ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวใช้พระกาฬ

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่19 ต้อนรับเชื้อพระวงศ์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.94K
      2.04K
      9 เม.ย. 66

    ย่ำอรุณฟ้าเริ่มสว่าง ปลายยามเหม่า(05.00-06.59)

    หนี่ม่านได้รับรู้จากหลวงจีนน้อย ว่าจะมีขบวนเสด็จของราชนิกุลมาไหว้พระที่วัดแห่งนี้ นางจึงรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกินที่ในชีวิตหนึ่งจะมีโอกาสได้ยลโฉมเชื้อพระวงศ์ นางจึงรีบวิ่งไปเล่าให้หนิงเหมยฟังด้วยความตื่นเต้นเกินจะกล่าว

    หนิงเหมยจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดทุกคนในวัดถึงได้มีงานยุ่งกันไปหมด นางเองเริ่มมีแรงขึ้นมากแล้ว จึงคิดว่าควรทำตัวให้มีประโยชน์ นางรีบออกมาช่วยงานทุกคนในการเตรียมสถานที่ต้อนรับคณะเดินทางของราชนิกุล

    ยามซื่อสามเค่อ(09.45น.) ขบวนเสด็จก็เดินทางมาถึง เหล่าเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ต่างทยอยเข้ามาไหว้พระที่ห้องโถงพระประธาน หนิงเหมยและหนี่ม่านได้รับหน้าที่ดูแลธูปเทียน จึงได้มีโอกาสได้เห็นเหล่าบุรุษแลสตรีงดงามเลิศล้ำจนตาลาย

    เมื่อถึงเวลารับอาหารเจร่วมกัน เหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายก็ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปนั่งยังห้องรับรองของทางวัด โดยมีโต๊ะเล็กทรงเตี้ยตั้งวางเรียงรายตามตำแหน่งสูงศักดิ์จนเต็มพื้นที่

    ฮ่องเต้เฟยหลงจวิ้นที่วันนี้มิได้ใส่อาภรณ์ธรรมดา หากแต่ใส่อาภรณ์สีนวลสง่าปักดิ้นทองขลิบชายผ้าวิจิตรนั่งยังตำแหน่งประธานเหนือสุด โดยมีฮองเฮาเคียงข้างและพระสนมงดงามสามนางนั่งลดหลั่นตามตำแหน่งลำดับขั้นลงมา จากนั้นก็มีองค์หญิงและองค์ชายไม่กี่พระองค์นั่งสองฝั่งซ้ายขวา ด้านหลังของแต่ละพระองค์มีนางกำนัลและขันทีประจำตัวรอรับใช้ไม่ห่างกาย

    หนิงเหมยและหนี่ม่านได้มีโอกาสยกอาหารเจหน้าตาน่าทานมาไว้ยังโต๊ะส่วนกลางเพื่อรอขันทีทดสอบพิษก่อนที่นางกำนัลอาวุโสจะยกไปวางยังตำแหน่งโต๊ะของแต่ละพระองค์

    เนื่องจากหนิงเหมยเป็นคุณหนูผู้บอบบางจึงทำงานช้าไปบ้างแต่ก็มิได้มีอุปสรรคอันใดมากนัก นางกลับรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสช่วยงานทางวัดและรับใช้คนของราชวงศ์แห่งแว่นแคว้น

    มุมเฉลียงของทางเดิน...

    ในขณะที่หนิงเหมยกำลังช่วยยกอาหารมานั้น บังเอิญชนเข้ากับนางกำนัลคนหนึ่งจนจานอาหารตกกระแทกพื้นเสียงดัง

    นางกำนัลนางนั้นหันขวับมามองด้วยสายตาโกรธกรุ่น “เดินอย่างไร ไม่มีตารึ?

    “ข้าขอโทษ” หนิงเหมยรีบกล่าวเสียงนุ่ม “ท่านเจ็บที่ใดหรือไม่?

    แต่ทว่าน้ำเสียงนุ่มนวลของหนิงเหมยมิได้ช่วยอันใดเลย นางกำนัลนางนั้นชักสีหน้าเป็นเดือดเป็นแค้น “เจ็บหรือไม่ มิได้สำคัญ แต่เจ้าช่างไม่ระวังทำอาหารที่ต้องนำไปถวายเสียหาย เจ้าต้องชดใช้”

    “ข้าต้องชดใช้อย่างไร ให้ข้าไปนำอาหารมาให้ใหม่ดีหรือไม่?” หนิงเหมยยังคงกล่าวคำด้วยความใจเย็น

    แต่นางกำนัลยังไม่ยอม “นำอาหารมาให้ใหม่ แล้วเสื้อผ้าของข้าที่เปื้อนเปรอะเล่า” นางชี้นิ้วมาที่ชายเสื้อของตนที่เลอะอาหารเพียงเล็กน้อย แต่ปัญหากลับไม่น้อย เมื่อนางไม่ยอมลงให้ นางเป็นถึงคนสนิทข้างกายพระสนมคนโปรดเชียวนะ ครั้งนี้ได้มีโอกาสติดตามพระสนมขั้นเฟยออกเยี่ยมเยือนราษฎรกับคณะขององค์ฮ่องเต้ แม้แต่ขุนนางท้องถิ่นยังต้องเกรงใจนางถึงสามส่วน

    “สตรีชั้นต่ำอย่างเจ้า ช่างบังอาจนัก!” นางกราดเกรี้ยวด้วยความเหยียดหยันไปทางหนิงเหมย  

    หนิงเหมยเบนสายตาลงมองคราบนั้นแล้วคลี่ยิ้มจริงใจ “ข้านำผ้าของท่านไปซักให้ดีหรือไม่?

    “เจ้าจะบ้ารึ! หากถอดไปซักแล้วจะให้ข้าเปลือยกายหรือไร” นางกำนัลเริ่มตะเบ็งเสียงดัง

    “ท่านสามารถใส่ผ้าของข้าสำรองก่อนได้” หนิงเหมยยังคงเอ่ยอย่างใจเย็นทั้งยังยินดีแบ่งปัน เสื้อผ้าของนางที่ยังมิเคยได้ใส่เลยสักครั้ง มีอยู่สองชุดกระมัง

    “เฮอะ! ผ้าชั้นต่ำของเจ้านะรึ! ไม่มีทาง” นางกำนัลคำรามพร้อมสายตาดูถูกดูแคลนเต็มที่ “ข้าไม่ต้องการ”

    “เช่นนั้นท่านต้องการสิ่งใดหรือ? หากข้าสามารถทำให้ได้...”

    หญิงสาวเอ่ยไม่ทันจบ นางกำนัลก็เอ่ยแทรก

    “เจ้าทำได้แน่! ข้าจะตบสั่งสอนเจ้า” นางสะบัดเสียงพร้อมยกฝ่ามือขึ้นสูง

    เพี้ยะ

    เสียงเนื้อกระทบเนื้อพลันดัง

    หนิงเหมยเบิกตากว้างอย่างตกใจ หากแต่ฝ่ามือนั้นกลับมิได้กระทบแก้มนวลของนาง

    หนี่ม่านเดินมาทันแค่เพียงขยับใบหน้าเข้ามารับฝ่ามือแทนนายสาวก็เท่านั้น ใบหน้าเล็กของนางถึงกับสะบัดไปตามแรงตบ จนถ้วยน้ำแกงในมือกระฉอกเลอะเทอะเสื้อผ้าของนางไปหมด

    “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาขวางทางข้า!” นางกำนัลผู้เดือดดาลยังคงเบ่งอำนาจเสียงดัง

    หนี่ม่านเจ็บหน้ามากจึงไม่คิดพูดจาโต้ตอบ

    เพียงอึดใจ ฝ่ามือของนางกำนัลก็ตวัดมาอีกครา

    เพี้ยะ

    หนี่ม่านหน้าสะบัดตามแรงตบไปอีกครั้ง

    หนิงเหมยตกใจมากทำอันใดไม่ถูกทั้งสิ้น

    เนื่องจากมุมเฉลียงมุมนี้เป็นมุมอับ ยังไม่ทันได้มีใครเดินผ่านมา มีเพียงหนิงเหมย หนี่ม่านและนางกำนัลผู้มีอารมณ์พลุ่งพล่านแค่เท่านั้น ซูเจินที่มักจะยืนหลบมุมอยู่เงียบๆ จึงเดินออกมา

    ดวงตากลมโตของซูเจินยังคงใสซื่อ หากแต่มือน้อยๆ กลับเอื้อมไปจับปลายคางของนางกำนัลจนเกิดเสียงดังกร๊อบ

    นางกำนัลถึงกับชะงักนิ่งตัวเกร็ง ฝ่ามือยกค้างกลางอากาศ ดวงตาของนางเบิกถลน นางอ้าปากค้าง สันกรามบิดเบี้ยว

    หนิงเหมยและหนี่ม่านตกใจจนตาโต

    ซูเจินไม่พูดไม่จาอันใดทั้งนั้น นางเพียงลากสตรีโอหังเข้ามุมมืดไป

    “...!?

    คุณหนูและสาวใช้ได้แต่ยืนอึ้ง

    ทันใดนั้นพลันมีเสียงดังมาจากมุมทางเดินอีกด้านหนึ่ง

    “เสียงดังโวยวายอะไร” เสียงนั้นเป็นเสียงของนางกำนัลอีกคนหนึ่ง นางเดินมาตามเสียงไม่พึงประสงค์ จนมาเจอกับหนิงเหมยและหนี่ม่านยืนอยู่ตรงกลางทางเดิน พร้อมสภาพความเสียหายของอาหารบนพื้นเต็มไปหมด “พวกเจ้าบังอาจยิ่ง! กล้าก่อความวุ่นวายรึ!” นางชี้นิ้วกราดสั่งการ “ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”

    หนิงเหมยและหนี่ม่านจึงเดินออกไปแต่โดยดี ด้วยระลึกถึงความผิดของตน ในยามนี้กำลังมีบุคคลสูงศักดิ์มากหน้าหลายตา การใดๆ ที่นำพาความวุ่นวายมายังวัดแห่งนี้ย่อมมิใช่ผลดี

    “คุณหนู เอาอย่างไรดีเจ้าคะ” หนี่ม่านกระซิบถามเสียงเบาอยู่ตรงแผ่นหลังของหนิงเหมยยามที่ทั้งสองค่อยๆ เดินไปตามเสียงเรียกของนางกำนัลตรงสุดทางเดิน “นางกำนัลที่ก่อเรื่องถูกอาเจินลากไปแล้ว”

    “ข้าจะรับผิดชอบเอง” หนิงเหมยกระซิบตอบสาวใช้ “ห้ามเอ่ยถึงอาเจินเด็ดขาด”

    “บ่าวรู้แล้วเจ้าค่ะ” หนี่ม่านรับคำ


    คล้อยหลังทุกคนตรงทางเดินนั้น...

    เป็นมุมมืดที่ซูเจินพานางกำนัลผู้เกรี้ยวกราดเข้ามา นางกำลังถูกใจกับของเล่นตรงหน้าหนักหนา

    หญิงสาวก้มหน้ามองนางกำนัลที่กำลังนอนตัวเกร็งแข็งทื่อราวก้อนหินบนพื้นดิน

    นางกำนัลผู้ยโสโอหังร้องไห้น้ำตาไหลพรากแบบไร้เสียง นางทำได้เพียงอ้าปากพะงาบๆ ยากหุบได้ลง เนื่องจากสันกรามถูกจับบิดจนเบี้ยวผิดรูป

    ซูเจินเอียงหน้าน้อยๆ ยกยิ้มน่ารัก พลางเอ่ยวาจา “ที่นี่เป็นวัดอันศักดิ์สิทธิ์ ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เช่นนั้นแล้วข้าย่อมไม่ฆ่า”

    ถึงแม้ว่าคนพูดจะมีใบหน้าจิ้มลิ้ม หากแต่น้ำเสียงช่างเย็นเยียบน่าหวาดผวา นางกำนัลได้ฟังคำยิ่งร่ำไห้น้ำตาพรั่งพรูไหลออกมาคล้ายเขื่อนแตก

    ซูเจินยังคงเอ่ย “หลับให้สบายสักสองวัน แล้วค่อยคลานออกมา” หากพ้นสองวันนี้ไป คณะราชวงศ์อันยิ่งใหญ่คงเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงอันไกลโพ้น ถึงตอนนั้นเจ้าก็จงหาทางกลับเอาเองนะ

    ซูเจินตบใบหน้าหญิงตรงพื้นเพียงเบาๆ แต่ผลที่ได้ทำให้หญิงนางนั้นถึงกับหลับไปอย่างสงบ ปากยังคงอ้าค้าง น้ำลายไหลยืด

    หยางเหอจินอำพรางตัวตรงมุมอับแสงเยื้องออกไป เขายืนมองน้องน้อยอยู่นิ่งๆ 

    นั่นล่ะ! เจ้าควรทำอย่างนั้น มิเช่นนั้นหลักฐานสำคัญจะวิ่งเตลิดออกมา แล้วหันมาชี้เป้า ว่าผู้ร้ายเป็นเจ้า ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่!

    ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงใจ นึกชื่นชมสาวน้อยที่น่ารักไปหมดอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้

    ซูเจินยืนก้มหน้ามองนางกำนัลตรงพื้นด้วยสายตาเย็นชา กลิ่นอายเย็นเยียบปกปิดพลังสังหารรุนแรงเอาไว้ นางไม่นิยมการฆ่าหากไม่จำเป็น แต่นางกำนัลผู้นี้บังอาจล่วงเกินผู้มีพระคุณทั้งสองของนาง  

    หนิงเหมยกับหนี่ม่านช่วยเหลือนางจากริมทางเชียวนะ ทั้งยังทายาให้นาง ป้อนยาให้นาง ใครก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ทั้งนั้น

    ซูเจินเลือกที่จะเดินออกมาจากมุมมืดนั้น เพื่อไปหาหนิงเหมยกับหนี่ม่านที่ถูกเรียกตัวไป หากคาดเดาไม่ผิด สองคนนั้นต้องถูกเรียกตัวไปทำโทษเป็นแน่ แต่ในเขตของวัดอันสงบสุขคงไม่มีโทษทัณฑ์รุนแรงหรอกกระมัง อืม...ออกไปดีหรือไม่?

    หญิงสาวพลันหยุดปลายเท้าอยู่กับที่ นึกลังเลชั่งใจ

    ทันใดนั้น นางรู้สึกได้ถึงพลังลมปราณเข้มข้น วิชาตัวเบาเป็นเลิศ ลำตัวของนางชาวาบ  นางรู้สึกคล้ายกับกำลังถูกใครบางคนจ้องมองมา

    หยางเหอจินรับรู้ได้เช่นกันว่าสตรีผู้ถูกเขาแอบมองได้รู้ตัวแล้ว เขาจึงพรางกายวูบมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของนาง

    “เจ้าไม่ควรออกไปปรากฏกายให้ใครเห็น” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงต่ำอย่างรู้เท่าทันหญิงสาวตรงหน้าว่าต้องการไปขัดขวางการลงทัณฑ์คุณหนูกับสาวใช้นางนั้น ซึ่งมิใช่เรื่องดีแน่!

    ซูเจินเอ่ยตอบเสียงเนือย “วันนี้ข้ายังไม่มีอารมณ์ยั่วยวนท่านหรอกนะ”

    หืม...หยางเหอจินเลิกคิ้ว

    ซูเจินย่นจมูกเอียงหน้าหันมาทางด้านหลัง “เมื่อคืนข้าตามหาท่านแล้ว แต่หาไม่เจอ ท่านพลาดโอกาสไปแล้ว”

    “...!?

    หยางเหอจินอยากจะดีดหน้าผากของนางตรงหน้าเหลือเกิน

    ซูเจินหันกลับไปเพื่อเดินออกจากมุมมืด ทว่าฝ่ามือเล็กพลันถูกฝ่ามือใหญ่จับตรึงเอาไว้มั่น

    “ไปกับข้า” ชายหนุ่มคำรามเสียงเบา

    หือ!?

    หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด ร่างนุ่มนิ่มของนางก็ถูกจับยกขึ้นพาดบ่ากว้าง

    หยางเหอจินไม่อาจห้ามพี่ชายมิให้มาวัด เช่นนั้นทางเดียวคือต้องพาเจินเจินน้อยออกไปเสียด้วยกัน

    ด้วยฝีมือที่มีเหนือกว่าและความรวดเร็วปานสายฟ้า ชายหนุ่มจึงทำได้โดยไม่คณามือเลยแม้แต่น้อย เขาจี้สกัดจุดซูเจินเอาไว้จนนางทำได้เพียงกลอกตากลมโตไปมา

    หญิงสาวผู้ถูกฉุดคร่า ทำได้เพียงงุนงง

    เดี๋ยว! นางยังไม่ทันได้ยั่วยวนเขาเลยนะ...

    อึดใจชายหนุ่มร่างใหญ่กับสาวน้อยร่างเล็กก็หายวับไปดั่งภูตผี


    นิยายสาวใช้พระกาฬ ฉบับ E-Book คลิก>>>สาวใช้พระกาฬ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTU0NTM5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg1ODk5Ijt9

    Thumbnail Seller Link
    สาวใช้พระกาฬ
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    จะเป็นอย่างไรเมื่อทายาทสาวน้อยจ้าวยุทธ์ ต้องมาอยู่ในคราบสาวใช้ของนายสาวผู้อ่อนแอ..."คุณหนูท่านรักบุรุษผู้นั้น""ข้ากับเขาคบหากันมา...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×