ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวใช้พระกาฬ

    ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่31 ความสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.82K
      1.97K
      25 พ.ค. 66

    ซูเจินเริ่มขมวดคิ้วพันกันแน่น เมื่อชายผู้เป็นเป้าหมายแห่งชีวิตเอาแต่สำลักอยู่นั่น!

    ถามเรื่องนี้ทีไร สำลักทุกที!

    หญิงสาวจึงกลอกตาเม้มปากไม่คิดจะถามอีกต่อไป นางเลือกที่จะโน้มตัวเข้าหา แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนตักของชายหนุ่มตรงหน้าเสียเลย

    หยางเหอจินถึงกับชะงักงันตัวเกร็งแข็งทื่อ มองสตรีตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง

    ซูเจินนั่งบนตักแกร่งไม่พูดไม่จา พลางซบหน้ากลิ้งไปกลิ้งมาตรงแผงอกเขา นางถอนหายใจเบาๆ แล้วหลับตา อึดใจก็หลับไป

    “...!?

    เจ้าของตักแกร่งและแผงอกหนั่นแน่นถึงกับทำอันใดไม่ถูก เมื่อมีลูกแมวตัวโตมานอนอยู่บนตักตน

    ความเงียบงันจึงบังเกิดในรถม้า

    หยางเหอจินเพียงนั่งนิ่ง ใช้ร่างแข็งแรงเป็นที่นอนให้ร่างนุ่มนิ่มของซูเจิน เขาทำได้แค่อึ้งไป ไม่พูดคำใดออกมา ดวงตาคมดำลึกล้ำฉายแวววูบไหว ภายในอกข้างซ้ายได้ยินแต่เสียงหัวใจเต้นตุบๆ

    มิใช่ว่าไม่เคยอุ้ม มิใช่ว่าไม่เคยกล่อมให้นางหลับ

    แต่นางตอนนี้โตเป็นสาวแล้ว ถึงแม้หน้าอกนางจะเริ่มตั้งเต้า แต่เขาก็มองออกว่ามันยังจะใหญ่ได้อีก 

    มันคงเต็มไม้เต็มมือยิ่งนัก!

    และอีกครั้งที่บุรุษผู้สุขุมเคร่งขรึม นิสัยเย็นชา ไม่เคยชายตาเหลียวแลใคร แต่กลับนำพาซึ่งความรู้สึกแปลกประหลาดที่มีต่อน้องน้อยผู้ซึ่งเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ

    ความรู้สึกนี้...ไม่น่าให้อภัย

     

    เวลาผ่านไปถึงสองชั่วยาม จวบจนเย็นย่ำพระอาทิตย์ทอดตัวลงต่ำตรงปลายขอบฟ้า แต่รถม้าคันเดิมที่ควรเคลื่อนตัวออกเดินทางกลับยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิม

    ภายในรถม้าที่มีบุรุษร่างใหญ่นั่งนิ่งเป็นศิลาอุ่น และสตรีร่างเล็กนอนขดตัวหลับใหลคาอกแกร่ง ทั้งสองยังคงอยู่ในท่าเดิมถึงสองชั่วยาม

    หยางเหอจินก้มหน้ามองน้องน้อยที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย 

    เขาเห็นขนตาดำขลับยาวงอนทาบทับเหนือสองข้างแก้มนาง จมูกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากบางแต่อิ่มให้ความรู้สึกน่ากดจูบ คงนุ่มน่าดู

    ริมฝีปากหยักได้รูปบนใบหน้าคร้ามแกร่งเริ่มปรากฏรอยลึกยกโค้งโดยไม่รู้ตัว เรียวนิ้วแกร่งค่อยๆ เอื้อมขึ้นมาตรงหน้านาง

    เสียงถกเถียงกันของเฟยหลงเซียนและหนิงเหมย ยังคงดังแว่วมาให้ได้ยินอยู่ไกลๆ จากนอกรถม้าตรงริมลำธาร พร้อมกับกลิ่นเนื้อไก่ป่าที่ถูกย่างจนหอมกรุ่นลอยมากับสายลม หยางเหอจินจึงบีบจมูกนางบนตักตนให้ตื่นนอนเสียที ซูเจินจึงขมวดคิ้วนิ่วหน้ายอมตื่นลืมตาแต่โดยดี  

    ที่ด้านข้างของตัวรถม้า หนี่ม่านกำลังย่างไก่ป่าหลายตัวบนเปลวไฟกองใหญ่ประหนึ่งดั่งจะเผาศพใคร เด็กสาวเวียนพลิกไก่ตัวนั้นทีตัวนี้ทีอย่างขยันขันแข็ง นางมิได้รู้เห็นอันใดเกี่ยวกับซูเจินและหยางเหอจินที่กล่อมกันหลับใหลอยู่ในรถม้า เพราะว่านางมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาย่างไก่

    ซูเจินตามกลิ่นไก่ย่างออกมาจากรถม้าในทันที ท่าทางของนางยังคงน่ารักเป็นธรรมชาติ มิได้รู้สึกรู้สาเลยว่า ทำใครบางคนลำบากจนท่อนขาเป็นเหน็บชา

    ส่วนหยางเหอจินเดินตามลงมาจากรถม้าด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่พูดไม่จาอันใดทั้งนั้น ท่าทางของเขาเย็นชาดั่งเช่นปกติ แต่ในใจกลับเดือดพล่าน เพราะใครบางคนทำกับเขาอย่างอุกอาจ ให้เขาต้องเก็บข่มอารมณ์แปลกประหลาดคุกรุ่นถึงสองชั่วยาม

    “เจ้าเอาไก่มาจากไหนมากมาย แล้วจะกินหมดหรือ?” ซูเจินถามขึ้นทันทีเมื่อลงมาจากรถม้า

    หนี่ม่านตอบกลับโดยที่มือยังคงพลิกไก่ย่างไม่หยุดหย่อน “ไก่ป่าเหล่านี้เป็นพวกท่านราชองครักษ์จับมาให้ ข้าก็เลยขอให้พวกเขาจับมามากหน่อย จะได้กินด้วยกัน” นางกล่าวพลางปรายสายตามองไปทางเงาดำสนิทที่วูบไหวไปมา บนต้นไม้บ้างหลังโขดหินบ้าง หลายคนมาก

    องครักษ์เงาพวกนี้ เมื่อยามแรกที่เดินทางไปยังวัดฉือหนิง รัชทายาทเฟยหลงเซียนกำลังปลอมตัวเป็นคุณชาย หาได้ต้องการเปิดเผยตัวตนกับเหล่าสามสตรีไม่ พวกเขาจึงคอยอารักขาอยู่ห่างๆ อย่างยากลำบาก  

    แต่ยามนี้...ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว หนึ่งในสามสตรีเป็นถึงว่าที่พระชายาในรัชทายาท หัวหน้าราชองครักษ์นามว่าหยวนคัง จึงอนุญาตให้พวกเขาอารักขาได้ตามสบาย

    ไก่ป่าพวกนี้หนี่ม่านหว่านล้อมหยวนคังให้ไปสั่งการอีกที หลังจากที่ตกลงกันแล้วว่าจะช่วยเหลือรัชทายาทเรื่องคุณหนู หยวนคังจึงทำตามอย่างหลงเล่ห์สาวน้อย

    ยามนี้...เงาดำมากมายจึงวูบไหวไปมา หนี่ม่านจึงย่างไก่ให้ลอยกลิ่นหอมกรุ่น รอให้พวกเขาพุ่งตัวมาโฉบเอาไปกิน นางจะได้คอยนั่งมองความหล่อเหลาของพวกเขาครบทุกคน

    บนทางทอดยาวริมลำธารที่มีน้ำสีใสไหลเอื่อยเฉื่อย ปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายไปมา ต้นไม้ดอกไม้โปรยกลีบโรยใบ หมู่ภมรบินหยอกเย้าเร้าใจ เกิดเป็นภาพงดงาม บรรยากาศดีเยี่ยม หากแต่ชายหนุ่มรูปงามและหญิงสาวโฉมสะคราญกลับไม่นำพาความรู้สึกดีอันใด

    “อาเซียน...” เสียงแว่วหวานเอ่ยออกมายามเดินตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของบุรุษรูปงามผู้มีใบหน้าบึ้งตึง

    “อันใด?” เจ้าของนามขานรับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    “ข้าเหนื่อยแล้ว คอแห้งด้วย” หนิงเหมยเอ่ยตามตรง เพราะนางเหนื่อยแล้วจริงๆ นางไม่อยากเดินเที่ยวแล้ว

    “เจ้าควรเถียงข้าให้น้อยลงหน่อยประไร” เฟยหลงเซียนหยุดเดินแล้วหันหน้ามาก้มลงมองหนิงเหมยนิ่งๆ เห็นใบหน้าของนางแดงระเรื่อไปหมด เหงื่อไหลซึมผุดพราวเต็มวงหน้า เกิดเป็นภาพเย้ายวนใจอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากน่าจูบนั่นก็ซีดเซียว ให้รู้สึกสงสารนัก

    แต่เขายังต้องใจแข็งเข้าไว้ เพราะว่านางช่างบังอาจกับเขา

    ไม่เคยมีสตรีนางใดทำกับเขาอย่างนี้ มีแค่นางคนเดียว!

    หญิงสาวเงยหน้าสบตาชายหนุ่มอย่างไม่ยอมอ่อนข้อสักนิด ใบหน้าของนางยังคงอ่อนหวาน หากแต่แววตายังคงดื้อดึง นางเอ่ยอย่างดื้อรั้น “ข้ามิได้เถียงท่าน ข้าแค่บอกความจริงกับท่าน รับสั่งของฮ่องเต้ใครก็ไม่อาจขัดขืน ในเมื่อพระองค์ตรัสออกมาต่อหน้าธารกำนัล การกลับคำย่อมไม่อาจทำได้ เรื่องนี้ข้าย่อมเข้าใจ หากแต่ข้าไม่ต้องการโกหกท่านก็เท่านั้น”

    ดวงตาเรียวคมจ้องเขม็งอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน “เจ้าบอกว่าเหตุผลที่ยอมแต่งงานก็เพราะต้องการออกจากบ้านเดิม ไม่ชอบข้าเลยสักนิด และไม่มีวันที่จะชอบข้า” เขาเอ่ยทวนความจริงที่สตรีตรงหน้าบอกเขาเมื่อชั่วยามก่อนหน้า และเมื่อครู่ที่ผ่านมา หลายครั้งหลายคราทีเดียว

    หนิงเหมยพยักหน้าหงึกหงัก “ข้าไม่ชอบท่าน ก็ใช่ว่าจะไม่มีสตรีอื่นชอบท่าน” หญิงสาวคลี่ยิ้ม “ท่านอย่าได้ห่วงไปเลย” นางเอ่ยปลอบใจ “ยังมีสตรีอีกมากที่ชอบท่าน ข้ารับรอง ท่านเหนื่อยแน่ๆ”

    ถึงแม้รอยยิ้มจะงดงามจนล่อลวงใจชาย แต่เฟยหลงเซียนกลับถอนหายใจหนักหน่วง เขาอยากจะบ้าตายนัก บอกกล่าวคล้ายผลักไสกันอย่างนี้ ให้นางแสร้งว่ารักเขายังจะดีเสียกว่า!

    “ข้ารูปงามหรือไม่?” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม

    หญิงสาวยิ้มรับขยายความ “ท่านทั้งสูงศักดิ์และมีอำนาจล้นมือ”

    “อืม...” เฟยหลงเซียนหรี่ตามอง “แล้วทำไมเจ้าถึงรังเกียจข้านัก”

    ครานี้เป็นหนิงเหมยบ้างที่ถอนหายใจ “ข้ามิได้รังเกียจท่าน ข้าแค่ไม่ชอบท่าน”

    “แต่เรากำลังจะแต่งงานกัน”

    “...”

    และแล้วการถกเถียงกันด้วยประโยคเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาก็ยังคงเกิดขึ้นมาอีกครา

    ท่ามกลางบรรยากาศเป็นใจสำหรับคู่รัก หนึ่งบุรุษสูงศักดิ์กับหนึ่งสตรีธรรมดา ยังคงเถียงกันไปมาด้วยประโยคเดิมๆ แต่กลับเพิ่มเติมสายสัมพันธ์บางอย่างโดยไม่รู้ตัว...

    เฟยหลงเซียนนั้น ถึงแม้ว่าจะคุยกับหนิงเหมยอย่างหงุดหงิด และไม่สบอารมณ์เลยสักนิดกับท่าทางอ่อนหวานแต่ดื้อรั้นของนาง หากแต่ในใจนั้นกลับชมชอบนางมากขึ้นกว่าเดิม สตรีเช่นนางหามิได้ง่ายๆ

    ส่วนหนิงเหมยนั้น เดิมทีนางคิดแต่จะหลีกหนีเฟยหลงเซียน การคุยกับเขาก็แทบนับคำได้ หากแต่ยามนี้ นางกล้าเถียงเขาถึงสองชั่วยาม



    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับจบบริบูรณ์ คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ(ภาค 1)





    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับ E-Book คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTU0NTM5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg1ODk5Ijt9

    Thumbnail Seller Link
    สาวใช้พระกาฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อทายาทสาวน้อยจ้าวยุทธ์ ต้องมาอยู่ในคราบสาวใช้ของนายสาวผู้อ่อนแอ..."คุณหนูท่านรักบุรุษผู้นั้น""ข้ากับเขาคบหากันมา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×