ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอโอกาสรักอีกครั้ง [จบ]

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่6 คำมั่นสัญญา

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 67


    “ข้าหลี่ชาง ขอสัญญาว่าจะรักเพียงเฮ่อเหลียนและจะมีเพียงเหลียนเอ๋อร์คนเดียวตลอดไป...”

    ประโยคนี้ที่หวานล้ำลึกซึ้งเมื่อกาลก่อน เหตุใดวันนี้ถึงคล้ายใบมีดคมร้อนฉ่าที่กรีดเฉือนใจนางจนขาดวิ่นไม่เหลือดี

    เฮ่อเหลียนไม่เข้าใจ

    ว่าความทรมานรวดร้าวในโพรงอกยามนี้จักพรรณนาเป็นคำพูดว่าอย่างไร

    เฮ่อเหลียนไม่เข้าใจ

    ว่าจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร เมื่อหัวใจของนางถูกฉีกทึ้งจนเป็นแผลกว้างยากจะประสานได้ถึงเพียงนี้

    เสียงเตียงโยกโยนเกิดขึ้นอีกครั้งในเช้านี้ เสมือนเมื่อคืนที่ผ่านมา หากแต่หญิงสาวมิได้เพียงแค่ยินเสียง

    แต่ภาพของสามีนางกำลังขึ้นคร่อมอยู่บนร่างของสตรีนางนั้น พร้อมจังหวะกลางลำตัวไม่มีสะดุดลงสักครา ผสานกับเสียงครวญครางอย่างสุขสมขาดเป็นห้วงๆ เช่นนี้ ทำเอาสติอันน้อยนิดกับความยั้งคิดเส้นสุดท้ายของเฮ่อเหลียนขาดสะบั้นลงโดยพลัน

     “อาชาง...”

    หญิงสาวเจ็บปวดเสียจนน้ำเสียงสั่นเครือยามเอ่ยปากเรียกขานนามของสามี

    แต่ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงของหญิงสาวจะน้อยจนเกินไป เสียงเรียกของนางจึงไม่อาจดังไปกว่าเสียงหอบครางที่กำลังเกิดขึ้นบนเตียงนอน

    ร่างระหงในชุดคลุมสีขาวเตรียมนอนแต่ไม่ยอมนอน     จึงเยื้องกรายเข้าใกล้พวกเขาอีกเล็กน้อยอย่างใจกล้าบ้าบิ่น ไม่ยั้งคิดอันใดทั้งสิ้น ก่อนเอ่ยเรียกสามีอีกครา ด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม

    “อาชาง”

    และมันก็ได้ผล เสียงของเฮ่อเหลียนทำเอาจังหวะรัญจวนใจของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหยุดชะงักทันที

    หลี่ชางเงยหน้าจากซอกคอระหงขึ้นมองภรรยาของตนทันใด ชายหนุ่มอึ้งงันแข็งค้างในบัดดล ดวงตาคู่คมเบิกกว้างอย่างตกใจ ส่วนหญิงสาวอีกคนพลันกรีดร้องดังลั่น ปานฟ้าจะถล่มลงมาเสียให้ได้

    “อ๊าย! ท่านพี่”

    ฟางเอ๋อร์ร้องร่ำอย่างอับอาย รีบบิดตัวซุกซบแผงอกของหลี่ชางพัลวัน

    ชายหนุ่มรีบหยัดร่างขึ้นเพื่อถอนกายแข็งขึงออกจากกายนุ่มนิ่มใต้ร่าง แล้วรีบหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างของหญิงสาวเอาไว้อย่างลนลาน ก่อนกล่าวด้วยเสียงแตกพร่ากับภรรยาอีกคนว่า

    “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?

    เมื่อได้ยินดังนั้นผู้ฟังก็ไร้คำพูดใด ทั้งแววตาและท่าทีตระหนกแตกตื่นเช่นนี้ของสามี เฮ่อเหลียนหาได้ยินดีไม่

    เพราะนี่คือสัญญาณนอกใจกันอย่างแท้จริง

    หญิงสาวถึงกับยืนเงียบงันไม่แม้แต่จะหายใจออกมา นางปราศจากวาจาอยู่เนิ่นนาน ทำได้เพียงยืนมองชายหนุ่มผู้เป็นสามีด้วยดวงตาแดงก่ำ ไม่นานน้ำตาก็ไหลรินเป็นสาย ราวกับทำนบเขื่อนกั้นพังทลาย หากแต่ร่างบางยังคงยืนนิ่งอย่างสงบ แลดูสุขุมเยือกเย็นเช่นปกติ มีเพียงริมฝีปากนางที่สั่นระริก   เพราะพยายามกลั้นหายใจ มิให้ตนเองปล่อยโฮออกมา

    ทว่าน้ำอุ่นกลับยิ่งไหลกลิ้งจากดวงตาฉ่ำชื้นหยดแล้วหยดเล่าจนชุ่มแก้มเนียน

    นางรู้ดีว่าไม่ควรเข้ามา แต่นางก็เข้ามา นางรู้ดีว่าไม่ควรทำเช่นนี้ แต่นางก็ยังทำ

    เพียงแต่นางไม่รู้ว่ามันจะทรมานจนเกินไป

    หลี่ชางค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอน เพื่อเดินมาใกล้ร่างที่กำลังสะกดอาการสั่นเทิ้มของเฮ่อเหลียน กระทั่งเสื้อผ้าก็ยังลืมใส่ ฝ่ามืออุ่นของเขาค่อยๆ แตะแต้มพวงแก้มเนียนของนางเบาๆ เพื่อไล่น้ำตาออกจากวงหน้างาม

    แต่ทว่าเขากลับไม่เอ่ยคำใด

    ไม่แม้แต่จะแก้ตัว

    มีเพียงแววตาดำลึกที่มองนางยามก้มนิ่ง

    เฮ่อเหลียนมองชายผู้เป็นสามีด้วยความรวดร้าวสุดแสน หัวใจว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

    ความรู้สึกของนางเจ็บปวดทรมานเกินทานทน

    มือหนาละออกจากใบหน้าของเฮ่อเหลียน เมื่อน้ำตาของนางมีมากจนเกินไป

    ไม่ว่าหลี่ชางจะช่วยเช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที

    เขามองนางด้วยดวงตาคู่เดิม หากแต่ประกายในนั้นคล้ายเปลี่ยนไป มันเหมือนมีม่านหมอกบางเบาปิดกั้นความรักที่เคยมีในแววตา

    บางทีอาจเป็นเพราะว่า นางร้องไห้มากจนตาพร่าเลือน

    เฮ่อเหลียนพยายามคิดเช่นนั้น ทว่าประโยคที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของหลี่ชาง ทำความพยายามครั้งสุดท้ายของนางต้องสะบั้นหลุดลอย

    “เจ้าออกไปก่อนเถิด เจ้ากำลังทำให้ฟางเอ๋อร์ตกใจ”

    เขาเอ่ยด้วยสีหน้าหวั่นวิตก มองแล้วให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมา สมควรเข้าข้างตนเองว่าเขาห่วงความรู้สึกนาง

    หากแต่ที่กล่าวเช่นนี้ มิใช่ว่าห่วงความรู้สึกของคนใหม่ว่าจะอับอาย มากกว่าความรู้สึกแตกสลายของคนเก่าหรอกหรือไร?

    เฮ่อเหลียนพลันเข้าใจ เห็นได้ชัดว่าการแต่งงานกับอนุผู้นี้ถูกเตรียมการเอาไว้แล้วโดยที่นางไม่รู้

    และก็เป็นไปได้ว่าสตรีนามว่าฟางเอ๋อร์ก็ได้พบเจอกับ    หลี่ชางมาแล้วก่อนแต่งงาน มิเช่นนั้นจักมีแม่สื่อออกหน้าได้อย่างไร

    พวกเขาคงมีความรู้สึกบางอย่างต่อกันมาพอควรแล้ว  ทั้งยังคงสานสัมพันธ์กันลับหลังนางมาแล้วระยะหนึ่ง

    มิเช่นนั้นพวกเขาจะแต่งงานกันภายในวันเดียวหลังจากที่ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหานางได้อย่างไร

    เมื่อคิดได้กระจ่างแจ้งเช่นนั้น เฮ่อเหลียนจึงยกมือปาดน้ำตาด้วยตนเอง แล้วเงยหน้ามองชายผู้เป็นสามีอย่างเต็มตา เห็นเขาก้มหน้ามองนางอย่างละอายแก่ใจอยู่บ้าง

    แต่แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำลงไปแล้ว...

    หญิงสาวกลั้นใจถามออกไปอย่างยากลำบาก “ท่านกับนางมิใช่ว่าเคยเจอกันครั้งแรกใช่หรือไม่? อาชาง”

    น้ำเสียงเย็นเยียบทำผู้ถูกถามต้องหลบตา ซึ่งนั่นคือคำตอบโดยไม่ต้องเอ่ย ผ่านไปนานทีเดียวกว่าเส้นเสียงแหบพร่าจะตอบกลับมา

    “ข้าเฟ้นหาสตรีที่พอจะมีทายาทให้ข้าได้ และคนที่บ้านของฟางเอ๋อร์ก็มีลูกง่ายกันทุกคน”

    “อ้อ...” เฮ่อเหลียนตอบรับเสียงแหบแห้งสะเทือนอารมณ์

    ในน้ำเสียงนั้นนางเย้ยหยันเขาและตนเองไปพร้อมกัน “เช่นนั้นหรือ?

    หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ อย่างเข้าใจ แต่ทว่าดวงตาของนางกลับสะท้อนความขมขื่นเต็มไปหมด ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างเย็นชา

    นางไม่อาจไม่เข้าใจ

    หญิงสาวไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะคิดเข้าข้างตัวเองหรือสามีอีกต่อไป ว่าเขายังคงรักและเมตตาปรานีนางมากกว่าผู้อื่น

    ใดๆ ล้วนมีเหตุผล การนอกใจก็เช่นกัน

    เขาถึงขนาดลอบเฟ้นหาลับหลังนาง

    ไม่ปรึกษานางสักคำ

    นานเท่าไหร่แล้วกระนั้นหรือ?

    ไม่เลย...นางไม่จำเป็นต้องรู้

    ในเมื่อหลี่ชางมีสตรีที่ดีพร้อมยิ่งกว่านางแล้วในวันนี้  สตรีที่สามารถทำตามความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดี

    ทั้งเรื่องทายาท ทั้งเรื่องตอบสนองความใคร่ ทั้งเรื่องลีลาถึงใจบนเตียงนอน ล้วนประจักษ์แจ้งแก่ใจนาง จากการฟังเสียงครางทั้งคืน

    หลี่ชางร่วมรักกับฟางเอ๋อร์นับครั้งไม่ถ้วนในคืนเดียว

    คนสดใหม่ขาวอวบคับแน่น ย่อมตื่นเต้นเร้าใจมากกว่าคนเก่าที่เขาบอกรักและให้คำมั่นสัญญา

    เฮ่อเหลียนล้วนเข้าใจ...

     

    ภายในเรือนหลังน้อยของอนุภรรยานามฟางเอ๋อร์

    เฮ่อเหลียนยังไม่ทันมีเรี่ยวแรงก้าวขาออกจากห้องนี้เพื่อกลับไปทำใจในเรือนตน เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นมา

    “พี่ชาง ฟางเอ๋อร์อับอายเหลือเกินเจ้าค่ะ ฟางเอ๋อร์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฟางเอ๋อร์จะกลับบ้าน”

    กล่าวจบก็ปิดหน้าสะอื้นไห้ปานจะขาดใจอย่างน่าสงสาร ท่าทางของนางน่าทะนุถนอมมากกว่าผู้ใด

    เสียงนั้นทำเอาหลี่ชางต้องขมวดคิ้วมุ่น เขายังคงยืนก้มหน้ามองเฮ่อเหลียนนิ่งงัน ในแววตาเผยคำตำหนิเจือจาง

    ถึงแม้จะบางเบาแทบมองไม่เห็น หากแต่เฮ่อเหลียนกลับสัมผัสได้ด้วยหัวใจที่แหว่งเว้า

    หญิงสาวจึงหลับตาลงช้าๆ รู้สึกเพียงความเจ็บปวดไปทั่วทั้งใจ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่ แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเฉยชาสายตาเยียบเย็น “ท่านควรดูแลนางให้ดี อยู่กับนางที่นี่ เพื่อทายาทของท่าน”

    ถึงแม้ว่าในแววตาของหลี่ชางมีความรู้สึกสำนึกผิดอยู่ลึกๆ จนเฮ่อเหลียนสัมผัสได้ แต่กระนั้นเขากลับไร้ซึ่งคำพูดโต้แย้ง

    เขาคงยินดีที่นางจะคิดการณ์อันใดไปเองทั้งหมดกระมัง หรือไม่เช่นนั้น คงคิดว่านางเป็นสตรีที่ดี ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีและใจกว้างมากพอ

    หรือคิดอีกที พวกบุรุษก็มักจะเป็นเช่นนี้

    พวกเขาเป็นมนุษย์มากรักตั้งแต่บรรพกาล!


    ***

    นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค

    ขอโอกาสรักอีกครั้ง
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    เขาคือคหบดีหนุ่มรูปงาม เจ้าของวงหน้าหล่อเหลา นามว่าหลี่ชาง ผู้มีรักมั่นคงรักเดียวใจเดียวต่อภรรยานามว่า เฮ่อเหลียน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทว่าด้วยเหตุผลหรืออารมณ์พาไปไม่อาจทราบ ทำให้เขาเกิดทำผิดต่อภรรยาครั้งแล้วครั้งเล่า ทรมานนางทั้งกายทั้งใจ จนนางหัวใจแหลกสลายหนีไปไม่หวนกลับมาทุกอย่างในชีวิตของหลี่ชาง ล้วนสายจนเกินไป ยากแก้ไขในทุกสิ่ง มีเพียงต้องย้อนเวลากลับไปเท่านั้น!หากมีโอกาสในชีวิตอีกสักครา หลี่ชางผู้นี้ขอสัญญาว่าจะรักเพียงเฮ่อเหลียน และจะมีเพียงเฮ่อเหลียน นางเดียวตลอดไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×