ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน如意[จบ]

    ลำดับตอนที่ #4 : ปฐมบท 1 กำราบให้สิ้น2

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 67


    ห่างจากที่ซ่องสุม เหนือพสุธากลางหุบเขามรณะ ร่างระหงชุดดำคาดแดงยอมเผยตัวออกมาในที่สุด

    ท่ามกลางฝุ่นดินสีดำจัดตลบฟุ้งหอบกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโดยรอบบริเวณ แม่ทัพหนุ่มยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น ลำตัวของเขาตั้งตรงเหนือกลุ่มทหาร รอบกายแผ่ซ่านความอำมหิตผสานกลิ่นอายสังหารแห่งเทพสงครามเหนือหมู่มวล

    ในระยะสายตาคมกริบท่ามกลางแสงอาทิตย์คมกล้า เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งยืนสงบนิ่งภายใต้แสงตะวันอยู่ตรงนั้น  มองคล้ายราชันแห่งขุนเขา ประหนึ่งปราการหินที่ก่อตัวขึ้นปกปักษ์พิทักษ์ทุกสรรพสิ่งบนผืนพนา

    ร่างสูงในชุดเกราะของแม่ทัพคุมทหารแคว้นเยี่ยนยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ ในขณะที่เรียวตาคมค่อยๆ หรี่แคบลงเพื่อเพ่งพิศนาง

    ภาพสะท้อนของนางให้ความรู้สึกคล้ายกำลังมองเห็นปีศาจสาวผู้ชื่นชอบคุกคามมนุษย์ ความเย็นเยียบยิ่งนานยิ่งแผ่กำจายความเย็นกระด้างคล้ายน้ำแข็งค้างเกาะกุมตรึงแน่นบนผิวหนังผู้คน

    นางชี้ดาบขึ้นฟ้ากล่าววาจาท้าทายต่อเขา

    “เจ้าเรียกข้าว่าผู้ร้ายต่ำช้า แต่สวรรค์ย่อมรู้ดี นรกยิ่งเห็นพ้อง ค่ายโจรจันทราแดงของข้าเหนือกว่ากองทัพทหารหลายขุมนัก”

    ทว่าชายหนุ่มยังคงมองนิ่งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

    หญิงสาวเจ้าของร่างระหงผู้มีหน้ากากเงินบดบังใบหน้าจนเหลือเพียงดวงตาแวววาวปานแม่เสือค่อยๆ ลดดาบลงชี้มาที่เขา พลางแค่นเสียงหยัน

    “แม้วันนี้ข้าจำต้องตายด้วยน้ำมือแม่ทัพผู้เกรียงไกรเช่นท่านก็นับว่าเป็นบุญที่ได้เกิดมา...ทว่าคงมีแต่ท่านที่ต้องก้มหน้ารับใช้ขุนนางทรราชสืบไป ช่างน่าเวทนา!

    รองแม่ทัพคนหนึ่งถลันขึ้นหน้า

    “สามหาว!

    เขาผู้นี้มีนามว่าจิ้นเหอ ชักกระบี่พร้อมพุ่งทะยาน กระทั่งแม่ทัพหนุ่มผู้ถูกหยามเหยียดต้องยกฝ่ามือห้ามปรามถึงได้กลับไปยืนที่เบื้องหลังดุจเดิม

    “ท่านแม่ทัพหยาง นางโจรผู้นี้...”

    รองแม่ทัพจิ้นยังพูดไม่ทันจบ หยางเจี้ยนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจคราหนึ่ง อีกฝ่ายถึงได้สงบปากคำ

    แม้รู้ดีถึงตื้นลึกหนาบางทว่าหยางเจี้ยนยังคงเงียบงัน ด้วยหน้าที่สำคัญค้ำคออยู่ ค่ายโจรจันทราแดงจักต้องถูกกวาดล้างให้สิ้นซากเท่านั้น!

    แม่ทัพหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “หากเจ้าพาสมุนโจรทั้งหมดเข้าสวามิภักดิ์แต่โดยดี ซากศพพวกนี้ย่อมไม่เกิดขึ้น” กล่าวพลางกวาดตามองเศษเนื้อของคนตายที่เคยมีร่างกายครบส่วนอย่างเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลาไร้ความรู้สึกยิ่ง

    “ความสามารถของเจ้าย่อมสร้างคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองและแว่นแคว้นเยี่ยนสืบไป”

    หัวหน้าค่ายโจรจันทราแดงได้ฟังพลันแค่นเสียงหยัน “หึ! มิคาดว่าท่านแม่ทัพหยางผู้เก่งกาจในการศึกจะเป็นบุรุษที่ชอบฝันเฟื่องเยี่ยงนี้ ช่างพูดจาไร้สาระนัก!

    “เจ้า!” รองแม่ทัพคนเดิมถลันขึ้นหน้าอีกคราอย่างเดือดดาล “นังโจรถ่อย!

    เรียวตางามที่พ้นหน้ากากเงินตวัดฉับ “นังโจรถ่อยอย่างข้ายังดีกว่าสวะรับใช้ขุนนางถ่อยชั่วช้าเยี่ยงพวกเจ้า!

    “สามหาวนัก! ข้าจะตัดลิ้นเจ้า!

    รองแม่ทัพชักกระบี่ทำท่าพุ่งตัวฟาดฟันอย่างไม่ยอม กลับถูกหยางเจี้ยนหันมาถลึงตาปราดหนึ่ง เขาถึงได้กัดฟันบดกรามยอมสงบลงอีกครั้ง ท่าทางคล้ายหมาป่าถูกล่ามโซ่

    จังหวะนั้นหญิงสาวผู้ยืนค้ำหล้าอย่างทระนงองอาจกลับเป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน

    แมลงสารพัดชนิดถูกปลดปล่อยออกมาจนมืดดำ นางเพียงผิวปากภายใต้หน้ากากเงินเท่านั้น รอบด้านคล้ายมีหมอกควันขมุกขมัวปกคลุมโดยรอบบริเวณ อัดแน่นไปด้วยแมลงมีพิษทันที

    หยางเจี้ยนหาใช่บุรุษไร้ฝีมือไม่ เขาผ่านมาหลายสมรภูมิรบ กลการศึกอีกนับไม่ถ้วน ตำแหน่งแม่ทัพบูรพาฉายาจอมกระบี่สุริยัน มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน

    ชายหนุ่มยกฝ่ามือขึ้นสั่งการทันใด เหล่าทหารกล้าหลายคนฟาดฟันแมลงพิษ หลายคนกระจายตัวออกไปค้นหากลุ่มโจรที่เหลือ

    ส่วนตนเองพุ่งตัวเข้าใส่หญิงสาวหัวหน้าค่ายโจรจันทราแดงผู้ยืนโดดเด่นอยู่ผู้เดียวบนเชิงเนิน

    นางเองย่อมตั้งรับรออยู่แล้ว

    หญิงสาวหาได้ครั่นคร้ามต่อการเผชิญหน้ากับบุรุษที่พุ่งมาหาด้วยท่าทางรุนแรงไม่ กลิ่นอายบนตัวเขาที่พลันเปลี่ยนเป็นดุร้ายปานนั้น นางก็หาได้หวาดหวั่นอันใด          

    แม้ตัวคนจะแผ่ไอสังหารกระหายเลือดอย่างเข้มข้นออกมาเทียมฟ้า นางก็แค่แค่นเสียงเย็นหนึ่งคราก่อนทะยานร่างขึ้นสูงเทียมกัน

    เสียงเคร้งคร้างเกิดขึ้นฉับพลัน

    การปะทะกันของสุดยอดฝีมือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคล้ายสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ใครที่มองทันกลับต้องรู้ซึ้งถึงคำว่าแสบตาอย่างแท้จริง

    ท้องฟ้าที่สาดแสงสว่างเจิดจ้าเมื่อครู่กลับมืดครึ้มอึมครึมทันใด ดวงตะวันคล้ายถูกดวงจันทร์บดบังแทนที่อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง

    จังหวะกระบี่กระทบกันจนเกิดประกายเงินสะเก็ดไฟ หยางเจี้ยนยังไม่หยุดโน้มน้าวหญิงสาวผู้ที่เขานับถือในฝีมือ

    “ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับตัวกลับใจเถิด แล้วมอบตัวกับทางการ ผันตนจากฝ่ายอธรรมเสีย”

    “ฝันไปเถอะ!

    ฟ้าที่มืดครึ้มกลับมาสาดแสงสว่างเจิดจรัสอีกครั้ง กำลังภายในสายหนึ่งถูกส่งมายังกระบี่จนร้อนวูบเกิดคลื่นพลังอันไร้รูปลักษณ์วาบขึ้นมาวาดเป็นเส้นแสงกรีดกลางอากาศ ยามที่หยางเจี้ยนตวัดกระบี่ออกไป

    ดาบดวงเดือนในมือสตรียิ่งขยับขับเคลื่อนว่องไวปราดเปรียว คล้ายมีจันทร์เสี้ยวโค้งคมบาดลึกอ่อนไหว    ทว่ากลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าอะไร

    นางลากแสงเงินเย็นเยียบผ่านแสงตะวันที่สาดส่องร้อนระอุ เกิดเป็นความเดือดพล่านตัดกันชนิดคนละขั้ว

    ร่างใหญ่กับร่างเล็กประชิดประมือสลับการผละออกจากกันเพื่อเดินลมปราณขั้นสูง ก่อนกระโจนเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งและอีกครั้ง

    คนสองคนพุ่งทะยานฟาดฟันกันจนป่าราบทั้งแถบ เกิดเป็นหลุมใหญ่ยาวเหยียดความกว้างขนาดฝ่าเท้ามัจจุราชความลึกหลายชุ่น[1]

    เศษหินทรายกระจัดกระจาย ฝุ่นกรวดปลิวว่อน ไม่ต่างจากอาวุธลับกระชากวิญญาณของเหล่าปีศาจร้าย


    ---

    [1]  1 ชุ่น = 1 นิ้ว


    นิยายเรื่องนี้มีฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>

    Thumbnail Seller Link
    บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน如意
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    ชายหญิงแต่งงานมิอาจเลือกคู่ครองตามแต่ใจคู่ชีวิตศีลเสมอกัน บัณฑิตคู่กับบัณฑิต คุณชายสูงศักดิ์ย่อมคู่กับคุณหนูในห้องหับแสนเรียบร้อยทว่าแม่ทัพผู้...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×