ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภัยอันตรายในชีวิตประจำวัน.

    ลำดับตอนที่ #1 : ภัยย่านรังสิต จากประสปการณ์จริงของคนอื่น

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 50


    กลของมิจฉาชีพย่านรังสิต

    นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าและสามีเมื่อปลายปีที่แล้ว

    ค่ำวันหนึ่งข้าพเจ้าและสามีเดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า
    ชื่อดังย่านรังสิต

    และได้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถจำได้ว่าได้จอด
    ใกล้ติดกับเสาอาคารโดยที่เรา

    ทั้งสองไม่ได้คิดอะไรมาก
    และข้าพเจ้าก็เปลี่ยนรองเท้าแตะผู้หญิงวางไว้ที่ด้านล่าง

    ข้าง
    คนขับ ส่วนที่เบาะหลังก็มีสมุดสวยลายดอกไม้น่ารักของลูกวางไว้

    หลังเสร็จธุระแล้วเราทั้งสองก็มาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านโดยที่ไม่
    ได้สังเกตอะไร

    มาก บังเอิญที่วันนั้นรถติดมาก
    รถค่อยๆเคลื่อนอย่างช้าๆเพื่อลงจากลานจอดรถซึ่งมี

    หลายชั้น
    เราทั้งสองก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร
    เพราะรถวิ่งช้ามาก ในขณะที่รถวิ่งไปได้ไม่กี่

    เมตรและยังอยู่ที่ชั้น
    เดิม มีชายลึกลับคนหนึ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ผิวคล้ำๆ

    ใส่เสื้อแขนยาว
    ไม่ค่อยจะสะอาดนัก สภาพเหมือนพวกช่างมาเคาะกระจกรถและ

    พยายามบอกว่า
    ที่ล้อรถด้านหลังด้านที่ข้าพเจ้านั่งมีสิ่งผิดปกติข้าพเจ้าพยักหน้า

    กับเขาแต่ก็ไม่เปิดกระจกไปพูดอะไร และไม่ได้
    ลงจากรถ

    ในใจข้าพเจ้ารู้สึกแปลกๆและหวาดระแวงมาก
    หลังจากที่เขาเห็นข้าพเจ้า

    และสามีไม่ได้ทำอะไร เขาก็เดินจากไป
    ข้าพเจ้ามองจากกระจกด้านข้างสังเกตเห็น

    ชายคนนั้นเดินไปหลบ
    ด้านข้างเสาอาคาร ข้าพเจ้ารีบบอกสามีทันที ส่วนสามีของ

    ข้าพเจ้า
    หน้าเครียดมากเขาสังเกตสถานการณ์ต่างๆจากกระจกมองหลัง

    และบอกข้าพเจ้าว่ามีรถกระบะขับตามมามีผู้ชายหลายคนมาก
     

    นั่งอยู่ด้านหลัง และเห็นชายที่มาเคาะกระจกเดินออกมาจากเสา
    อาคารที่ข้าพเจ้า

    บอก กระโดดขึ้นรถกระบะ ตามมาสักระยะหนึ่ง
    แล้วก็หายไป เมื่อมาถึงด้านล่างใกล้ๆ

    กับ เจ้าหน้าที่ของห้าง
    ข้าพเจ้าเปิดประตูรถชะโงกดูล้อหลัง แทบไม่เชื่อสายตาตัว

    เอง
    ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นล้อรถตัวเองแบนราบขนาดนี้มาก่อนเลย

    สามีของข้าพเจ้าบอกว่า เราถูกเล่นงานแล้วหล่ะ !
     

    หลังจากนั้นเราค่อยๆ
    ขับรถออกมาและแวะเข้าปั๊มข้างทางที่ใกล้ที่สุด

    ซึ่งเราระวังตัวมาก
    สังเกตคนรอบๆข้างตลอดเวลา เด็กปั๊มถอดยางออกมาตรวจพบว่า 

    ยางรถถูกตะปูซึ่งมีลักษณะคล้ายน๊อตเจาะลงไป และที่สำคัญคือ


    เจาะจากด้านข้างของยาง ไม่ใช่บริเวณหน้ายาง เพราะถ้ารถวิ่ง
    ไปเหยียบตะปูมา

    ตำแหน่งจะต้องอยู่บริเวณหน้ายาง
    สามีบอกกับข้าพเจ้าว่า

    ถ้าเราลงจากไปรถ เราก็คงตกเป็นเหยื่อของพวกมิจจฉาชีพพวกนี้


    ซึ่งก็พอจะเดาได้ว่ามันจะทำอะไรบ้าง และโดยเฉพาะกับผู้หญิง
     

    ที่ไปคนเดียว สัณนิษฐานว่า พวกมันคงคิดว่า


    1.รถของข้าพเจ้าน่าจะเป็นรถของผู้หญิงขับ เพราะดูจากสิ่งของต่างๆ

    ที่อยู่ในรถ เพราะการล่อลวงเหยื่อที่เป็นผู้หญิงกระทำได้ง่ายกว่า
     

    2.ล้อรถที่โดนตะปูเจาะเป็นล้อด้านที่อยู่ติดกับเสาอาคารเวลาจอดรถซึ่งเป็นจุดอับ

    ลับสายตาคนที่ผ่านไปมา
    คนพวกนี้จึงแอบฝังตะปูลงที่ล้อรถ โดยที่คนอื่นๆไม่

    สามารถสังเกตเห็นได้


    3.มันจะคอยติดตามเหยื่ออย่างใกล้ชิด จนกว่าผลงานของมันจะปรากฎอย่างชัดเจน

    และแสดงตัวเป็นพลเมืองดีบอกเหยื่อ
    และจัดการตามแผนที่วางไว้ คุณลองคิดดูว่า

    ถ้าขับรถไปคนเดียวและยางล้อรถเกิดหมดลมไปแบนบนท้องถนนที่เปลี่ยวๆ


    และเป็นเวลากลางคืน มันน่ากลัวมากขนาดไหน
     

    ***ดังนั้นเวลาเกิดเรื่องหรือมีสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นตั้งสติไว้ อย่าตื่นเต้น 

    ค่อยๆคิด
    ที่สำคัญถ้าสถานการณ์ยังไม่ถึงกับรุนแรงมาก ยังพอควบคุมได้ อย่าเปิด

    โอกาสให้ใครที่เราไม่รู้จักเข้าถึงตัวเรา
    หรืออย่าเชื่ออะไรเขาง่ายๆมีโทรศัพท์อยู่ควร

    โทรหาคนที่เราไว้ใจได้
    ขอคำปรึกษาว่าควรทำอย่างไร หรือยอมเสียเวลารอความช่วย

    เหลือจาก
    เจ้าหน้าที่หรือคนที่เรารู้จัก น่าจะปลอดภัยกว่า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×