คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : ตอนที่๓๓ แปลกหน้า
ตอนที่๓๓ แปลกหน้า
หงเหม่ยหลงรู้สึกเย็นเยียบตามลำตัวไล่มาจนถึงใบหน้า
เมื่อสติสัมปชัญญะกลับมาหญิงสาวจึงสะดุ้งขึ้นทันควันพร้อมกระชับมือตรงมีดสั้นที่ข้อเท้า พลันสายตาของนางเจอเข้ากับบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง หงเหม่ยหลงจึงกระพริบตาถี่ๆประมวลความคิด
“เป็นท่าน” หงเหม่ยหลงเอ่ยออกมาแค่นั้นพร้อมถอนหายใจเบาๆ
หลี่ซื่อหมินสังเกตกิริยาระแวดระวังตัวตลอดเวลาของหงเหม่ยหลงก่อนจะผ่อนคลายลงเมื่อเห็นว่าเป็นเขา
แม้นางจะยังจำเขาไม่ได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ นางก็มักทำกิริยาต่างๆเป็นที่พึงใจแก่เขาเสมอ
“อยู่กับข้า เจ้าอ่อนแอได้”
ประโยคนี้ของหลี่ซื่อหมินทำหงเหม่ยหลงอุ่นซ่านขึ้นมา หญิงสาวจ้องหน้าเขานิ่งงัน
เพียงครู่ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงใบหน้านั้นเคลื่อนเข้ามา ตามด้วยจุมพิตนุ่มนวล
หือ! หงเหม่ยหลงตกตะลึง พลันถอยหน้าออกเพื่อถอนริมฝีปากของตนออกจากริมฝีปากของเขา
“ท่าน...จูบข้า” หงเหม่ยหลงเสียงดัง
“อะไรของเจ้า” หลี่ซื่อหมินอมยิ้ม นึกขันกิริยาของหงเหม่ยหลงพลางเอ่ย “มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว”
“หา!” ครานี้หญิงสาวถลึงตาโต หน้าแดง
“มากกว่านี้หรือ แค่ไหน?” นางถามเสียงดัง
“แน่ใจ? ว่าจะให้อธิบาย”
“บอกมา”
“อืม...” ชายหนุ่มไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี
“ท่านทำสิ่งใด กับเสื้อผ้าของข้า” หงเหม่ยหลงถามออกมาเมื่อก้มมองตนเองแล้วเห็นชุดที่เปลี่ยนไป
“ข้าเปลี่ยนผ้าให้เจ้า” หลี่ซื่อหมินตอบตามจริง
“หือ!” นางหน้าแดงถึงลำคอ พร้อมร้องเสียงดัง “ท่าน!”
หลี่ซื่อหมินขมวดคิ้วหน้าเครียดก่อนเอื้อมมือขึ้นบิดแก้มนวลจนเสียรูปพลางเอ่ยเสียงเรียบ “หยุดโวยวายเสียที...”
ภายในเมืองที่มีผู้คนคราคร่ำจอแจอยู่ตลอดทั้งแนว
หงเหม่ยหลงรู้สึกได้ว่ามืออุ่นยังคงจับจูงมือของนางอยู่ตลอดเวลา
เขามิห่างกายจากนางเลยแม้เพียงครึ่งก้าว หญิงสาวนึกชมชอบอยู่ในใจ นางรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกนี้ มัน...
แม้นางจะจำเขาไม่ได้ แต่ความรู้สึกนี้มันเหมือนไม่จำเป็นต้องรอความทรงจำใดๆกลับมา
“เจ้ายังเคืองข้าอยู่” เสียงของหลี่ซื่อหมินดังขึ้นขณะจับจูงมือเรียวของหงเหม่ยหลงเพื่อพาเดินไปตามทาง
“ท่านเช็ดตัวให้ข้าด้วยนะนั่น” หงเหม่ยหลงยังคงก้มหน้าก้มตาบ่นอย่างขัดเคือง
หลี่ซื่อหมินหยุดเดินก่อนหันหน้ามาจ้องหน้าของหงเหม่ยหลงก่อนเอ่ยนิ่งๆ “แน่นอน นั่นมิใช่ครั้งแรก”
“หือ!” หญิงสาวอุทานในลำคอ
หงเหม่ยหลงยังคงหน้าแดงอยู่ไม่จางตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องจนถึงขณะนี้
หลี่ซื่อหมินจ้องมองใบหน้านั้นของหงเหม่ยหลง เขายังนึกขันในกิริยาของนาง
เขาเข้าใจนางดี
สำหรับเขานางมิใช่สตรีแปลกหน้าก็จริง
แต่สำหรับนางเขายังคงเป็นบุรุษแปลกหน้าอยู่
ทั้งยังเจอกันแค่เพียงวันเดียวเท่านั้น
นางรู้สึกแบบนี้ เขาไม่แปลกใจ
ชายหนุ่มเพียงยิ้มบางๆส่งให้หญิงสาว ยิ้มนั้นทำหงเหม่ยหลงถึงกับหน้าแดงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
บุรุษคนนี้ช่างมีเสน่ห์เสียจริง หงเหม่ยหลงคิดในใจ ขณะเดินตามแผ่นหลังของหลี่ซื่อหมินไปอย่างว่าง่าย
“เจ้าอยากได้สิ่งใดหรือไม่” หลี่ซื่อหมินเอ่ยถามหงเหม่ยหลงเมื่อเขาพาหญิงสาวเดินทอดน่องมาตามรายทางที่มีแผงขายของอยู่เต็มริมทาง
“ไม่...ข้าไม่อยากได้สิ่งใด” หงเหม่ยหลงตอบคำเรื่อยๆขณะยังคงเหม่อมองหลี่ซื่อหมินอยู่อย่างไม่วางตา
แผ่นหลังของเขา
ฝ่ามือของเขา
น้ำเสียงของเขายามเอื้อนเอ่ย
ริมฝีปากของเขา...
หงเหม่ยหลงยังคงพินิจพิจารณาหลี่ซื่อหมินอย่างถ้วนถี่ ทั้งยังเผลอไผลเหมือนเมื่อครั้งแรกพบเจอกันเมื่อสามปีก่อน จน หลี่ซื่อหมินรับรู้ได้
ชายหนุ่มจึงหยุดเดินก่อนหันหน้าเข้าหาหญิงสาวแล้วก้มหน้ามองนางอย่างเต็มตา
หงเหม่ยหลงถึงกับหลุบสายตาลงเมื่อสบเข้ากับสายตาคมเข้มของหลี่ซื่อหมิน
นางพยายามเอ่ยแม้เสียงจะเบาหวิว “ปล่อย..มือข้าก่อน”
จบคำของหญิงสาวหลี่ซื่อหมินยิ่งกระชับมือเรียวของนางให้แน่นยิ่งขึ้น
หงเหม่ยหลงยิ่งเพิ่มระดับความแดงบนใบหน้า
“หลงเอ๋อร์...” เสียงทุ้มต่ำของหลี่ซื่อหมินเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล “ข้าไม่มีวันปล่อยมือจากเจ้า...”
หงเหม่ยหลงถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยิน
“ข้าจะไม่วันปล่อยเจ้าไป” เขายังคงเอ่ยอย่างหนักแน่น “เจ้าได้ยินหรือไม่...”
“ท่าน...” หญิงสาวเอ่ยได้แค่นั้น
“ได้โปรด...” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยคำ “อย่าไปจากข้าอีก”
“ได้โปรด...อย่าไป...” ฝ่ามือของหลี่ซื่อหมินยิ่งกระชับแน่นขึ้นเมื่อเอ่ยย้ำ
หงเหม่ยหลงทำได้แค่เพียงยืนนิ่งงันจ้องมอง
ชายหนุ่มหญิงสาวเพียงยืนมองสบตากันอยู่อย่างนั้น
สายใยบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศโดยรอบเรือนกายของคนทั้งสองคล้ายกับว่าไม่มีผู้ใดหรือสิ่งอื่นใดอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป
“ท่านว่าสองคนนั่นจำได้หรือไม่ ว่าพวกเรามาด้วยกันกับพวกเขา” เสียงเฟิงเหวินเอ่ยขึ้นขณะมองไปทางหลี่ซื่อหมินและหงเหม่ยหลงที่พากันเดินไปเพียงสองคนโดยไม่สนใจพวกตนและผู้คนรอบข้าง
“คล้ายกับว่าพวกเขาจะหลงลืมพวกเราไปแล้ว” เสียงซือเว่ยเอ่ยเสริม
“ข้าว่าเราอย่าทำลายบรรยากาศของพวกเขาดีกว่านะ” หลิวฉวนหยู่ร์กล่าวขึ้นอย่างเข้าใจ
เวลาคล้อยบ่ายเข้ามา...
คนทั้งห้าจึงตัดสินใจเข้าพักที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่งเพื่อกินอาหารและปรึกษาหารือ
ระหว่างทางที่เดินทางมาหลี่ซื่อหมินรู้สึกได้ถึงการสะกดรอยตามของคนบางกลุ่ม
เขาจึงมอบหมายให้ซือเว่ยไปเตรียมการบางอย่าง เพื่อที่เขาจะได้พาหงเหม่ยหลงเดินทางกลับไปกับเขาได้โดยสะดวก
“คุณชาย...” เสียงสตรีนางหนึ่งเรียกขานหลี่ซื่อหมินขณะย่างกรายมาแล้วนั่งลงข้างๆหลี่ซื่อหมินอย่างถือวิสาสะ
นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานประจบประแจงท่วงท่ายั่วยวน “อาหารถูกปากหรือไม่เจ้าคะ”
นางพยายามใกล้ชิดหลี่ซื่อหมินทั้งยังแสดงตัวว่าชมชอบเขาอย่างเห็นได้ชัด
ขณะนี้หลี่ซื่อหมินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงคนเดียว ซือเว่ยเดินทางไปปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของเขา ส่วนหงเหม่ยหลงกำลังสั่งการบางอย่างแก่หลิวฉวนหยู่ร์และเฟิงเหวินอยู่ตรงริมระเบียงของโรงเตี๊ยม
“ที่นี่นอกจากอาหารถูกปากแล้วสตรีก็งดงามนะเจ้าคะ”
กล่าวเสร็จสตรีคนเดิมเพียงทำท่าทางเอียงอายบิดตัวจนชนเข้ากับแขนข้างลำตัวของหลี่ซื่อหมินอย่างจงใจ
นางยังคงคุยจ้ออยู่ข้างๆชายหนุ่ม “เมื่อครู่ข้าตั้งใจบรรเลงพิณให้ท่านฟัง...ไพเราะหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะไปบรรเลงให้ท่านฟังอีก ดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ต้อง” เสียงของหลี่ซื่อหมินขัดขึ้น เขาปรายตามองสตรีนางนี้ครู่หนึ่ง
เขาเห็นรูปร่างของนางละม้ายคล้ายคลึงกับหงเหม่ยหลงอยู่หลายส่วน
เขาจึงหยิบห่อผ้าขึ้นมาแล้วยกให้กับสตรีนางนี้ ก่อนเอ่ย “หากอยากเจอข้า จงใส่ผ้าในนี้แล้วออกมาเจอกันที่…” เขาบอกสถานที่แห่งหนึ่งแก่นาง
แม้นางจะรับห่อผ้ามาถือไว้แบบฉงนงงงวย แต่นางก็รีบไปผลัดเปลี่ยนผ้าตามคำอย่างไม่รีรอ ด้วยคิดว่ามีความหวัง ที่จะได้ใกล้ชิดกับบุรุษรูปงามคนนี้
อาภรณ์ในห่อผ้านั้นคือชุดของหงเหม่ยหลง ส่วนสถานที่ที่หลี่ซื่อหมินให้สตรีนางนี้ไปนั้น เป็นสถานที่เดียวกันกับที่หลิว ฉวนหยู่ร์และเฟิงเหวินไปดูต้นทางรออยู่ก่อน เพื่อหลอกล่อให้ผู้ตามล่าหงเหม่ยหลงให้ไปติดกับ
เพื่อที่เขาจะได้พาหงเหม่ยหลงปลอมตัวไปอีกทางหนึ่งโดยสะดวก
กอปรกับซือเว่ยที่ได้รับมอบหมายให้ถ่วงเวลาคนกลุ่มนั้นให้อีกทางหนึ่ง
หลังจากนั้นหลี่ซื่อหมินจะอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆกับหงเหม่ยหลงไปก่อน รอจนกว่าการติดตามจะเลิกราไป
ขณะนี้เขากำลังคิดอยู่ว่า อยากหาที่ตั้งคฤหาสน์แห่งใหม่สำหรับตัวเขาและหงเหม่ยหลง แต่คงต้องใช้ระยะเวลานานเอาการอยู่ คงต้องค่อยๆดำเนินการกันไป
ในระหว่างที่อาศัยการอำพรางตัวอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นั้น คนของหลี่ซื่อหมินก็ได้จัดการหาชุดอาภรณ์เพื่อแต่งกายให้หงเหม่ยหลงจนแตกต่างจากการแต่งกายปกติของนางโดยสิ้นเชิง สร้างความแปลกประหลาดแก่หลิวฉวนหยู่ร์และเฟิงเหวินเป็น อย่างมาก แม้แต่หลี่ซื่อหมินเองยังมองหงเหม่ยหลงจนตาค้าง
ในปกตินั้นหงเหม่ยหลงมักจะแต่งกายเรียบๆ ไม่ลงแป้งหรือเครื่องประทินโฉมใดๆ เครื่องประดับต่างๆนางไม่เคยใส่
แต่เมื่อจับนางมาแต่งองค์ทรงเครื่องแบบจัดเต็มรูปแบบ หญิงสาวกลับสวยสดงดงามอย่างคาดไม่ถึง
หลิวฉวนหยู่ร์และเฟิงเหวินนั้นเมื่อปฏิบัติภารกิจที่ให้ไปล่อหลอกพวกที่ตามล่าหงเหม่ยหลงจนเสร็จสิ้นแล้วนั้น ก็ยังต้องโดนเปลี่ยนโฉมเช่นเดียวกัน
เฟิงเหวินนั้นเมื่อถูกจับให้แต่งกายแบบหนุ่มเมืองหลวงกลับหล่อเข้มจนสตรีต่างพากันเหลียวมอง
ส่วนหลิวฉวนหยู่ร์ก็ไม่น้อยหน้า ทำบุรุษแถวนั้นมองตามกันตาละห้อยได้เหมือนกัน
เฟิงเหวิน & หลิวฉวนหยู่ร์
(ขอบคุณภาพจาก Google)
|
|
|
|
ความคิดเห็น