ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องเกี่ยวกับรถ
อยากเตือนเพื่อนๆให้ระวังมากๆ ขึ้นรถแล้วต้องล็อคทันทีนะคะ
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง คือ มีคนส่งเมลล์มาให้ เพราะฉะนั้นคำต่างๆจึงเป็นของบุคคลนั้นๆ นะคะ
--------------------------------------
ผมเองก็มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันครับ เหตุเกิดตอนประมาณ 21.00 ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
> > ผมเป็นคนที่สังเกตุสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ ดังนั้นหากมองเผินๆเหมือนกับว่าผมเดินไปดื่มน้ำในมือไปเรื่อยเปื่อย
> > สิ่งที่ผมรู้สึก ก็คือ รู้สึกว่ามีคนเดินตามผมห่างๆแต่ผมยังไม่คิดอะไรในทีแรก เพราะคงเป็นผู้มาใช้บริการที่จอดอยู่ชั้นเดียวกัน
> > อีกอย่างที่รถที่จอดชั้นเดียวกับผมนี้ยังค่อนข้างเยอะ บังเอิญว่าผมอยากจะทิ้งแก้วน้ำในมือก็เลยมองหาถังขยะ
> > ซึ่งมันไม่ค่อยมีหรอกตามที่จอดรถ เพราะทางศูนย์การค้าพวกนี้เค้ากลัวเรื่องการรอบวางระเบิด
> > ระหว่างที่ผมเดินหาที่ทิ้งในดวงใจอยู่นั้น ผมก็เดินเ ลยที่จอดรถตัวเองไปหลายคันเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีจะทิ้งมั่วๆมันก็น่าเกลียด
> > ก็ตัดสินใจว่าเอาไปไว้ตรงที่วางแก้วในรถก่อนก็ได้ว่ะ ( ซึ่งตลอดเวลาไอ้บ้านี่ก็ยังเดินตามผมอยู่ )
> > พอหมุนตัวจะกลับมาที่รถตัวเอง ไอ้บ้านี่มันก็ทำเป็นเดินให้เลยผมไปก่อน แล้วก็หยุดเหมือนมองหารถมันว่าจอดไหน ไอ้ช่วงที่หมุนตัวกลับมานี่เอง
> > ที่ผม เห็นมันชัดๆว่า สภาพมันไม่ใช่ลักษณะคนขับรถเก๋งแน่นอน คือมันมีสายร้อยกุญแจแบบ Flex( สายที่วนๆคล้ายสปริง ) กับกุญแจดอกเดียว
> > ใส่แจ๊คเก็ตสีดำ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ไม่หวังดีรึเปล่า ก็เลยแกล้งทำเป็นเดินเลยรถตัวเองอีกสักสี่ห้าคัน
> > แล้วไปหยุดทำท่าทางจะไขกุญแจรถคันหนึ่ง ซึ่งมันก็รีบเดินตามกลับมา คงกลัวว่าจะไม่ทันเดี๋ยวผมขึ้นรถไปเสียก่อน
> > แต่ผมก็ทำทางเป็นเปลี่ยนใจอีกครั้งมองหาที่ทิ้งแก้วน้ำ แล้วเดินสวนกับมันในระยะที่ปลอดภัยสำหรับผมเอง
> > แต่เป็นอันตรายสำหรับมันเพราะผมก็พร้อมอยู่แล้ว แน่นอนว่าผมเดินกลับไปหารถผมเองอย่างแท้จริง ซึ่่งคราวนี้มันหลงกลผมเต็มๆ
> > เพราะมันไปยืนอยู่ท้ายรถขับที่ผมทำท่าจะไขประตู ม ันไปยืนแบบแอบๆเพราะเดี๋ยวผมต้องกลับมาแน่นอน
> > แต่คราวนี้ผมเดินไปปั๊บ กดรีโมทปุ๊บ ขึ้นรถได้ผมก็สตาร์ทเครื่อง กดเซ็นทรัลล็อค ขณะที่ผมขับออกไป ผมมองไปที่มันซึ่งกำลังทำหน้างงๆ
> > แต่ไม่กล้ามองแบบเต็มๆนัก เห็นหน้าตามันเหวอๆ ผมก็เลยคิดว่ายังไงต้องแจ้ง ร . ป . ภ . ไว้ก่อน ไม่ว่ามันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือไม่ก็ตามแต่เพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ ผมขับเลยไปจอดตรงที่คืนบัตรจอดรถ แล้วแจ้งทางเจ้าหน้าที่ห้าง รวมทั้งนำเจ้าหน้าที่ 4 คนไปเองด้วย
> > เพราะผมรู้อยู่คนเดียวนินา ไปเจอมันผลุ๊บๆโผล่ๆอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงตรงเข้าไปสอบถามว่า ทำอะไร มันตอบว่าไงรู้ไหมครับ ...... มันมาซื้อของแต่จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน แต่พอสักไปสักมาว่ารถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร มันก็อึกอักตอบมาว่า มันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เอามอเตอร์ไซด์มา มั่วๆแล้วก็แถ
> > พอเจ้าหน้าค้นตัวก็พบมีดปอกผลไม้หนึ่งเล่ม ทีนี้หน้ามันซีดอย่างชัดเจน ที่จริงหน้าผมก็ซีดครับ
> > ผมก็เลยบอกให้เจ้าหน้าที่คุมตัวแล้วแจ้งตำรวจเพื่อขยายผลต่อไป ...... ต้องระวังนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเป็นสุภาพสตรี อย่าลีลาอย่างผม
> > เพราะไม่คุ้มแน่นอนถ้าเราพลาดเป็นห่วงทุกคนนะครับ
SANERIO 2
> > อ่านเรื่องข้างล่างแล้วระวังตัวให้มากๆนะคะ ! เพราะพี่ต่อก็เคยโดนลักษณะเดียวกัน โดยขับรถกลับบ้านคนเดียวประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ
> > พอเข้าซอยรู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามมา และแล้วเข้าซอยเดียวกัน และตามมาเรื่อยๆ
> > พอพี่ต่อจอดรถหน้าบ้านเขาก็ขับเลยเข้าไปในซอยซึ่งเป็นซอยตัน < /FONT> และเลี้ยวกลับมาจอดอยู่ใกล้ๆ
> > และลงมาเปิดประตูข้างคนขับที่พี่ต่อนั่งอยู่ พอดีคอยระวังอยู่แล้วและคอยมองอยู่ และรถก็ล็อคอยู่เขาจึงเปิดไม่ได้
> > แต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้เราเปิดประตูเหมือนจะถามอะไร พี่ต่อก็เลยบีบแตรดังมากๆหลายครั้ง แล้วโบกมือให้รู้ว่าไม่เปิด
> > พอดีแม่บ้านเดินมาที่ประตู เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถขับออกไปทั้งหมดนี่เกิดขึ้น เร็วมากนับจากที่จอดรถหน้าประตูบ้าน ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
> > ปกติเมื่่อถึงบ้านพี่ต่อจะบีบแตรแล้วเปิดประตูเพื่อส่งกุญแจประตูใหญ่ให้ แม่บ้านไขประตูให้ พอดีวันนั้นมองมอเตอร์ไชด์คันนี้อยู่เลยยังไม่ได้กดแตร
> > เขาอาจจะคิดว่าเราจะลงจากรถมาเปิดประตูบ้านเองก็ได้ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ารถไม่ได้ล็อคอยู่จะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้หน้าบ้านเราเอง
> > พวกมิจฉาชีพพวกนี้จะลงมือเร็วมาก คนมาช่วยก็อาจช่วยไม่ทัน ดังนั้น ขอย้ำให้ระมัดระวังมากๆ
> > เพราะเหตุการณืประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
> > ฌลาวิภา เมฆใจดี
SANERIO 3
> > ระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลังคนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่ 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก
> > แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอดไม่ว่ามืดหรือสว่าง เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ
SANERIO 4
> > ภรรยาผมจะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
> > มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
> > ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ ก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ภรรยา ผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา
> > แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ ! ให้ผมฟัง ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวัน
> > แสกๆ แท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
> > อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถ พวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย
SANERIO 5
> > หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน )
> > ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก
> > รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย
> > จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
> > พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน ( นี่มันปล้นกันชัดๆ ) แล้ว รถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน ) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
> > น่ากลัวที่สุด
SANERIO 6
> > ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่ สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม
> > บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สองคน แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม
> > ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า ' รถมันล๊อคหมด ' แล้วก็ขับเลยไป
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง คือ มีคนส่งเมลล์มาให้ เพราะฉะนั้นคำต่างๆจึงเป็นของบุคคลนั้นๆ นะคะ
--------------------------------------
ผมเองก็มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันครับ เหตุเกิดตอนประมาณ 21.00 ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
> > ผมเป็นคนที่สังเกตุสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ ดังนั้นหากมองเผินๆเหมือนกับว่าผมเดินไปดื่มน้ำในมือไปเรื่อยเปื่อย
> > สิ่งที่ผมรู้สึก ก็คือ รู้สึกว่ามีคนเดินตามผมห่างๆแต่ผมยังไม่คิดอะไรในทีแรก เพราะคงเป็นผู้มาใช้บริการที่จอดอยู่ชั้นเดียวกัน
> > อีกอย่างที่รถที่จอดชั้นเดียวกับผมนี้ยังค่อนข้างเยอะ บังเอิญว่าผมอยากจะทิ้งแก้วน้ำในมือก็เลยมองหาถังขยะ
> > ซึ่งมันไม่ค่อยมีหรอกตามที่จอดรถ เพราะทางศูนย์การค้าพวกนี้เค้ากลัวเรื่องการรอบวางระเบิด
> > ระหว่างที่ผมเดินหาที่ทิ้งในดวงใจอยู่นั้น ผมก็เดินเ ลยที่จอดรถตัวเองไปหลายคันเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีจะทิ้งมั่วๆมันก็น่าเกลียด
> > ก็ตัดสินใจว่าเอาไปไว้ตรงที่วางแก้วในรถก่อนก็ได้ว่ะ ( ซึ่งตลอดเวลาไอ้บ้านี่ก็ยังเดินตามผมอยู่ )
> > พอหมุนตัวจะกลับมาที่รถตัวเอง ไอ้บ้านี่มันก็ทำเป็นเดินให้เลยผมไปก่อน แล้วก็หยุดเหมือนมองหารถมันว่าจอดไหน ไอ้ช่วงที่หมุนตัวกลับมานี่เอง
> > ที่ผม เห็นมันชัดๆว่า สภาพมันไม่ใช่ลักษณะคนขับรถเก๋งแน่นอน คือมันมีสายร้อยกุญแจแบบ Flex( สายที่วนๆคล้ายสปริง ) กับกุญแจดอกเดียว
> > ใส่แจ๊คเก็ตสีดำ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ไม่หวังดีรึเปล่า ก็เลยแกล้งทำเป็นเดินเลยรถตัวเองอีกสักสี่ห้าคัน
> > แล้วไปหยุดทำท่าทางจะไขกุญแจรถคันหนึ่ง ซึ่งมันก็รีบเดินตามกลับมา คงกลัวว่าจะไม่ทันเดี๋ยวผมขึ้นรถไปเสียก่อน
> > แต่ผมก็ทำทางเป็นเปลี่ยนใจอีกครั้งมองหาที่ทิ้งแก้วน้ำ แล้วเดินสวนกับมันในระยะที่ปลอดภัยสำหรับผมเอง
> > แต่เป็นอันตรายสำหรับมันเพราะผมก็พร้อมอยู่แล้ว แน่นอนว่าผมเดินกลับไปหารถผมเองอย่างแท้จริง ซึ่่งคราวนี้มันหลงกลผมเต็มๆ
> > เพราะมันไปยืนอยู่ท้ายรถขับที่ผมทำท่าจะไขประตู ม ันไปยืนแบบแอบๆเพราะเดี๋ยวผมต้องกลับมาแน่นอน
> > แต่คราวนี้ผมเดินไปปั๊บ กดรีโมทปุ๊บ ขึ้นรถได้ผมก็สตาร์ทเครื่อง กดเซ็นทรัลล็อค ขณะที่ผมขับออกไป ผมมองไปที่มันซึ่งกำลังทำหน้างงๆ
> > แต่ไม่กล้ามองแบบเต็มๆนัก เห็นหน้าตามันเหวอๆ ผมก็เลยคิดว่ายังไงต้องแจ้ง ร . ป . ภ . ไว้ก่อน ไม่ว่ามันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือไม่ก็ตามแต่เพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ ผมขับเลยไปจอดตรงที่คืนบัตรจอดรถ แล้วแจ้งทางเจ้าหน้าที่ห้าง รวมทั้งนำเจ้าหน้าที่ 4 คนไปเองด้วย
> > เพราะผมรู้อยู่คนเดียวนินา ไปเจอมันผลุ๊บๆโผล่ๆอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงตรงเข้าไปสอบถามว่า ทำอะไร มันตอบว่าไงรู้ไหมครับ ...... มันมาซื้อของแต่จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน แต่พอสักไปสักมาว่ารถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร มันก็อึกอักตอบมาว่า มันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เอามอเตอร์ไซด์มา มั่วๆแล้วก็แถ
> > พอเจ้าหน้าค้นตัวก็พบมีดปอกผลไม้หนึ่งเล่ม ทีนี้หน้ามันซีดอย่างชัดเจน ที่จริงหน้าผมก็ซีดครับ
> > ผมก็เลยบอกให้เจ้าหน้าที่คุมตัวแล้วแจ้งตำรวจเพื่อขยายผลต่อไป ...... ต้องระวังนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเป็นสุภาพสตรี อย่าลีลาอย่างผม
> > เพราะไม่คุ้มแน่นอนถ้าเราพลาดเป็นห่วงทุกคนนะครับ
SANERIO 2
> > อ่านเรื่องข้างล่างแล้วระวังตัวให้มากๆนะคะ ! เพราะพี่ต่อก็เคยโดนลักษณะเดียวกัน โดยขับรถกลับบ้านคนเดียวประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ
> > พอเข้าซอยรู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามมา และแล้วเข้าซอยเดียวกัน และตามมาเรื่อยๆ
> > พอพี่ต่อจอดรถหน้าบ้านเขาก็ขับเลยเข้าไปในซอยซึ่งเป็นซอยตัน < /FONT> และเลี้ยวกลับมาจอดอยู่ใกล้ๆ
> > และลงมาเปิดประตูข้างคนขับที่พี่ต่อนั่งอยู่ พอดีคอยระวังอยู่แล้วและคอยมองอยู่ และรถก็ล็อคอยู่เขาจึงเปิดไม่ได้
> > แต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้เราเปิดประตูเหมือนจะถามอะไร พี่ต่อก็เลยบีบแตรดังมากๆหลายครั้ง แล้วโบกมือให้รู้ว่าไม่เปิด
> > พอดีแม่บ้านเดินมาที่ประตู เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถขับออกไปทั้งหมดนี่เกิดขึ้น เร็วมากนับจากที่จอดรถหน้าประตูบ้าน ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
> > ปกติเมื่่อถึงบ้านพี่ต่อจะบีบแตรแล้วเปิดประตูเพื่อส่งกุญแจประตูใหญ่ให้ แม่บ้านไขประตูให้ พอดีวันนั้นมองมอเตอร์ไชด์คันนี้อยู่เลยยังไม่ได้กดแตร
> > เขาอาจจะคิดว่าเราจะลงจากรถมาเปิดประตูบ้านเองก็ได้ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ารถไม่ได้ล็อคอยู่จะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้หน้าบ้านเราเอง
> > พวกมิจฉาชีพพวกนี้จะลงมือเร็วมาก คนมาช่วยก็อาจช่วยไม่ทัน ดังนั้น ขอย้ำให้ระมัดระวังมากๆ
> > เพราะเหตุการณืประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
> > ฌลาวิภา เมฆใจดี
SANERIO 3
> > ระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลังคนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่ 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก
> > แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอดไม่ว่ามืดหรือสว่าง เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ
SANERIO 4
> > ภรรยาผมจะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
> > มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
> > ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ ก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ภรรยา ผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา
> > แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ ! ให้ผมฟัง ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวัน
> > แสกๆ แท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
> > อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถ พวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย
SANERIO 5
> > หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน )
> > ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก
> > รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย
> > จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
> > พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน ( นี่มันปล้นกันชัดๆ ) แล้ว รถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน ) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
> > น่ากลัวที่สุด
SANERIO 6
> > ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่ สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม
> > บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สองคน แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม
> > ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า ' รถมันล๊อคหมด ' แล้วก็ขับเลยไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น