คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่11 กลอนแทนใจ2
พลบค่ำผ่านพ้นช่วงอาหารค่ำไปแล้วราวสองเค่อ
เหอหย่งหมิงมิได้ถามหาเหตุผลแห่งการกระทำของภรรยาในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่แม้ครึ่งคำ แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องเพื่อรอเวลาให้เพ่ยจีนำสิ่งของมามอบให้เขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขากลับเข้าจวนมาก็เท่านั้น
“ท่านพี่...” เสียงแว่วหวานอันคุ้นเคยดังมาจากทางห้องนอนด้านใน พร้อมร่างระหงเดินนวยนาดออกมาโดยมีสิ่งของในมือน้อยๆ เต็มไปหมด
ซึ่งเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
“น้องปักผ้า เย็บรองเท้าให้ท่านพี่เจ้าค่ะ” นางแย้มยิ้มพริ้มเพราพร้อมยื่นทุกสิ่งให้เขาตรงหน้า ท่าทางของนางอ่อนโยนเอาใจใส่เขาอย่างนุ่มนวลตลอดเวลา
“ขอบใจเจ้ามาก ที่ใส่ใจข้า” ชายหนุ่มตอบรับเสียงทุ้มนุ่มเหมือนที่เคยเป็นมา พร้อมกับรับทุกอย่างมาไว้ในมือแล้วคลี่ออกดูอย่างพิจารณา สายตาคมเข้มทอประกายชื่นชมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ภรรยามอบสิ่งของเหล่านี้ให้เขา
“ยังมีภาพวาดพร้อมกลอนด้วยนะเจ้าคะ” เพ่ยจีกรีดยิ้มเอาอกเอาใจแล้วคลี่ภาพวาดให้เหอหย่งหมิงได้พินิจมอง
“ท่านชอบหรือไม่?” นางส่งสายตาออดอ้อนน่าเอ็นดู
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเอื้อมนิ้วแกร่งเชยคางมนแล้วเปรยคำหวานใส่หน้าหญิงสาว
“ข้าชอบมาก ภาพงามกลอนไพเราะ บอกรักข้าได้ลึกซึ้งเช่นนี้ เห็นทีข้าคงต้องบอกรักเจ้าให้ลึกซึ้งยิ่งกว่า”
จบคำก็คลี่ยิ้มอบอุ่นเปี่ยมเสน่ห์ลึกล้ำ
เพ่ยจีถึงกับหน้าแดงก่ำ เอียงอายเป็นที่สุด
“มาเถิด เรามาบอกรักกัน” เหอหย่งหมิงกล่าวอีกหนึ่งคำแล้วเดินนำหน้าเพ่ยจีไปทางห้องหนังสือที่เขาย้ายออกมาจากเรือนหลักที่เคยติดกับห้องหอของอดีตภรรยาผู้ล่วงลับ
เพ่ยจีเดินตามอย่างงุนงง มิใช่บอกรักบนเตียงอุ่นรึ?
นางถามอยู่ในใจมิได้เอ่ยออกมา
เมื่อเหอหย่งหมิงเดินมายังโต๊ะทำงานที่มีหมึกกับพู่กันพร้อมอยู่แล้ว เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมา ก่อนจะเขียนกลอนบทหนึ่งที่เคยได้รับลงไป
‘เมื่อรักปักใจมั่นคงแล้ว เหนื่อยยากแค่ไหนไม่ปริปาก’
เมื่อเขียนเสร็จเพียงหนึ่งประโยคก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามอีกฝ่ายที่ยืนมองอยู่ตรงหน้าก่อนเอ่ยเสียงนุ่มว่า “กลอนบทนี้เป็นเจ้าที่เขียนให้ข้า เจ้าจำได้หรือไม่”
ชายหน่มุกล่าวคำพร้อมยื่นมือไปฉุดหญิงสาวให้เข้าใกล้ก่อนจะจับมือนางขึ้นมาแล้วส่งพู่กันให้อย่างใจดี
“มาเถิด มาต่อให้จบ” เขากล่าวสำทับอีกทีด้วยรอยยิ้มละมุนซ่อนคมมิดชิด “การบอกรักเช่นนี้ สามีชมชอบยิ่งนัก”
เพ่ยจีที่ยังตั้งตัวไม่ทันจึงทำอันใดไม่ถูกก็ได้จ่อปลายพู่กันอยู่บนกระดาษนิ่งค้างแข็งทื่อจนน้ำหมึกหยดลงไปจนชุ่ม
เหอหย่งหมิงจึงช่วยเหลืออีกหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงเอื้อเอ็นดู “เจ้าจำมิได้เสียแล้วกระมัง ว่าเขียนคำบอกรักให้สามีว่าอย่างไร เอาเถิด สามีจะช่วยบอกให้ เจ้าเขียนตามคำข้านะ”
ชายหนุ่มก้มหน้ามองหญิงสาวด้วยสายตมคมดำลึกล้ำมากกว่าที่เคยก่อนจะค่อยๆ เปล่งวาจาทีละคำ
“ต่อจากเหนื่อยยากแค่ไหนไม่ปริปาก ก็คือประโยคว่า หากเลือกแล้วไยต้องใส่ใจ ว่าแม่น้ำที่ไหลไปจักหวนคืนมา”
เพ่ยจีกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเริ่มเขียนไปตัวอักษรเดียว ก่อนจะฉุกใจคิดในทันใดว่านางมิอาจเขียนได้ จึงแสร้งปิดปากหาวแล้วกล่าวว่า “อา...ท่านพี่ ข้ารู้สึกเพลียเหลือเกิน หากท่านพี่ชอบกลอนถึงเพียงนี้ พรุ่งนี้ข้าจะแต่งให้ท่านใหม่นะเจ้าคะ”
จบคำก็วางพู่กันลงบนแท่นรองอย่างแช่มช้อยแล้วเบี่ยงตัวออกจากร่างสูงได้อย่างอ่อนโยนแนบเนียน ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างเอียงอายพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานชนะใจเขาเหมือนที่ชอบทำ จากนั้นก็เดินไปไม่เหลียวหลังอีกเลย
เหอหย่งหมิงหาได้มองตามสตรีที่อ่อนช้อยปานงูเลื้อยไม่
เพราะสายตาคมจ้องนิ่งแค่เพียงอักษรตัวเดียวบนกระดาษ ซึ่งสามารถบ่งบอกเขาได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน...
นางมิใช่เจ้าของภาพวาดและโคลงกลอนเหล่านี้!
นั่นคือความจริงที่เขาได้ประจักษ์ในชั่วอึดใจ
ประกายเย็นเยียบบังเกิดโดยเฉียบพลันในสายตาคู่คมที่เริ่มคมกริบมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งดั่งกำลังอยู่ในสนามรบ ยามเจอไส้ศึกที่แฝงตัวเข้ามาปั่นหัวในอาณาเขตของเขา
แต่ทว่า ในหัวใจกลับเต้นแรงไม่เบา เมื่อนึกถึงใครบางคนขึ้นมา
ลี่เหยาถิง...
*******
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค คลิกเลยค่า >>>www.mebmarket.com
|
ความคิดเห็น