คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่2 เข้าหอ
บนทางเดินหน้าเรือนหอ
เหอหย่งหมิงพาร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวของตนเองเดินมาเรื่อยๆ เพื่อระงับอารมณ์เดือดดาล มิให้ตนเองพลั้งมือทำร้ายสตรีผู้เป็นเจ้าสาว ถึงแม้ว่าเขาจักฆ่าศัตรูโดยไม่ต้องคิด หากแต่การทำร้ายนางในคืนแต่งงานคงมิใช่เรื่องดีแน่
และที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ การแต่งงานกับลี่เหยาถิงนั้น ถูกรับสั่งคล้ายกลั่นแกล้งกันว่าให้นางอยู่เรือนหลักของเขา ซึ่งห้องหนังสือของเขาก็อยู่ติดกัน ทำให้เขาต้องเดินออกมาอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้
ชั่วจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังเดินอย่างหงุดหงิดจากห้องหอ เบื้องหน้าพลันปรากฏเงาร่างอรชรของคนคุ้นตา
นางมีโครงหน้าธรรมดา มิใช่สตรีงดงามโดดเด่น
ทว่าท่าทางอ่อนโยน น้ำเสียงอ่อนหวานของนาง ทำให้เขาพึงใจได้ไม่ยากเย็น
เพ่ยจี...
เหอหย่งหมิงเรียกหญิงคนรักอยู่ในใจ รู้สึกผิดจนมิอาจเอื้อนเอ่ยวาจาใดได้
หานเพ่ยจี คือคนรักของเหอหย่งหมิง
ชายหนุ่มได้เจอกับหญิงสาวครั้งแรกที่ตลาด นางกำลังเดินซื้อของอย่างเพลิดเพลินกระทั่งเดินมาชนกับเขาที่บังเอิญเดินผ่านพอดี
อีกครั้งก็ตอนที่นางได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ขอให้เขาทำแผลให้ ถึงแม้ว่าเขามิได้คิดอะไร แต่น้ำใจเล็กน้อยเช่นนั้น เขาไม่คิดที่จะหวงแหนแต่อย่างใด
ทว่าครั้งสุดท้ายที่บังเอิญเจอกันอีกคราที่เชิงเขางดงามแห่งหนึ่ง ก็คือเมื่อครั้งที่นางกับเขาเจอกับโจรป่า
เขาเกิดพลาดท่าเสียทีโจรป่ากลุ่มหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บสิ้นสติสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงได้เจอนางที่ไม่หนีหาย นางคอยดูแลใส่ใจอยู่ข้างกาย
หลังจากนั้นทั้งสองก็คบหากันมาได้ระยะหนึ่ง
ทว่าเพียงไม่นาน พระราชโองการมอบสมรสพระราชทานพลันบังเกิด
เหอหย่งหมิงต้องแต่งงานกับสตรีนามว่าลี่เหยาถิง
สตรีที่มักจะปรากฏตัวทุกครั้งที่เหอหย่งหมิงอยู่กับเพ่ยจี ไม่ว่าจะในตลาด โรงน้ำชา เหลาอาหาร งานประจำปี
ทุกที่ที่ชายหนุ่มไปกับเพ่ยจี ก็จะมีลี่เหยาถิงปรากฏกายคอยเป็นมารความรักของเขาอยู่ร่ำไป
จากที่เขามิใคร่จะใส่ใจ กลับรู้สึกขัดเคืองใจขึ้นมา กระทั่งถึงวันแต่งงาน และค่ำคืนแห่งการเข้าหอนี้ ที่เหอหย่งหมิงหลุดกิริยาสุขุมเยือกเย็นที่เคยมี สะบัดชายผ้าเดินจากมา
“ท่านแต่งงานแล้ว แต่ข้าก็ยังไม่อาจไม่มาหาท่าน” เสียงแว่วหวานสั่นเครือของเพ่ยจีเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบที่กำลังโรยตัวโอบล้อมร่างสูงในอาภรณ์เจ้าบ่าว
หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากหน้าห้องหอ ใบหน้าขาวผ่องมีแต่คราบน้ำตา นางเงยหน้ามองร่างสูงในชุดแดง ดวงตาของนางสะท้อนความขมขื่นเต็มไปหมด
เหอหย่งหมิงยังคงยืนนิ่ง มองคนรักอยู่เงียบๆ ทั่วร่างสง่าแผ่กลิ่นอายเย็นเยียบตลอดเวลา แม้จะรู้สึกผิดมาก หากแต่ก็ไม่อาจแก้ต่างอันใด นอกเสียจากการยอมรับความจริง
“ข้าจะแต่งเจ้าเป็นภรรยารอง” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา ทว่าหนักแน่นยิ่งนัก
เพ่ยจีส่ายหน้าไปมา นางกลับตาลงปล่อยน้ำสีใสให้ไหลกลิ้งไปตามพวงแก้มแลดูน่าเวทนานัก เส้นเสียงเบาหวิวเอ่ยตัดพ้อไม่คิดยอมความ “ท่านสัญญากับข้า ว่าจะมีข้าเพียงคนเดียว”
ร่างสูงนิ่งเงียบไป รู้สึกสำนึกผิดอยู่ลึกๆ ไร้ซึ่งคำพูดโต้แย้ง
ใบหน้าซีดเซียวของเพ่ยจีเต็มไปด้วยความข่มขื่น นางยังกล่าวต่ออีกว่า “ชั่วชีวิตของข้า หานเพ่ยจี สาบานเอาไว้แล้วว่า จะไม่ยอมเป็นภรรยารองใคร และจะไม่ใช่สามีร่วมกับใครทั้งนั้น”
ใบหน้าหล่อเหลาแข็งกระด้างในชั่วพริบตา รู้สึกปวดใจดั่งถูกบีบเค้น เขาเอ่ยเสียงเย็นออกมา “ข้าจะมีเจ้าเพียงคนเดียว ส่วนภรรยาสมรสพระราชทาน ข้าจะไม่แตะต้องนาง”
แต่เพ่ยจียังคงส่ายหน้าน้อยๆ ร่ำไห้ไม่หยุด เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแว่วหวานสั่นเครือว่า “ถึงแม้ข้าจะเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา ทว่าข้าไม่ต้องการตำแหน่งภรรยารองของใครทั้งนั้น”
กล่าวจบก็ผินหน้าหนีแล้วหมุนตัวเตรียมเดินผละจาก ทว่าวงแขนแข็งแกร่งกลับตวัดรัดร่างนางเอาไว้
“เพ่ยจี” เสียงแหบพร่าของเหอหย่งหมิงดังขึ้นที่ข้างหูนาง “ข้ายอมเจ้าถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดยังดื้อดึง ทั้งๆ ที่ข้าไม่เคยต้องยอมใคร นิสัยของข้าหยิ่งทะนงเพียงใด เจ้าย่อมรู้ดี คนอย่างข้ามิใคร่ต้องคอยตามเอาใจอิสตรีเสมือนคนไร้ศักดิ์ศรี หากเจ้าไม่คิดฟังความกัน เช่นนั้นก็ควรสะบั้นรักข้าให้ขาดเสีย อย่าได้มาหลั่งน้ำตาต่อหน้าข้าเยี่ยงนี้”
สิ้นประโยคยาวเหยียดนั้น ร่างบางในอ้อมแขนพลันชะงักนิ่งแข็งทื่อ แต่เพียงอึดใจก็สั่นเทาเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หันหน้าเข้าหาร่างสูง
นางเงยหน้ามองเขาอย่างเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยความข่มขื่น ก่อนจะซุกซบแผงอกอุ่นยอมสยบในที่สุด แต่กลับร้องไห้หนักกว่าเดิม คล้ายกับไม่คิดจะน้ำตาเหือดแห้งหมดไปจากสองดวงตาที่บัดนี้ฉ่ำชื้นจนน่าสงสาร สองแก้มนวลผ่องแกงก่ำไปหมด
เหอหย่งหมิงจึงปล่อยเพ่ยจีออกจากอ้อมแขน แล้วจับดึงข้อมือนางให้เดินไปด้วยกันยังเรือนหนึ่ง หวังให้นางได้สงบสติอารมณ์
คล้อยหลังร่างสูงในอาภรณ์เจ้าบ่าวกับสตรีร่างบางที่กำลังร่ำไห้ที่เดินเงียบหายเข้าเรือนหนึ่งไป เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นกับบ่าวชายภายในจวนที่ได้รับพระราชทานเป็นสินเจ้าสาวจากไทเฮา
“ตามข้ามา”
สิ้นเสียงของเจ้าสาวผู้เป็นนายหญิงของจวนแม่ทัพ ก็ได้ยินเสียงตอบรับจากบ่าวชายที่เดินตามหลังมาสองคน
ลี่เหยาถิงเดินนำหน้าบ่าวรับใช้ด้วยใบหน้าโกรธกรุ่น แววตาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งแรงริษยา ในใจถามตนเองย้ำๆ อย่างเจ็บช้ำว่าเหตุใดคนที่เหอหย่งหมิงชอบถึงไม่ใช่นาง
ทั้งๆ ที่นางชอบเขาถึงเพียงนี้!
เมื่อทั้งสามเดินมาที่หน้าเรือนหลังหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงครางแว่วหวานดังออกมาจากด้านใน ลี่เหยาถิงพลันชะงักร่างแข็งค้าง ทั่วทั้งตัวชาวาบดั่งเลือดลมหยุดนิ่งชีพจรหยุดเต้น นางถึงกับอึ้งไป ในใจร้อนรุ่มดั่งมีไฟแผดเผาจนมอดไหม้
ฝ่ามือเล็กเร็วกว่าความคิด นางออกแรงผลักเข้าไปอย่างอุกอาจ ไม่คิดยอมเสียชายในดวงใจไป ปากก็ร้องคำรามลั่นว่า “เข้าไปจับสตรีไร้ยางอายนางนั้นออกมาจากเจ้าบ่าวของข้า เอานางโยนออกไปจากจวนให้ไกลที่สุด”
สิ้นคำสั่งประกาศิต ชายหญิงที่กำลังอยู่ในท่าหมิ่นเหม่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยและกำลังขึ้นคร่อมกันอยู่บนตั่งตัวยาว ก็ชะงักงันลำตัวแข็งทื่อ
สายตาของบ่าวชายพลันเบิกกว้างกับภาพวาบหวามของชายหญิงที่ได้เห็น ซึ่งฝ่ายหนึ่งยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าว กับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นสตรีที่ใดไม่อาจทราบ ในขณะที่เบื้องหน้าของพวกเขาคือเจ้าสาวที่ยังอยู่ในอาภรณ์สีแดงสด
นี่คือคืนเข้าหอของคู่บ่าวสาวพระราชทาน หากแต่เจ้าบ่าวกลับเลือกที่จะมาพลอดรักกับสตรีอีกนางหนึ่ง ซึ่งให้มองอย่างไรก็ไม่เห็นถึงความสมควรที่จะกระทำเลยแม้แต่น้อย
บ่าวชายวัยฉกรรจ์ได้แต่ยืนมองด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนกระดากอายแทนจนสุดจะพรรณนา
เหอหย่งหมิงขบกรามแน่น พยายามแยกร่างแกร่งของตนออกจากร่างนุ่มในอ้อมแขนอย่างยากลำบาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงก่ำ ด้วยกำลังเกิดอารมณ์กระสันยากควบคุม
ฝ่ายเพ่ยจีนั้น นางมีสีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ตัวสั่นเทาไม่หยุด ร่างอ้อนแอ้นเผยผิวขาวผ่องเห็นเนินอกรำไร เพราะถูกมือหนาดึงออกมากกว่าครึ่ง
ทว่าลี่เหยาถิงหาได้สนใจไม่ นางส่งสายตาดุดันไปทางบ่าวชายให้เข้าไปลากตัวฝ่ายหญิงออกมาจากฝ่ายชายให้จงได้
ในจังหวะที่บ่าวชายทั้งสองกำลังเดินปรี่เข้าไปทางสองชายหญิง หมายจับแยกเพ่ยจีออกจากอ้อมแขนของเหอหย่งหมิง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องลั่นของเพ่ยจี นางหลับตาปล่อยน้ำตาไหลริน เบี่ยงตัวหนีอย่างอับอาย แล้วผลักอกเหอหย่งหมิงออกจากตัว ก่อนจะวิ่งปิดหน้าร้องไห้ออกจากห้องไป ไม่หันหลังกลับมาอีก
ลี่เหยาถิงแค่นเสียงในลำคอ สายตามีแต่ความดูแคลนตามหลังเพ่ยจีไป นางพยักหน้าน้อยๆ ส่งสัญญาณว่าให้บ่าวชายทั้งสองตามเพ่ยจี แล้วไล่ไปให้ไกล อย่าให้สตรีไร้ยางอายได้กลับเข้ามาอีก
เมื่อเหลือในห้องเพียงสองคนซึ่งบ่าวสาวแห่งค่ำคืนนี้
เหอหย่งหมิงจ้องลี่เหยาถิงอย่างเย็นชา สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องเหยื่อมองลี่เหยาถิงอย่างต้องการกินเลือดกินเนื้อ
หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างผิดหวัง ก้นบึ้งในดวงตาคู่งามมีพายุอันตรายก่อตัวขึ้น เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของข้ากับท่าน คนที่มีสิทธิ์ร่วมเตียงกับท่านมีเพียงข้า แต่ท่านกล้าที่จะร่วมรักกับสตรีอื่น ช่างหน้าไม่อาย!”
“หึ!” ดวงตาของผู้ถูกปรามาสฉายความรังเกียจออกมาชัดเจน เขาแค่นเสียงต่ำคำหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงเย็นเยียบเล็ดลอดออกมาจากฟันที่ขบกันแน่น “มากเกินไปแล้ว...ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของเจ้า อยากเข้าหอกับข้ามากสิท่าถึงกับกล้าลองดีกับข้า”
นัยน์ตาดำขลับวูบไหวเล็กน้อยยามจ้องมองสบตากับเจ้าบ่าวของตน สายตาเช่นนั้นบีบหัวใจของนางให้หดเกร็งไม่เบา แต่ริมฝีปากแดงจิ้มลิ้มยังคงกล่าวเสียงกร้าวว่า “แน่นอน ข้าย่อมมีสิทธิ์ทำทุกสิ่งกับท่าน เพราะท่านคือคนของข้า เหอหย่งหมิงคือคนของลี่เหยาถิงผู้เดียว สตรีไร้ยางอายคนใดก็ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น โดยเฉพาะนังปีศาจเพ่ยจีนั่น”
ดวงตาคมเข้มทอประกายร้อนแรงดุจเปลวเพลิงพร้อมโหมไหม้ทุกสรรพสิ่งทันใด
ร่างสูงเดินเข้าหาร่างระหงโดยพลัน ก่อนจะจับเจ้าสาวของตนอุ้มขึ้นพาดไหล่หนา อาภรณ์สีแดงสดของทั้งสองเสียดสีไปมาจนเกิดเสียง
เหอหย่งหมิงแบกลี่เหยาถิงกลับเรือนหอ ตามด้วยปิดประตูห้องเสียงดังปัง หลังจากนั้นก็ไร้ซึ่งความปรานีอันใด
ทั้งสองเปิดศึกกันบนเตียงนอนสีแดงสดจนร้อนระอุดุเดือดกระทั่งแสงแรกอรุณมาเยือน
แน่นอนว่าย่อมไม่มีบ่าวไพร่คนใดเยี่ยมหน้าเข้ามาขวาง เพราะวันนี้คือวันแต่งงาน และนั่นก็คือค่ำคืนแห่งการเข้าหอที่มีค่ามากกว่าทองพันชั่ง ต่อให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเร่าร้อนกันจนไฟลุกท่วมเรือน ก็มีแต่ต้องยินดีเท่านั้น...
*******
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค ได้เพิ่มตอนพิเศษให้แล้วอย่างจุใจนะคะ
คลิกเลยค่า >>>www.hytexts.com หรือ>>www.mebmarket.com
|
ความคิดเห็น