คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่5 ต่อหน้าต่อตา
จวบจนรุ่งสาง เฮ่อเหลียนที่นั่งตาค้างตลอดราตรีพลันได้สติกลับคืน
แต่กระนั้นนางยังไม่อาจตัดใจเดินจากไป นางอยากรู้ว่ายามที่สามีสร่างเมาแล้ว เขายังจะเป็นแบบใด
จะยังเป็นชายแสนดีที่รักนางเพียงผู้เดียวอยู่หรือไม่?
บางที...ยามที่เขามีสติครบถ้วน เขาคงรีบผละจากสตรีนางนั้นแล้วกลับมาหานางดังเดิม
หญิงสาวยอมรับ ว่าตนเองกำลังมีความคิดที่ฟุ้งซ่านในแบบที่ไม่ควรเป็น เหตุและผลทั้งหลายล้วนไม่ถูกต้องไปหมดแล้วในยามนี้
คำว่าสตรีที่ดีควรเชื่อฟังสามี นอกจากเชื่อฟังแล้วยังต้องเชื่อใจ เชื่อในคำมั่นสัญญาของสองเรา
“ข้าหลี่ชางขอสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดีให้เหลียนเอ๋อร์ และจะมีเพียงเหลียนเอ๋อร์คนเดียวตลอดไป”
เฮ่อเหลียนยิ้มขื่นในใจ คำสัญญาของเขายังคงติดตรึงประหนึ่งโซ่ตรวนพันธนาการ
รอยยิ้มเย็นชืดผุดขึ้นตรงมุมปาก เฮ่อเหลียนให้รู้สึกขมฝาดไปทั่วทั้งลำคอ
ซือจิงเอื้อมมือมาบีบไหล่อย่างต้องการให้กำลังใจนายสาวของตน
สาวใช้ยังคงปราศจากวาจาใดให้เจ้านาย มีเพียงสายตาสื่อความนัยอย่างเงียบงัน ว่าต้องไม่เป็นไร แค่ฝันหนึ่งตื่นเท่านั้น
เฮ่อเหลียนพยายามกลืนน้ำลายขมฝืดลงคออย่างยากลำบาก นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปาดน้ำตาออกจากวงหน้า และขอโอกาสให้หัวใจตนเองอีกสักคราว่า
เช้านี้สามีย่อมได้สติกลับคืน เขาย่อมคิดถึงนาง...
ซือจิงนั้น ไฉนเลยจะไม่เข้าใจ สาวใช้รุ่นใหญ่ผู้นี้มีความแข็งแรงมากนัก เนื่องจากผ่านการทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังพอมีฝีมือต่อสู้อยู่บ้าง
นางแอบฝึกปรือเพื่อปกป้องคุณหนูตัวน้อยเมื่อนานมาแล้ว แม้ไม่เก่งกาจหากแต่ก็ทำร้ายสตรีด้วยกันได้ไม่ยากเย็น
ซือจิงคิดว่าเมื่อสามีของนายสาวทำหน้าที่เสร็จกิจแล้ว ก็ควรจะกลับมาหาเพื่อปลอบโยนกัน เห็นหรือไม่ว่าคุณหนูของนางตาช้ำไปหมดแล้ว
การทวงคนรักคืนแปลกที่ใด?
เมื่อคิดแทนเจ้านายอันเป็นที่รักดุจบุตรสาวได้เช่นนั้นก็ลอบเข้าไปที่ด้านหลังของสาวใช้หน้าห้องผู้หนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนของอนุคนงามที่ติดตามกันมา
หลังจากฟาดหนักๆ ที่ท้ายทอย สาวใช้ตัวน้อยผู้นั้นก็ฟุบหลับไป
ยามรุ่งสางบ่าวไพร่คนอื่นๆ ที่ทำงานจิปาถะยังไม่ออกจากเรือนพักมาทำงาน
จะมีเพียงโรงครัวที่ตื่นมาทำอาหารตั้งแต่ฟ้ามืด ซึ่งก็อยู่ห่างจากเรือนหลังนี้ไปไกลโข รอบด้านจึงปลอดโปร่งโล่งสบาย เหมาะแก่การพาเจ้านายลอบเข้าไปในเรือน
เมื่อจัดการสาวใช้หน้าห้องเสร็จ เฮ่อเหลียนจึงเดินเข้าไปด้านใน เพื่อต้องการเห็นภาพให้แจ้งแก่ใจถึงที่สุด
ยามนี้หญิงสาวไม่มีความคิดตรึกตรองสิ่งใดแล้ว หากว่าความรักมักทำให้คนหน้ามืดตาบอด ความหึงหวงในตัวสตรียิ่งน่ากลัวกว่านั้นมาก
ซือจิงมีความสามารถถึงขั้นสะเดาะกลอนได้อีกด้วย พวกนางสองนายบ่าวเคยทำมาหลายคราแล้ว ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัยซุกซนอยู่ที่สกุลเดิม
เมื่อปลายเท้าน้อยๆ ของเฮ่อเหลียนย่างกรายเข้ามาถึงห้องด้านใน ที่มีกลิ่นอายวสันต์คละคลุ้งตลบอบอวล กลิ่นคาวเฉพาะหลังการร่วมรักเสียดแทงจมูก นางจึงหยุดนิ่งไม่ไหวติงใดๆ เนื่องจากสายตาคู่งามเหลือบไปเห็นสองชายหญิงนอนเปลื้องผ้าอยู่บนเตียงอุ่น
ฝ่ายหญิงคืออนุคนงาม ส่วนฝ่ายชายคือสามีของนาง
ชายผู้มีรักมั่นเพียงนางมาโดยตลอด
เฮ่อเหลียนยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยหัวใจด้านชาเพราะถูกเฉือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเสียงหอบครางเมื่อคนจนกลวงโบ๋ นางยืนจ้องมองสามีของนางกับสตรีอื่นด้วยสายตาว่างเปล่า ทว่าร่างนางประหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางแผ่นน้ำแข็งเย็นเยียบที่บางแสนบางก็ว่าได้ นางไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้อีกแม้เพียงครึ่งก้าว เพราะปลายเท้าอาจจะสั่นเอาได้ และไม่แน่ว่าร่างของนางอาจจะแหลกเหลวกลายเป็นผุยผงในพริบตา
แต่กระนั้นการเดินจากไปนางก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน
ในก้นบึ้งของหัวใจยังคงเอ่ยย้ำซ้ำๆ ว่าหลี่ชางยังคงไม่ได้สติจากฤทธิ์ของเหล้า เช้าแล้วเขาคงสร่างเมา เมื่อเขาหายเมาแล้วคงรีบลุกขึ้นมาแล้วออกไปหานาง
และนางก็กำลังยืนอยู่ตรงนี้ รอเขาลุกมาหานาง
คำขอโทษจากปากเขา นางพร้อมรับฟัง เหตุผลร้อยแปดสารพัดว่าจำเป็นอย่างมากกับการนอกใจ นางยินดีแบกรับเอาไว้แม้จะเจ็บปวดเจียนคลั่ง
ชั่วจังหวะที่เฮ่อเหลียนกำลังปรับอารมณ์ให้กลายเป็นสตรีมีเหตุผลอย่างที่สมควรกระทำ ซึ่งมองดูแล้วก็ไร้เหตุผลสิ้นดีที่คิดจะทำ ตามสติอันน้อยนิดเมื่อมีความรักบังตาอยู่เหนือเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล บนเตียงนอนพลันมีเสียงขยับตัวของฝ่ายหญิง เฮ่อเหลียนจึงหยุดทุกความคิดแล้วจ้องนิ่งที่ปฏิกิริยาของฝ่ายชาย
นางกลั้นหายใจจนเจ็บโพรงอก เมื่อเห็นหลี่ชางเริ่มสลึม สลือปรือตาตื่นขึ้นมา มุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะบ่นพึมพำด้วยเสียงทุ้มพร่าว่า “เจ้าจะไปไหน?” ฝ่ามือของเขาล้วงเข้าไปในผ้าห่มแล้วไล้ไปมาเบาๆ บนเนินเนื้อนางในอ้อมแขน
ฝ่ายสตรีช้อนตามองเขาอย่างเอียงอาย ใบหน้าแดงก่ำ เรียวปากแดงช้ำเพราะถูกกดจูบทั้งคืนเอ่ยเสียงแผ่วหวาน “ท่านพี่ ฟางเอ๋อร์จะลุกไปเตรียมน้ำให้ท่านเจ้าค่ะ”
หลี่ชางหัวเราะแผ่วเบา สายตาคู่คมของเขาทอประกายเข้มลึกขึ้นมา เอ่ยเสียงกระเส่าว่า “ไม่เห็นต้องรีบเลย”
“อื้อ...ท่านพี่” สตรีนามว่าฟางเอ๋อร์บิดตัวไปมา ใบหน้าเล็กแดงซ่าน ขบริมฝีปากเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือหนาใต้ผ้าห่มขยับหยอกเย้าไม่มีเกรงใจ
“อายอันใดเล่า?”
“อ๊า...ท่านพี่ อย่าลูบตรงนั้น ท่านแกล้งข้า”
“ข้าก็ลูบทั้งคืนแล้วมิใช่หรือไร?”
“อื้อ...”
เส้นเสียงคล้ายสนุกสนานของหลี่ชางดังกระทบโสตประสาทของเฮ่อเหลียนจนเกิดเสียงดังอื้ออึง ในหัวใจที่หนักอึ้งพลันแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ
หญิงสาวแน่ใจในสายตาของตนเอง ว่าชายบนเตียงนอนกลับมามีสติแจ่มชัดทุกประการ เขามิได้เมาเหล้าแล้วแต่อย่างใด
ร่างระหงยังคงยืนห่างออกมาจากเตียงนอนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในระยะสายตามองเห็นชัดเจน และด้วยพวกเขาสนใจเพียงกันและกันจึงไม่เห็นสตรีผู้มาใหม่ผู้ยืนนิ่งประหนึ่งศิลาดำ
ยามนี้เฮ่อเหลียนตัวเกร็งแข็งทื่ออึ้งงัน ทำได้เพียงยืนนิ่ง ไม่อาจเดินหน้าหรือถอยหลังกลับ ปลายเท้าของนางคล้ายกับถูกโซ่ตรวนยึดตรึงเอาไว้อย่างแน่นหนา
นางโง่มากที่เข้ามา นางรู้...
นางสิ้นคิดทั้งยังไร้สติมากนักที่อุตริเข้ามา แล้วเลือกหยิบอาวุธร้ายแรงทำร้ายตัวเอง นางประจักษ์ดีอยู่แก่ใจ
แต่ในเมื่อเข้ามาแล้วจักให้ทำเยี่ยงไร จะร่ำไห้ก็ยังไม่กล้า ได้แต่ยืนมองภาพเบื้องหน้าอย่างโง่งม
ชั่วอึดใจต่อมา จากเสียงหยอกเย้าก็กลายเป็นเสียงครวญครางแว่วหวาน
หลี่ชางเปิดผ้าห่มออกไปให้พ้นตัว เปิดเผยเนินเนื้อขาวอวบต่อหน้า แล้วพลิกกายใหญ่หนาขึ้นคร่อมร่างบางอีกครา
เขาก้มหน้าจูบนางใต้ร่างอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือบีบเคล้นหน้าอกหยุ่นนุ่มไปมา เอวสอบเริ่มขยับหยัดขึ้นเล็กน้อย หมายส่งบั้นท้ายของเขากดลงให้ลึกกลางกายของร่างนุ่ม
อนุคนงามรีบฉีกเรียวขาออก เผยตัวตนอย่างปรีดา นางบิดเอวส่ายสะโพกกลมกลึงแช่มช้า แล้วแอ่นท้องน้อยขึ้นรับเพื่อเปิดทางให้เขาอย่างเต็มที่ สองชายหญิงเข้ากันอย่างลงตัว แนบชิดกันและกันจนไร้ช่องว่างใด
----Cut NC----
----Cut NC----
จากนั้นจังหวะอันรัญจวนใจก็เกิดขึ้นเนิบนาบในลำดับต่อมา
“อา...ท่านพี่ชาง...เจ้าขา”
เสียงครางเช่นนั้นของฟางเอ๋อร์ช่างเสียดแทงแก้วหูของเฮ่อเหลียนยิ่งนัก
“อือ...อืม...ท่านพี่”
อนุคนงามครางได้แว่วหวานเสียดแทงใจนางเหลือเกิน
เตียงนอนเริ่มโยกคลอนเบาๆ ตามจังหวะกิจกรรมของสองร่างเปลือยเปล่าที่กำลังเคลื่อนที่ซ้อนทับกันไปมา
ฝ่ายหนึ่งต้องการปลดปล่อยพุ่งร่างแทรกเข้าไป อีกฝ่ายต้องการเติมเต็มให้เขาพุ่งร่างแทรกเข้าหา
สะโพกงามถูกขยับไปมาด้วยเอวสอบ จังหวะเนิบช้าค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยจังหวะกระแทกกระทั้น
จนในที่สุดก็เกิดเสียงน่าอายกระชากใจคนฟังอย่างโหดร้าย ไม่มีแม้เศษเสี้ยวแห่งความเมตตาแม้แต่น้อย
ภาพเบื้องหน้าที่โจ่งแจ้งยิ่งกว่าเสียงวาบหวามที่ได้ยินทั้งคืนกำลังจ้วงแทงหัวใจของสตรีผู้ยืนนิ่งหน้าประตูห้องอย่างไร้ซึ่งความปรานีใดๆ
เดิมทีนางคิดจะมาเพื่อเปิดใจให้ตนเอง ในการยอมรับความทรมานอย่างแสนสาหัส เพื่อที่จะก้าวเดินต่อได้ในวันข้างหน้า เมื่อชีวิตคู่ของนางกับหลี่ชางมิได้มีเพียงสองคนอีกต่อไป
ความอดทนต่อความเจ็บปวดที่ยาวนาน ย่อมต้องได้รับความเจ็บปวดอันแสนทรมานที่สุดก่อน
แต่ทว่า...ทั้งภาพและเสียงที่ได้ยล ล้วนตอบคำถามนางได้แล้วจนสิ้น ว่านางคิดผิดไป
นางไม่อาจรับได้...
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
นางไม่อาจทนเห็นว่าหลี่ชางมีภรรยาอีกคนนอกจากนาง
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค
|
ความคิดเห็น