ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้ายพ่ายกลายรัก [จบ]

    ลำดับตอนที่ #62 : ภาคปลายตอน16 ปกป้อง1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.05K
      1.26K
      30 ก.ย. 66

    ในวันนี้ชินอ๋องเฉินจิ้นเหอส่งคนมาเชิญฟงชินหยางให้ไปร่วมดื่มน้ำชาเสวนาพาทีพร้อมเดินหมากล้อมกันตามปกติวิสัย  

    ฟงชินหยางจึงเดินทางไปยังจวนของชินอ๋องในยามสายของวันโดยพาทหารหญิงคนสนิทข้างกายไปด้วยกันตามติดด้วยทหารหน้าบากนายหนึ่งตามไปด้วยอย่างมึนๆ

    บุรุษร่างหนาใบหน้ามีแผลเป็นลากยาวหนวดเครารุงรังผู้นี้ยังคงทำหน้าที่อันหลากหลายได้ดีในทุกๆ วัน

    ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์พิทักษ์พี่สะใภ้ เป็นหน่วยข่าวกรองไม่เปิดเผยตัวตนให้พี่ใหญ่ ทั้งยังเป็นหน่วยกล้าตายในสังกัดค่ายทหารได้อย่างแนบเนียน  

    หลิงเวยและฟงจินหมิงเดินขนาบข้างมากับฟงชินหยางจนกระทั่งเข้ามายังภายในจวนก่อนจะถูกเชื้อเชิญจากข้ารับใช้ภายในจวนให้เดินตามไปยังทิศทางที่ข้ารับใช้บอกกล่าวว่าชินอ๋องทรงนั่งประทับรออยู่แล้วเป็นนานภายในศาลากลางสระบัว

    เพียงไม่นานบุคคลทั้งหมดจึงเดินมาถึงศาลาหลังใหญ่ขนาดเก้าเสาหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางบึงสระบัวขนาดกว้างขวาง

    เมื่อฟงชินหยางเดินมาจนถึงศาลานั้น เสียงเพลงพิณแว่วหวานส่งสำเนียงทำนองเสียงใสพลันดังกังวานอยู่ภายในศาลา

    ฟงชินหยางถึงกับชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน หลิงเวยและฟงจินหมิงเองก็ไม่ต่างกัน ทั้งหมดพากันชะงักงันยืนตรึงอยู่กับที่คล้ายกับโดนมนต์สะกดด้วยทำนองเพลงที่ปรุงแต่งเป็นอย่างดีฟังดูคล้ายกับกำลังจะเข้าครอบงำทุกคนที่ได้รับฟัง

    เจ้าของบทเพลงที่กำลังร่ายทำนองอันไพเราะเสนาะโสตนั้นเป็นสตรีสูงศักดิ์ในอาภรณ์สวยงามสีเขียวมรกตลวดลายหรูหรานามว่าจินเยว่ชิงโดยมีซือจินในอาภรณ์สีม่วงอมแดงแลดูสูงส่งนั่งจิบชาฟังอยู่ด้วยกันแต่ทว่ากลับไม่เห็นเงาร่างของชินอ๋องนั่งอยู่แต่อย่างใด

    จินเยว่ชิงยิ่งบรรเลงเพลงพิณเสียงดังกังวานเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนเมื่อชำเลืองมองทางหางตาที่ถูกแต่งแต้มอย่างจงใจแล้วเห็นใครบางคนเดินเข้ามาใกล้ทางศาลาแห่งนี้

    ซือจินแอบยกยิ้มพึงใจตามแผนการนัดพบสร้างความประทับใจได้อย่างน่าชมของธิดาแห่งตน

    ฟงชินหยางที่พาเรือนร่างสูงใหญ่สมบูรณ์สมส่วนใบหน้าหล่อเหลาคมคายเป้าหมายของสองแม่ลูกเดินมาถึงยังศาลาเพียงยืนเอามือไขว้หลังอยู่นิ่งๆ ที่ด้านนอกศาลามิได้เข้าไปภายในศาลาแต่อย่างใด ด้วยเห็นว่าบุคคลที่เชิญเขามามิได้ประทับนั่งอยู่ภายในนั้น

    หลิงเวยและฟงจินหมิงลอบมองตากัน เห็นได้ชัดว่าธิดาของชินอ๋องนางนี้นั้นกำลังตั้งใจบรรเลงเพลงพิณให้ผู้ใดได้รับฟัง

    เป็นอย่างไรบ้างจู่ๆ เสียงหนึ่งพลันดังอยู่ทางเบื้องหลังของฟงชินหยาง

    เจ้าของเสียงนั้นคือชินอ๋องผู้สูงศักดิ์สูงสง่าในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายสีทองนามว่าเฉินจิ้นเหอ ในวันนี้เขาถูกรบเร้าจากชายาและธิดาให้ร่วมด้วยช่วยกันจัดฉากประทับใจนี้ขึ้นมาเพื่อให้ฟงชินหยางได้ดูชม

    เฉินจิ้นเหอยังคงเอ่ย จินเยว่ชิงบรรเลงเพลงพิณเป็นอย่างไรบ้าง อาหยาง ทั้งงดงามทั้งไพเราะใช่หรือไม่เขาตั้งใจถามแม่ทัพตรงหน้าแบบตรงมาตรงไปตามวิสัย

    ฟงชินหยางหันหน้ามาทำความเคารพชินอ๋อง ตามด้วยฟงจินหมิงและหลิงเวยเคารพอย่างพร้อมเพรียงตามลำดับ

    ไพเราะมากพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋องฟงชินหยางเลือกที่จะตอบตามมารยาทที่พึงมี หากแต่ท่านหญิงควรบรรเลงให้บุรุษที่นางพึงใจได้สดับรับฟังเท่านั้นถึงจะเป็นการดีเขาเลือกที่จะเอื้อนเอ่ยตามตรงดังนิสัยที่เป็นมาเช่นเดียวกัน

    เฉินจิ้นเหอหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี เขาไม่เคยคิดที่จะถือสาความเถรตรงของบุรุษหนุ่มตรงหน้าแต่ตรงกันข้ามเขากลับชื่นชอบเป็นอย่างมาก เขาจึงกล่าวต่อคำเรียบเรื่อยด้วยคิดมาดีแล้ว 

    จินเยว่ชิงรบเร้าข้าให้เชิญเจ้ามาร่วมรับฟังให้ได้ เห็นได้ชัดว่านางชมชอบเจ้าจากใจจริง

    “...”

    หากเป็นไปได้ข้าอยากให้เจ้าทั้งสองเปิดใจคบหากัน

    “...”

    "ข้าชมชอบเจ้า ข้าอยากได้เจ้าเป็นบุตรเขย"

    "..."

    "หวังว่าเจ้าคงไม่ปฏิเสธข้านะ อาหยาง"

    "..."

    หมดคำพูด ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดออกมาทั้งสิ้น

    และอีกคราที่หลิงเวยกับฟงจินหมิงลอบมองตากัน

    แต่ครั้งนี้มีฟงชินหยางแอบลอบมองตากับทั้งสองเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน



    ริมศาลาขนาดเก้าเสากลางบึงสระบัวขนาดใหญ่ภายในจวนแห่งชินอ๋องผู้ครองหัวเมืองหลักของแคว้นเฉิน

    ชินอ๋องยังคงอารมณ์ดีมองฟงชินหยางอย่างนึกชมชอบในตัวบุรุษตรงหน้าไม่สร่างซา หากได้เขาคนนี้มาเป็นบุตรเขยเขาคงนอนตายตาหลับเป็นแน่แท้

    เสียงเพลงพิณยังคงแว่วดังพาทำนองน่าฟังขับกล่อมทุกผู้คนให้ถูกครอบงำด้วยสำเนียงเสียงแว่วหวานกังวานใสเคล้าคลอไปกับอากาศในยามสายของวันสบายๆ ผสมผสานสายลมเอื่อยเฉื่อยที่โลมไล้รอบเรือนกายของบุคคลทั้งหมดที่กำลังยืนอยู่ทางด้านนอกของศาลาอันใหญ่โตโอ่อ่า 

    จู่ๆ เสียงทุ้มห้าวของบุรุษร่างใหญ่กำยำพลันดังทำลายบรรยากาศอันดีงามเสียสิ้น

    กระหม่อมมีภรรยาอยู่แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ

    “...”

    เสียงนั้นเป็นเสียงของฟงชินหยาง เขาเลือกที่จะเอ่ยกับชินอ๋องตามตรงว่าเขามีภรรยาแล้ว เมื่อในวันนี้ชินอ๋องเองก็เลือกที่จะเอ่ยกับเขาตามตรงเช่นเดียวกัน เขาสังเกตได้ตลอดมาว่าธิดาของชินอ๋องชมชอบเขา หากแต่เขาไม่อาจปฏิเสธออกมาตามตรงได้แต่อย่างใด เนื่องจากจินเยว่ชิงและพระชายาเพียงทำท่าทางก้ำกึ่งตามแบบฉบับสตรีสูงศักดิ์มิได้เปิดเผยความนัยแบบตรงไปตรงมา เขาจึงทำได้แค่เพียงรอเวลานี้เพื่อที่จะให้ชินอ๋องได้ตัดสินใจเอ่ยกับเขาออกมา เขาจึงเลือกวันนี้บอกออกมาเช่นเดียวกัน 

    หืม...เฉินจิ้นเหอเริ่มสับสน เจ้ากล่าวสิ่งใดกัน

    กระหม่อมมีภรรยาอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะฟงชินหยางเอ่ยอีกคราอย่างช้าๆ แบบเน้นๆ

    ชินอ๋องถึงกับตกใจชะงักไปพาความเงียบงันปกคลุมโดยรอบเรือนกายฉับพลัน ทั้งๆ ที่ภายในศาลายังคงมีเสียงเพลงพิณดังกังวานแว่วหวานฝ่าสายลมโบกโชยมาอยู่ตลอดเวลา

    แต่ทว่า กับบุคคลนอกศาลากลับไม่ได้ยินเสียงอันใดนอกจากความเงียบงันเงียบกริบผิดปกติ

    เฉินจิ้นเหอรีบเรียกสติของตนเองให้กลับมาจากอาการชะงักงันก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วคมเข้มพันกันเป็นปมพาริ้วรอยแห่งวัยฉายชัด

    เขามิรู้เรื่องนี้มาก่อน เขาปกครองหัวเมืองอยู่นอกเมืองหลวง วันๆ เอาแต่ทำงานราชกิจราชการในส่วนที่ตนปกครอง

    ข่าวที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับเหตุบ้านการเมืองทั้งสิ้น จึงมิได้รับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร 

    เจ้ามีภรรยาแล้วหรือ อาหยางเฉินจิ้นเหอถามเสียงเบา

    พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องฟงชินหยางเอ่ยรับเสียงหนัก

    เฉินจิ้นเหอถึงกับเบิกตากว้าง

    "จินเยว่ชิงไปร่วมงานล่าสัตว์หกปีที่แล้วก่อนที่เจ้าจะมาทำศึกกับข้าที่นี่ นางบอกว่าเจ้ายังไม่มีผู้ใด"

    เฉินจิ้นเหอเอ่ยออกมาตามตรงกับบุรุษร่างใหญ่ตรงหน้าเนื่องจากว่าพวกเขาค่อนข้างจะสนิทใจกันในทุกสมรภูมิรบในยามออกศึกด้วยกัน หากแต่เรื่องในมุ้งบนเตียงไม่เคยเลยที่พวกเขาจะได้นำมาคุยกันก็เท่านั้น

    "ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมแต่งงานเมื่อปีนั้นพ่ะย่ะค่ะ ในงานล่าสัตว์ปีนั้นภรรยาของกระหม่อมก็ไปด้วยกันกับกระหม่อม พวกเราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ท่านหญิงยังได้เห็นภรรยาของกระหม่อมออกมาร่ายบทเพลงอันเป็นที่ประทับใจต่อหน้าพระพักตร์ขององค์ฮ่องเต้แลฮองเฮา และที่สำคัญในยามนี้กระหม่อมมีบุตรชายแล้วถึงสองคนพ่ะย่ะค่ะ"

    "อา..." เฉินจิ้นเหอถึงกับครางอยู่ในลำคอ เช่นนั้นหรือ

    มิน่าเล่าฟงชินหยางมาประจำการอยู่ที่นี่ถึงห้าปีแต่กลับไม่เกี่ยวข้องกับสตรีนางใดเลยสักคนเดียว    

    อา...นี่เขาพลาดเยี่ยงนี้ได้อย่างไร

    ทำไมภรรยากับธิดาของเขาถึงต้องโกหกกัน ไยพวกนางถึงบอกว่าฟงชินหยางยังมิได้แต่งงานมีภรรยา 

    ชินอ๋องกำลังรู้สึกขัดเคืองและเสียหน้าเป็นหนักหนาจนนึกอยากจะขับไล่ธิดาของตนไปเสียให้ไกลๆ หนีความอับอายในยามนี้เป็นอย่างมากหากแต่ยังคงรักษาท่วงท่าสง่างามเอาไว้ได้อย่างน่าชม เขาเพียงเอ่ย   

    "นี่นับว่าเป็นข่าวดียิ่งนักที่อาหยางของข้าได้แต่งงานแล้ว หากแต่จินเยว่ชิงของข้าก็ถึงวัยออกเรือนแล้วอย่างนี้" 

    เฉินจิ้นเหอเริ่มคิดหนักแต่ยากนักที่บุรุษสูงศักดิ์เช่นเขาจักคิดการอันใดได้ลึกล้ำไปกว่าแผนการศึกเพื่อรวบรวมแผ่นดินตามหน้าที่หลักของบุรุษเช่นเขา

    เสียงทรงอำนาจจึงเอ่ยต่อ 

    "ข่าวว่าแคว้นเป่ยฉีต้องการองค์หญิงบรรณาการเพื่อสัญญาสงบศึกรอบใหม่ ข้าจักส่งจินเยว่ชิงไปก็แล้วกัน ฉีเล่อเองก็เข้าตาข้าอยู่ไม่น้อย องค์ชายผู้นี้ใช้ได้เลยทีเดียว และที่สำคัญยังไม่มีสตรีนางใดข้างกาย"

    ฟงชินหยางได้ฟังพลันชะงักงันนิ่งไป

    ได้อย่างไร!?

    นั่น! ว่าที่น้องเขยของเขา!




    อีบุ๊คฉบับเต็มไม่ตัดเนื้อหาใดๆ รวมภาคต้นและภาคปลายในเล่มเดียว...

    ร้ายพ่ายกลายรัก
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    เขาเป็นถึงแม่ทัพผู้เกรียงไกร แต่กลับถูกวางยาปลุกกำหนัดได้เสียกับสตรีนางหนึ่งจนต้องแต่งงานกันด้วยแผนการอันแยบยลของนาง แต่เหตุไฉนไยนางถึงไม่ยินดี บัดซบ!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×