ! สนมเว่ยคิดเพียงต้องการให้ไป๋หมิงเยว่หลุดพ้นจากครอบครัวที่ละเลยและบุรุษเห็นแก่ตัว นางจึงเอ่ยอย่างเรียบง่ายไร้แผนการใดว่า
“นางคือคุณหนูใหญ่สกุลไป๋แห่งจวนขุนนางขั้นเจ็ด ไร้มารดา บิดาไม่ใส่ใจ นามว่าไป๋หมิงเยว่เพคะ แน่งน้อยผู้นี้ไร้ตัวตนในจวน หมดอำนาจตั้งแต่มารดาตาย ปราศจากคู่หมั้นคู่หมายเป็นเรื่องเป็นราวแม้อายุล่วงเข้าสิบแปดปีแล้ว และที่สำคัญ ทั้งนางและตระกูลมิได้มีอำนาจมากจนเกินไป นิสัยใจคอหรือก็อ่อนแอชวนปวดใจ เหมาะแก่การดึงรั้งบารมีขุนนางเรืองอำนาจได้อย่างดีเพคะ”
เมื่อฟังจนจบ เนตรมังกรพลันเปล่งประกายเข้มลึก พระสนมเว่ยคนงามจึงได้รับสิทธิ์ปรนนิบัติจนรุ่งสาง...
นิยายเรื่องนี้มีฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>
|
ความคิดเห็น