คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 4 ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้า!1
เพราะต้องแสงจันทร์โดดเด่นในคืนเดือนเพ็ญ ค่ำคืนนั้น ราตรีแม้สลัวราง ทว่าเบื้องล่างที่ปกคลุมด้วยพื้นหญ้าอ่อนนุ่มกลับสว่างไสว
กลางหุบเขาเดือนดาว ลานกว้างราบลุ่ม ฟ้าปกดิน ข้างกายหลิวไท่หยางเห็นแม่นางโม่ซิงเยว่ในอาภรณ์สีแดง ผ้าคลุมหน้าสีแดง รอบกายกำจายกลิ่นอายมงคล
แม้ไร้แขกเหรื่อร่วมยินดีทว่าเพื่อค่ำคืนอันเป็นมงคล ชายหญิงอารมณ์รุ่มร้อนคลั่งใคล้ในรักคู่หนึ่งจึงไร้ซึ่งความคิดเฉกเช่นคนทั่วไป
พวกเขาเพียงต้องการเคียงคู่ยืนข้างคำนับฟ้าดิน คำนับกันและกัน
สัญญารักมั่นมิเสื่อมคลาย
เมื่อผ้าคลุมหน้าสีแดงถูกบุรุษเปิดออก สตรีแน่งน้อยจึงคลี่ยิ้มอบอุ่นกล่าววาจาเอาแต่ใจ “ต่อไปข้าเป็นของท่าน ส่วนท่านก็เป็นของข้า ร่างกายทุกส่วนล้วนเป็นของกันแล้ว ท่านจงจำไว้ห้ามลืม...”
ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นยิ่งคลี่ยิ้มเปี่ยมสุข เนตรลุ่มลึกยิ่งเผยแววรักใคร่ เรียวนิ้วไล้เกลี่ยแก้มนวลก่อนเชยคางมน ก้มหน้ากระซิบเสียงทุ้มนุ่ม
“ข้าเป็นของเจ้าตลอดไป...”
จุมพิตละมุนเกิดขึ้นเนิ่นนาน ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงนิทราหวาน มิย้อนคืน...
ยามนั้น หลิวไท่หยางตามใจซิงเยว่แค่คำนับฟ้าดิน คำนับกันและกัน
เขาเพียรกดข่มอารมณ์รุ่มร้อนของวัยหนุ่มแน่นที่มีเลือดลมพลุ่งพล่าน พยายามอดใจเอาไว้มิเข้าหอกลางป่าอย่างอุกอาจ ด้วยเกรงว่าพิธีอันเป็นมงคลยังไม่ครบถ้วน จำต้องรอเวลาอีกสักหน่อย
ทว่ากลับทำให้ซิงเยว่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ท่านรังเกียจข้า จึงไม่ยอมมอบบุตรให้ข้าหรือ?”
นอกจากการกระทำจะเอาแต่ใจ ถ้อยวาจาของนางยังเอาแต่ใจยิ่งกว่า
“ท่านสมควรมอบบุตรให้ข้า!”
สุภาพชนผู้หนึ่งจึงรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับฟ้าพิโรธยามไร้คลื่นลม
“ซิงเอ๋อร์ เจ้ารักข้าถึงเพียงนี้เชียว?”
ไม่นานหลังจากนั้น เขาจึงหอบสินสอดหลายสิบหีบไปสู่ขอนางเพื่อตบแต่งเข้าจวนอย่างสมเกียรติ
ตั้งมั่นคืนแต่งงานว่าจะให้ความสำคัญยามเข้าหอ เจ้าบ่าวที่ดีสมควรประคับประคองเจ้าสาวอย่างทะนุถนอม มอบความรักใคร่ลึกซึ้งจนล่วงพ้นราตรีทองคำ
หมายประกาศก้องเกริกไกรให้ทั่วหล้าว่านางคือภรรยาของข้าอย่างเต็มภาคภูมิ
ทว่าวันนั้น นางกลับสะบั้นเยื่อตัดใยไร้ปรานี...
คืนนี้ ต้องขอบคุณแจกันใบนั้นในมือของโม่ซิงเยว่ที่ทำให้หลิวไท่หยางได้สติกลับคืนมา อย่างน้อยตัวเขาก็ยังไม่พลั้งเผลอเปิดปากโพล่งความจริงออกไป
ใช่! เขาจะไม่บอกอะไรแก่นางแม้แต่คำเดียว
ยามนี้เป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้แก้แค้นอย่างสาสม
นางผู้เหยียบย่ำหัวใจอันรักมั่นของเขาจนแหลกเหลวไม่เหลือดี สมควรต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างที่สุด
ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยไม่เผยอารมณ์ใด หลิวไท่หยางคิดในใจอย่างร้อนรุ่ม แววตาคมกริบถูกรุมเร้าด้วยเพลิงแค้นสุมทรวง
บนศีรษะของเขามีผ้าสีขาวพันแผลเอาไว้โดยรอบอย่างโดดเด่น ช่างเป็นภาพชวนบาดตาบาดใจให้แก่บ่าวไพร่ผู้ภักดีเหลือเกิน
คราวนี้พ่อบ้านเหิงกระอักเลือดออกมาจริงๆ แล้ว
ทาสสาวซิงเยว่ผู้นั้นเป็นปีศาจจากนรกขุมใดกัน!
และยามนี้ ทาสสาวจากนรกขุมลึกลับของเหิงอันกำลังถูกคุมตัวไปโบยอยู่ในป่าไผ่ของเรือนซักล้างด้านหลัง โทษทัณฑ์ข้อหาที่ทำร้ายเจ้านายเยี่ยงนั้น ...น้อยเสียที่ไหน
ใช้แจกันฟาดผู้เป็นนายจนหัวแตกเลือดอาบเลยนะ!
ซิงเยว่ถูกตีโดยคำสั่งอันเกรี้ยวกราดของเหิงอันทันที
เสียงไม้กระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วป่าไผ่ คนโบยมิได้ออมแรงเลยสักเสี้ยว ซิงเยว่กัดปากอดทนจนเลือดซึม
แน่นอนนางเจ็บ...แต่ไม่รู้ว่าทำไมการกรีดร้องหรือแสดงความอ่อนแอออกมา มันเสมือนไม่ใช่นิสัยของนาง
หญิงสาวหลับตาครุ่นคิดลืมแรงเสียดทานกลางหลังและความเจ็บปวดที่แทรกซึมเนื้อหนังไปจนสิ้น
อาจเป็นเพราะนางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ต้องอดทนทำงานหนักหนาสาหัส
กระทั่งหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจนต้องขายตัวเป็นทาส ตามคำบอกเล่าของท่านอาซุนเทียนหัวหน้าผู้ดูแลและควบคุมแรงงานทาสที่ช่วยเหลือนางผู้นั้น
‘เฮ้อ...หนี่เอ๋อร์เอ๋ยหนี่เอ๋อร์ รอบกายเจ้าไม่เหลือใครรอดสักคน เจ้าก็ยังความจำเสื่อมเสียได้ แต่อย่ามัวโทษดินโทษฟ้าเลยเพราะมันคือชะตาชีวิตของเจ้า ข้าช่วยเยียวยารักษาร่างกายจนหายดีแล้วก็อย่าเสียเวลาตอบแทนข้าหรือมัวคิดเคียดแค้นพวกโจรถ่อยที่ปล้นชิงเลย ข้าส่งเจ้าได้แค่นี้ ต่อไปจงใช้ชีวิตอย่างมีสติใคร่ครวญให้ดี พึงระมัดระวังและอดทนให้เหมือนเดิมเถิด บิดามารดาญาติพี่น้องบนสวรรค์จะได้ตายตาหลับ’
ความปวดแสบรวดร้าวแผ่ลามไปทั่วแผ่นหลังบาง นางกำลังมึนงง สองหูอื้ออึง สมองน้อยๆ เริ่มขาวโพลน สติของซิงเยว่เริ่มเลือนรางเต็มที
กระนั้นคำกำชับยังคงดังก้องไม่มีตกหล่น คนผู้หนึ่งสำนึกรู้ว่าต้องอดทนนับแต่ลืมตาขึ้นมาพร้อมความทรงจำที่ว่างเปล่า ไหนเลยจะรู้สึกถึงความย้อนแย้งในวาจาของใคร
นางมิได้สงสัยคำพูดของพ่อค้าทาสผู้นั้นเลยสักนิด
ยามนี้ หญิงสาวได้แต่ภาวนาว่าเมื่อไหร่การโบยตีจะสิ้นสุดลงเสียที
นางผิดที่ใดกระนั้นหรือ?
มิใช่ว่านายน้อยหรือที่ทำผิด?
เขาคิดจะขืนใจนางไม่ใช่หรือไร?
อ้อ...ลืมไป สาวใช้ผู้หนึ่งสมควรยินดีกับการกระทำเช่นนั้น การเป็นที่รักใคร่โปรดปรานของเจ้านายคือหนทางอยู่รอดหนึ่งเดียวของเหล่าบ่าวไพร่ เรื่องนี้ผู้คนเพียรตอกย้ำให้แก่นางที่เป็นเพียงทาสได้รับฟังจนนับครั้งไม่ถ้วน
ทว่าก่อนที่ม่านตาจะหรี่แสง ความมืดจะแผ่ขยาย อนธการย่างกราย ซิงเยว่กลับรู้สึกคล้ายเห็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง
เขาผู้นั้นสวมอาภรณ์ผ้าไหมหรูหรากำลังเดินโวยวายเข้ามาทางนาง
“ใครให้เจ้าบังอาจนำตัวนางมาโบย!?”
หลิวไท่หยางคำรามลั่นอย่างโกรธา สายตาคมกล้าบัดนี้คล้ายดาบคมกริบพร้อมปลิดชีวิตผู้คน
ท่วงท่าองอาจยังแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยและหวงแหนต่อนางผู้ถูกโบยปานนั้น
เขาหันไปสั่งจิ้นสิง “นำตัวพ่อบ้านเหิงไปโบยให้หนักแล้วจับขังในคอกหมูหนึ่งเดือน!”
เหิงอันกระอักเลือดจนหมดตัวเนื้อหนังพลันซีดเผือด
วันนี้เป็นวันนรกแตกใช่ไหม?
และแล้วสติของซิงเยว่ก็ดำมืดดับวูบไป ท่ามกลางความกราดเกรี้ยวอันน่ากังขานั้นของหลิวไท่หยาง
|
|
|
ความคิดเห็น