คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : (บทส่งท้าย)พลิกตำรา...พลิกผ้า
ภายใต้ม่านมุ้งสีทองที่กำลังทิ้งตัวลงมายังขอบเตียงนอนอย่างสวยงามเพียงทำหน้าที่ปกคลุมร่างสองร่างเปลือยเปล่าที่กำลังนอนเหยียดยาวซ้อนทับกันอยู่บนเตียงนอนแห่งนี้
หลินหลินยังคงทอดกายทาบทับอยู่บนเรือนร่างกำยำแข็งแกร่งของหลี่หงจินหยางพลางส่งยิ้มหวานหยดร้ายกาจปรายดวงตากลมโตพราวเสน่ห์ใส่หน้าของหลี่หงจินหยางอยู่ในระยะประชิด
หลี่หงจินหยางเพียงหรี่ตาคมกริบมองตอบสบกลับพร้อมยกยิ้มตรงมุมปากน้อยๆส่งให้หลินหลินเพื่อรอชมมารยาของภรรยาตัวดีอย่างท้าทาย
หลินหลินเคลื่อนกายยกขึ้นเพียงนิดก่อนจะค่อยๆเบียดเสียดลงมาจนหน้าอกอวบอิ่มของเธอเสียดสีอยู่ตรงแผงอกของหลี่หงจินหยาง ยอดอกนูนเด่นของเธอกำลังล้อเล่นอยู่กับยอดอกแข็งแกร่งของเขาอย่างจงใจก่อนจะก้มหน้าลงแล้วค่อยๆไล้ปลายลิ้นเรียวเล็กละเลียดชิมริมฝีปากที่กำลังคลี่ยิ้มร้ายกาจของเขาอย่างใจเย็น
หลี่หงจินหยางเพียงหรี่ตามองใบหน้างามที่กำลังขยับแนบชิดอยู่กับใบหน้าของเขาก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนริมฝีปากที่กำลังเปื้อนรอยยิ้มน้อยๆให้เผยอออกเพื่อรับกลีบปากของหลินหลินให้แทรกปลายลิ้นเข้ามาภายในริมฝีปากของเขาอย่างใจเย็นเช่นเดียวกัน
หลินหลินหลับตาพริ้มขณะกำลังขยับปลายลิ้นเข้าใส่ริมฝีปากของหลี่หงจินหยางและเริ่มที่จะเป็นฝ่ายจูบหลี่หงจินหยางอย่างดูดดื่ม
มือเรียวเล็กของเธอเริ่มที่จะเป็นฝ่ายลูบคลำเคล้นคลึงไปตามส่วนต่างๆของเขาบ้างในครานี้
หลี่หงจินหยางเพียงปล่อยให้หลินหลินเป็นฝ่ายกระทำการต่างๆตามอำเภอใจกับเรือนกายงามสง่าของเขาไม่มีบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบแต่อย่างใด
ปลายลิ้นของเขายังคงขยับตามปลายลิ้นน้อยๆของนางอย่างให้ความร่วมมือ
หลินหลินยังคงบรรจงจูบหลี่หงจินหยางอย่างอ่อนโยนอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะค่อยๆปล่อยริมฝีปากได้รูปของเขาให้เป็นอิสระพลางกระซิบแนบชิดเบียดเสียดใกล้ๆริมฝีปากของเขาด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ
“ข้ารักท่าน...”
จบคำเพียงคลี่ยิ้มอ่อนหวานใส่หน้าของหลี่หงจินหยางพร้อมดวงตาหวานฉ่ำมากกว่าที่เคยเป็น
หลี่หงจินหยางเจอไม้นี้ของหลินหลินเข้าไปถึงกับคลี่ยิ้มอ่อนโยนส่งให้นางอย่างนึกเอ็นดู
“เจ้าร้ายกาจเกินไปแล้ว...หลินหลิน” เขากระซิบใส่หน้านางก่อนจะเอื้อมฝ่ามือกรุ่นร้อนของตนขึ้นจับต้นคอของหญิงสาวให้โน้มใบหน้าลงมาแล้วเป็นฝ่ายจูบนางอย่างหนักหน่วงก่อนจะเปลี่ยนท่าพลิกกายขึ้นทาบทับเบียดเสียดเสียเอง
หลินหลินที่ถูกหลี่หงจินหยางจับพลิกตลบกลับมาให้เป็นฝ่ายอยู่ใต้ร่างกำยำของเขาเพียงยกวงแขนขึ้นโอบรอบลำคอของเขาแล้วจูบตอบกลับไปอย่างหนักหน่วงไม่แพ้กัน
ซักพักหลินหลินจึงเป็นฝ่ายออกแรงดันร่างบึกบึนของหลี่หงจินหยางให้พลิกกลับไปอยู่ใต้ร่างงามระหงของเธออีกครา
ผ้าปูเตียงพลันเกิดเสียงเสียดสีเบียดเสียดเมื่อร่างเปลือยเปล่าสองร่างพลิกกลับไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ท่านร้ายกาจเกินไปแล้ว...หยางหยาง” ครานี้เป็นหลินหลินบ้างที่กระซิบกระซาบประโยคนี้
“หึหึ” หลี่หงจินหยางเพียงหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเป็นฝ่ายจับร่างนุ่มนิ่มของหลินหลินให้พลิกกลับมาอยู่ภายใต้วงแขนกำยำของเขาพร้อมทั้งยกกายบึกบึนของตนขึ้นคร่อมร่างงามระหงสมส่วนของหลินหลินอีกครา
“หื้อ” หลินหลินร้องได้แค่นั้นก่อนที่ริมฝีปากของตนจะถูกหลี่หงจินหยางกลืนกินจนมิด
เรือนร่างนวลเนียนนุ่มนิ่มหน้าอกอวบอิ่มพลันถูกครอบคลุมด้วยเรือนร่างแข็งแกร่งกล้ามเนื้อแน่นๆจนแนบสนิทเบียดเสียดไปมา
ริมฝีปากของหลี่หงจินหยางยังคงครอบครองริมฝีปากของหลินหลินเอาไว้อย่างแนบแน่น
วงแขนของเขายังคงโอบรอบเรือนกายของนางเอาไว้พร้อมกอดกระชับเพื่อให้นางได้รับไออุ่นจากแผงอกแน่นๆของเขาทั้งหมด
“อืม...” หลินหลินเริ่มส่งเสียงบางอย่างอยู่ในลำคอเมื่อหลี่หงจินหยางเลื่อนริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของนางแล้วไล้ปลายลิ้นไปที่พวงแก้มตามปลายคางก่อนจะไล่ต่ำลงมาที่ลำคอระหง
ฝ่ามือกรุ่นร้อนของเขาเริ่มนวดเคล้นเคล้าคลึงอยู่ตรงกลางแผ่นหลังนวลเนียนของนางอย่างเบามือ
หลินหลินยิ่งหลับตาพริ้มใบหน้าแหงนหงายเมื่อหลี่หงจินหยางไล้เลียปลายลิ้นพร้อมริมฝีปากได้รูปของเขาเคลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอกอวบอิ่มพร้อมกับฝ่ามือร้อนๆของเขาเริ่มเคลื่อนต่ำลงไปจากกลางแผ่นหลังมาจนถึงบั้นท้ายกลมมนแล้วเตรียมจะยกกระชับเพื่อรอรับการกระทำบางอย่างจากเขา
หลินหลินถึงกับแอ่นกายอรชนนวลนิ่มของตนขึ้นเพียงนิดพร้อมเอื้อมวงแขนโอบกระชับรอบต้นคอของหลี่หงจินหยางเอาไว้แน่น
“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...” หลินหลินครวญครางเสียงแผ่วห้ามปรามเบาหวิว
“หืม...” หลี่หงจินหยางเพียงถอนใบหน้าของเขาออกจากหน้าอกหยุ่นนุ่มขึ้นมองหลินหลินในระยะประชิด
หลินหลินปรือตามองหลี่หงจินหยางเพียงนิดก่อนกระชับวงแขนของตนที่ต้นคอของเขาแล้วโน้มใบหน้าของเขาให้เข้าแนบชิดใบหน้านวลเนียนและเริ่มต้นจูบหลี่หงจินหยางอีกครั้งอย่างหนักหน่วงรุนแรงพร้อมดันร่างกำยำของเขาให้พลิกกายกลับอีกคราเพื่อที่ร่างนุ่มนิ่มของตนจะได้เป็นฝ่ายครอบครองเขาอีกครั้ง
เมื่อหลี่หงจินหยางพลิกกายนอนหงายอยู่ใต้ร่างของหลินหลินอีกครา
หลินหลินจึงถอนริมฝีปากของตนออกจากริมฝีปากของหลี่หงจินหยางเมื่อครอบครองช่วงกลางลำตัวของเขาจนสำเร็จอย่างรวดเร็ว
เธอเพียงส่งยิ้มบางเบาอย่างเจ้าเล่ห์ส่งให้เขาก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวเรือนกายจนเรียกเสียงบางอย่างให้ออกมาจากลำคอของเขาได้อย่างน่าชม
หลี่หงจินหยางเพียงคลี่ยิ้มเหลือร้ายตรงมุมปากส่งตอบกลับหลินหลินขณะเอื้อมฝ่ามือของตนขึ้นจับกระชับตรงสะโพกของนางให้นางได้เคลื่อนไหวบางอย่างได้ตามใจต้องการ
เขาตามใจให้นางได้เป็นผู้ควบคุมจังหวะบ้างในยามนี้
“อืม...” หลินหลินส่งเสียงครวญครางอย่างรัญจวนขณะยังคงขยับอยู่บนเรือนร่างแข็งแกร่งของหลี่หงจินหยาง
มือเรียวเล็กของเธอเพียงจับกุมอยู่ตรงกล้ามเนื้อหน้าอกแน่นๆของเขาเพื่อโยกขยับเรือนกายของตนไปตามอารมณ์บางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
หลี่หงจินหยางยิ่งเพิ่มแรงกระชับตรงฝ่ามือของตนที่จับกุมอยู่ตรงสะโพกกลมกลึงของหลินหลินเมื่อหลินหลินเริ่มเพิ่มจังหวะให้กระชั้นถี่มากยิ่งขึ้น
เขาเพียงช่วยเสริมจังหวะของนางให้ได้ดั่งใจนางอย่างมีชั้นเชิง
“อา...หยางหยาง...” ใบหน้านวลเนียนเปล่งปลั่งของหลินหลินเริ่มแหงนหงายขึ้นเมื่ออารมณ์ของเธอยามนี้เริ่มจะควบคุมเอาไว้ไม่ไหว
หลี่หงจินหยางยิ่งเพิ่มแรงกระชับพร้อมเสริมเพิ่มจังหวะกิจกรรมให้หลินหลินจนร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวเริ่มโอนเอนไม่เป็นจังหวะ
ยามนี้ชายหนุ่มเริ่มจะควบคุมจังหวะเอาไว้ได้ยากเย็นจนต้องเป็นฝ่ายลุกขึ้นนั่งแล้วจับร่างระหงของหญิงสาวให้นั่งซ้อนทับกับต้นขาของเขาก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะเอาไว้เสียเอง
หลินหลินเพียงปรือตามองหลี่หงจินหยางในระยะประชิดพร้อมโอบกระชับตรงต้นคอของเขาเอาไว้แน่นเพื่อโน้มใบหน้าเข้าหาเขาแล้วจูบเขาอย่างหนักหน่วงพร้อมกับจังหวะที่ยังคงขยับไม่มีหยุด
ทั้งสองยังคงพากันโยกกระชับขยับอย่างแนบชิดสนิทแนบแน่นไร้ช่องว่างใดๆระหว่างเรือนกายพร้อมปล่อยลมหายใจร้อนกรุ่นหนักหน่วงกระชั้นถี่ใส่กันและกันโดยไร้ซึ่งคำใดเอื้อนเอ่ยอยู่ครู่ใหญ่
ซักพักต่อมาหลี่หงจินหยางจึงประคองร่างนุ่มนิ่มที่เริ่มจะระทดระทวยของหลินหลินให้นอนราบลงบนพื้นของเตียงนอนหนานุ่มตามด้วยร่างกำยำของเขาเข้าทาบทับ
หลินหลินเพียงรอรับเรือนร่างแข็งแกร่งของหลี่หงจินหยางด้วยใบหน้าเห่อแดงลมหายใจหนักหน่วงพร้อมเคลื่อนวงแขนให้โอบกระชับจับแน่นอยู่ตรงช่วงไหล่บึกบึนของเขา
หลี่หงจินหยางยังคงประคองกอดร่างระหงของหลินหลินเอาไว้อย่างแนบแน่นไม่ต่างกันพร้อมจังหวะที่ควบคุมเอาไว้ให้ตัวเขาและหลินหลินได้ปลดปล่อยอารมณ์ตามใจปรารถนา
เสียงครวญครางหนักหน่วงยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องไร้คำใดเอื้อนเอ่ยอีกตามเคย
หลี่หงจินหยางยังคงจูบหลินหลินอย่างเร่าร้อนผสมผสานจังหวะหฤหรรษ์ให้ได้ดำเนินไปพร้อมๆกัน
ก่อนจะถอนริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของนางเพื่อปล่อยลมหายใจหอบหนักถี่รัวใส่หน้ากันและกันในระยะประชิดเมื่อจังหวะอันแสนจะหฤหรรษ์รัญจวนเริ่มไร้การควบคุม
เขาจึงปล่อยให้มันเป็นไปตามแรงอารมณ์ทั้งหมดที่มี
หลินหลินเองก็เช่นเดียวกัน เธอเพียงโอบกอดไหล่กว้างใหญ่ของหลี่หงจินหยางเพื่อยึดเอาไว้เมื่อจังหวะกิจกรรมกำลังเป็นไปตามอารมณ์ทั้งหมดที่กำลังพลุ่งพล่านเกินยับยั้งในยามนี้
ร่างสองร่างเปลือยเปล่ายังคงแนบชิดสนิทแนบแน่นไม่มีคลายออกจากกันอีกครู่ใหญ่ เสียงของลมหายใจหอบหนักและกระชั้นถี่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องใส่กันและกันอยู่อย่างนั้นจนเวลาล่วงเลย...
“หยางหยาง...” เสียงอ่อนเสียงหวานของหลินหลินยังคงกระซิบกระซาบอยู่ตรงแผงอกของหลี่หงจินหยางเมื่อกิจกรรมรัญจวนสุดแสนจะดีต่อกายดีต่อใจได้ผ่านพ้นไป
“หืม...” หลี่หงจินหยางขานรับเบาๆอยู่ในลำคอพลางก้มหน้าลงมองสตรีอันเป็นที่รักที่เขามักจะนอนกอดนางเอาไว้แนบอกอบอุ่นอย่างไม่คิดจะปล่อยให้ออกห่างแต่อย่างใด
หลินหลินมิได้กล่าวสิ่งใดออกมา
เธอเพียงเงยหน้ามองพร้อมส่งสายตากลมโตเป็นประกายพลางอมยิ้มน้อยๆด้วยใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงระเรื่อส่งให้หลี่หงจินหยางแล้วกดริมฝีปากจูบเบาๆที่ปลายคางของเขาอย่างน่าเอ็นดู
หลี่หงจินหยางถึงกับคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะก้มหน้าลงแล้วกดจมูกของตนฝังที่พวงแก้มเปล่งปลั่งของหลินหลินอย่างนึกเข่นเขี้ยว
ภายใต้ม่านมุ้งที่ปกคลุมอยู่โดยรอบที่ขอบเตียง
บนเตียงนอนผืนใหญ่แห่งนี้
มีชายหนุ่มหญิงสาวยังคงนอนทอดเรือนกายยาวเหยียดเปล่าเปลือยแนบชิดหยอกล้อกันอยู่อย่างนั้นอีกครู่ใหญ่
ก่อนจะกระชับวงแขนโอบกอดกันและกันแล้วพากันหลับใหลไปอย่างอ่อนแรง
วันแล้ววันเล่า...
คืนแล้วคืนเล่า...
ทั้งสองก็ยังคงทำมันอยู่อย่างนั้นตลอดมา
ปลายยามอิ่ว(หกโมงเย็น)ภายในตำหนักส่วนพระองค์ขององค์รัชทายาทกับพระชายาของเขา
หลี่หงจินหยางยังคงนั่งเขียนรายงานอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยมาดนิ่งขรึมคมเข้มเหมือนดั่งเช่นปกติ
ส่วนหลินหลินนั้นเธอเพียงเดินนำหน้านางกำนัลให้นำอาหารเย็นลงมาวางเอาไว้บนโต๊ะที่อยู่นอกห้องทรงงานอีกชั้นหนึ่งก่อนจะเข้าไปจัดการปรับตำแหน่งอาหารให้อยู่ในจุดต่างๆอย่างสวยงามตามด้วยดอกไม้ใส่แจกันประดับประดาอยู่ตรงกลางระหว่างถ้วยอาหารที่หลากหลาย
ยามนี้เธอกำลังอยากจะเซลฟี่อาหารก่อนจะจัดการมันลงท้อง แต่...ยุคนี้ไม่มีกล้อง
เธอจึงทำการวาดภาพเสียเลย
หลินหลินเพียงนั่งวาดรูปอาหารต่างๆบนโต๊ะอยู่อย่างนั้น
พวกศิลปินมักจะมีอารมณ์ศิลปะอย่างนี้ล่ะ เธอวาดภาพสวยอย่าบอกใคร
เธอมักจะใช้การวาดภาพเป็นเครื่องจรรโลงจิตใจเมื่อยามที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเบื่อหน่ายจากเหตุการณ์หลากหลายเมื่อครั้งที่ต้องอยู่คนเดียวในยุคที่เธอจากมา
เช่นนั้นแล้ว การวาดภาพจึงเป็นเรื่องที่เธอชอบและถนัดแต่ไหนแต่ไรมา
อันที่จริง เผื่อว่ามันจะนำไปขายแลกเงินได้น่ะนะ หึหึ!
“อะไรของเจ้า” หลี่หงจินหยางที่วางงานจากมือลงแล้วลุกเดินมายังโต๊ะอาหารมองเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจที่แสนจะคุ้นชินจึงเอ่ยถามพลางเอื้อมฝ่ามือของตนวางลงบนศีรษะของหลินหลินอย่างนึกเอ็นดู
“เสร็จแล้ว...ทานได้” หลินหลินหัวสั่นหัวคลอนตามฝ่ามือของหลี่หงจินหยางเอ่ยออกมาแค่นั้นก่อนวางภาพและพู่กันในมือลงที่โต๊ะอีกตัวหนึ่งใกล้ๆกันแล้วหมุนตัวมานั่งทานอาหารพร้อมกันกับเขา
“ดูท่าทางเจ้ามีฝีมือทางนี้อยู่ไม่น้อย” หลี่หงจินหยางเอ่ยขึ้นกับหลินหลินขณะที่ทั้งสองนั่งทานอาหารด้วยกันอย่างชื่นมื่น
หลินหลินคีบอาหารใส่ถ้วยให้เขาพลางเอ่ย “มันยังเป็นแค่ภาพร่าง
ประเดี๋ยวข้าจะนำใบไม้ดอกไม้สีสันต่างๆมาบดผสมน้ำแล้วระบายใส่สีลงไป
มันยังจะงามมากกว่านี้ มันมีประโยชน์นะ”
“หืม...” หลี่หงจินหยางเริ่มสนใจฟัง
หลินหลินจึงอธิบายเรื่อยเปื่อย “ภาพอาหารลงสีสันต่างๆพวกนี้ข้าจะนำไปให้ลูกๆได้มองดูเพื่อฝึกสายตาให้พวกเขา
แล้วก็ช่วยให้พวกเขาเจริญอาหาร”
หลี่หงจินหยางพยักหน้าเพียงนิดอย่างเข้าใจ
เขารู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยกับความคิดของหลินหลิน นางไม่ธรรมดา
“บางทีอาจจะนำไปขายได้ด้วยนะ” หลินหลินยอมรับความจริงอีกข้อที่สำคัญยิ่ง
หลี่หงจินหยางถึงกับหรี่ตามอง นางช่างตระหนี่ได้ใจ
“ท่านยังจะทำงานอยู่หรือไม่” หลินหลินถามขึ้นขณะคีบอาหารใส่ถ้วยให้หลี่หงจินหยางและถ้วยของตนตามลำดับ
“อืม...”
“ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนดีหรือไม่”
“ย่อมดี” เขามักจะชมชอบการที่มีนางวนเวียนขยับขยุกขยิกอยู่ใกล้ๆ
“แต่ข้าไม่บรรเลงพิณให้ฟังแล้วนะ” หลินหลินช้อนตาคว่ำเมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้
“หืม?” หลี่หงจินหยางยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม
เวลาผ่านไปอีกเป็นชั่วยามหลังจากหมดเวลาของมื้ออาหารเย็น
หลี่หงจินหยางยังคงนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะขนาดใหญ่ตัวเดิมภายในห้องทรงงานส่วนตัว
ในขณะที่หลินหลินเพียงเดินอ่านหนังสืออยู่ที่ชั้นหนังสืออย่างเพลิดเพลินไม่ใกล้ไม่ไกลกับหลี่หงจินหยาง
หลินหลินยังคงเป็นสตรีในห้องหอที่ฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อยเนื่องจากว่างงานมากๆผิดจากยามที่อยู่ในยุคเดิม
เธอยังคงหาอะไรทำตามวิสัยที่ไม่เคยได้หยุดนิ่งมาแต่ไหนแต่ไร
หญิงสาวอ่านหนังสือที่มีอยู่บนชั้นหนังสืออย่างหลากหลายเนื้อหาแบบไม่เจาะจงแต่ต้องมาสะดุดลงที่หนังสือประเภทหนึ่ง
อันที่จริงหลินหลินกำลังตาลายมองเห็นหนังสือเล่มนี้คล้ายๆกับหนังสือชุนชิวว่าด้วยเรื่องการเมืองการปกครองแต่เมื่อหยิบมันมาอ่านกลับกลายเป็นหนังสือชุนกงว่าด้วยเรื่องบนเตียงนอนของคู่รักคู่ครองไปเสียนี่
หือ...ขอดูหน่อยเป็นไร
หลินหลินที่ฟุ้งซ่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งฟุ้งซ่านเข้าไปอีก
เธอจึงยืนหลบมุมอ่านหนังสือชุนกงพลางหัวเราะคิกคักชอบใจ
หลี่หงจินหยางที่มักจะมีหลินหลินอยู่ในสายตาตลอดเวลาจึงได้เห็นนางในยามนี้
นางกำลังยืนดูหนังสือเล่มนั้นอย่างอารมณ์ดี
นางมักจะทำอะไรกระตุกใจของเขาได้ตลอดเวลาเสียจริงเชียว
หลินหลินยังคงยืนอ่านหนังสือวาบหวิวอีกครู่หนึ่งพลันรู้สึกบางอย่างตามภาพขึ้นมา
เพราะนอกจากภาพที่วาดถึงฉากร่วมรักกันอย่างสวยงามมันแล้วยังมีคำอธิบายอย่างละเอียดให้อีกด้วย
เป็นหนังสือเพศศึกษาที่ดีจริงๆ ดูไปดูมาพลันนึกถึงใครบางคนขึ้นมาเสียได้
หลินหลินเริ่มกระพริบตาปริบๆ มือไม้เริ่มสั่นเทา เหงื่อกาฬเริ่มผุดพราย
เมื่อภาพวาดการร่วมรักของหญิงชายในหนังสือกลับกลายเป็นภาพของการร่วมรักระหว่างเธอกับหยางหยางเสียอย่างนั้น
หลี่หงจินหยางที่ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาหลินหลินจึงได้เห็น
ชายาหนึ่งเดียวของเขากำลังทำกิริยาบางอย่างที่สวามีอย่างเขามิอาจนิ่งดูดาย
ดวงตากลมโตเหม่อมอง พวงแก้มอมชมพูขึ้นริ้วสีแดงระเรื่อ
ริมฝีปากแดงสดอวบอิ่มกำลังขบเม้มเข้าหากันน้อยๆ
แล้วอย่างนี้...จะให้เขา
ทำอย่างไร…
หลินหลินที่ยังคงทอดสายตาเหม่อมองอยู่ที่หนังสือตรงหน้าเพียงรู้สึกอุ่นซ่านขึ้นมาเมื่อมีแผงอกอบอุ่นของใครบางคนมายืนซ้อนกันอยู่ตรงด้านหลังในระยะประชิด
มือเรียวเล็กของเธอที่ถือหนังสืออยู่พลันถูกจับกุมแล้วแย่งเอาหนังสือออกจากมือไปวางเอาไว้บนชั้นอย่างแผ่วเบา
หญิงสาวเอียงหน้าขึ้นมองเพียงนิดพลันรู้สึกได้ถึงลมหายใจกรุ่มร้อนของใครบางคนเป่ารดใบหน้าของตนตามด้วยใบหน้าของเขาค่อยๆแนบชิดเข้ามา
หลี่หงจินหยางเอื้อมฝ่ามือของตนโอบรอบเรือนกายของหลินหลินจากทางด้านหลังของนางพร้อมกับเอียงใบหน้าของตนเข้าหาใบหน้าของนางที่กำลังขึ้นริ้วสีแดงเปล่งปลั่งน่าหลงใหล เขาเพียงกดริมฝีปากของเขาขบเม้มเบาๆที่ใบหน้านวลเนียนนั่น
ก่อนจะเอื้อมฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วจับกุมปลายคางได้รูปของนางให้เบี่ยงใบหน้ามาหาใบหน้าของเขาอีกนิดแล้วจรดริมฝีปากของเขาเข้าหากลีบปากของนางอย่างนุ่มนวล
หลินหลินเพียงตอบรับริมฝีปากของหลี่หงจินหยางหยางอย่างเผลอไผล
เธอยังคงเอียงหน้าน้อยๆเพื่อแนบชิดกับใบหน้าของเขาขณะยังคงขยับริมฝีปากของตนเบาๆเพื่อคลอเคลียเนิบนาบอยู่กับริมฝีปากของเขาที่แนบสนิทอย่างอ่อนโยน
ฝ่ามือน้อยๆของเธอที่ก่อนหน้าจับกุมหนังสืออยู่บัดนี้กำลังจับกุมลูบไล้เคล้นคลึงอยู่กับฝ่ามือร้อนกรุ่นของเขา
ซักพักต่อมาจากการจูบที่นุ่มนวลแผ่วเบาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นการจูบที่เริ่มจะแนบแน่นมากยิ่งขึ้น
จากที่เพียงเอียงหน้าเอียงตัวน้อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นหันหน้าเข้าหากันและกัน
ฝ่ามือที่เพียงจับกุมลูบไล้เคล้นคลึงใส่กันเบาๆพลันเปลี่ยนไปเป็นการเริ่มโอบเกี่ยวช่วงลำตัวของอีกฝ่ายพัลวัน
จากที่ยืนอยู่ตรงมุมระหว่างชั้นหนังสือจึงเริ่มพากันก้าวเท้าเข้าหากำแพงห้องเพื่อใช้ต่างหลักยึด
ใบหน้าที่แนบสนิทกันตรงริมฝีปากเริ่มเคลื่อนไคล้ไล้เลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง
หลี่หงจินหยางเริ่มจูบหลินหลินไปเรื่อยๆตามพวงแก้มตามลำคอ
ฝ่ามือร้อนลวกของเขาเริ่มเคลื่อนย้ายไปตามเรือนกายตามส่วนต่างๆของนาง
หลินหลินเพียงหลับตาแหงนหงายตอบรับสัมผัสของหลี่หงจินหยาง ฝ่ามือน้อยๆของนางเริ่มปัดป่ายจับขยุ้มตามแผงอกบนช่วงไหล่บึกบึน
ซักพัก
สาบเสื้อเริ่มเผยชายผ้าเริ่มเปิดผิวเนื้อนวลเนียนใต้ร่มผ้าเริ่มเด่นชัด
สัดส่วนภายใต้อาภรณ์เริ่มงามเด่นออกมาสู่สายตา
หลี่หงจินหยางถอนใบหน้าคมคายออกจากซอกคอหอมกรุ่นขึ้นมองใบหน้างามขึ้นริ้วสีชาดของหลินหลิน
ลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดหนักหน่วงใส่ใบหน้าของกันและกัน
ดวงตาคมกริบฉายแววเร่าร้อนมองสบประสานดวงตากลมโตฉายแววเว้าวอน เพียงอึดใจ
ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนทั้งสองพลันประกบเข้าหากันอย่างร้อนรน
ตรงกำแพงมุมมืดของชั้นหนังสือ บัดนี้กำลังมีเสียงเสียดสีของเสื้อผ้าอาภรณ์ผสมผสานเสียงลมหายใจหอบหนักของสองสามีภรรยาอยู่อย่างนั้น
แผ่นหน้ากระดาษของตำราชุนกงพลันพลิกกลับไปมาเมื่อมีลมพัดพาจากชายผ้าผลิกตลบออกจากเรือนร่างของพวกเขา
เสียงของจังหวะบางอย่างยังคงดังผสมผสานกับเสียงของลมหายใจหนักๆหอบถี่อยู่อย่างนั้นและตรงนั้นอีกครู่ใหญ่
จากกำแพงตรงมุมชั้นหนังสือ
บัดนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็นตรงตั่งวางเครื่องหอมภายในห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ถัดกันระหว่างห้องหนังสือกับห้องนอน
หลี่หงจินหยางกับหลินหลินที่พากันเข้ามาหวังจะอาบน้ำชำระเหงื่อไคลจากกิจกรรมบางอย่างเมื่อครู่พลันเปลี่ยนใจ
พวกเขายังคงกระชับอ้อมแขนโอบรอบเอวโอบรอบไหล่กันอยู่อย่างนั้นด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านยังคงโลดแล่นเด่นชัดเมื่อจัดท่าได้ถนัดจึงจัดการกันตรงตั่งต่างเตียงนอนอีกครู่ใหญ่
เสียงเสื้อผ้าเสียดสีพลันหายไปคงเหลือไว้แต่เสียงหายใจหอบถี่หนักหน่วงผสมผสานกับเสียงตั่งโยกโยนไปมาตามแรงโน้มเอียงของสองร่างสอดประสานเปล่าเปลือย
เพียงไม่นานต่อมา
เสียงโยกคลอนของตั่งเครื่องหอมได้หายไปคงเหลือไว้แค่เสียงคลื่นน้ำกระทบขอบอ่างดังเพียงเบาๆ แต่ทว่า...เสียงลมหายใจยังคงหนักหน่วงไม่สร่างซา
ร่างสองร่างของสองสามีภรรยาย้ายมานั่งซ้อนทับกันอยู่ในอ่างอาบน้ำนั่นเอง
และถึงแม้ว่าน้ำในอ่างจะถูกเติมเต็มเอาไว้ก่อนหน้าเป็นเวลานานแล้วจนไร้ซึ่งความร้อนอุ่นคงเหลือแต่ความเย็นเฉียบแต่ก็หาได้มีผลอันใดกับร่างสองร่างที่กำลังเปล่าเปลือยไม่
บุคคลทั้งสองกำลังสร้างความร้อนฉ่าขึ้นมาให้น้ำในอ่างได้อุ่นร้อนโดยไม่ต้องเติมน้ำต้มลงไปแต่อย่างใด
ความเย็นเยียบของน้ำในอ่างมิได้แทรกแซงสัมผัสเร่าร้อนของคนทั้งคู่ได้เลย
เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ คราบของหยดน้ำตามทางเดินที่ทอดยาวออกมาจากห้องอาบน้ำจนถึงเตียงนอนขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในห้องนอนถัดออกมายังคงติดตรึงอยู่อย่างนั้นพร้อมๆกับอารมณ์รัญจวนที่ยังคงตราตรึงบุคคลทั้งคู่เอาไว้ไม่มีลดหย่อน ทั้งสองยังคงนอนตระกองกอดกันอย่างใกล้ชิดสนิทแนบแน่นไม่มีคลายผ่อน ถึงแม้ว่าร่างกายจะระทดระทวยอ่อนเอนโยกโยนแต่ทว่าอารมณ์พลุ่งพล่านยังคงรัดรึงโรมรัน
หลินหลินยังคงมีใบหน้าเห่อแดง ดวงตาหยาดเยิ้ม
ริมฝีปากเผยอออกเพื่อรับกลีบปากของหลี่หงจินหยางที่ยังคงแนบชิดลงมา
วงแขนเรียวสวยของหญิงสาวยังคงโอบกอดรอบต้นคอของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแนบแน่นในขณะที่วงแขนแน่นๆของเขายังคงโอบเกี่ยวอยู่โดยรอบเรือนกายนุ่มนิ่มไม่ยอมปล่อย
ร่างสองร่างยังคงสอดประสานกันไปมาพร้อมเสียงครวญครางผสมผสานกับเสียงหายใจในจังหวะบางอย่างยังคงดังอื้ออึงอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าร่างนุ่มนิ่มอรชนของหลินหลินจะอ่อนระทวยแต่ก็ยังคงตอบรับสัมผัสอุ่นซ่านของหลี่หงจินหยางได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มยังคงมอบความรักผ่านรสสัมผัสที่มีเพียงนางเท่านั้นที่มีสิทธิ์นี้
เขายังคงโอบกอดร่างงามของนางเอาไว้ด้วยไออุ่นทั้งหมดที่เขามี เพียงนางเท่านั้น
เพียงแค่นาง ที่เขาจะกระทำทุกอย่างแบบนี้เพื่อมอบให้
หลินหลินยังคงรับรู้ได้ว่าหลี่หงจินหยางมิใช่ตักตวงความสุขจากเรือนร่างงดงามของตน
แต่เขายังคงมอบมันกลับมาให้อย่างสุขสันต์ท่วมท้นล้นปรี่ หญิงสาวเพียงหลับตาพริ้มยิ้มรับทุกสัมผัสที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์มอบให้อย่างนี้
“หยางหยาง...” เสียงกระเส่าของหลินหลินเอ่ยเรียกขานนามเบาหวิวพลางเอื้อมมือเรียวเล็กขึ้นลูบไล้ใบหน้าได้รูปของหลี่หงจินหยางที่กำลังขยับอยู่ใกล้ๆใบหน้างามในยามนี้
หลี่หงจินหยางเพียงเอื้อมมือเรียวยาวของตนขึ้นลูบไล้ใบหน้าสีชาดเปล่งปลั่งของหลินหลินก่อนจับประคองแก้มนวลแล้วก้มลงจูบนางเบาๆอย่างอ่อนโยนในขณะที่ส่วนอื่นๆของเรือนร่างยังคงควบคุมจังหวะเอาไว้มิให้ขาดช่วงเป็นอย่างดี
ภายใต้ม่านมุ้งบนพื้นเตียงนอนยังคงทำหน้าที่รับน้ำหนักรับจังหวะของกิจกรรมสุดรัญจวนของคนทั้งคู่อยู่อย่างนี้
ไม่ว่าจะกี่วัน ไม่ว่าจะกี่คืน ไม่ว่าจะเนิ่นนาน ไม่ว่าจะหนักหน่วง
ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็ยังคงทำหน้าที่เยี่ยงนี้ได้เป็นอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
และมันก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนั้นจนเวลาล่วงเลย...
เวลาผ่านไปนานแล้วสำหรับกิจกรรมสุดแสนจะรัญจวน
แต่ทว่า...ความอุ่นซ่านยังคงตลบอบอวลครอบคลุมเรือนกายของบุคคลทั้งคู่
หลินหลินยังคงนอนปรือตามองหลี่หงจินหยางในระยะใกล้ๆ
เห็นเขายังคงหรี่สายตาคมเฉี่ยวมองตอบกลับมา
และเพียงแค่นั้น
กิจกรรมที่คล้ายกับเปลวเพลิงร้อนฉ่าที่ควรจะมอดดับพลันลุกขึ้นพรึ่บพั่บขึ้นมาอีกครา...
ตำราชุนกงเล่มนั้น
ไม่ควรพลิกหน้ากระดาษของมันโดยแท้...
หลินหลิน...
หญิงสาวคิดอย่างนั้น แต่ทว่า...ในความเป็นจริงแล้วจะตำราเล่มไหน
หรือยาปลุกกำหนัดชนิดใด ก็หาได้มีผลกับคนทั้งคู่ไม่
เพราะที่กระทำอยู่ตลอดเวลาเนิ่นนานปีอย่างนี้นั้นล้วนแล้วแต่เกิดมาจากความรักที่มันได้หยั่งรากฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของพวกเขา
และ...มันก็ยังคงจะเป็นอยู่อย่างนั้น
ความคิดเห็น