ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจจอมมาร(จบ)

    ลำดับตอนที่ #23 : ข่มกลั้น1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 67


    ยามราตรีกาลอันมืดมิด ตรงก้นเหวลึกลับ ที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาได้ยากนัก

    หงซือกวนกับเหม่ยหลินนั่งเคียงข้างกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงโขดหินริมลำธาร โดยเจ้านกประหลาดตัวใหญ่เพียงเกาะอยู่บนต้นไม้เพื่อระวังภัยก็เท่านั้น รอบด้านของสองชายหญิงล้วนวังเวงและเย็นเยียบ สายลมโชยพลิ้วหนาวเหน็บ บรรยากาศประหนึ่งกำลังจะถูกแช่แข็งก็ไม่ปาน ทำให้พวกเขาต้องนั่งใกล้กองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

    ภาพหนึ่งภาพพลันปรากฏในห้วงความคิดของทั้งสองโดยมิได้นัดหมาย ภาพนั้นไม่พ้นภาพแห่งค่ำคืนวานที่สองร่างเปลือยเปล่านอนกอดก่ายแนบชิด ปล่อยความร้อนกรุ่นของผิวกายให้สื่อถึงกัน

    แน่นอนว่าหงซือกวนย่อมนึกภาพตามความจริง ถึงหญิงที่กำลังนั่งข้างกายกัน ว่าเนื้อนวลนางนุ่มนิ่มปานใดยามตกอยู่ในอ้อมแขนเขา หากแต่เหม่ยหลินกลับนึกภาพคล้ายความฝันก็เท่านั้น นางกำลังนึกถึงแผงอกตึงแน่นของชายข้างกายกัน นางอยากรู้ว่าจะอบอุ่นสักปานใด

    ชายหนุ่มหญิงสาวใต้ต้นไม้ใหญ่ กำลังคิดการณ์ไกลโดยมิได้มองหน้ากัน แต่ทว่าพวกเขานั้น กลับนึกถึงภาพเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    เวลานี้เป็นยามซวีสี่เค่อ[1]แล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงย่างปลากินอย่างใจเย็นอยู่ริมลำธารเช่นเดิม โดยไม่คิดจะเดินทางต่อแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นใครบางคนที่นั่งไม่ไกลกันแอบจับเท้าตนเองอยู่หลายครา

    ร่างสูงสง่าของเขาเพียงนั่งเอนกายพิงต้นไม้ชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง สายตาคมดำมองออกไปยังทิศทางรอบด้าน คล้ายมิได้ใส่ใจอันใดกับสตรีงดงามข้างกายเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงทำให้เหม่ยหลินกล้าที่จะลอบถอดรองเท้าของตนออก

    หญิงสาวใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะค่อยๆ ถอดรองเท้าออกมาแล้วนวดคลึงจนทั่ว ตั้งแต่ปลายเท้ากระทั่งถึงหัวเข่า นางแอบเปิดชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อยเพื่อพิศมองเรียวขาของตนเอง ว่าระบมแค่ไหน และสิ่งที่เห็นยามเมื่อร่างของตนต้องแสงเพลิงของเปลวไฟในกองฟืนก็คือเท้าของนางบวมมาก ทั้งๆ ที่ยามกลางวันไม่เจ็บสักเท่าไหร่

    หญิงสาวเม้มปากแน่น น้ำสีใสปริ่มๆ อยู่ตรงขอบตา รู้สึกเจ็บมากกว่าเดิมขึ้นมาทันใด แต่ทว่าจำต้องข่มกลั้นเอาไว้ แล้วปิดชายประโปรงลงเช่นเดิม ก่อนจะใส่รองเท้าอย่างยากลำบาก มิคาดว่ายามใส่คืนจะเจ็บยิ่งกว่ายามถอดออกเสียอีก

    หลังจากจัดการกับตนเองเรียบร้อยดีแล้ว เหม่ยหลินจึงนั่งกินปลาอยู่เงียบๆ ไม่กล้าส่งเสียงอันใดทั้งนั้น เนื่องจากอาจจะเป็นการปลุกเหล่าสัตว์ร้ายในป่าใหญ่ให้ตื่นขึ้นมา ภาพของพวกหมาป่าตัวโตเขี้ยวยาวเหล่านั้น นางล้วนจำได้ขึ้นใจ

    เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เหม่ยหลินจึงขยับร่างระหงเข้าใกล้ชายข้างกายอีกนิดจนไหล่แนบชิดโดยไม่รู้ตัว

    หงซือกวนยังคงกวาดสายตาคมมองสำรวจรอบทิศ ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม ยามนี้ดึกมากแล้ว อากาศค่อนข้างเย็นและมีน้ำค้างตกลงมา แต่ทว่าใกล้ๆ นี้ไม่มีถ้ำ ไกลออกไปก็ไม่มี แต่หากย้อนกลับไปคงมิใช่เรื่องดี เขาจึงนั่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่ยามอู่ก็เพราะเท้าน้อยๆ ของนางข้างกาย

    ชั่วครู่ต่อมาสายตาเย็นชาบนใบหน้าคมคายหันมามองคนงามแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

    “เจ้ามีนามว่าอะไร?

    ถึงแม้จะจำอันใดมิได้ หากแต่เขาก็รู้สึกได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากทำความรู้จักสตรีสักคน

    เมื่อเหม่ยหลินได้ยินคำถามนั้น เรียวคิ้วงามพลันขมวดเป็นปม “ข้ายังมิได้บอกนามตนแก่ท่านหรือ?

    อา...อันที่จริง องค์หญิงเช่นนาง ไหนเลยจักเคยแนะนำตนเองกับใคร เพราะส่วนใหญ่ยามที่ต้องเผยโฉมออกสู่ธารกำนัล นามของนางล้วนมีคนประกาศแทน

    เมื่อเป็นเช่นนั้น ใบหน้าขาวผ่องพลันแดงซ่านทันใด หญิงสาวรู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันทียามที่ต้องเอ่ยแนะนำตนเอง

    “เอ่อ...ข้ามีนามว่าโจวเหม่ยหลิน พี่หงเรียกข้าว่าเหม่ยหลินก็ได้” กล่าวจบเลือดลมพลันสูบฉีด ทั้งพวงแก้ม ทั้งใบหู กระทั่งลำคอระหงแดงก่ำประหนึ่งดั่งผลอิงเถากระนั้น อันที่จริงนางอยากให้เขาเรียกนางว่า หลินเอ๋อร์

    “เหม่ยหลิน” หงซือกวนทวนคำนาง “เป็นนามที่ดี” เขากล่าวชมด้วยใบหน้าสงบเรียบนิ่ง สายตาคมดำจ้องมองนางที่กำลังเขินอายเสียเหลือเกิน ผิวเปล่งปลั่งของนางดั่งจะคั้นน้ำออกมาเป็นสีชาดได้

    มิคาดว่านางจะอ่อนไหวถึงเพียงนี้ หากนางรู้ว่าเขากอดนางทั้งคืน ทั้งยังลอบจุมพิตนางด้วย นางมิละลายกลายเป็นของเหลวไปเลยหรือไร

    ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจได้อย่างนั้น จึงจำต้องข่มกลั้นความรู้สึกอยากแนบชิดนางเอาไว้ แต่ทว่ายิ่งเห็นร่างนุ่มนิ่มของนางตัวสั่นด้วยอากาศเหน็บหนาวที่กำลังแผ่ปกคลุมไปทั่ว ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก

    หงซือกวนหรี่ตาลงเล็กน้อยยามก้มหน้ามองนางข้างกาย พลางขยับร่างแกร่งเข้าใกล้นางอีกนิดให้ไหล่แนบชิดกันอีกหน่อย

    เหม่ยหลินยิ่งหลุบตา จนแพขนตาบดบังพวงแก้ม หากแต่ก็มิได้คิดจะถอยห่างเลยแม้แต่น้อย

    ยามราตรีกาลอันหนาวเหน็บ สายลมโชยพลิ้วพาความเย็นคล้ายคมมีดเข้าบาดผิว รอบด้านอันมืดมิดมีเสียงแมลงกลางคืนร้องร่ำดังระงมคล้ายขับขานบรรเลงเพลงหวาน

    ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงโขดหินริมลำธาร กำลังมีเงาร่างงดงามสองสาย หนึ่งคือชายหนุ่มสูงสง่านั่งก้มหน้ามองนางข้างกายนิ่งงัน อีกหนึ่งคือหญิงสาวงดงามอ่อนหวานนั่งหลุบตาลงเพื่อให้แพขนตางามงอนช่วยปิดบังความเขินอาย

    สองหนุ่มสาววัยกำดัดที่กำลังเกิดอารมณ์ตามธรรมชาติอย่างมิอาจห้ามใจ หากแต่ต้องข่มกลั้นมันเอาไว้ ถึงแม้บรรยากาศจะเป็นใจก็ตามที

     


    [1] ยามซวีสี่เค่อ = 20.00 น.


    **********************

    e-book ในชุดเดียวกัน รุ่นลูกและรุ่นหลาน

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม1
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    นางเป็นสตรีร้ายกาจ หน้าตาดุดัน นิสัยไม่เหมือนใคร ส่วนเขาเป็นถึงโอรสสวรรค์ รูปร่างสง่างาม เป็นที่หมายปองของเหล่าสตรี

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม2
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    “ต่อไป ข้าจะไม่ให้ใครเข้าใกล้ท่านอีก ข้าจะฆ่าทิ้งให้หมด” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าและแววตาดื้อรั้นจนหลี่ซื่อหมินนึกขัน“ข้ารู้ เจ้าเป็นนางมารน้อยของข้า หลงเอ๋อร์” เขากล่าวพลางยกมือขึ้นบิดแก้มนวลนั้นอย่างนึกเอ็นดู“ข้าจะไม่ทนอีกแล้วนะ” “อืม...”“ข้าไม่ได้ล้อท่านเล่น”“ข้ารู้”หงเหม่ยหลงยังคงบ่นอุบอิบอย่างขัดเคืองพลางก้มหน้าซุกซบอยู่กับแผงอกอบอุ่นของหลี่ซื่อหมินชายหนุ่มเพียงยืนอมยิ้มประคองกอดนางพลางนึกขอบคุณสวรรค์ เขาขอบคุณทุกสรรพสิ่งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ส่งสตรีนางนี้ให้เกิดมา ขอบคุณที่ทำให้เขาได้พบเจอกับนางได้รักนาง... นางเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจของเขาเป็นสตรีนางเดียวที่เขาจะรักตลอดไป...

    สะดุดรักยัยกะล่อน坠入爱河
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    เขาคือบุรุษรูปงามที่แสนเย็นชา    นางคือสตรีใจกล้านิสัยไม่ดี

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)ภาคทะลุมิติรัก
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าต้องมาเจอกับสตรีตัวเล็กๆที่คิดว่าตนเอง ยิ่งใหญ่กว่า
    e-book เรื่องอื่นๆ รับประกันความฟินจ้า...
    คลิกที่รูปได้เลย

     
         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×