คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 7 เขามิได้รักกัน
|
ตอนที่
7
เขามิได้รักกัน
“พี่ใหญ่!”
เสียงหวานใสของดรุณีน้อยนางหนึ่งตะโกนอยู่หน้าห้องของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
“ท่านพ่อกับท่านแม่รอนานแล้วนะเจ้าคะ” สิ้นเสียงเอ่ยคำก็หัวเราะชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งพี่ชายของตน
ฟงลี่หลินน้องสาวคนเล็กของบ้านมักมีนิสัยทโมนผิดสตรีด้วยกันเพราะว่าเติบโตมากับพี่ชายสองคนจึงชอบทำตัวบ้าบิ่นเกินพอดีจนฟงจินหมิงพี่ชายคนรองต้องเข้ามาห้ามปรามเสียงดัง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะน้องเล็ก!”
“อะไรกันเล่าพี่รอง”
“เจ้าไม่ควรรบกวนเวลาของพี่ใหญ่กับอาซ้อนะ”
“หึ! เมื่อคืนเขาก็จัดการกันทั้งคืนแล้วกระมัง ไม่เป็นไรหรอก” ฟงลี่หลินเถียงฟงจินหมิงด้วยคำพูดเกินงามพลางเคาะประตูอีกครา
แต่ทว่าฝ่ามือเรียวเล็กยังไม่ทันแตะต้องบานประตู เสียงผลัวะเปิดออกของประตูพลันดัง ตามด้วยบุรุษร่างสูงใหญ่เปลือยลำตัวช่วงบนเผยแผงอกบึกบึนกล้ามเนื้อหนั่นแน่นงดงามผสมผสานริ้วรอยแผลเป็นจากศึกสงครามของฟงชินหยางปรากฏกายพร้อมสายตาคมเข้มมืดดำอย่างต้องการฆ่าฟันน้องทั้งสองให้ตายตก
ฟงลี่หลินกับฟงจินหมิงถึงกับชะงักเล็กน้อยเสมองลำตัวใหญ่โตงามๆ ช่วงบนของพี่ชายด้วยสายตาทอประกายล้อเลียนก่อนจะรีบพากันหมุนตัววิ่งหนีพร้อมส่งเสียงหัวเราะชอบใจไปตามทาง
ฟงชินหยางหรี่ตามองน้องชายและน้องสาวของตนอย่างระอาครางสบถอยู่ในใจคำโต ก่อนจะปิดประตูลงเสียงดังแล้วหันหน้ากลับเข้าห้องมา แต่แล้วเขาต้องชะงักเมื่อเจ้าสาวของเขาลุกหนีออกจากเตียงนอนไปหลบอยู่หลังฉากกั้นตรงมุมห้อง...อีกแล้ว
ไยถึงชอบมุมนั้นนัก!?
ชายหนุ่มถลึงตาคมดุมองหญิงสาวหลังฉากกั้นอย่างนึกเข่นเขี้ยวไม่สร่างซา มารยาของนางทำเขาหงุดหงิดเสียจริง
“ออกมา!” เส้นเสียงเข้มข้นดังออกมา เขาคำรามพลางยืนกอดอกมองสตรีเจ้ามารยาด้วยดวงตาดุดันใบหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความเสน่ห์หาใดๆ
“พวกเราจะไปคารวะบิดากับมารดาของท่านใช่หรือไม่” เส้นเสียงแผ่วเบาสั่นเครือดังออกมาจากหลังฉากกั้น นางมองบุรุษผู้มีเรือนร่างกำยำที่เกือบจะกระทำการขืนใจนาง และทั้งๆ ที่เขาจะทำอย่างนั้น เขากลับทำท่าทางน่ากลัวแบบนี้ใส่นาง
หลิงเวยถึงกับน้ำตารื้นขึ้นฉับพลัน นางกำลังหวาดหวั่นจับใจ ไยนางต้องแต่งงานกับชายน่ากลัวผู้นี้กัน!
ฟงชินหยางยิ่งหงุดหงิดเมื่อเห็นสตรีหลังฉากกั้นโผล่ใบหน้างามๆ ออกมามองเขาผ่านม่านน้ำตาอย่างนั้น เขาจึงถอนหายใจคำโตอย่างมิรู้ได้ว่าจะทำเยี่ยงไรกับนางดี นางกำลังทำเขาอึดอัดยิ่งนัก ทำไมการมีเมียถึงอึดอัดอย่างนี้!
ฟงชินหยางหลับตาลงข่มกลั้นอารมณ์เดือดพล่านอึดใจก่อนลืมตาขึ้นมาใหม่แล้วหมุนร่างใหญ่ของตนไปเปิดประตูห้องอีกครา เขาส่งเสียงเข้มไปทางบ่าวไพร่ที่เดินอยู่นอกเรือนให้มาจัดการเติมน้ำใส่ถัง เสียงดังลั่นทรงอำนาจของเขาพาเอาบ่าวไพร่ต้องสะดุ้งสุดตัวพากันวิ่งวุ่นทำตามคำสั่งกันจนหัวหมุน
เพียงครู่เท่านั้นบ่าวไพร่จึงรีบกระวีกระวาดเข้ามาทางประตูด้านหลังของห้องอาบน้ำแล้วเติมน้ำอุ่นเอาไว้จนเต็มถังไม้
หลิงเวยไม่รอช้า นางรีบเข้าห้องอาบน้ำทันทีที่บ่าวไพร่ออกไปจนหมด นางใช้เวลาอาบน้ำแค่อึดใจเท่านั้นก็รีบเช็ดตัวแล้วสวมเสื้อผ้าภายในห้องอาบน้ำโดยไม่ต้องมองหาคันฉ่องให้เสียเวลาเนื่องจากว่ามันไม่มีให้มองหาแต่อย่างใด นี่นับว่าเป็นนิสัยใหม่ที่ไม่เคยกระทำ ทั้งอาบน้ำรวดเร็วทั้งแต่งกายโดยไม่ต้องใช้กระจกเงา นางสวมใส่อาภรณ์สีชมพูอ่อนหวานเรียบร้อยในเวลาอันสั้นในแบบที่ไม่เคยทำแล้วพาเรือนร่างงามงอนออกจากห้องอาบน้ำเพื่อมาที่ตู้เก็บเสื้อผ้าอีกมุมหนึ่งของห้องอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวมีใบหน้าที่งดงามอยู่แล้ว ดวงตาของนางดำขลับภายใต้แพขนตายาวตัดกับสีขาวนวลผ่องของสองข้างแก้ม เรียวคิ้วได้รูป ริมฝีปากสีชมพูออกแดง นางไม่ต้องแต่งแต้มใดๆ เพิ่มเติมนางยังคงพร้อมงามเด่นได้อย่างน่าชม แต่ทว่า...กับเส้นผมยาวสยายเต็มแผ่นหลังบอบบางกำลังเป็นปัญหาของนาง
หลิงเวยพยายามเก็บเส้นผมที่เลื่อมลื่นของตนอย่างยากลำบากพลางเดินมาที่หีบผ้าของตนเพื่อควานหาปิ่นปักผมอันเป็นสมบัติส่วนตัวที่ติดมาเมื่อยามแต่งงาน
หญิงสาวใช้เวลาจัดการกับผมของตนครู่ใหญ่อย่างทุลักทุเลไร้บ่าวไพร่ช่วยเหลือ ซึ่งตรงนี้มิใช่เรื่องใหม่อันใด แต่ที่ยากเย็นเข็ญใจก็ตรงที่ไม่มีคันฉ่องให้นางได้ส่องดูเงาร่างของตนเอง
หลิงเวยจึงม้วนผมที่ดำขลับลื่นสลวยของตนอยู่เป็นนานโดยมีชายหนุ่มเจ้าของวงหน้าหล่อเหลาคมคร้ามแต่สายตามืดดำฉายแววตัวร้ายร่างกายกำยำยืนกอดอกจ้องมองอยู่
ฟงชินหยางยืนมองภรรยาหมาดๆ ของตนด้วยอาการคันยุบยิบตามเนื้อตัวอีกแล้ว
เขามองเห็นนางแต่งตัวทำผมอยู่ตรงมุมตู้เสื้อผ้าอย่างยากลำบากทำเขาถึงกับอดใจเอาไว้ไม่ไหวจำต้องเดินเข้าไปหานางอย่างหงุดหงิด
“มานี่!” ฟงชินหยางคำรามเสียงดัง
หลิงเวยตกใจจนเนื้อกระตุกอีกคราก่อนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวใหญ่ที่มายืนอยู่ตรงด้านหลังของนาง
“ท่านจะทำสิ่งใด” หญิงสาวถามขึ้นอย่างหวาดหวั่นตัวเกร็งแข็งทื่อไม่กล้าขยับเมื่อชายหนุ่มด้านหลังจับผมของนางขยุ้มขึ้นไปแล้วดึงเส้นผมของนางไปมาจนนางเจ็บตึงตรงหนังศีรษะไปหมดแต่ไม่กล้าร้องออกมา
ฟงชินหยางเคยทำผมให้น้องสาวคนเล็กมาบ้างแล้วเมื่อครั้งที่นางออดอ้อนเขาให้ทำพร้อมปักปิ่น
ในยามนั้นฟงลี่หลินเอาแต่ร้องไห้กล่าวหาว่าเขากลั่นแกล้งนางแล้วก็วิ่งไปฟ้องท่านแม่ให้แก้ทรงผมให้
เขาแน่ใจว่าเขาทำมันได้ดีแต่ที่ไม่เข้าใจไยต้องร้องไห้แล้วใส่ร้ายเขาจนถูกท่านแม่ตี!
“เสร็จแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยคำเสียงเข้มพลางปล่อยมือหนาหนักจากทรงผมของภรรยาแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำไป
หลิงเวยได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของคนตัวโตพร้อมเอื้อมมือขึ้นจับทรงผมของตนที่บัดนี้ถูกรวบเอาไว้เป็นอย่างดีพร้อมปักปิ่นให้อีกด้วย
อืม...แต่ทำไมนางถึงรู้สึกว่ากำลังถูกกลั่นแกล้ง...
ยามรุ่งอรุณภายในค่ายทหารหน้าด่านของเมืองชางอี้ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณเจ็ดลี้
หญิงสาวในอาภรณ์ทหารหญิงประจำการค่ายหน้าด่านแห่งนี้กำลังฝึกดาบกับต้นไม้อย่างเอาเป็นเอาตายใบหน้าบิดเบี้ยวโกรธเคืองอยู่ตลอดเวลาโดยมีเพื่อนสหายทหารหญิงด้วยกันยืนกอดอกพิงต้นไม้อีกต้นหนึ่งมองอยู่อย่างนึกระอา
“เจ้าฟันต้นไม้จนหมดทั้งหุบเขาก็ไม่ช่วยให้แม่ทัพหันมารักเจ้าได้หรอก อวี้ถิง” ซือซือสหายร่วมรบของอวี้ถิงกล่าวเพื่อเตือนสติด้วยน้ำเสียงจริงใจส่งตรงมายังสตรีที่กำลังฟาดฟันต้นไม้
“ใช่แล้ว อีกอย่างท่านแม่ทัพฟงก็แต่งงานลงหลักปักฐานไปเรียบร้อยแล้วนะอวี้ถิง” อี้ผิงสหายหญิงอีกคนหนึ่งเอ่ยบ้าง
“ไม่!” อวี้ถิงฟันฉับที่ต้นไม้ตะโกนคำรามออกมา “ข้าไม่มีวันยอม ข้าไม่ยอม!” ตามด้วยเสียงสวบฉับตัดต้นไม้หักกลางลำต้น
“อวี้ถิง!” ซือซือและอี้ผิงเรียกขานสหายพร้อมกันพลันเสียวสันหลังวาบๆ ประหนึ่งว่าตนเองเป็นต้นไม้
“ท่านแม่ทัพมิได้รักสตรีนางนั้น พวกเขามิได้รักกัน” อวี้ถิงยังคงตะเบ็งออกมาพลางดึงดาบออกจากตอของต้นไม้แล้วฟันเข้าไปอีกที่ต้นไม้ต้นใหม่
“ไม่รักแล้วจะแต่งงานกันทำไม” ซือซือถามขึ้น
“ไม่รัก ข้าบอกว่าไม่รัก เขาแต่งงานรวดเร็วเยี่ยงนี้จะไปรักกันได้อย่างไร พวกเจ้าก็เห็นว่าเขาไม่มีใครมาแต่ไหนแต่ไร สตรีนางนั้นยั่วยวนท่านแม่ทัพของข้า” อวี้ถิงเถียงเสียงสูงกราดเกรี้ยวฟาดฟันต้นไม้เสียงดังฉัวะๆ
“ท่านแม่ทัพฟงเป็นบุรุษที่น่าเคารพนับถือทั้งยังน่ายำเกรงถึงเพียงนั้นมิใช่บุรุษเหลวไหลไร้ฝีมือเสียหน่อย” อี้ผิงเถียงแทนท่านแม่ทัพผู้เก่งกาจที่เคารพรักยิ่ง นางกำลังนึกถึงมาดทรงพลังไม่มีไหวหวั่นต่อสิ่งรอบตัวและน้ำเสียงดุดันยามออกคำสั่งจากแม่ทัพฟงผู้หล่อเหลา อันที่จริงนางเองยังเคยยั่วยวนท่านแม่ทัพแต่ถูกคำสั่งลงโทษให้วิ่งรอบหุบเขาเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าการยั่วยวนท่านแม่ทัพไม่มีทางได้ผล มีแต่จะโดนสังหารล่ะไม่ว่า!
“ใช่ๆ” ซือซือร่วมผสมเสียงเห็นด้วย นางเองก็เคยยั่วยวนท่านแม่ทัพฟง นางใช้มารยาสตรีขั้นเซียนด้วยซ้ำ ไม่เห็นได้ผล
“สตรีนางนั้นวางยาท่านแม่ทัพ” อวี้ผิงเอ่ยออกมา
“หา!” ครานี้ซือซือและอี้ผิงครางพร้อมกัน
อวี้ถิงเหวี่ยงดาบในมือตกใส่พื้นดินเสียงดังเคล้งก่อนทุบกำปั้นกับต้นไม้แล้วเอ่ยเสียงต่ำลอดไรฟัน
“หากมิใช่ยาปลุกกำหนัดนั่น ท่านแม่ทัพไม่มีทางแต่งงานกับสตรีไร้ยางอายผู้นั้นแน่นอน น่าเจ็บใจยิ่งนัก!”
ซือซือและอี้ผิงชะงักนิ่ง
อวี้ถิงยังคงมีดวงตาแววแดงสีหน้าร้ายกาจน้ำเสียงเข้มข้น “สตรีนางนั้นช่างร้ายกาจยิ่งนัก นางมีมารยาได้อย่างเหลือร้ายไร้ยางอายน่ารังเกียจ พวกเจ้าสองคนต้องช่วยข้ากำจัดนางให้พ้นทาง”
ซือซือและอี้ผิงหันมามองหน้าสบตากันและกันพลางกระซิบกระซาบ
“ยังมีสตรีที่ร้ายกาจยิ่งกว่าอวี้ถิงอีกหรือนี่...”
|
ความคิดเห็น