คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : ภาคปลายตอน9 สามีเกี้ยวภรรยา
บรรยากาศงานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปภายในค่ำคืนรัตติกาลอันยาวนาน
ในยามนี้หลิงเวยกำลังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มานั่งเคียงข้างกับฟงชินหยางโดยมิได้คาดฝัน ห้าปีที่ห่างหายกันทำเอานางใจสั่นไม่เบา และยิ่งรู้สึกตื่นเต้นหนักหนาก็คือการปลอมตัวเข้ามาโดยที่ไม่ยอมเปิดเผย
นี่มันคือครั้งแรกในชีวิต นางบอกได้เลยว่าตื่นเต้นกับเรื่องแปลกใหม่เยี่ยงนี้มากนัก
แต่ทว่า นางกำลังรู้สึกสนุกดี นางกำลังชมชอบการทำอะไรอย่างนี้ นางกำลังได้กลั่นแกล้งสามีตัวร้ายของนาง
หญิงสาวคิดในใจอยู่คนเดียวพลางอมยิ้มแล้วเอียงหน้าน้อยๆ อย่างน่ารักอยู่คนเดียวโดยไม่สนใจชายหนุ่มข้างกายเลยสักนิดว่าเขากำลังรู้สึกนึกคิดอันใด
ฟงชินหยางที่กำลังนึกโกรธกรุ่นนางผู้เป็นภรรยาที่บังอาจปลอมตัวมาพลันชะงักไปเมื่อมองเห็นกิริยาที่แสนคิดถึงนั่นของนาง จากที่กำลังขัดเคืองขัดใจกลับนึกหวั่นไหวขึ้นมา ความขึงเครียดแข็งกระด้างพลันอ่อนยวบยาบหวามไหวถูกครอบงำโดยนางในแบบที่เคยเป็นมา นางเป็นเสียแบบนี้แล้วเขาจักโกรธนางได้อย่างไร
ดูท่าทางนึกสนุกนั่นประไร ใครจะกล้าขัดใจได้กัน!
เมื่อคิดได้แล้วจึงทำแค่เพียงนั่งนิ่งๆ เป็นรูปปั้นยักษ์ใหญ่ลอบมองภรรยาตัวน้อยว่าจะมาไม้ใด
ภาพของหนึ่งบุรุษหล่อเหลานั่งนิ่งขึงขังคล้ายไม่นำพาอันใดกับใครทั้งสิ้นกับอีกหนึ่งสตรีหน้าตามีตำหนิน่าเกลียดกำลังนั่งประหม่าก้มหน้าก้มตาอมยิ้มคล้ายเขินอายดินฟ้าอากาศทำให้จินเยว่ชิงที่นั่งมองอยู่รู้สึกวางใจได้ขึ้นมา
หญิงสาวไหวไหล่น้อยๆ เมื่อวางใจแล้วเป็นอย่างดีเกี่ยวกับสตรีข้างกายของฟงชินหยาง
สตรีน่าเกลียดเยี่ยงนั้นแม่ทัพฟงของนางคงไม่คิดจะกลืนกินเป็นแน่! หึ!
“จะนั่งยิ้มอีกนานหรือไม่?”
เสียงทุ้มห้าวคุ้นหูพลันดังทำเอาหลิงเวยถึงกับหุบยิ้มฉับพลัน
หญิงสาวเอียงหน้าน้อยๆ มองคนตัวใหญ่ข้างกายเจ้าของประโยคในทันที
“ท่านแม่ทัพต้องการสิ่งใด?” หลิงเวยเอ่ยถามฟงชินหยางอย่างใสซื่อ หน้าที่ของการปรนนิบัติบุรุษในงานเลี้ยงเยี่ยงนี้เขาต้องทำกันอย่างไร
“เจ้าคิดว่าข้าต้องการสิ่งใด” คนตัวใหญ่เอ่ยถามยียวนเลิกคิ้วขึ้นสูงเอียงคอมองนาง
“ท่านแม่ทัพอยากดื่มเหล้าหรือ ข้ารินให้นะเจ้าคะ” คนตัวเล็กไม่สะทกสะท้านอันใดกับท่าทางยียวนนั่น นางยังคงทำทีเป็นผู้น้อยแปลกหน้าได้อย่างแนบเนียน
“ข้ามิได้อยากดื่มเหล้า” ฟงชินหยางตีรวนคนตีเนียน
“ท่านอยากกินขนมหรือ” หลิงเวยถามพลางเอื้อมมือหยิบจานขนมยกขึ้นตรงหน้าเขา
“ข้ามิได้หิวขนม” เขาเอ่ยเสียงต่ำ
“น้ำชาหรือ” นางถามพร้อมทำท่ารินน้ำชา
“ข้ามิได้ต้องการ” เขาเริ่มเสียงเข้ม
“แล้วท่านต้องการสิ่งใด” นางเริ่มเสียงขุ่น
ฟงชินหยางก้มหน้ากระซิบ “ข้าอยากอ่านหนังสือ”
“...”
หลิงเวยรู้ดีว่าการอ่านหนังสือของเขาหมายถึงอะไร นี่เขาชอบอ่านหนังสือกับสตรีอื่นหรือนี่ น่าตีนัก!
เสียงกระซิบปนกระเส่าเอ่ยต่อเนื่องจากประโยคก่อนหน้าที่ใบหูนาง “กับเจ้า...”
“...”
หญิงสาวถึงกับตาโตตกใจรู้สึกขัดเคืองในฉับพลัน
เราเพียงเจอกันเมื่อครู่นี้มิใช่หรือไร
ไยชวนกันไปอ่านหนังสือ!?
หลิงเวยจึงส่งค้อนวงใหญ่ใส่หน้าชายหนุ่มที่กำลังเลิกคิ้วเอียงคอยียวนข้างกาย
“ไยทำหน้าอย่างนั้น” ฟงชินหยางถามหลิงเวยด้วยใบหน้าเรียบเฉยผิดกับสายตาที่กำลังทอประกายบางอย่าง
“รู้หรือว่าอ่านหนังสือของข้าหมายถึงสิ่งใด”
“...!?”
หลิงเวยพลันถลึงตามองค้างอ้าปากเล็กน้อย
ฟงชินหยางเห็นกระต่ายน้อยฝีมืออ่อนด้อยยิ่งนึกถูกใจ เขาย่อมตามใจนางหากนางอยากเล่นสนุก เขาจะทำเป็นไม่รู้จักนางก็ได้แต่จะจับนางขย้ำให้หนำใจไปเลย
“เจ้าบรรเลงพิณได้ยอดเยี่ยมมากข้าชมชอบยิ่งนัก” ชายหนุ่มก้มหน้ากระซิบกระซาบกับหญิงสาวข้างกายหมายเกี้ยวนางอย่างนึกสนุกขึ้นมาบ้าง
“ท่านคงชมชอบสตรีทุกนางที่เล่นพิณได้” หลิงเวยอดไม่ได้ที่จะประชดประชัน เจอกันแค่วันนี้แต่เอ่ยคำเยี่ยงนั้นหรือ?
ลับหลังนางเขาเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่?
หลิงเวยมองค้อนคนตัวโตขวับๆ จนแก้มแดงพองออก ดวงตาที่โตอยู่แล้วยิ่งกลมโตเข้าไปอีก ปานแดงกับไฝเม็ดใหญ่มิใช่อุปสรรคกับความน่ารักของนางเลยสักนิด
ฟงชินหยางก้มหน้ามองคนตัวเล็กอย่างนึกเข่นเขี้ยวเหลือเกินจนต้องขยับกายหนาแน่นเข้าใกล้นางอีกนิดจะได้ใกล้ชิดและแกล้งกันได้ถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น
"ไม่เลย...ข้าไม่เคยชอบใคร" เสียงกระซิบทุ้มต่ำชิดใบหู
“ท่านไม่ควรทำตัวเยี่ยงนี้” หลิงเวยดุออกมาแต่หาได้เบี่ยงหูออกห่าง นางกำลังทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครได้ทำ
“ข้าทำตัวอย่างไร” ฟงชินหยางตีหน้ามึนถามออกไป
"ท่านไม่ควรตีสนิทกับสตรีอย่างนี้ เรายังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ" หญิงสาวเอ่ยคำตามตรงกับชายหนุ่มข้างกาย หากเป็นคนอื่นคงไม่มีใครกล้า
"อ้อ..." ฟงชินหยางลากเสียงยาวมากจนคนฟังขนลุกชูชัน "เจ้าจะบอกว่าเราควรทำความรู้จักกัน"
หลิงเวยกลอกตาเล็กน้อยแล้วเอ่ย "ใช่! เราควรทำความรู้จักกัน" จบคำก็แอบหัวเราะในใจ เขาจำนางไม่ได้จริงๆ ด้วย
"อ่า..." ชายหนุ่มลากเสียงยาวอีกครา "เช่นนั้นเจ้ามีนามว่าอย่างไร" เขากำลังร่วมมือกับภรรยาอย่างเต็มที่
หลิงเวยถึงกับชะงักงันนิ่งคิดฉับพลัน
นามหรือ? นางยังมิได้ตระเตรียม!
ฟงชินหยางถึงกับนึกขัน
ปลอมตัวอันใดกันไม่เตรียมชื่อมา!
ฟงชินหยางถึงกับหลุดยิ้ม ทำหลิงเวยต้องยิ้มตาม
ทั้งสองหลุดยิ้มให้กันโดยมิได้นัดหมาย เป็นยิ้มที่ห่างหายกันไปนานถึงห้าปี
บรรยากาศแปลกใหม่พลันปรากฏอยู่โดยรอบเรือนกายของบุคคลทั้งสอง พาเอาคนที่คอยจ้องมองพลันตกตะลึง
จินเยว่ชิงที่มักจะนั่งมองฟงชินหยางอยู่ถึงกับตะลึงงันไปกับภาพนั้น เขาไม่เคยยิ้ม นางไม่เคยเห็นฟงชินหยางยิ้มให้สตรีนางใด กระทั่งกับตัวนางที่เป็นถึงท่านหญิง กับตัวนางที่มักจะหาโอกาสเข้าหาเขา นางยิ้มให้เขาอยู่ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่นางสูงศักดิ์ออกปานนี้
อา...สงสัยเขาจะนึกขันกับใบหน้าที่อัปลักษณ์นั่น
คงเป็นอย่างนั้น!
และอีกคราที่จินเยว่ชิงไหวไหล่น้อยๆ อย่างนึกดูแคลนในรูปโฉมของสตรีชั้นต่ำที่มีทั้งปานแดงและมีไฝน่าเกลียด
อันตัวของนางนี้มีดีเหนือกว่าสตรีนางใดอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญกับสตรีนางนั้นที่หน้าตาน่าเกลียดอย่าบอกใคร
ทั้งยังเป็นสตรีชั้นล่างไม่ต่างจากเศษฝุ่นเศษดินเป็นเพียงทหารหญิงชั้นต่ำ มิใช่คู่ต่อสู้ของนางเลยแม้แต่น้อย ฟงชินหยางคงนึกอยากลองของแปลกกระมัง จึงทำทีเป็นล้อเลียนนาง...
ภายในงานเลี้ยงต้อนรับอันยาวนานแห่งค่ำคืนของรัตติกาลเพลานี้
ฟงลี่หลินยังคงนั่งนิ่งๆ ไม่ไหวติงไปทางใด
นางกำลังนั่งมองอาหารหน้าตาน่าทานบนโต๊ะตรงหน้าอย่างนึกชมชอบมันขึ้นมา ระยะเวลาห้าปีมานี้นางมักจะอยู่กับพี่สะใภ้ตลอดเวลา พี่สะใภ้มักจะชอบเข้าครัวทำขนมทำอาหารด้วยตนเองอยู่เสมอเพื่อดูแลคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อท่านแม่พี่รองตัวนางเองและหลานชายทั้งสอง
ทั้งนี้ยังมีสาวใช้นามเสี่ยวชุ่ยที่มักจะชมชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจไม่ว่าอะไรเข้าปากของเสี่ยวชุ่ยความสุขโดยรอบพลันบังเกิดแผ่ขยายวงกว้างมาถึงนาง หลานชายทั้งสองของนางก็ไม่ต่าง ทำให้นางนึกชมชอบการกินไปด้วย นางติดนิสัยของเสี่ยวชุ่ยมาไม่น้อย
อืม...วันนี้นางยังมิได้กินข้าวเย็นเลย เริ่มหิวเสียแล้ว...
เสียงหวานใสพลันเอ่ยเมื่อเริ่มทนไม่ไหวกับจานขนมที่หน้าตาน่าทานเหลือเกินบนโต๊ะตรงหน้า "องค์ชายเพคะ"
เสียงนั้นของฟงลี่หลินทำเอาบุรุษหนุ่มรูปงามนามฉีเล่อต้องปรายสายตาคมเข้มดำขลับลงมอง
"ท่านรับหรือไม่?" หญิงสาวกล่าวพลางชี้นิ้วไปที่ขนมหน้าตาน่าทานจานหนึ่งพร้อมปรายสายตาเรียวสวยโฉบเฉี่ยวขัดกับรอยแผลเป็นบนใบหน้าจ้องมองขนมสลับกับองค์ชายข้างกาย
ฉีเล่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนขมวดเข้าหากันอย่างนึกฉงน
ฟงลี่หลินหรี่ตามองแบบกดดัน จะให้หรือไม่ให้!
ชายหนุ่มเห็นสายตาเรียวสวยโฉบเฉี่ยวของหญิงสาวข้างกายที่กดดันรุนแรงอย่างนั้นจึงเริ่มเอ่ยคำ "ควรเป็นเจ้าที่ดูแลปรนนิบัติข้ามิใช่หรือไร ไยมาแย่งขนมของข้า" เขาถามออกมาแบบแฝงความนัยเล็กน้อย
ฟงลี่หลินไม่รู้ความนัยอันใดทั้งสิ้นจึงเอ่ย "หม่อมฉันย่อมดูแลปรนนิบัติท่านแต่ขอเพิ่มพลังก่อน"
ฉีเล่อยิ่งขมวดคิ้วพันกันเมื่อเจอคำตอบแฝงความนัยยิ่งกว่าจึงเอ่ยเสียงหยัน "ช่างไม่ดูหน้าตัวเอง"
"หน้าหม่อมฉันเกี่ยวอันใดกับการปรนนิบัติท่านหรือเพคะ" ฟงลี่หลินเลิกคิ้วลอยหน้าลอยตา
"อ้อ...ข้าลืมไป" ฉีเล่อเริ่มต่อความ "ยามปรนนิบัติเพียงดับเทียน"
"หือ!"
“ความมืดมิดคงช่วยข้าได้ไม่น้อย”
“หา!”
ฟงลี่หลินกะพริบตาปริบๆ นางเริ่มประมวลความคิดและเริ่มเข้าใจ
ปรนนิบัติคืออันใด? ไยนางคิดไม่ทัน!
ฉีเล่อถึงกับนึกแปลกใจเมื่อมองเห็นนางชะงักไปแบบนั้น
ใบหน้าของนางขึ้นริ้วสีแดงก่ำริมฝีปากเม้มแน่น พวงแก้มที่มีรอยแผลเป็นคล้ายกับจะปริแตก
นางกำลังตกใจอันใด? ทำเหมือนไม่เคย!
"องค์ชายเพคะ" ฟงลี่หลินเริ่มเอ่ยคำอีกคราแต่ทว่าน้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไป ความแข็งกระด้างในน้ำเสียงช่างซ่อนเอาไว้ได้ยากเย็น
"หืม" ฉีเล่อขานรับด้วยน้ำเสียงคล้ายเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เขากำลังนึกสนุกแปลกๆ
"คืนนี้ยังอีกยาวนาน เราควรญาติดีกันเอาไว้" เสียงเย็นเยียบของหญิงสาวเป็นคำกล่าวตามนิสัย หากทำได้นางจะลุกขึ้นถีบเขาเดี๋ยวนี้
องค์ชายบ้านี่นางมิใช่สาวงามอุ่นเตียงเสียหน่อย นางยังไม่เคยถูกแม่สื่อมาทาบทามด้วยซ้ำ ไยมองนางแบบนั้นกัน!
"ย่อมเป็นเช่นนั้น คืนนี้ข้ามีเวลาทั้งคืน" ชายหนุ่มเริ่มนึกสนุกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นสตรีข้างกายกำลังโกรธกรุ่น ช่างเล่นตัวไม่ดูหน้าตนเอง
"แต่หม่อมฉันไม่มีเวลาให้ใครทั้งคืนหรอกนะเพคะ งานเลี้ยงเลิก เราเลิก!" นางกล่าวพร้อมตวัดสายตาเรียวคมสวยเฉี่ยวฟาดใส่
"ได้อย่างไร ตำแหน่งที่เจ้านั่งในยามนี้ย่อมเป็นสตรีที่มีเวลาให้กับข้า ทั้งคืน!"
"หื้อ!"
ฉีเล่อยิ่งคึกเมื่อมองเห็นปฏิกิริยาสะดุ้งตัวของสตรีข้างกายจึงเอ่ย
"ไม่ต้องห่วง ข้าแค่ดับเทียน..."
"ฮื้อ!"
ครานี้ฟงลี่หลินเสียงสูงติดเพดานจนฉีเล่อหลุดยิ้มออกมาพาใบหน้าหล่อเหลาแต่เย็นชาพลันสว่างวาบ
หญิงสาวยิ่งตาโตจ้องมองก่อนรีบเบือนหน้าหนีรอยยิ้มพิฆาตของบุรุษตรงหน้า
นางกำลังรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่งยวด
อาซ้อ พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย....
ฉีเล่อ&ฟงลี่หลิน
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับจบบริบูรณ์ คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับ E-Book คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
|
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น