ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)ภาคทะลุมิติรัก [จบ]

    ลำดับตอนที่ #7 : ท่องยุทธภพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.98K
      193
      11 พ.ย. 66

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วสำหรับค่ำคืนอันแสนจะทรมาน 

    หลินหลินยังคงนั่งถ่างตาคอยเมียงมองหยางหยางของเธออย่างนึกหวาดระแวงและหวาดหวั่น 

    แต่มาดเรียบนิ่งอย่างผู้ทรงอำนาจและเคร่งขรึมของเขาก็ทำเอาหลินหลินถึงกับอดใจไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างชื่นชมเช่นกัน

                ถ้าเธอจะหาแฟนเป็นจริงเป็นจังสักคน  เธอขอให้ได้อย่างนี้เถอะ  สาธุ!

    หลินหลินขอพรให้ตัวเองพลางนั่งจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาและหุ่นสูงโปร่งกำยำสง่างามของชายหนุ่มจากยุคจีนโบราณอย่างเหม่อลอย  

     

    เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่  หลินหลินที่เริ่มจะสัปหงก จึงสะบัดศีรษะเพียงนิดก่อนกระพริบตาปริบๆไล่ความง่วงงุนให้ออกไป

    ตอนนี้เธอเริ่มหงุดหงิดซะจริง

    "หยางหยาง" หลินหลินเริ่มหาเรื่องหาบทสนทนาเพื่อไม่ให้ตนเองเผลอหลับไป  "เรามาคุยกัน"

     

    ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าหยางหยางเพียงกระพริบตาสองครั้งด้วยมาดนิ่งๆดังเดิม 

    เขาคงยังไม่ชินกับชื่อเรียกนั่นที่หลินหลินมอบให้

    "ว่ามา" หยางหยางของหลินหลินเอ่ยขึ้นสั้นๆ แค่นั้น 

    ช่างเป็นการต่อบทสนทนาที่เยี่ยมมาก  หลินหลินคิด

    "คือ...ระหว่างที่ท่านยังไม่สามารถหาทางกลับไปยังที่ที่ท่านจากมา..และ..ถ้าหากท่านจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน...ข้าคิดว่าเราควรจะต้องทำข้อตกลง"  หลินหลินเริ่มต้นประโยคด้วยใจคิดว่าควรทำให้เคลียร์ ไม่อย่างนั้นเธอคงอกแตกตายแน่ๆ

    "ข้าจะรีบหาวิธีกลับไป" หยางหยางตอบคำ

                มันไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ หลินหลินเถียงในใจก่อนเอ่ย  

    "ก็แล้วถ้ายังไม่ได้กลับไปง่ายๆล่ะ  ฉันนั่งถ่างตาอย่างนี้อย่างหวาดระแวงแบบนี้  ไม่ไหวหรอกนะ  งานการฉันก็ต้องทำ  ปัญหาแต่ละวันน้อยซะที่ไหน  ปกติฉันไม่ใช่คนใจดีหรอกนะ  นี่เห็นว่าเป็นเจ้าที่นะ ถึงทำดีด้วยเนี่ย"

    ชายหนุ่มเพียงรับฟังประโยคนั้นของหลินหลิน เขาเพียงรับฟังนิ่งๆด้วยมาดน่าหวาดหวั่นดังเดิม  หญิงสาวจึงชะงักไป  

                เขาจะโกรธรึเปล่า  คงไม่มาบีบคอกันหรอกนะ  

    พูดผิดหูนิดเดียวต้องแผ่รังสีสังหารออกมาด้วย  เฮ่อ!

    "เจ้าต้องการให้ข้าทำเช่นไร" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

    ดวงตาคมดำยังคงจับนิ่งที่หลินหลินอย่างต้องการคำตอบที่ชัดเจน

                "ก็...." หลินหลินเห็นท่าทางน่าเกรงขามนั่นแต่ก็ยังคงทำใจดีสู้เสือก่อนเอ่ย  "ห้ามล่วงเกิน  ห้ามลวนลาม  ห้ามเกินเลย  ห้ามพุ่งตัว  ห้ามทำท่าทางน่ากลัว  ห้ามหายตัวแบบไปมารวดเร็วเกินไป  ห้ามทำให้ตกใจ  ห้าม..."

    หญิงสาวนิ่งคิด  จะห้ามอะไรอีกดี

    "เอาเป็นว่า  ทำตัวให้เป็นคนมากที่สุด  เข้าใจหรือไม่ อ่อ! แล้วถ้าท่านจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ก็ช่วยทำตัวให้เป็นประโยชน์  คนเรานะ ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อกันแล้ว อยู่ด้วยกันยาก... เข้าใจ๊"  หลินหลินสรุปอย่ากล้าๆกลัวๆ ด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยยอมคนจึงใจกล้าบ้าบิ่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

                ชายหนุ่มเพียงขมวดคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อย  ก่อนเอ่ยเสียงเรียบตามประโยคที่พอจะเข้าใจ  "ข้าย่อมเป็นคนอยู่แล้ว  แม่นางคิดว่าข้าเป็นสิ่งใดกัน" 

     

     

    "คนบ้าอะไรโผล่มาแบบนั้น" หลินหลินเริ่มอารมณ์ขึ้นจึงเอ่ยอย่างลืมตัว  "แถมแต่งตัวแปลกๆ  ถึงจะหน้าหล่อมากกว่าคนทั่วไปแต่ดูยังไงก็ไม่ใช่คนธรรมดา แถมมีวิชาแบบ เขาเรียกว่าอะไรนะ  วรยุทธ ใช่!  มีวรยุทธ" 

    ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปอีกครั้งด้วยท่าทางเคร่งขรึม สายตาคมกริบของเขาหรี่ตามองหลินหลินอย่างใคร่ครวญและวิเคราะห์ ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ข้าอาจจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่แม่นางต้องการจะสื่อ  แต่ข้าจะไม่ทำร้ายใครหากไม่จำเป็น"

    หลินหลินถึงกับกระพริบตาปริบๆ 

    หญิงสาวพอจะเข้าใจว่าเขาคงไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดสักเท่าไหร่เพราะภาษาจีนโบราณของเธอดูไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก

    เธอมักจะพูดผสมกันระหว่างคำจีนปัจจุบันกับคำจีนโบราณ  

    แต่...

    จะไม่ทำร้ายใครหากไม่จำเป็นเรอะ! 

    แล้วถ้าหากจำเป็นล่ะ?

    หลินหลินคิดได้ดังนั้นจึงหรี่ตามองชายหนุ่มอย่างใคร่ครวญและวิเคราะห์เช่นเดียวกัน  

     

    เธอคงต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีกว่านี้เสียหน่อย  นิสัยร้ายกาจของเธอต้องพับเก็บเอาไว้ให้ดี  เดี๋ยวโดนพิฆาตจากนายนี่จนหมดสวยแล้วจะแย่

    นี่ถ้าเขาไม่ได้มาแบบผิดปกติผิดธรรมชาติแบบเห็นคาตาคาใจอย่างนั้นนะ  เธอคงไม่พยายามแบบนี้หรอก

    "เอ่อ...ท่าน"  หลินหลินเริ่มต้นบทสนทนาใหม่  "ถ้าหากท่านยังไม่สามารถกลับไปได้  เช่นนั้นแล้ว เราก็ควรจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ  เข้าใจมั้ย  อย่างสงบสุขน่ะ"

    และคำตอบที่ได้รับก็ยังคงเป็นมาดนิ่งๆ เปี่ยมราศี  สีหน้าเรียบเฉย  แววตาคมกริบ เหมือนเดิม

    เฮ่อ!  

    ไม่เคยเจอผู้ชายที่ดูดีแบบนี้เลยจริงๆ  

    เอาจริงๆแล้ว  เขาน่ากลัวนะ  แต่แบบ

    เขาดูมีเสน่ห์มากๆเลย

    ไม่เหมือนผู้ชายหลายๆคนที่เธอเจอ

    แต่ละคนอย่างกับปลาไหล

    แต่เขาคนนี้นะ

    แบบว่า...

    มังกรชัดๆ

    หลินหลินคุยกับตัวเองในใจอีกแล้ว

    "อะแฮ่ม!   เอาเป็นว่า...." หลินหลินกระแอมนิดนึงก่อนเริ่มต้นหว่านล้อมอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง 

    "ข้าจะให้ที่พักพิงแก่ท่าน จนกว่าท่านจะสามารถกลับไปยังที่ที่ท่านจากมาได้  และ... ระหว่างนี้...ข้าจะปรับตัวและท่านก็ต้องปรับตัวเช่นกัน...นะ"  

                จบคำหลินหลินเพียงสังเกตกิริยาของชายหนุ่ม 

    เมื่อเห็นเขาไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธ  เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง  "ทีนี้... การที่เราจะอยู่ด้วยกันได้นั้น... ท่าน..." 

    หญิงสาวเว้นระยะไว้อึดใจจึงพูดต่อ "ท่านต้องเชื่อฟังข้าและ...ทำตามที่ข้าต้องการ"

    จบประโยคของหลินหลินชายหนุ่มจึงหรี่ตาเล็กลงมากกว่าเดิมขณะยังคงจ้องสายตาจับนิ่งอยู่ที่เธอ 

    คราวนี้หลินหลินถึงกับเม้มริมฝีปากแน่น 

    ท่าทางน่ายำเกรงของผู้ชายคนนี้ทำเธอนึกหวาดหวั่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

    เธอกำลังรู้สึกเหมือนกำลังนั่งคุยอยู่กับประธานาธิบดียังไงยังงั้น

    หลินหลินจึงปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำเพื่อประเมินและหยั่งเชิงอีกฝ่ายอย่างละเอียด

     

    ซักพักต่อมาหลินหลินจึงตัดสินใจถามแบบตรงไปตรงมา  "ถามจริงๆนะ  ตอนอยู่ที่แคว้นต้าหลี่อะไรนั่น... ท่านเป็นใคร"

                "ข้าต้องตอบคำถามนี้ด้วยหรือ"  ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้านิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลง

    หญิงสาวจึงยักไหล่หนึ่งทีก่อนพูดขึ้น "ให้ข้าเดานะ  ท่านคงเป็นคนใหญ่คนโต  เช่น..." หลินหลินทำท่าคิดเอานิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากกลอกตากลมโตไปมา  "ลูกเจ้าขุนมูลนาย"

    คราวนี้คิ้วเข้มคล้ายกระบี่ของชายหนุ่มถึงกับขมวดเล็กน้อยก่อนจะปรับให้เป็นปกติแล้วนั่งฟังนิ่งๆคล้ายกับรอฟังว่าหลินหลินจะเดาถูกหรือไม่ 

    "ท่านเข้าใจคำว่าลูกเจ้าขุนมูลนายมั้ย" หลินหลินถามขึ้นอย่างนึกสนุก 

    "ไม่เข้าใจล่ะสิ หึ!"  แต่เหมือนหญิงสาวจะสนุกอยู่คนเดียวเพราะอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยสุดๆ

    "ท่านเป็นลูกของเจ้ากรมอะไรแบบนั้นรึเปล่า  หรือว่า... อย่าบอกนะ  ว่าเป็นลูกเจ้าเมือง อืม...ดูจากท่าทางของท่านแล้วก็ใกล้เคียงนะ" หลินหลินยังคงเดาต่ออย่างสนุกสนานลืมความง่วงไป

     

    แม้ชายหนุ่มจะยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉยแต่แววตาของเขาคล้ายอ่อนลงเริ่มลดความระแวดระวังคลางแคลงใจ  ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

    "แคว้นที่ข้าจากมามีชื่อว่าแคว้นต้าหลี่" คราวนี้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้างจึงเรียกความสนใจจากหลินหลินได้ทันที

                "แล้วไง" หญิงสาวต่อคำอย่างเป็นกันเองมากกว่าเดิมขณะกลอกตาคิดตาม (ㄉㄚˋต้า  แปลว่า  ใหญ่ , ยิ่งใหญ่

    "หลี่มาจากสกุลของราชวงศ์ผู้ครองแคว้นแผ่นดินใหญ่" จบคำของชายหนุ่มหลินหลินถึงกับตาโตเบิกกว้าง  ตาสองข้างสว่างวาบในทันที

                เขาชื่ออะไรนะ  หลี่หงจินหยาง ใช่มั้ย?

    อา...

    นอกจากหล่อดูดีมากๆแล้วยังน่าคบหาอีกด้วยนะน่ะ

    "เอาล่ะ หยางหยาง" หลินหลินเริ่มต้นประโยคใหม่ด้วยท่าทางเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น 

    ในขณะที่ชายหนุ่มเพียงถอนหายใจเพียงนิดเพราะยังไม่คุ้นชินจริงๆกับชื่อที่หญิงสาวมอบให้

                "ข้าจะให้ท่านนอนในห้องนู้น" หญิงสาวกล่าวพลางวาดมือชี้นิ้วออกไปตามทาง

    ชายหนุ่มเพียงปรายตามองตามไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

    ในขณะที่หลินหลินยังคงเอ่ยต่อ  "เก็บข้าวของเสียหน่อยจัดห้องอีกนิด  ก็ใช้ได้  อ่อ... หวังว่าท่านคงไม่สามารถทะลุกำแพงได้หรอกนะ  ห้ามทะลุกำแพงมาห้องข้านะ  ฟังเข้าใจหรือไม่  แล้วก็...สำคัญที่สุดเลย...ก็คือ...เวลาส่วนตัว... ห้ามเลย...ห้ามยุ่ง...เข้าใจ๊"

                แม้หยางหยางของหลินหลินจะยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลงแต่ดูจากแววตาของเขาแล้วคล้ายกับว่าเขากำลังพยายามทำความเข้าใจในภาษาแปลกๆผิดๆถูกๆของหญิงสาวอยู่อย่างเต็มกำลัง

    บรรยากาศของชายหนุ่มและหญิงสาวผู้ที่ได้พบเจอกันแบบผิดแปลกจากธรรมชาติปกติจึงเริ่มดีขึ้นตามลำดับ 

    หลินหลินยังคงคำนวณผลได้ผลเสียเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับผู้ชายแปลกประหลาดที่สุดในชีวิตอยู่ตลอดเวลา  

               

    วันต่อมา...

    ภายในห้องเสื้อบุรุษแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกันกับคอนโดของหลินหลิน

    "เอาชุดนี้  เปลี่ยนให้เขาเลยค่ะ" หลินหลินเอ่ยขึ้นกับพนักงานที่เป็นผู้ชายของห้องเสื้อแห่งหนึ่ง 

    วันนี้หลินหลินไม่มีงานอะไร ส่วนเรื่องเรียนตอนบ่ายก็ขอลาอาจารย์ด้วยเหตุผลเบสิคว่าติดงานด่วนเป็นที่เรียบร้อย

    เธอจึงได้พาหยางหยางของเธอออกท่องยุทธภพเป็นครั้งแรก 

    อันดับแรกเธอต้องเปลี่ยนการแต่งตัวให้เขาก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะมีแต่คนมองเขาแน่ๆ เพราะว่าการแต่งตัวของเขาในรูปแบบเดิมนั้น มันออกจะเรียกความสนใจจนเกินไป 

    แค่เพียงเป็นเธอเดินมาคนเดียวก็สามารถเรียกสายตาจากคนทั่วไปได้มากแล้ว แต่นี่ยังมีผู้ชายหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่แต่งตัวแปลกประหลาดคล้ายหลงยุคมาอีก  วันนี้ทั้งวันหลินหลินคงโดนทึ้งจากผู้คนของสาธารณะชนเป็นแน่

     

    เวลาผ่านไปซักพัก หยางหยางก็ออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาว ส่วนผมของเขาที่ยาวสยายเธอเพียงให้เขามัดเอาไว้เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถตัดออกได้ เพราะจากที่เธอได้ศึกษามาจึงทำให้เธอรู้ว่าเรื่องผมของเขามันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ 

    และการที่เธอเลือกชุดที่แสนจะธรรมดาให้หยางหยางก็เพราะว่าตัวเขานั้นดูจะไม่ธรรมดาอย่างแรง  ถ้าขืนเลือกชุดที่ดูดีกว่านี้เดี๋ยวใครมาฉกไป 

    เธอค่อนข้างหวงเจ้าที่ของเธอมากเลยทีเดียว

    ของๆใคร ใครก็ต้องหวงรึเปล่า

    เขาเป็นเจ้าที่ของเธอ!

    อุตส่าห์ทะลุมิติมาหาเธอ!

    ของเธอคนเดียว...

     

    เวลาผ่านไปครู่ใหญ่

    หลินหลินพาหยางหยางนั่งรถยนต์ส่วนตัวของเธอให้พุ่งทะยานมาตามทาง

    ซึ่งมันก็สามารถสร้างความตื่นเต้นให้ชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย 

    ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แสดงอาการตระหนกตกใจหรือกระโตกกระตากอะไร

    แต่แววตาคมเข้มของเขาที่คล้ายสั่นไหวน้อยๆนั่น ทำเอาหลินหลินถึงกับหลุดหัวเราะอย่างนึกเอ็นดู 

    เธอไม่เคยเจอผู้ชายที่แบบว่า มีบุคลิกสุขุมนุ่มลึก ดูเก่งกาจ  ดูยิ่งใหญ่ แต่ก็เหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับเธอ

    ช่างน่ารัก!

     

     

    หลินหลินเลือกที่จะพาหยางหยางออกมานอกเมืองให้ไกลหน่อย

     และเธอก็ต้องแต่งตัวให้มิดชิดพร้อมทั้งใส่แว่นกันแดดอันใหญ่กินพื้นที่ครึ่งใบหน้า 

    เหตุผลก็เพราะยังไม่พร้อมเจอปาปารัชซี่หรือนักข่าวสายบันเทิงที่ชอบจะบังเอิ๊ญบังเอิญเจอกันบ่อยๆ 

    ซึ่งเดิมทีหยางหยางของเธอดูจะแปลกตาแปลกใจกับการแต่งตัวของเธออยู่มาก แต่เขาก็สามารถใช้เวลาแค่เพียงไม่นานในการปรับตัว

    เพราะเมื่อมองออกไปยังผู้คนรอบด้านแล้วนั้นเขาพบว่าทุกคนเป็นเหมือนผู้หญิงข้างกายของเขากันหมด

    "อยู่ที่นี่ ต่อหน้าผู้คน เราจะเรียกกันว่า ท่านกับข้า ไม่ได้นะ  เราต้องเรียกกันว่าฉันกับคุณ หรือนายอะไรแบบนี้ จะได้ดูไม่ผิดปกติจนเกินไป  เข้าใจ๋..." หลินหลินพาหยางหยางเดินชมเมืองไปพลางอธิบายอะไรต่างๆนานาไปตลอดทาง 

    ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะทำแค่เพียงใช้ความสงบหยุดความเคลื่อนไหวด้วยมาดเรียบนิ่งทรงพลังอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับหลินหลิน  

    เธอชอบนะ! กับท่าทางของเขาแบบเนี้ย  ถูกใจเธอจริงๆ รู้สึกเหมือนได้ควงผู้นำประเทศออกเดท

    ตามความคิดของเธอแล้วนอกจากจะได้ผู้ชายในมาดที่ไม่ธรรมดามาควงแล้ว   เธอยังอาจจะให้เขาเป็นบอดี้การ์ดไปในตัวให้เธออีกด้วย 

    มันเป็นความใฝ่ฝันเล็กๆน้อยๆ ในแบบสาวน้อยวัยสิบแปดอย่างเธอ

    ด้วยความที่เธอเป็นดาราวัยรุ่นที่ขึ้นชาร์ตซุปตาร์ การจะไปไหนมาไหนย่อมต้องมีเพื่อนมีฝูงเอาไว้เพื่อคอยช่วยเหลือพึ่งพิง 

    แต่ในเมื่อเธอไม่มีเพื่อน

    และเธอก็ไม่คิดจะคบใครเป็นเพื่อนให้ปวดหัว 

    เธอก็จะใช้ประโยชน์จากเจ้าที่ของเธอให้คุ้มค่า 

    เธอไม่สนใจหรอกว่าจะผิดหรือถูก 

    ชีวิตของคนเราอะไรที่เรียกว่าผิดอะไรที่เรียกว่าถูกเธอเองก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจ

    ด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เธอประสบพบเจอมาตั้งแต่จำความได้ 

    เธอมักจะเจอแต่สิ่งที่เรียกว่าเวรกรรมและโชคชะตา 

    มันดูจะไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าถูกต้องเอาเสียเลยตั้งแต่เกิดมา 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×