คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หงซือกวน
ภายใต้ท้องฟ้าอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ บนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของผืนพนาไพร เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ล้วนเคยออกมาหากินทั่วบริเวณ
แต่ทว่าบัดนี้ แผ่นดินเขียวชอุ่มภายใต้แผ่นฟ้าไร้ขอบเขต กลับชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ตลบอบอวลไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน ที่แสดงถึงความเจ็บปวดจากทัณฑ์ทรมาน เต็มไปด้วยกลิ่นสาบสางจากคาวโลหิตคล้ายธารารินไหล เศษซากของกองทัพกลาดเกลื่อนกระจัดกระจาย มองไปทางใดล้วนมีแต่เศษซากแห่งความตายหลังความวุ่นวายของความเสียหายย่อยยับแห่งแว่นแคว้น
และภายใต้สิ่งแวดล้อมที่บ่งบอกถึงกลิ่นอายความอำมหิตและหายนะครั้งใหญ่ มีหนึ่งบุรุษผู้สง่างามกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางซากปรักหักพังนั่น เขาเพียงยืนอยู่บนซากศพนับร้อยนับพันราวกับเป็นบัลลังก์แห่งจอมมารที่สรรสร้างมาจากเลือดเนื้อของศัตรู เขามีนามว่า หงซือกวน
หงซือกวน บุรุษหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ ผู้ที่ไม่เคยมีใครกล้าต่อกร เขาเป็นผู้นำของกลุ่มอิทธิพลมืดฝ่ายอธรรมที่ใหญ่ที่สุด เป็นประมุขสำนักหมื่นโลกันต์ จ้าวแห่งยุทธภพด้วยวัยเพียงสิบแปดปี
ครั้งนั้นปรมาจารย์ทิฮู้หงวนโส่ย ผู้ที่เปรียบเสมือนเทพแห่งสงคราม ได้รับให้เขาเป็นศิษย์เอกเพียงหนึ่งเดียวและได้มอบหมายให้เขาได้ดูแลสำนักของยุทธภพถึงสามสำนักด้วยกัน
สามสำนักนั้น ล้วนโดดเด่นยิ่งใหญ่ มีสำนักย่อยนับร้อยพัน ทว่าหงซือกวนนั้นกลับไม่นำพา เขามิประสงค์ให้มันแบ่งแยกแตกสาขา จึงยุบทั้งสามสำนักเข้าด้วยกันและใช้ชื่อว่า สำนักหมื่นโลกันต์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ผ่านมาแล้วนับสิบปี หงซือกวน ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ยี่สิบแปดปี ก็ยังคงเป็นเอกบุรุษเสมอมา เขาเป็นบุคคลที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ทั้งยังไม่กล้าแม้แต่จะสบตา หากมีใครกล้าเข้ามา มันผู้นั้นจะต้องเปลี่ยนร่างกายเป็นด้านชาและกลายร่างเป็นสายธาราที่ไหลบ่าด้วยธารโลหิตของตัวมันเอง
ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาคมคายร้ายกาจของหงซือกวน สายตาคมกริบดุดันไม่เคยมีวี่แววล้อเล่นอยู่ในนั้น ริมฝีปากหยักได้รูปมิเคยมีใครได้เห็นมันแย้มยิ้มผลิบาน รูปร่างของเขาสูงโปร่งกำยำล่ำสัน แต่ทว่าช่างปราดเปรียว เพียงเสี้ยวเวลาเดียวเท่านั้น ที่เขาใช้เยื้องย่างพาดผ่านแต่ละหนแห่ง และความรวดเร็วที่ย่างกรายของเขานั้นหาได้มีใครตามได้ทันไม่
ภายในสำนักหมื่นโลกันต์ที่รายล้อมไปด้วยสมุนลูกพรรคที่มีหน้าตาดำทมึนท่าทางน่ายำเกรงอยู่เต็มพื้นที่
“คารวะท่านประมุข” เสียงทุ้มต่ำดังกังวานของเหล่าสมุนต่างพร้อมใจกันทำความเคารพหงซือกวนยามเมื่อร่างสูงสง่าของเขาย่างกรายก้าวเท้าพาดผ่าน
หงซือกวนเพียงปรายสายตาคมเฉี่ยวดุดันเป็นเชิงยอมรับการคารวะแค่เพียงเท่านั้น ทุกคนในที่นี้ก็พร้อมใจกันก้าวถอยหลังไปคนละหนึ่งก้าวสองก้าวในทันที เพื่อเปิดทางให้แก่ท่านประมุขได้เดินผ่านตัวไป
กลิ่นอายมรณะแผ่กำจาย รังสีสังหารทัณฑ์ทรมานแผ่ปกคลุมไปในทุกที่ ที่หงซือกวนเคลื่อนกายพาดผ่าน และมันก็เป็นอยู่อย่างนั้นเสมอมา
วันเวลาหมุนเวียนเคลื่อนขับทุกสรรพสิ่งหมุนเวียนเคลื่อนผ่านจากทิวากาลเปลี่ยนเป็นรัตติกาลอยู่หลายเพลา
ภายในห้องอันใหญ่โตโออ่าที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำยานคละคลุ้ง บรรยากาศอึกครึม มีโต๊ะชงชาลวดลายเขี้ยวเล็บอสรพิษรอบด้าน มีเก้าอี้ตัวใหญ่ไม่ต่างจากแท่นประทับของโอรสสวรรค์ ที่สลักลวดลายอันทรงพลังน่าเกรงขามของกรงเล็บแหลมคมและเกล็ดมังกรปิกัน[1]จำนวนสามสิบหกแผ่น[2] ที่เดิมทีมีท่านประมุขนั่งอยู่ แต่บัดนี้กลับความว่างเปล่า ไร้ร่างทรงอำนาจของท่านประมุขอยู่ตรงนั้น
“ท่านประมุขหายไปที่ใดกัน” เสียงทุ้มต่ำของสมุนคนสำคัญแห่งสำนักหมื่นโลกันต์ผู้หนึ่งเอ่ยถามไปยังสมุนอีกคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดใคร่รู้
“ท่านประมุขไปฝึกวิชาห้ามผู้ใดย่างกรายไปรบกวนจนกว่าท่านประมุขจะเดินทางกลับมาด้วยตัวเอง” สมุนอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างรู้เรื่องราวของท่านประมุขเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าเขาเป็นถึงสมุนมือขวาของท่านประมุขหงซือกวน
“อืม...” สมุนอีกคนรับคำอย่างรู้งานเป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าสำนักหมื่นโลกันต์จะไร้ประมุขนั่งประจำอยู่ตรงโต๊ะลวดลายน่ากลัว แต่ก็ใช่ว่าจะมีใครที่จะสามารถรุกล้ำย่างกรายเบียดเบียนเข้ามาได้โดยง่าย ด้วยเพราะว่าท่านประมุขหงซือกวนของพวกเขานั้น ย่อมมีหูมีตาอยู่รอบทิศทางครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งใต้หล้าได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แน่นอนว่าน้ำบ่อย่อมไม่ยุ่งกับน้ำคลอง หากแต่ปลาในน้ำกลับมุดดินแทรกซึมไปทั่วทุกหัวระแหง...
ความคิดเห็น