คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ไว้วางใจ
เปลวเพลิงน้อยๆ จากกองไฟตรงหน้าของชายหนุ่มและหญิงสาวยังคงปะทุดังเปรี๊ยะๆ อยู่ใต้ร่างของไก่ป่าตัวหนึ่ง
เหม่ยหลินยังคงตั้งอกตั้งใจอย่างยิ่งยวดในการหักไม้ในมือ เพื่อที่จะนำมันไปใส่ในกองไฟ หวังเพียงได้ทำตัวให้มีประโยชน์สำหรับอาหารประทังชีวิตมื้อนี้
แต่ทว่าเวลาผ่านมาเกือบครึ่งเค่อแล้วกิ่งไม้เพียงกิ่งเดียวนางยังไม่สามารถหักออกได้เลย
นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอายเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ นางช่างไร้ประโยชน์ไร้ค่าเสียจริง แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังทำไม่ได้
การเกิดมาเป็นสตรีสูงศักดิ์ในห้องหอไม่เห็นจะดีตรงไหน การมีบ่าวไพร่ล้อมหน้าล้อมหลังคอยปรนนิบัติทำแทนทุกอย่าง นำพามาซึ่งการไร้ค่าในตัวตนอย่างแท้จริง วันนี้นางได้ประจักษ์จนสิ้น ไม่ต้องรอวันต่อไป
“ข้าขอโทษ” อีกครั้งที่เหม่ยหลินกล่าวคำๆ นี้ออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว รู้สึกผิดอย่างมหันต์ การเป็นองค์หญิงของนางช่างต่ำตมยิ่ง ไม่น่าเลย...
บุรุษที่นั่งตรงกันข้ามรับรู้ได้จากสีหน้าของนางว่านางรู้สึกอย่างไร ถึงแม้ว่ารอบด้านจะมืดมิดประดุจดั่งหมึกดำแผ่ปกคลุมจนถ้วนทั่ว แต่แสงสีทองจากกองไฟตรงหน้ากำลังส่องให้เห็นใบหน้าหวานล้ำของสตรีนางนี้ได้เป็นอย่างดี
คิ้วเรียวโค้งของนางขมวดเข้าหากันแน่นจนหว่างคิ้วเกิดริ้วรอยสายหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่านางออกแรงมากมายปานใด ดวงตาที่หลุบลงสนใจแต่กิ่งไม้ในมือจนไม่สนใจสิ่งรอบด้าน ริมฝีปากบางแต่อวบอิ่มจิ้มลิ้มขบเม้มเข้าหากันแน่นจนห้อเลือดบ่งบอกว่านางอดกลั้นมากมายปานใด
นางกำลังพยายามเป็นอย่างมากกับแค่เพียงการหักกิ่งไม้
เขามิรู้ได้ว่าควรจะขบขันหรือเห็นใจนางดี นางเป็นอย่างนี้แล้วเขาควรทำอย่างไร
ชายหนุ่มเอื้อมฝ่ามือมาดึงไม้จากมือนาง แล้วนำไปหักใส่กองไฟเสียเอง มิใช่ว่ารำคาญหากแต่เขาควรช่วยนางก็เท่านั้น
เหม่ยหลินทำได้แค่มองตามไม้ที่ถูกดึงไป ในใจยังคงรู้สึกผิด หากแต่จำต้องนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่คิดขัดขืน เมื่อช้อนตาขึ้นมองชายข้างกายจึงคลี่ยิ้มส่งให้ เป็นยิ้มที่จริงใจหมายขออภัยกัน
บุรุษลึกลับถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยามเห็นรอยยิ้มนี้ของนาง ก่อนหน้าที่เจอกัน นางเอาแต่นั่งตัวสั่นน้ำตานองหน้าร่ำไห้แบบไร้เสียง ทว่ายามนี้นางกำลังคลี่ยิ้มงดงาม และยังนั่งใกล้เขาเสียจน...
ให้ความรู้สึกอึดอัด
ถึงแม้จะมีความทรงจำที่ว่างเปล่า หากแต่สัญชาตญาณบางอย่างบอกกล่าวแก่เขาได้ว่า ไม่เคยมีใครได้นั่งใกล้เขาในระดับนี้ และยิ่งไม่มีใครกล้าส่งยิ้มให้เขาด้วย
นางช่างไม่กลัวตาย!
ชายแซ่หงได้แต่นั่งงงกับตนเอง สายตาดำขลับเพียงจ้องมองหญิงข้างกายอยู่นิ่งๆ ความเย็นเยียบแผ่ปกคลุมไปทั่ว กลิ่นอายสังหารเริ่มเข้มข้นทุกขณะ กระทั่งงูตัวหนึ่งที่เลื้อยอยู่ไม่ไกลยังต้องเลื้อยหนีไปอย่างกลัวตาย
หากแต่เหม่ยหลินเพียงกะพริบตา นางยังคงคลี่ยิ้มให้เขา ไม่มีความคิดที่จะถอยห่างแต่อย่างใด ตั้งแต่เจอกัน กลิ่นอายอำมหิตอย่างนี้ทำให้นางรู้สึกปลอดภัย หาใช่หวาดกลัว
ยามรัตติกาลกลางป่าอันมืดมิดจนน่าหวาดหวั่น มีเปลวไฟกองน้อยใต้ไก่ป่าส่งเสียงปะทุดังเบาๆ ผสมผสานกับเสียงของแมลงกลางคืนที่มีอยู่รอบทิศทาง ทั้งยังมีสัตว์เลื้อยคลานที่เคลื่อนตัวผ่านใบไม้แห้งจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ
ภายใต้ภาวะเงียบงันของสองชายหญิงล้วนมีเสียงเหล่านั้นดังอยู่รอบกาย ทว่าพวกเขากลับไม่นำพา สองสายตาที่ต่างขั้วเพียงสบประสานกัน
หนึ่งคือสายตาเย็นชาที่ส่งผ่านความเย็นเยียบราวน้ำแข็งพันปีมองนางตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจอันใด
สองคือสายตาหวานล้ำให้ความรู้สึกเย็นฉ่ำดั่งธาราสวยใสมองชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกไว้วางใจ
ท่ามกลางป่าพนาไพรรกทึบ รอบทิศทางมีแต่เสียงหวีดหวิวของใบไม้ที่ถูกสายลมหนาวเหน็บที่โบกโชยจนกิ่งไม้เสียดสีกัน บรรยากาศวังเวงชวนหวาดหวั่นสั่นสะพรึง หากแต่นางกลับมิได้ขลาดกลัวเหมือนเช่นกาลก่อน เพราะยามนี้มีสิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นอยู่ข้างกายนาง
นิยายเรื่องนี้มีฉบับ E-Book คลิก >>>จอมใจจอมมาร
|
ความคิดเห็น