คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 10 เรารักกันได้อย่างไร2
ตอนที่
10
เรารักกันได้อย่างไร2
“ไม่ให้ไปก็ไม่ไป!”
ฟงลี่หลินตะคอกพี่ชายเสียงดังก่อนจะนั่งลงข้างๆ หลิงเวยและเอื้อมฝ่ามือมาจับมือของหลิงเวยเอาไว้
“อาซ้อไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องเสียใจไป อย่าไปคุยกับคนไม่มีน้ำใจเลย” น้องเล็กว่าอย่างนั้นพร้อมตบหลังมือของหลิงเวยเบาๆ อย่างให้กำลังใจเป็นที่สุด
หลิงเวยได้แต่มองฟงลี่หลินสลับกับใบหน้าเย็นชาของฟงชินหยางอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร นางยังไม่คุ้นเคยกับใครเลยสักคนแม้แต่กับสามีของตน นางอยากร้องไห้อีกแล้ว
ฟงชินหยางยืนมองภรรยาของตนด้วยมาดเรียบนิ่งไม่คิดจะยินยอมให้นางออกจากเรือนไปที่ใดทั้งสิ้นต่อให้นางบีบน้ำตาออกมาจนหมดเบ้าตาก็ตาม
ชายหนุ่มคิดอย่างนั้นถึงแม้ว่าหญิงสาวผู้เป็นภรรยาจะกำลังทำท่าทางน่าสงสารน้ำตาปริ่มๆ ขอบตาทั้งยังบอกกล่าวว่าเสื้อผ้าของนางใกล้ขาดแบบนั้น
เขาจะไม่มีวันเชื่อมารยาของนางที่มักจะสร้างอาการคันยุบยิบอยู่ภายในร่างกายของเขา
เขาจะไม่หลงกลนางเด็ดขาด!
ภายในตลาดหน้าด่านของเมืองซางอี้ที่มีร้านค้ามากมายสองข้างทางมีผู้คนเดินสัญจรไปมาไม่ขาดสาย
ฟงลี่หลินเดินจับจูงมือของหลิงเวยไปตามทางเข้าออกร้านนั้นร้านนี้อย่างรื่นเริง ทั้งสองส่งยิ้มหวานหยดให้กันตลอดทางอย่างมีความสุขเหลือเกิน บุรุษหลายคนที่บังเอิญเห็นสตรีทั้งสองกำลังเดินไปตามทางด้วยรอยยิ้มงดงามแบบนั้นจึงหยุดเดินเพื่อพิศมองทั้งสองนางด้วยสายตาชมชอบเปิดเผย ทำให้ใครบางคนต้องหางคิ้วกระตุกตลอดทาง
ฟงชินหยางยังคงมีสีหน้าเรียบตึงไม่สร่างซาที่จำต้องเดินตามแผ่นหลังของสตรีตัวเล็กๆ ออกร้านนั้นทีออกร้านนี้ทีจนเวียนหัวไปหมด
“น่าแปลกใจยิ่งนักที่ครานี้น้องเล็กเอาชนะพี่ใหญ่ได้”
ฟงจินหมิงที่ร่วมเดินทางมาตลาดด้วยเอ่ยขึ้นกับฟงชิน หยางที่เดินหน้านิ่งคล้ายรูปปั้นรูปสลักมาตลอดทาง
ฟงชินหยางไม่ต่อคำอันใดกับน้องชายของตน เขายังคงก้าวเท้าหนักๆ เดินเป็นรูปปั้นตัวใหญ่ต่อไปพลางไล่มองเหล่าผู้คนรอบด้านด้วยมาดเหี้ยมเกรียม พาเอาบุรุษหลายชีวิตที่มองสองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตากรุ้มกริ่มต้องรีบหลุบตาลงต่ำนับเม็ดดินกันอย่างสามัคคี
“อ่า...จริงสิพี่ใหญ่” น้องรองของตระกูลฟงคล้ายกับนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่ตนคาใจจึงเริ่มซักถามพี่ใหญ่ของตนตามตรง
“พี่เจอกับพี่สะใภ้ที่ใด แล้วรักกันได้อย่างไร ไยถึงรวดเร็วนัก หรือว่าเจอกันตอนไปทำศึกที่ชายแดนทางเหนือ แล้วไยไปเจอกันตอนทำศึก มันจะเป็นไปได้อย่างไร”
และคำถามของน้องรองทำเอาพี่ใหญ่ถึงกับอึ้ง
ฟงชินหยางเลือกที่จะไม่ตอบคำใดเฉกเช่นเดิม เขายังมิได้ตระเตรียมคำตอบนี้กับภรรยาของเขาที่ได้มาอย่างคาดไม่ถึง
“ว่าอย่างไรพี่ใหญ่ ท่านเจอและรักกับพี่สะใภ้อย่างไร ใครรักใครก่อน และรักกันตรงไหน อะไรที่ทำให้รักกัน” ฟงจินหมิงยังคงถามย้ำ เขาใคร่รู้เสียจริง ให้ตาย!
“เจ้าจะรู้ไปทำไม” ฟงชินหยางถามกลับเสียงเย็น
“อ้าว! รู้มิได้รึ?”
“ไม่ได้!”
“ทำไม?”
“มันเป็นเรื่องส่วนตัว”
ฟงจินหมิงเริ่มหรี่ตามอง “เราไม่เคยมีความลับต่อกันนะพี่ใหญ่” เขาเอ่ยเสียงต่ำ
ฟงชินหยางจึงหยุดเดินแล้วจ้องมองฟงจินหมิงด้วยสายตาคมเข้มดุดัน
จะให้เขาบอกว่าอย่างไร บอกว่าเขาถูกนางวางยาจนพลาดท่าเสียทีเสียเชิงชายได้เสียกันอย่างน่าอับอายน่ะหรือ
ไม่มีทาง!
“หรือว่าพี่ใหญ่วางยาพี่สะใภ้”
“...!”
ฟงจินหมิงถึงกับตบมือของตนเสียงดังฉาดใหญ่เมื่อมองเห็นพี่ใหญ่ของตนคล้ายกับนิ่งอึ้งไป
“พี่ใหญ่รักพี่สะใภ้มากและรักนางข้างเดียวจนหน้ามืดตามัวขาดสติยั้งคิดแล้ววางยานาง ใช่หรือไม่? นิสัยบ้าบิ่นดุเดือดของพี่ใหญ่ทำได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“พี่ใหญ่ช่างชั่วร้ายไร้ที่ติยิ่งนัก!”
ฟงจินหมิงพูดเองสรุปเองเสร็จสรรพ ทั้งยังกล่าวโทษพี่ชายของตนเองแบบเต็มที่ พี่สะใภ้ของเขาช่างงดงามอ่อนหวานบาดตาบาดใจถึงเพียงนั้นเป็นใครก็คงอดใจเอาไว้ไม่ไหว
พี่ชายของเขาช่างชั่วช้ายิ่งแล้ว...
ฟงชินหยางถึงกับสะอึกก้อนขมลึกลับในลำคอจนไม่คิดจะเสวนากับน้องชายของตนอีกต่อไป เขาจึงพาใบหน้าหล่อเหลาแต่เหี้ยมเกรียมมืดครึ้มคล้ายปีศาจเพิ่มขึ้นทุกทีๆ ก้าวเท้าเดินฉับๆ เข้าไปยังร้านผ้าตรงหน้าที่ภรรยาและน้องสาวของเขาเข้าไป
“กลับบ้าน!” เขาเอ่ยเสียงเข้มดุดันเมื่อเข้ามายังร้านขายผ้าแล้วเจอกับตัวการที่ทำให้น้องชายคิดการกับเขาได้ผิดมหันต์ทำให้เขากลายเป็นบุรุษอันตรายน่ารังเกียจเดียดฉันท์
“ข้ากำลังจะได้ผ้าแล้ว” หลิงเวยเงยหน้ามองคนตัวใหญ่ตรงหน้าที่คล้ายกับว่าเรือนกายของเขาจะสูงใหญ่กว่าที่เคย
“เอาทั้งหมดนี่ จัดส่งที่จวนตระกูลฟง” คนตัวโตตรงหน้า หลิงเวยเอ่ยสั่งการแล้วส่งสายตาดุร้ายเป็นสัญญาณให้นางเดินตามไป หญิงสาวจึงก้มหน้าเดินตามแผ่นหลังกว้างใหญ่แต่โดยดี
นี่คนหรือเสือกันนี่ น่ากลัวเสียจริง
ฟงหลี่หลินที่ยืนอยู่กับหลิงเวยได้ยินพี่ชายว่าอย่างนั้นพลันตาโตรีบหันไปมองเถ้าแก่เนี๊ยแล้วเอ่ยเสียงดัง “จัดการเลยอย่าชักช้าประเดี๋ยวพี่ใหญ่ของข้าเปลี่ยนใจ”
เถ้าแก่เนี๊ยมีหรือจะรีรอ นางรีบรวบผ้าตรงหน้าทั้งหมดแล้วเอ่ยสั่งการไปยังลูกน้องของตนในทันที
ระหว่างทางเดินในตลาดตัวเมืองซางอี้แห่งเดียวกับที่พี่น้องตระกูลฟงกำลังเดินเที่ยวอยู่ บัดนี้ปรากฏเงาร่างของพลทหารยืนอยู่ห้านาย
สองคนเป็นชายและอีกสามคนเป็นหญิง ทั้งห้าคนนี้ได้รับมอบหมายจากท่านรองแม่ทัพจิ่นให้มาส่งรายงานจากค่ายทหารหน้าด่านถึงท่านแม่ทัพฟงตามกฎระเบียบที่ฟงชินหยางเป็นผู้กำหนด ถึงแม่ว่าฟงชินหยางจะได้รับวันหยุดยาวแต่ทว่าการฝึกหนักของทหารในค่ายยังคงกระทำมิได้หยุดด้วยแต่อย่างใด
“ข้าได้ข่าวว่าท่านแม่ทัพแต่งงานปานสายฟ้าฟาดเป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่” ทหารนายหนึ่งนามอาซิ่นเอ่ยถามขึ้นเมื่อมองไปทางเบื้องหน้าแล้วบังเอิญมองเห็นท่านแม่ทัพผู้เป็นเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้อยู่ไกลๆ และเห็นสตรีงดงามนางหนึ่งเดินอยู่กับท่านแม่ทัพของเขา
“อา...ฮูหยินของท่านแม่ทัพช่างงดงาม มิน่าเล่าท่านแม่ทัพไม่เคยพามาเปิดเผยสงสัยว่าจะหวงแหนยิ่ง” ทหารนายที่สองนามอาตู้เอ่ยเย้าหัวเราะปิดท้าย
อวี้ถิงที่อาสาติดตามมาส่งรายงานกับเพื่อนทหารทั้งสองได้ยินพลันยืนนิ่งสีหน้าเย็นเยียบซ่อนแววร้ายกาจเอาไว้ยากเย็น
ซือซือและอี้ผิงที่โดนดึงตัวให้มาเป็นแนวร่วมลอบมองตากันอย่างเข้าใจ “เข้าไปเลยหรือไม่” พวกนางถามพร้อมกัน
“แน่นอน” อาซิ่นตอบ “เจอท่านแม่ทัพตรงนี้ก็ดี เอารายงานไปส่งให้เลยแล้วก็กลับค่ายเลย...ไปเถิด” กล่าวจบก็ตบไหล่อาตู้ให้เดินไปด้วยกัน
“ช้าก่อน” เสียงห้วนแหลมพลันดัง “เอารายงานไปส่งตอนนี้แล้วจะได้เข้าไปอยู่ถึงในจวนท่านแม่ทัพได้อย่างไร” อวี้ถิงเอ่ยเสียงเย็น
“แล้วอย่างไร ทำไมต้องเข้าไปอยู่ในจวนของท่านแม่ทัพเล่า” อาตู้ถามอย่างงุนงงเกาหัวแกรกๆ
อวี้ถิงหรี่ตาแล้วเอ่ยเนิบนาบใจเย็นซ่อนแผนการ “อาหารของจวนแม่ทัพน่าจะรสเลิศมิใช่น้อย สุราก็คงรสล้ำเช่นเดียวกัน หากอยากลิ้มลองคงต้องรอเอารายงานไปให้ในจวนของท่านในยามเย็น”
สองนายทหารได้ยินพลันหูผึ่ง อาหารรสเลิศสุรารสล้ำรึ!?
ซือซือและอี้ผิงรีบเสริม “ใช่ๆ อาหารในค่ายน่าเบื่อยิ่ง”
อวี้ถิงยังคงเอ่ย “และบางทีอาจจะได้พักค้างแรมในเรือนรับรองสะอาดสะอ้าน เตียงนอนนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ มีบ่าวไพร่ดูแล”
ครานี้สองนายทหารยิ่งหูผึ่งกางปีกพั่บๆ มันย่อมดีกว่าที่นอนในค่ายทหารเป็นแน่
“อ่า...ตกลงตามนั้น” อาซิ่นและอาตู้พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกัน
อวี้ถิงยิ้มเย็น หึหึ! สำเร็จไปหนึ่งขั้น!
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับ E-Book คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
|
|
|
ความคิดเห็น