ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจจอมมาร(จบ)

    ลำดับตอนที่ #6 : บุรุษแซ่หง2

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 67


    ทันใดนั้น เสียงหนึ่งพลันดังจากด้านบนของห้องแห่งนี้

    “องค์หญิงหายไปไหนเสียแล้ว” เสียงนั้นดังอยู่เหนือศีรษะของบุคคลทั้งสองที่นั่งอยู่เบื้องล่างของห้องกว้างขวางล้อมรอบไปด้วยกำแพงใหญ่หนา

    เหม่ยหลินจำได้ นั่นเสียงของชิงชิง นางกำนัลคนสนิทของนาง

    เมื่อหญิงสาวคิดได้อย่างนั้นจึงรีบลุกขึ้นโดยไม่ลืมจับประคองเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ให้ลุกขึ้นเสียด้วยกัน

    บุรุษลึกลับแซ่หงเพียงลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงพร้อมกับร่างระหงด้านข้างที่สูงเพียงช่วงอกของเขา โดยไม่ว่ากล่าวสิ่งใด สายตาคมเข้มดุดันยังคงจ้องมองนางอย่างไม่วางตา ในขณะที่เหม่ยหลินเพียงจ้องมองตอบกลับมาด้วยแววตาสุกใสมากยิ่งขึ้น นางคลี่ยิ้มงดงามส่งให้บุรุษร่างสูงตรงหน้าอย่างอ่อนหวานลืมความกลัวเกรงไป

    “นางเป็นบ่าวของข้าเอง” เหม่ยหลินบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงแว่วหวานเป็นกันเอง

    หญิงสาวกำลังทำท่าจะส่งเสียงตอบกลับขึ้นไปยังบ่าวรับใช้ของตน แต่ทว่าบุรุษลึกลับพลันเอื้อมฝ่ามือใหญ่หนามาปิดปากของนางเอาไว้เสียก่อน

    เหม่ยหลินถึงกับตาโตตกใจเนื้อตัวกระตุกและเริ่มสั่นเทาขึ้นมาอีกครา

    และเพียงอึดใจ เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นมาอีกครั้งจากเหนือศีรษะของพวกเขา

    “หายตัวไปอย่างนี้ แล้วเราจะเอาศพนางจากที่ใด” เสียงนั้นยังคงเป็นเสียงของนางกำนัลชิงชิง แต่ทว่ารูปประโยคพลันเปลี่ยนไป น้ำเสียงของชิงชิงก็เช่นเดียวกัน  

    เหม่ยหลินได้ยินพลันตัวเกร็งจนร่างชะงักงัน นางทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ในขณะที่บุรุษลึกลับหรี่ตาคมเข้มลงเพียงนิดเพื่อสดับรับฟังอย่างใจเย็น

    ชั่วอึดใจเสียงของบุรุษผู้หนึ่งตรงด้านบนศีรษะของทั้งสองพลันดังตามมา

    “เจ้าก็กลับไปรายงานว่าฆ่าองค์หญิงทิ้งสำเร็จแล้วและโยนทิ้งหน้าผาไปไม่ได้หรือไร” เสียงนั้นเป็นเสียงของบ่าวชายอีกคนหนึ่งที่ติดตามเหม่ยหลินมายังวัดในวันนี้

    หญิงสาวได้ยินยิ่งตัวเกร็งแข็งทื่อนิ่งงันไป

    “ได้อย่างไร” เสียงของชิงชิงยังคงกล่าว “หากไม่มีศพนางไปยืนยัน พวกเราได้ตายกันหมดแน่” กล่าวจบก็มีเสียงฝีเท้าเดินไปเดินมาคล้ายกับกำลังเดินหาอะไรบางอย่าง

    “เช่นนั้นก็ตามหาองค์หญิงให้เจอก็รีบสังหารให้เสร็จสิ้นเสียแล้วนำศพนางกลับไปรายงาน สตรีในห้องหออ่อนต่อโลกอย่างนั้นจะไปยากอะไร” เสียงของบุรุษอีกคนหนึ่งกล่าวตามออกมา

    “หึ! อุตส่าห์ทำทีเป็นให้โจรป่าเข้าปล้นเพื่อแยกบ่าวไพร่ทั้งหลายออกไปจนเหลือเพียงองค์หญิงอยู่พระองค์เดียวแล้วเชียว ไยถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้” เสียงของชิงชิงคล้ายกับเดินไปบ่นไปโดยรอบบริเวณ

    “เจ้าจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมา เรื่องนี้ให้ใครรู้ได้อย่างไรกัน แต่ก่อนฆ่า เจ้าอย่าลืมที่สัญญา ข้าขอเชยชมนางให้หนำใจก่อน” เสียงของบุรุษอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอำมหิตหื่นกระหาย

    “หาตัวองค์หญิงให้เจอก่อนเถิด เจ้าอยากดื่มด่ำนางเท่าไหร่ก็ย่อมได้” เสียงของชิงชิงปรามพลางเดินแยกออกไปอีกทิศทางคล้ายกับกำลังเดินหาอะไรบางอย่างด้วยความร้อนรน

    เหม่ยหลินได้ยินทั้งหมด

    แน่นอนสิ่งที่บ่าวรับใช้ของนางกำลังตามหา ก็คือตัวนาง

    คนพวกนี้ต้องการสังหารนาง เพราะเหตุใด?

    ในขณะที่เหม่ยหลินกำลังยืนตะลึงตาค้างนิ่งงัน บุรุษลึกลับจึงค่อยๆ ปล่อยฝ่ามือของเขาออกจากริมฝีปากนุ่มนิ่มของนาง พลางก้มหน้ามองนางอย่างต้องการประเมิน

    เมื่อริมฝีปากของตนได้รับการปลดปล่อย เหม่ยหลินจึงทำได้เพียงหลุบตาลงต่ำเก็บข่มความหวาดกลัวเอาไว้ ถึงแม้ว่ากายงามจะกำลังสั่นเทาอยู่ก็ตามที

    จะต้องเป็นแบบนี้อีกกี่ครากัน ที่นางจะต้องเป็นอย่างนี้ ต้องเก็บข่ม ต้องอดทน

    เหม่ยหลินคิดในใจได้อย่างนั้นพลางทรุดกายลงนั่งอย่างหมดแรงอยู่กับพื้น

    หญิงสาวทำได้เพียงร่ำไห้โดยไร้เสียงสะอึกสะอื้นใดๆ ออกมา ฝ่ามือเรียวเล็กของนางเพียงจับขยุ้มอยู่ตรงสาบเสื้อที่หน้าอก ใบหน้าสวยหวานเพียงก้มลงต่ำมองไม่เห็นดวงตาฉ่ำหวานแต่อย่างใด

    บุรุษลึกลับที่อยู่ด้วยกันเพียงก้มหน้าลงมอง ไม่ได้กล่าววาจาอันใดออกมา อึดใจเขาก็ผละสายตาคมดำของเขามองสำรวจไปอย่างถ้วนทั่วภายในห้องแห่งนี้อีกครา เพื่อที่ว่าเขาจะได้ปล่อยให้นางได้อยู่กับตนเองไปอย่างนั้น

    ในระหว่างที่เรือนร่างบอบบางกำลังนั่งสั่นเทาอย่างต้องการสงบจิตสงบใจจากสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อครู่และใช้เวลาอยู่กับตนเองนั้น เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่เพียงปรายสายตาคมเข้มสำรวจรอบเรือนกายและภายในห้องพลางครุ่นคิดถึงเรื่องราวของตนเองอยู่ในใจ

    เขาแซ่หงแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย แผ่นป้ายหยกสีดำนิลหน้าตาประหลาดที่ติดตรงเอวของเขาบอกกล่าวแก่เขาได้เป็นอย่างดี

    แต่ทว่านามของเขามีว่าอะไร เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เขาเป็นใครมาจากไหน เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ออก

    แต่สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกแก่เขาได้ คือพลังงานบางอย่างที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในกาย

    พลังงานที่ว่า มันคล้ายกับว่ามีมากมายอย่างเข้มข้นมหาศาล ให้ความรู้สึกว่าแค่เขาสะบัดฝ่ามือ หินผาแข็งแกร่งก็สามารถพังทลายลงมาได้

    บุรุษลึกลับแซ่หงจึงยืนอยู่นิ่งงันคล้ายรูปปั้นรูปสลักนิ่งตรึงอยู่กับที่ เขาเอื้อมฝ่ามือของเขาขึ้นจับตรงแผงอกใหญ่หนาพลางขมวดคิ้วคมเข้มเข้าหากัน ใบหน้าคมคายฉายแววครุ่นคิด

    เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้นั้นในจังหวะนั้นพอดิบพอดี นางจึงนึกห่วงใยเขาขึ้นมาอีกครา

    นางค่อยๆ ยันร่างบางของตนให้ลุกขึ้นยืน แล้วเอื้อมมือน้อยๆ ของตนที่ยังคงสั่นเทาแตะที่ลำแขนของเขาเบาๆ เพื่อส่งผ่านความห่วงใยในแบบฉบับของตน

    นางมักจะเป็นเช่นนี้ นางมักจะมองโลกในแง่ดีอย่างสม่ำเสมอ ทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางอสรพิษทั้งหลายในวังหลวง

    เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นมองบุรุษลึกลับด้วยสายตาฉ่ำน้ำเพราะผ่านการร่ำไห้มาเมื่อครู่ นางมองเขาด้วยแววตาที่พยายามบ่งบอกแก่เขาว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างจะผ่านไปแล้วดีเอง

    นางบอกกล่าวแก่เขาทั้งยังต้องการบอกกล่าวแก่ตนเองเหมือนที่ชอบทำ มันเป็นวิธีการหนึ่งที่มักจะทำให้นางผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้จนทุกวันนี้

    “โง่งม” เสียงห้วนสั้นของบุรุษลึกลับตรงหน้าพลันเอ่ย

    เหม่ยหลินถึงกับตกใจกะพริบตาขึ้นลงเบาๆ อย่างไม่เข้าใจอันใด

    แต่เพียงเสี้ยวเวลาร่างบางของนางพลันถูกจับยกจากบุรุษร่างสูงใหญ่ตรงหน้าตามมาด้วยเสียงครืนสนั่นตรงด้านบนศีรษะ ตามด้วยเศษฝุ่นเศษหินกระจัดกระจายปลิวว่อน

    “หลับตา” เสียงห้วนสั้นของเขาเอ่ยออกมาอีกครั้งแค่นั้น

    เหม่ยหลินจึงรีบหลับตาลงตามคำด้วยสมองอันว่างเปล่าขาวโพลน

    เพียงอึดใจกำแพงหนาที่เมื่อครู่อยู่ด้านบนศีรษะของนาง บัดนี้กลับกลายเป็นรูขนาดใหญ่และอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของบุรุษลึกลับเสียอย่างนั้น

    เหม่ยหลินแอบหรี่ตามองในขณะที่ร่างของนางถูกเขาจับอุ้มพาดเอาไว้บนไหล่หนาแน่นของเขา

    เขาจับนางอุ้มพาดบ่าประหนึ่งว่านางเป็นแค่หุ่นผ้าบางๆ กระนั้น

    และเพียงไม่นาน เขาก็วางนางลงบนพื้น นางถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงนั่งอยู่กับพื้นไม่สามารถยืนได้แต่อย่างใด ในขณะที่บุรุษลึกลับเรือนร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านอยู่เหนือเรือนกายบอบบางของนาง

    เขายืนถมึงทึงแผ่กลิ่นอายสังหาร แววตาคมกริบคล้ายกระบี่นับพันจ้องมองไปยังบ่าวหญิงชายของนางที่กำลังเดินตามหาตัวนางอยู่ไม่ไกล

    เพียงเสี้ยวเวลาในพริบตาเดียว สิ่งไม่คาดฝันพลันเกิดขึ้น

    เหม่ยหลินยังไม่ทันได้มีสติครบถ้วน สายตาของนางยังไม่ทันได้ผละไปจากเรือนกายสูงใหญ่ กลิ่นคาวบางอย่างพลันคละคลุ้ง ตามด้วยร่างของบ่าวหญิงชายทั้งหลายพลันเปลี่ยนไป

    นางกำนัลชิงชิงกับบ่าวชายอีกสามคนนอนจมกองเลือดดวงตาเถลือกถลนออกมาจนเกือบจะหลุดออกจากเบ้า

    เหม่ยหลินถึงกับไร้เส้นเสียงไร้การหายใจ

    ภาพตรงหน้าของนางคืออันใด?

    อันใดกัน?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×