คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : โจวเหวินหลงฮ่องเต้
พระราชวังต้าโจว
เนื่องจากโจวเหวินหลงฮ่องเต้ต้องการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติด้วยพระองค์เอง จึงออกเยี่ยมเยือนราษฎรเสียหลายวัน กระทั่งกลับเข้าวังหลวงแล้วพักผ่อนจนพอพระทัย ก็ได้รับข่าวว่าพระธิดาคนสำคัญได้แอบหนีออกไปเที่ยวนอกวัง ทำเอาสีพระพักตร์ของพระองค์ทรงดำคล้ำลงหลายส่วน
ภายในห้องโถงของตำหนักเฉิงเฉียนกงจึงมีพระวรกายสูงค่าของโอรสสวรรค์นั่งประทับอยู่หลังโต๊ะสลักลวดลายแสนวิจิตรประดับทองคำแท้เหลืองอร่าม ด้วยท่าทางเคร่งขรึม บ่งบอกอารมณ์บางประการที่ทำให้ข้ารับใช้ต้องก้มหน้าแทบจะมุดพื้นห้องภายในตำหนัก
“หลินเอ๋อร์แอบหนีไปเที่ยวยามที่เราไปว่าราชการนอกวังหลวงกระนั้นหรือ?” เจ้าแห่งแผ่นดินทรงตรัสย้ำถามไปทางขันทีผู้หนึ่งที่คาบข่าวมาบอกทันทีที่พระองค์ทรงประทับนั่งเก้าอี้
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” ขันทีผู้นั้นก้มศีรษะโขกพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นตอบ “กระหม่อมได้รับความนี้จากนางกำนัลของตำหนักองค์หญิงเหม่ยหลินพ่ะย่ะค่ะ นางร้อนใจยิ่งนัก มิคาดว่าองค์หญิงจะทรงหนีเที่ยวอย่างซุกซน เมื่อพระองค์เสด็จกลับมาถึงตำหนัก กระหม่อมจึงนำความมาแจ้งทันที พ่ะย่ะค่ะ”
โจวเหวินหลงฮ่องเต้หรี่พระเนตรลงจนเกิดริ้วรอยตามวัยชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อพระองค์ทรงพิจารณาขันทีตรงหน้า คำฟ้องที่ว่าเหม่ยหลินหนีออกจากวังนั้น ยังไม่ผิดเท่ากับคำว่าหนีเที่ยวอย่างซุกซน ทำเอาพระโอษฐ์ถึงกับยกแย้มสรวลบางเบาก่อนตรัสสุรเสียงเย็นเยียบ
“หม่ากงกง” พระองค์ทรงเรียกขันทีคนสนิทข้างกาย
“พ่ะย่ะค่ะ” หม่ากงกงรีบค้อมตัวประสานฝ่ามือน้อมรับคำสั่ง
เสียงทุ้มทรงอำนาจจึงกังวานก้อง “นำขันทีผู้นี้ไปชี้ตัวนางกำนัลผู้นำความแก่เขา แล้วตบปากทั้งคู่ให้เลือดสาดตามด้วยโบยให้ตายไปเสีย”
“หา!”
ขันทีผู้นำความมาทูลฟ้องพลันเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง
หม่ากงกงหาได้สนใจอาการนั้นของขันทีปากมาก เขารีบทำตามพระประสงค์แห่งองค์เหนือหัวในทันที
“ฝ่าบาท ไว้ชีวิตด้วย ฝ่า...บาท...” เสียงของขันทีผู้โชคร้ายหายไปพร้อมกับทหารร่างใหญ่ที่ลากเขาจนเนื้อตัวถูไปกับพื้นตำหนัก
โจวเหวินหลงให้นึกขัดเคืองในพระทัยนัก คำว่าหนีเที่ยวซุกซนของพระธิดาคนงาม มิใช่การตบพระพักตร์ของพระองค์หรอกหรือไร กล่าวหากันว่าดูแลบุตรสาวของตนไม่ดีประไร ฮึ!
ถึงแม้เจ้าแห่งแผ่นดินต้าโจวจักมีราชกิจยุ่งเหยิง มีสนมชายาจนเต็มวังหลัง กระทั่งมีโอรสธิดามากมาย แต่พระองค์ย่อมมิอาจรับได้ หากถูกปรามาสว่าดูแลคนของตนไม่ดี
ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงก็เถอะ!
สายพระเนตรที่มีริ้วรอยแห่งวัยยังคงหรี่ลงเล็กน้อยยามนึกถึงธิดาแห่งตน โจวเหม่ยหลิน...หากแต่ในห้วงคำนึงกลับคิดถึงพระมารดาผู้ล่วงลับของพระธิดาคนนี้
เมื่อครั้งอดีตที่พระองค์ได้เจอกับเสวี่ยลี่ พระมารดาของเหม่ยหลินนั้น เสวี่ยลี่ก็หนีเที่ยวซุกซนออกจากเมืองหลวงในแคว้นเว่ยเช่นกัน
ครานั้นเสวี่ยลี่ถูกวางตัวให้เป็นพระชายาเอกในรัชทายาทของแคว้นเว่ย ทั้งยังเป็นว่าที่ฮองเฮา หากรัชทายาทขึ้นครองราชย์
เราสองได้บังเอิญเจอกันดั่งพรหมลิขิตยังเขตแดนเชื่อมต่อระหว่างแคว้น กระทั่งเกิดพึงใจกันและกันอย่างไม่อาจห้ามใจ ทว่าเสวี่ยลี่มีหน้าที่สำคัญต่อแว่นแคว้นเป็นอย่างมาก หากแต่พระองค์ก็ทรงเห็นแก่ตัวมากเช่นกัน ศึกระหว่างแคว้นเกิดขึ้นเนืองนิตย์อยู่แล้ว พระองค์หาได้เกรงกลัวไม่
พระองค์จึงทำทุกทางเพื่อให้ได้เสวี่ยลี่มาเป็นของพระองค์ กระทั่งครอบครองนางอย่างดึงดันได้สำเร็จก็พานางกลับแคว้นต้าโจว แต่งตั้งนางเป็นสนมคนสำคัญโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของขุนนางใดทั้งนั้น
ในขณะที่โจวเหวินหลงฮ่องเต้กำลังจมดิ่งกับห้วงภวังค์แห่งตน หม่ากงกงก็กลับเข้ามาพร้อมทูลแจ้งแก่พระองค์ “ทูลฝ่าบาท ท่านแม่ทัพหยวนทรงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
“ให้เขาเข้ามา” โอรสสวรรค์ตรัสแค่นั้นด้วยท่าทางเรียบเฉยคล้ายมิได้ใส่พระทัย ด้วยกำลังนึกเคืองในวาจาสามหาวของขันทีคนเมื่อครู่เป็นอย่างมาก
หยวนจงในชุดขุนนางเต็มยศเดินเข้ามาภายในห้องโถงตำหนักด้วยท่าทางองอาจผึ่งผาย ก่อนคุกเข่าลงแล้วทำความเคารพโอรสสวรรค์แล้วเอ่ยเสียงทุ้มกังวาน “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
อารมณ์ขุ่นมัวของโจวเหวินหลงฮ่องเต้ถูกแทนที่ด้วยสีพระพักตร์ไร้ความรู้สึก มิให้ใครล่วงรู้ความคิด ก่อนตรัสถามด้วยสุรเสียงเนิบช้ามากบารมี “หมดช่วงพักงานหลังแต่งงานของเจ้าแล้วใช่หรือไม่?”
หยวนจงคงใบหน้าหล่อเหลาคล้ายยิ้มยินดีก่อนค้อมศีรษะตอบคำเสียงเรียบ “พ่ะย่ะค่ะ” อันที่จริงเขามิได้ต้องการช่วงพักที่ว่าเลยสักนิด
“ก็ดี” โอรสสวรรค์ตรัสออกมา “เรากำลังมีงานให้เจ้าทำอยู่พอดี”
ชายหนุ่มตรงพื้นด้านล่างจากแท่นประทับทองคำก้มศีรษะพร้อมรับคำสั่ง
โอรสสวรรค์เงียบไปชั่วครู่คล้ายใช้ความคิด ก่อนตรัสออกมาด้วยสุรเสียงเนิบช้า “หลายวันที่เราออกว่าราชกิจนอกพระราชวัง ธิดาของเรานางหนึ่งเกิดหลงทางอยู่นอกวัง”
หยวนจงเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานึกฉงนกับคำตรัสของเจ้าเหนือหัวไม่เบา ใครกัน?
สุรเสียงทรงอำนาจยังคงดังออกมา “เราต้องการให้เจ้าออกไปรับนางกลับวังหลวง ให้นางได้อยู่ในที่ในทาง หากคิดไม่ผิด นางคงออกไปไหว้พระยังวัดแห่งหนึ่ง เรื่องนี้ห้ามให้คนนอกรู้ บ่าวรับใช้ที่บังอาจยุยงจนนางหลงทางก็จงสังหารให้สิ้น โทษฐานไม่ดูแลเจ้านายให้ดี”
ถึงแม้จะยังมิอาจทราบว่าเป็นองค์หญิงคนใด หากแต่หน้าที่ตามพระประสงค์มิอาจขัด แม่ทัพหนุ่มจึงก้มศีรษะรับคำสั่งด้วยท่าทีสงบนิ่งดังเช่นปกติ
อึดใจสุรเสียงราบเรียบของโจวเหวินหลงฮ่องเต้ทรงตรัสออกมาอีกครา
“ธิดาที่เราให้ไปรับกลับมา คือองค์หญิงโจวเหม่ยหลิน เราหวังว่าเจ้าจักดูแลนางให้ดีพากลับวังอย่างปลอดภัย รายละเอียดอื่นๆ ให้หม่ากงกงเป็นคนบอกเจ้าแล้วกัน”
แม่ทัพหนุ่มถึงกับชะงักไปชั่ววูบ และนั่นมิได้ต่างอันใดกับเสียงสวรรค์เลยสักนิดสำหรับหยวนจง
“น้อมรับพระบัญชา” ชายหนุ่มรีบก้มศีรษะรับคำสั่งด้วยท่าทางองอาจและสง่าผ่าเผย สีหน้าของเขาเรียบเฉยไร้คลื่นอารมณ์อันใด หากแต่กลับซ่อนประกายวูบไหวคล้ายยินดีในดวงตาคมปลาบเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาจึงปรากฏรอยยิ้มตรงมุมปากแวบหนึ่ง แต่ความคิดชั่วร้ายพลันบังเกิดอย่างต่อเนื่อง เขาคงต้องรีบจัดการกับสตรีในเรือนหลังให้สิ้นซากไร้หลุมฝัง เพื่อรอรับนางในดวงใจเข้าเรือนทันใดเมื่อหานางพบ!
องค์หญิงเหม่ยหลินจักต้องเป็นของเขา หากนางไม่ยอมก็ขืนใจเสีย ฮึฮึ!
**********************
|
|
|
|
ความคิดเห็น