คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ริษยาของสตรี
ยามสายของเช้าวันใหม่ ภายในเรือนของเหม่ยฮว๋าแห่งจวนแม่ทัพหยวนจง
เจ้าของเรือนยังคงนอนหลับใหลอยู่บนเตียงใหญ่ ในสภาพเปลือยกายไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม กระทั่งผ้าห่มยังมิได้คลี่คลุมปิดบังเนื้อนวลที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งเพลิงพิศวาสแต่อย่างใด
นางนอนหลับอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ลมหายใจอิดโรย อันเนื่องมาจากการร่วมรักเสพสมที่แสนจะเร่าร้อนกับสามีของตนเอง
แม่ทัพหนุ่มผละออกจากร่างเปล่าเปลือยบนเตียงนอนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เขากำลังยืนจัดอาภรณ์สีขาวพิสุทธิ์อยู่ตรงหน้าเตียง หางตาเรียวคมเพียงปรายลงมองเสื้อผ้าเนื้อบางของสตรีบนเตียงที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้องแวบหนึ่ง ก่อนจะหมุนกายสูงใหญ่เดินออกไปจากในห้องนาง
เดือนก่อนยามที่จำใจยอมจำนนต่อสมรสพระราชทาน หยวนจงก็คิดแล้วว่าจะเปิดใจให้สตรีผู้นี้ การแต่งงานกับองค์หญิงสูงศักดิ์แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี นางทั้งสูงส่งและงดงาม เพียงแรกสบตาก็พาให้ใจเต้นระรัว เลือดลมในอกแกร่งพลันพลุ่งพล่านไปหมด ลีลารักของนางหรือก็ล้วนเลิศล้ำ ทำให้เขาลืมองค์หญิงเหม่ยหลินที่ปักใจได้ชั่วคราว
หากแต่หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขายังไม่เห็นความดีส่วนใดนอกจากเรื่องบนเตียงของเหม่ยฮว๋าเลยสักนิดเดียว
นางทั้งเกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ถือตนว่าเป็นองค์หญิงชี้นิ้วสั่งเป็นสั่งตายไปทั่ว หากไม่พอใจอะไรแม้เพียงเล็กน้อย โทสะของนางประดุจดั่งเปลวเพลิงที่พร้อมจะปะทุและเผาไหม้จวนของเขาเลยทีเดียว
หยวนจงกรำศึกหนักยังดินแดนทางเหนือมานานปี สร้างคุณงามความดีมิใช่น้อย ความจงรักภักดีมีเต็มเปี่ยม แต่กลับได้สตรีนิสัยร้ายกาจมาเป็นภรรยา เวลาหนึ่งเดือนที่ได้แต่งนางเข้ามา เขาล้วนรับรู้ได้ไม่ยากเย็น ว่านางคิดใช้เขาเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อความสะใจต่อสตรีด้วยกัน ตอบสนองความริษยาต่อพี่น้องต่างมารดาก็เท่านั้น
เดิมทีเขาเคยคิดว่า จักรับอนุเข้ามาสักหลายๆ คนหมายปั่นหัวนางเล่น เพื่อเป็นการเอาคืนที่นางบังอาจเห็นชายชาติบุรุษเยี่ยงเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเพื่อเอาชนะสตรีอื่น หากแต่พอคิดให้ดีอีกที นิสัยร้ายกาจเช่นเหม่ยฮว๋า คงไม่แคล้วฆ่าอนุผู้บริสุทธิ์ของเขาจนหมดจวน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ มุมปากหยักพลันยกโค้ง ดวงตาเรียวคมพลันเจ้าเล่ห์ หากมิอาจหักใจนำพาสตรีอื่นเข้ามา สตรีข้างกายเหม่ยฮว๋าก็ไม่เลวมิใช่หรือ?
หยวนจงเป็นทหารชาญศึก มีกำลังวังชามากมายนัก บทรักร้อนแรงเมื่อคืน หาได้สูบพลังจากเขาไม่ เขายังมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ พร้อมเปิดศึกรักบนเตียงนอนได้อีกหลายกระบวนท่าเชียวล่ะ
เรือนร่างสูงใหญ่เคลื่อนกายออกมาจากห้องชั้นในด้วยท่าทางสงบเรียบนิ่ง หากแต่แฝงเสน่ห์ตรึงใจแห่งบุรุษเพศเต็มเปี่ยม ปลายเท้าใหญ่หยุดเดินพลางปรายสายคมดำลึกล้ำลงมองสองสาวใช้ที่นั่งรอเจ้านายอยู่หน้าประตูห้อง
เมื่อสบประสานสายตากับแม่ทัพหนุ่มที่กำลังเดินออกมาจากห้องนอนของเจ้านาย ซือฮุยที่นั่งอยู่กับเพ่ยอิงพลันใจเต้นแรง ใบหน้าของนางแดงก่ำลามไปทั่วทั้งลำคอ นางกำลังนึกถึงภาพยามอยู่ใต้ร่างท่านแม่ทัพหนุ่มรูปงามเมื่อคืนก่อน ภาพนั้นทำนางร้อนรุ่มเหลือเกิน ชายชาติทหารเช่นท่านแม่ทัพ มีสตรีใดบ้างจักลืมได้ลง
ในขณะที่ซือฮุยกำลังเขินอาย ส่อกิริยากระสัน หยวนจงเพียงเอ่ยเสียงต่ำไปทางเพ่ยอิง “เจ้า...ไปกับข้า”
ซือฮุยพลันเบิกตาโพลง รู้สึกเสมือนตกจากสวรรค์ ส่วนเพ่ยอิงพลันหูผึ่งและไม่มีการรอให้เรียกรอบสอง เมื่อปลายเท้าใหญ่ของชายร่างสูงขยับก้าวเดินออกไปยังทิศทางหนึ่ง สาวใช้ผู้ถูกเลือกให้ไปปรนนิบัติก็รีบกระวีกระวาดตามติดประหนึ่งดั่งกลัวหลงทาง
ซือฮุยที่คิดว่านางจะได้รับสิทธิ์ปรนนิบัติยอดบุรุษเต็มเปี่ยม ทำได้แค่นั่งนิ่งแข็งค้างอยู่ที่เดิม หากแต่นางไม่สามารถทำอันใดได้มากไปกว่าการส่งสายตาฉายวาวแห่งริษยา เพราะว่านางรู้ดี หากนางนำเรื่องนี้ไปฟ้ององค์หญิงเหม่ยฮว๋า เรื่องของนางเองที่ลอบปรนนิบัติท่านแม่ทัพเช่นกันก็จะแดงขึ้นมา หากเป็นเช่นนั้น ตัวนางคงไม่แคล้วแหย่เท้าเข้าปากผี
หึ! จะอย่างไรเสีย ก็ยังดีกว่าท่านแม่ทัพรับอนุงดงามเข้ามาเต็มจวนก็แล้วกัน พวกนางสามคนนายบ่าวแบ่งปันกันเท่านี้ก็นับว่าเหมาะสมแล้ว
สาวใช้ผู้ตกสวรรค์คิดได้เช่นนั้น พลางลอบมองเข้าไปยังห้องชั้นใน เห็นเจ้านายของตนยังคงนอนหลับใหลคล้ายตายจาก ก็ให้รู้สึกโล่งอกนัก นางจึงรีบออกไปเตรียมข้าวเตรียมน้ำชายามเช้าเอาไว้ให้พร้อม ทั้งยังไม่ลืมใส่ยาบางอย่างเพื่อหนึ่งสามีที่ใช้ร่วมกับเจ้านาย...
บนเตียงนอนภายในเรือนรับรองของจวนแม่ทัพหยวน
เสียงหอบครางผสมผสานเสียงลั่นขาเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง หยวนจงยังคงสวมวิญญาณหนุ่มเจ้าสำราญขับเคลื่อนกายแกร่งบนร่างสาวใช้นามว่าเพ่ยอิงอย่างถึงใจ
เขาเพียงร่วมอภิรมย์โดยหาได้พรมจูบกับนางไม่ สองวงแขนของเขาคร่อมอยู่ตรงช่วงไหล่กลมมนทั้งสองของนาง แผงอกบึกบึนขยับไปมาเหนือหน้าอกอวบตึงห่างอยู่หลายชุ่น มีเพียงช่วงขาเท่านั้นที่เกี่ยวกระหวัดพันกัน ยามที่บั้นท้ายขยับไปมา
สติทั้งหมดของเพ่ยอิงการถูกครอบครองจากหยวนจง นางหาได้รู้สึกถึงระยะห่างคล้ายไว้เนื้อถือตัวของอีกฝ่ายไม่ อารมณ์วาบหวิวแห่งการร่วมรักกำลังพร่างพราวทำสมองของนางขาวโพลนไปหมด นางไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแล้วในเวลานี้
“ท่านแม่ทัพ” สาวใช้ร้องครางครวญเรียกชายเหนือร่างด้วยเสียงสั่นพร่า “เพ่ยอิงไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
สายตาคมกล้าที่กำลังทอประกายร้อนแรงด้วยอารมณ์กำหนัดพลันหรี่เล็กลง เพ่ยอิงคือใคร นามของนางหรือ?
ฮึ! ใครสนใจอยากรู้จักนามของเจ้ากัน!
ชายหนุ่มจัดการกับอารมณ์กระสันของตนเองต่อไป ไม่คิดใส่ใจอันใดทั้งนั้น เสียงบางอย่างจึงดังผสานกับเสียงหอบครวญคร่ำอย่างไร้ปรานี
ครู่ใหญ่ต่อมา เมื่อร่างกายได้รับการปลดปล่อยทุกหยาดหยด กายงามสง่าของชายหนุ่มจึงล้มตัวลงนอนเคียงข้างร่างอ่อนระทวยของสาวใช้ ที่บัดนี้ได้เลื่อนฐานะเป็นเมียบ่าวของแม่ทัพหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย
“ท่านแม่ทัพ” เพ่ยอิงเอ่ยเรียกขานเสียงเบาหวิว นางยังคงซาบซ่านอยู่มาก เหงื่อกาฬไหลเยิ้มเต็มไปหมด
หยวนจงนอนตะแคงข้างเอามือหนึ่งค้ำศีรษะตนเองเอาไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นมาตรงใบหน้าแดงก่ำของเพ่ยอิง ก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยเม็ดเหงื่อที่พร่างพราวออกจากวงหน้าของนาง เขาทำด้วยท่าทางสุภาพอ่อนโยนยิ่ง
เพ่ยอิงถึงกับสะท้านเฮือก ร่างงามสั่นระริก ประหนึ่งถูกขึ้นคร่อมแล้วควบจังหวะอีกรอบ
ริมฝีปากแดงสดบนใบหน้าหล่อเหลาจึงยกโค้งขึ้น เผยรอยยิ้มละมุนละไมราวเทพเซียนจำแลง ตามด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์แหบพร่าพาหัวใจหญิงสาวสะท้าน
“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ ว่าหากเรื่องของเราสอง ล่วงรู้ไปถึงเมียรักของข้า จักเกิดสิ่งใด”
หญิงสาวคล้ายกับถูกต้องมนต์ด้วยปลายนิ้วกรุ่นร้อนและเสียงแหบเสน่ห์ของชายหนุ่ม นางจึงเอ่ยตอบเสียงแผ่ว “บ่าวรู้เจ้าค่ะ” จริงแท้ว่าองค์หญิงเหม่ยฮว๋าผู้ร้ายกาจ ไม่ปล่อยนางไปแน่
หยวนจงยังคงคลี่ยิ้มล่อลวง แล้วเอ่ยอีกครา “แต่ว่า ฮว๋าเอ๋อร์ของข้ายังไม่ตั้งครรภ์ หากเจ้าตั้งครรภ์ก่อนนาง ย่อมไม่เหมาะสม”
เพ่ยอิงมองแม่ทัพหนุ่มด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม “มันจะไม่เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
เสียงทุ้มพร่ายังคงเอ่ยข้างใบหูเล็กของเพ่ยอิง “อืม...แต่เรื่องนี้ป้องกันยากเสียด้วย เจ้าอาจจะตั้งครรภ์กะทันหันก็เป็นได้”
หญิงสาวรีบส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ หากบ่าวตั้งครรภ์ บ่าวได้ตายพร้อมลูกในท้องด้วยฝีมือองค์หญิงเหม่ยฮว๋าแน่!”
“อ่า...” หยวนจงครางในลำคอแล้วเอ่ยเนิบนาบฟังแล้วเสียวซ่านนัก “ทำอย่างไรดีเล่า ข้าติดใจเจ้าเสียแล้ว ห้ามได้หรือ หืม...”
เพ่ยอิงมองสบตอบสายตาเรียวคมอย่างแน่วแน่ ร้อนวูบวาบไปหมด “หากเป็นเช่นนั้น บ่าวยอมตาย แต่จะไม่ยอมตั้งครรภ์เจ้าค่ะ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอบอุ่น ดวงตาทอประกายลึกล้ำ “เจ้าจะตายได้อย่างไร เจ้าทำให้ข้าพึงใจถึงเพียงนี้ ข้าอยากยกฐานะของเจ้าเหลือเกิน เจ้าอย่าคิดสั้นเช่นนั้นเชียว”
เพ่ยอิงได้ยินดวงตาวาบหวามพลันเปล่งประกายสั่นไหว แม้จะมิได้เป็นถึงภรรยาเอก แต่อาจจะได้เป็นถึงอนุที่มีบริวารติดตาม มิใช่เมียบ่าวผู้ต่ำตมเยี่ยงดินโคลน
“อา...ท่านแม่ทัพ ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ” นางถามอย่างตื่นเต้นเกินเก็บข่ม
หยวนจงพยักหน้าเบาๆ ช้าๆ ให้นางหนึ่งที กิริยาล้วนนุ่มนวลถนอมสาวงาม
ชายหนุ่มก้มหน้าไล้ปลายจมูกเสียดผิวแก้มแดงยามกระซิบกระซาบ “แต่หากฮว๋าเอ๋อร์เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา อย่าว่าแต่ยกฐานะให้เจ้าเลย แม้แต่ที่ยืนก็คงไม่มีให้เจ้ากระมัง” ใบหน้าหล่อเหลาบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกหนักใจยิ่ง กังวลมากด้วย
ความคิดชั่วร้ายพลันไหลวูบเข้ามาในสมองของสาวใช้ในทันที หึ! หากเป็นเช่นนี้ องค์หญิงเหม่ยฮว๋าก็ทรงอย่าฝันเลยว่าจักได้ตั้งครรภ์กับท่านแม่ทัพของข้า...
รอยยิ้มละมุนของหยวนจงยังคงประดับตรงมุมปากได้รูปเปี่ยมเสน่ห์ หากแต่สายตาคู่คมกลับแปรเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเย็นชา หากคิดจะกำจัดสตรีขี้อิจฉาได้แนบเนียนไร้ที่ติ ย่อมต้องใช้สตรีที่ริษยาได้ชั่วร้ายไม่ต่างกันนี่ล่ะ!
แน่นอนว่าสามีรับอนุมิใช่เรื่องผิด บุรุษมากภรรยา มีสตรีอุ่นเตียงเต็มเรือนนั้นต่อให้เป็นฮ่องเต้ก็ว่าเขาเรื่องนี้มิได้ แต่หากภรรยาไม่สามารถมีบุตรนั้นช่างแตกต่าง หรือหากนางต้องยาพิษจากฝีมือสาวใช้ผู้เป็นสินเดิมของนางเล่า
ฮึ! แค่คิดก็สนุกแล้ว...
หนึ่งชั่วยามต่อมา
ภายในเรือนของเหม่ยฮว๋า มีโฉมสะคราญที่ผ่านการเสพสมจากสามีเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากำลังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์หลังมื้ออาหารยามสาย พลางปรายสายตาที่เขียนเอาไว้อย่างประณีตมองไปทางสาวใช้ของตน แล้วเอ่ยเรียกเสียงห้วน
“ซือฮุย”
“เพคะ องค์หญิง” ซือฮุยรีบขานรับพลางโขกศีรษะอย่างนอบน้อมและแสดงความเคารพยำเกรงต่อสตรีตรงหน้าอย่างเหลือล้นประหนึ่งนางตรงหน้ายิ่งใหญ่กว่าโอรสสวรรค์ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ สตรีผู้ถือตนว่าสูงเทียมฟ้าจะพิโรธจนฟ้าถล่มลงมา ทั้งๆ ที่แต่งงานเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพแล้วแท้ๆ ยังถือตัวว่าเป็นองค์หญิงวัยสะพรั่ง
“เพ่ยอิงเล่า ไปตายที่ใด ไยข้าไม่เห็น” เหม่ยฮว๋าถามหาสาวใช้อีกคนด้วยรูปประโยคไร้ปรานี
แต่ยังไม่ทันที่ซือฮุยจักหาคำตอบใดมากล่าวอ้าง เพ่ยอิงพลันรีบคลานเข่าเข้ามา ใบหน้าของนางยังคงแดงซ่านไปถึงลำคอ ท่าทางเหน็ดเหนื่อยอิดโรยยิ่ง และแน่นอนว่านางไร้ริ้วรอยฝากรักให้ได้เห็น กระทั่งริมฝีปากยังไม่บวมแดงแต่อย่างใด เพราะหยวนจงมิได้ลงปากลงลิ้นกับนาง
ท่านแม่ทัพช่างรอบคอบนัก เพ่ยอิงคิดในใจอย่างปลื้มปริ่ม
เหม่ยฮว๋าหรี่ตามองแล้วถามเสียงดุ “เจ้าไปที่ใดมา เพ่ยอิง”
สาวใช้รีบโขกศีรษะก่อนตอบกลับ “ทูลองค์หญิง หม่อมฉันไปดูแลจัดการสั่งงานบ่าวหน้าเรือนให้ดูแลความเรียบร้อยเพคะ”
เพ่ยอิงแก้ตัวได้แนบเนียนนัก ทั้งๆ ที่ไปร่วมรักกับสามีของสตรีตรงหน้ามาถึงสามรอบอย่างเร่าร้อน
ซือฮุยปรายหางตามองเพ่ยอิงอย่างริษยานัยน์ตาแดงเดือด นางย่อมรู้ดีว่าท่านแม่ทัพขยำได้หนำใจปานใด
อิจฉายิ่ง!
ถึงแม้ว่าสองสาวใช้จะรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี หากแต่พวกนางย่อมฉลาดพอที่จะมิให้สตรีผู้ร้ายกาจตรงหน้าได้รู้เรื่องราวของพวกนางเป็นอันขาด
เพราะว่าหากเหม่ยฮว๋ารู้ขึ้นมา ว่าท่านแม่ทัพจับพวกนางที่เป็นสาวใช้คนสนิทกลืนกินจนพวกนางสุขสมกันถ้วนหน้า นรกก็นรกเถิด อาจกลายเป็นด้อยไปเลยก็ได้เมื่อเทียบกับความร้ายกาจของสตรีนามว่า เหม่ยฮว๋า...
***ปกติพระรองอาจจะแสนดี แต่นิยายเรื่องนี้ หยวนจงคือ พระรอง...***
พระเอกกับพระรองใครจะร้ายกาจมากกว่ากัน!!!
**********************
ทดลองอ่าน เรื่องของหยวนจง คลิก >>>นางร้ายพ่ายรัก (ดวงใจแม่ทัพ)
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น