เทียวเชียงคาน ผ่านเมืองเลย เลี้ยวกลับเข้าภูเรือ Travel to Loei ตอนที่ 2
ต่อจากตอนที่แล้ว เมื่อเราตกลงใจแล้วว่าจะพักที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากถนนริมโขงมากนัก เพียงแต่ไม่ติดกับแม่น้ำโขงแบบประชิดติดจอเท่านั้นเอง
เราสองคนซักไซ้ไล่เลียงคุณป้าเจ้าของบ้านเรื่องประเพณีการตักบาตรข้าวเหนียว แกก็ว่าตักแต่ข้าวเหนียวก็พอ เพราะตอนสายๆ จะมีคนเอากับข้าวไปที่วัดเอง เป็นอันสรุปว่าพรุ่งนี้ตอนเข้าเรามีกิจกรรมบนถนนสายริมโขงแน่
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เราบ่ายหน้าออกจากที่พักมุ่งไปยังแก่งคุดคู้ซึ่งอยู่ไม่ไกลสักเท่าไหร่ ไปไม่ยากเลย และไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักแค่ขับรถไปตามป้ายเท่านั้น ลึกๆ ในใจแสวงหาอากาศหนาวที่ยังพอมีเหลืออยู่ และวาดภาพเอาไว้ว่าแกงคุดคู้คงเหมือนแก่งตะนะที่อุบล
ตอนที่ไปถึงแดดกำลังอ่อนแรงลงบ้างแล้ว นักท่องเที่ยวต่างพากันไปชักภาพที่จุดสำคัญอย่างหลักกิโลเมตรที่ 0 ของเชียงคาน (คิดว่าใครที่เคยไปคงมีรูปนี้เก็บเอาไว้แน่ๆ) เราก็ไปถ่ายกับเค้าด้วย แต่ต้องต่อคิวกันหน่อยนะ เล็งจังหวะให้ดี ไม่อย่างนั้นไม่จะมีคนติดเป็นแบ็กกราวน์เต็มแน่ |
เราเดินถ่ายภาพตรงส่วนบนของแก่งมองเห็นเป็นมุมกว้าง มีร้านขายอาหารตรงชายหาดเป็นแนวยาว คนแถวนี้คงใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะเห็นเหมือนมีคนในท้องที่มานั่งเล่นอยู่หลายคู่ เอ๊ย...หลายคน คงเพราะเป็นฤดูน้ำลด ชายฝั่งจึงสูงมาก เราต้องเดินลงบันไดสูงลงไปตรงแก่งข้างล่าง ที่เป็นหาดทรายยาว ฝั่งตรงข้ามเป็นฝั่งลาว ตรงนี้ใกล้กันมาก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือไปท่องเที่ยวได้ เห็นฝั่งขะโน้นแล้วรู้สึกว่าแท้จริงพวกเราก็คนเชื้อชาติเดียวกัน ห่างกันแค่ลำน้ำโขงเท่านั้น
คนอื่นถ่ายวิว แต่เรามัวแต่ก้มถ่ายรูปก้อนหิน
สีสวยๆที่อยู่ริมน้ำ
ใกล้ค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นพอประมาณไม่ถึงกับหนาวมาก เรากับเจ้าหมูอ้วนชวนกันกลับ มีแวะเข้าไปไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งก่อน ที่อยู่ตรงข้ามสำนักสงฆ์และโรงเรียน ใกล้ๆกับแก่งคุดคู้ ระหว่างทาง โบสถ์ที่นี่ดูเรียบง่ายดี ไม่ได้ตกแต่งลงรักปิดทองหรูหราเหมือนของอยุธยา แต่ให้ความรู้สึกธรรมดาและเรียบง่ายดีเหมือนกัน เสียดายเพราะใกล้ค่ำแล้วเลยไม่สามารถโอ้เอ้ถ่ายรูปได้
หลังจากหาข้าวเย็นที่ไม่ใช่ข้าวปุ้นน้ำแจ่วใส่ท้องเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปจอดรถตรงที่พักก่อน โฮมสเตย์ของคุณป้าที่ว่างในตอนแรกกลับเต็มขึ้นมาทันที หนำซ้ำคนที่มาพักทีหลังขอเปลี่ยนให้เราสองคนไปนอนห้องส่วนตัวข้างบนซึ่งราคาแพงกว่า ส่วนพวกขอนอนข้างล่างโดยที่เราไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เลยสบายไป
อาจเป็นเพราะเราเป็นคนเหนือ และเดินทางดูถนนคนเดินมาหลายจังหวัดแล้วจึงรู้สึกเฉยๆ ยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็นมา ของฝากก็ไม่มีจะให้ใครเป็นพิเศษ เลยเดินและหาของกินเสียมากกว่า น้องๆวัยรุ่นนักท่องเที่ยวยังเดินอยู่อยู่กันเต็ม ถ้าเป็นวันหยุดกับเวลาท่องเที่ยวจริงๆ ผู้คนคงเบียดเสียดกันน่าดู ธีมของถนนคงคล้ายที่ ปาย แม่ฮ่องสอน
ขออภัยวางรูปที่มีตัวเราไม่ได้เดี๋ยวเจ้านายรู้ว่าหนีงานไปเที่ยว
เดินๆ กินๆจนเหนื่อย อากาศเหมือนจะเย็นแต่พอไปอยู่รวมกันมากๆ ก็อบอุ่นจนร้อนโดยปริยาย ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวเสียด้วยซ้ำ
ไม่ดึกมากนัก ก็กลับมาถึงที่พัก ใจอยากขับรถออกไปดูบรรยากาศถนนสายอื่นๆ แต่รถของคนอื่นมาจอดขวางไว้แล้วเกรงใจคุณป้าเจ้าของบ้านด้วย เลยตัดสินใจเข้านอน
ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะตักบาตรข้าวเหนียวแล้วเดินชมวัดอีกสักรอบ แวะซื้อของในตัวเมืองจ. เลย แล้วจะเดินทางไปอ.ภูเรือต่อ
ความคิดเห็น