ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจข้า[จบ]

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่11 กลอนแทนใจ3

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 67



    ชายหนุ่มแอบสืบเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างเงียบเชียบต่อเนื่องโดยมิให้เพ่ยจีได้รู้ตัว

    ร่างสูงสง่ามาปรากฏตัวอีกครั้งที่เรือนนอนของสาวใช้ซักล้างนางหนึ่ง ที่อดีตเคยเป็นสาวใช้ใกล้ชิดลี่เหยาถิง แต่ถูกย้ายมาทำงานกุลีหลังจากสิ้นเจ้านายของตนไป

    “เรียนท่านแม่ทัพ ยามเมื่อฮูหยินคนเก่าอยู่ที่จวน นางก็มักจะนั่งรอท่านอยู่ที่ริมหน้าต่างห้องส่วนตัวเจ้าค่ะ นางทั้งปักผ้า เย็บรองเท้า วาดภาพ เขียนกลอนหวานซึ้งในทุกๆ วัน เพื่อรอท่านกลับมา หากยามใดนางหงุดหงิดเริ่มโกรธา เอ่อ...ด้วยบ่าวเกรงว่านางจะกราดเกรี้ยว บ่าวจึงวิ่งไปหยิบกระดาษกับพู่กันมายื่นให้ แค่นี้นางก็จะหายโกรธแล้วเจ้าค่ะ”

    สาวใช้นางนี้เล่าความเสียงเบาแผ่วอยู่ภายในเรือนของ  ลี่เหยาถิงที่ชายหนุ่มลอบพาตัวเข้ามาในยามดึกดื่น แล้วถามไถ่เกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่ภายในห้องชั้นใน

    ม่านตาดำสนิทของเหอหย่งหมิงยิ่งเริ่มหรี่เล็กแคบเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้ยินเสียงเย็นใสของสาวใช้นางนี้เล่าต่ออีกว่า

    “ลายปักบนผ้าเหล่านี้” สาวใช้กล่าวพลางชี้นิ้วไปทางสิ่งของที่กล่าวถึง พลางกล่าวต่อว่า

    “อดีตฮูหยินวาดอยู่เป็นนานและอดทนนั่งปักอยู่หลายวัน กลอนบอกรักบทนี้นางยังนำมาให้บ่าวช่วยดูอย่างภาคภูมิใจ ถามย้ำๆ ว่าหากท่านแม่ทัพได้อ่านจะชอบหรือไม่ ท่านจะเชื่อนางหรือไม่ ว่านางรักท่านจากใจจริงเจ้าค่ะ” 

    นางกล่าวเสียงเบาแต่ทว่าชัดเจนทุกถ้อยวาจา พลางชี้นิ้วไปที่สิ่งของทุกอย่างแต่ละชิ้นบนตู้ภายในห้อง ก่อนจะกลั้นใจบอกอีกประโยคที่เสียงเบามากกว่าเดิมว่า

    “เรียนท่านแม่ทัพ อย่าหาว่าบ่าวฟ้องท่านเลยนะเจ้าคะ  ฮูหยินหานนำของพวกนี้ออกไปอย่างถือวิสาสะ บ่าวเกรงว่าวิญญาณของอดีตฮูหยินคงนอนตายตาไม่หลับแล้ว”

    กล่าวจบก็กัดปากแน่น ก้มหน้าหลุบตาลงต่ำ ด้วยกลัวเกรงโทษทัณฑ์อยู่บ้าง

    แต่ว่า...ตั้งแต่ฮูหยินลี่เหยาถิงตายไป นางก็ถูกไล่ไปอยู่โรงซักล้าง ลำบากมิใช่น้อย

    ก็เพราะนังฮูหยินหานเพ่ยจีจอมเสแสร้งนั่นล่ะ!

    สาวใช้นางนี้มีนามว่า ชิงจวี๋

    เดิมทีนางมิได้กล้าหาญอาจเอื้อมยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านายเลยแม้แต่น้อย

    หากแต่เมื่อเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้านายเก่าที่ถึงแม้จะเกรี้ยวกราดเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยทำโทษนางอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุเลยสักครั้ง

    ผิดกับฮูหยินหานเพ่ยจี ที่ยิ้มอ่อนหวานแต่กลับเลือดเย็นยิ่งนัก เมื่อหลายวันก่อนสั่งโบยนางเสียเกือบตาย เพียงเพราะนางซักชุดให้ไม่เรียบร้อย ทำให้เกิดเป็นรอยฝีเย็บขาดนิดเดียว

    หึแค่สั่งตัดใหม่ยากเย็นที่ใด เงินทองหรือก็มีมากมาย ด้วยท่านแม่ทัพมีภรรยาเดียว

    อีกทั้งยามฮูหยินหานชี้นิ้วสั่งการให้บ่าวชายถอดผ้านางจนเปลือยเปล่าต่อหน้าบ่าวชายอีกคนที่ถือไม้โบยรออยู่

    ฮูหยินหานยังส่งยิ้มหวานหยดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    น่าสะพรึงยิ่ง!

    และที่สำคัญ การที่นางถูกท่านแม่ทัพแอบพามาแล้วออกปากถามเช่นนี้ นางย่อมประจักษ์แจ้งได้ว่า ท่านแม่ทัพคงเริ่มคิดได้แล้วเป็นแน่แท้

    เมื่อเป็นเช่นนี้ ชิงจวี๋จึงใจกล้าต่อไป

    ด้วยนึกชิงชังเพ่ยจียิ่งนัก!

    นางข่มกลั้นความกลัวต่อกลิ่นอายดำทะมึนของแม่ทัพตรงหน้า แล้วเงยหน้าเล่าต่อว่า “เหตุการณ์ที่เชิงเขาก่อนที่ฮูหยินลี่จะหายตัวไป บ่าวได้ยินฮูหยินหานเอ่ยกับฮูหยินลี่ว่า

    “ท่านแม่ทัพถูกข้าวางยาปลุกกำหนัดในคืนเข้าหอ ทำให้ต้องหลับหูหลับตาร่วมรักกับเจ้าสาวเช่นฮูหยินลี่ หลังจากที่ไม่สมปรารถนากับหญิงคนรักในเรือนพักแห่งนั้น ฮูหยินลี่ได้ฟังก็โกรธมาก จึงตบหน้าฮูหยินหานเจ้าค่ะ”

    หากเป็นนางจะกระทืบซ้ำอีกสักสองทีด้วย หึ!

    ประโยคหลังชิงจวี๋เพียงเอ่ยในใจ นางหยุดพูดเพื่อสังเกตสีหน้าคนฟังที่ดำคล้ำขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกเป็นสุขจนบอกไม่ถูก จึงกล่าวต่อว่า “ทั้งๆ ที่ถูกตบหน้าไปหลายที แต่ฮูหยินหานยังพูดไปยิ้มไปกับฮูหยินลี่อีกว่า วันนี้ข้านัดเจอกับหย่งหมิงที่นี่ เจ้าควรเข้ามาขัดขวางข้าเหมือนทุกครั้งด้วยล่ะ

    สาวใช้มิได้เล่าอย่างเดียว แต่ยังเลียนเสียงเยาะเย้ยถากถางได้เหมือนอีกด้วย ในเมื่อมีโอกาสฟ้องแล้วต้องเอาให้หนัก นางเก็บกดมาหลายวันเหลือเกิน ตั้งแต่ถูกโบยนั่นล่ะ!

    “เรียนท่านแม่ทัพ บ่าวขอกล่าวอีกเพียงประโยคหนึ่ง ซึ่งบ่าวได้เห็นแจ้งมาโดยตลอด” นางหลั่งน้ำตาเผยสีหน้าจริงใจแล้วกล่าวเสียงสั่นเยี่ยงคนที่อดกลั้นมานานปีที่ได้เอ่ยปากเสียทีว่า “ความรักลึกล้ำแท้จริงเหนือใคร ล้วนเป็นอดีตฮูหยินลี่เหยาถิงที่มีต่อท่าน หาใช่ฮูหยินหานเพ่ยจีที่เสแสร้งมากมารยาไม่”

    ถึงแม้ชิงจวี๋จะเป็นเพียงบ่าวรับใช้ที่ไร้การศึกษา หากแต่ความคิดยังพอมีอยู่บ้าง

    ทุกสิ่งที่กล่าวอ้างล้วนเป็นความจริง เรื่องที่ลี่เหยาถิงรักชายผู้นี้ก็เป็นความจริง นางเป็นสตรีด้วยกันย่อมดูออก นางจึงเลือกพูดเฉพาะส่วนที่อดีตฮูหยินถูกกระทำ ส่วนยามที่ฮูหยินคนปัจจุบันถูกอดีตฮูหยินถีบบนเชิงเขาครานั้น นางไม่คิดจะเปิดเผยให้ท่านแม่ทัพเสียความรู้สึกแต่อย่างใด

    และเหตุที่นางไม่พูดออกมาในครานั้นเมื่อครั้งที่เกิดเรื่องราวขึ้นใหม่ๆ ก็เพราะเห็นเช่นเดียวกับท่านแม่ทัพว่า

    หานเพ่ยจีมีนิสัยอ่อนโยนแลดูอ่อนหวานจริงใจ ย่อมต้องดีกว่าลี่เหยาถิงที่เย่อหยิ่งเอาแต่ใจ   

    นางแค่อยากได้เจ้านายใหม่ที่นุ่มนวลยิ่งกว่าก็เท่านั้น

    เรื่องมารยาสาไถยใครล้ำเลิศกว่าย่อมต้องกำชัย ศึกแห่งสตรีก็เท่านี้ ใครได้ใจบุรุษไปก็ย่อมชนะ

    นางแค่เลือกข้างให้ถูกก็เท่านั้น

    หึ! ที่ไหนได้...กว่าจะรู้ว่าใครคือหยกพิสุทธิ์แท้เนื้อดีกับก้อนกรวดลายงามลวงตา ก็สายไปเสียแล้ว

    คนก็ตายไปแล้ว...

    ช่างน่าเสียดายนัก!

    และเหตุผลอีกหนึ่งประการที่สำคัญก็คือ นางนึกชื่นชมท่านแม่ทัพเหออยู่ไม่น้อย ที่เขาเลือกคู่ครองโดยไม่สนใจฐานะของอีกฝ่าย ทั้งยังรักเดียวใจเดียวไม่คิดแต่งภรรยาเพิ่ม

    เพียงแต่ว่า หากปล่อยบุรุษที่ดีงามเช่นนี้ให้ครองคู่กับสตรีเช่นหานเพ่ยจีตลอดไป

    ย่อมนับว่าเป็นบุรุษที่เสียชาติเกิดโดยแท้...

    *******

    นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค พร้อมตอนพิเศษแบบจุใจ คลิกเลยค่า >>>

    ดวงใจข้า
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    ครั้งหนึ่งเขาตามืดบอด จึงไม่เห็นนางที่รักเขาอยู่ในสายตา แต่เมื่อวันนี้เขารักนางแล้วจนหมดใจ ใครหน้าไหน เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×