เมลเบิร์น กับ เกรทเซาท์เทิร์นทัวร์ริ่งรูท รัฐวิคตอเรีย (2) - เมลเบิร์น กับ เกรทเซาท์เทิร์นทัวร์ริ่งรูท รัฐวิคตอเรีย (2) นิยาย เมลเบิร์น กับ เกรทเซาท์เทิร์นทัวร์ริ่งรูท รัฐวิคตอเรีย (2) : Dek-D.com - Writer

    เมลเบิร์น กับ เกรทเซาท์เทิร์นทัวร์ริ่งรูท รัฐวิคตอเรีย (2)

    ผู้เข้าชมรวม

    101

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    101

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ต.ค. 56 / 12:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                โรงแรมตั้งอยู่บนแนวถนน Halls Gap – Ararat ที่เค้าว่าเป็นถนนสวยงามร่มรื่น  เช้าวันเที่ยววันที่ 4 ของเรา เราขับรถชมสองข้างทางไปเรื่อยๆ แวะชมสวนสัตว์ Halls Gap นิดหน่อย แล้วเราก็ถึง Ararat จุดหมายของเราจะไปชมวิวมุมสูงตามคำแนะนำที่ One Tree Hill แล้วคุณทอมทอม ก็ออกฤทธิ์เดช พาเราไปไหนไม่ทราบ ต้องถามไถ่เส้นทางกับเจ้าของพื้นที่ เราจึงไปถึงที่หมายในที่สุด ที่นี่เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่ว่าชมได้ 360 องศา ก็สวยงามดี ลมแรงไม่น้อย เราขับรถต่อมายังเมือง Ballarat  ที่นี่เคยเป็นเหมืองทองเก่าแก่ แต่เราไม่เลือกไปชมเหมือง หรือไปชมมิวเซียมกลางแจ้งที่ชื่อว่า Sovereign Hill outdoor museum เราเข้าไปชม Ballarat wild life ซึ่งเป็นสวนสัตว์เปิด เข้าไปถึงก็เห็นจิงโจ้โล้สำเภา กระโดดไปมาขออาหารจากมือนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดทีเดียว มีสัตว์ให้ชมมากมายอย่างใกล้ชิด แบบจระเข้ งูชนิดต่างๆ อีกัวน่า วอมแบต หมีโคอาร่า และอื่นๆอีกมากมาย ได้เวลาเรากลับมาเดินถ่ายรูปกันอย่างสบายๆในเมืองBallarat แล้วขับรถ ผ่านเมืองเมลเบิร์น จากทางด้านตะวันตกของเมืองขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ย่านดันดีนองส์ คืนนี้เราจะพักกันที่โรงแรม Comfort Inn Ringwood Lake เนื่องจากยังพอมีเวลา แดดก็ยังไม่หมด เธอจึงให้พาไปชมสถานีรถไฟที่มีชื่อเสียง ชื่อ Belgrave ที่ใครๆจะพากันมาที่นี่ ที่เป็นสถานีรถจักรไอน้ำโบราณ Puffing Billy Steam Train พาไปยัง Emerald Lake เค้าว่าเป็นรถไฟสายเก่าที่วิ่งระยะสั้น ๆ ที่นี้ก็ถูกดัดแปลงเอามาท่องเที่ยว ชมป่าสวยงามตามแนวเขา ใครๆพากันมานั่งห้อยขาผ่อนคลายอารมณ์พร้อมชมทัศนียภาพแบบนั้น เราไปถึงเป็นเวลาเย็น ไปโบกมือกับผู้โดยสารบนรถไฟ ที่กำลังแล่นกลับเข้าสู่สถานี ทำทีเหมือนไปชมกับเค้ามาด้วยเหมือนกัน แล้วมาแวะในเมืองของที่นี่หาของอร่อยไปกินเป็นอาหารเย็น ได้อาหารจีน และ Scalop ชุบแป้งทอดกรอบแบบฟิชแอนด์ชิพ อร่อยมากเลยวันนี้

                 ฝนตก ลมแรงมากทั้งคืนเลย โรงแรมที่พักเราวันนี้เงียบสงบมากไม่มีเสียงผู้คน แต่ เสียงฝนสาดแรงได้ยินอย่างชัดเจน เที่ยวเป็นวันที่ 5 ของเราแล้ว พอสายหน่อย ฝนซาเม็ดลง เราจึงออกเดินทางไป  SkyHigh Mount Dandenong ที่เป็นจุดชมวิวมุมสูง สามารถมองไปไกลเห็นตึกสูงระฟ้าของเมลเบิร์นได้เลย ปกติเค้ามักจะมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ แต่เราไปแต่เช้า แม้ฝนพึ่งจะซาลง แต่ก็ยังชมวิวได้ ลมพัดแรงมากจริงๆ หนาวด้วย ใช้เวลาไม่นาน เราก็ให้คุณทอมทอม พาเราไปชมทุ่งทิวลิป Tesselaar Tulip Festival เส้นทางที่คุณทอมทอม ก็ออกพิศดารมาก ช่วยเหลือคนขับโดยเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุด วิ่งเข้าในใจกลางป่า ทางยังเป็นดินโคลนหลังฝนตกผ่านไปใหม่ๆเอง เห็นต้นไม้ล้มขวางทางก็มี มันเป็นป่าของต้นยูคาลิปตัสสูงมาก ชนิดที่ว่าชดเชยกับการไม่ได้ไปนั่งรถจักรไอน้ำได้เลย แล้วที่สุดก็มาเข้าเส้นทางหลัก เร็วมากเลยเราก็ถึง Tesselaar Tulip Festival ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน Silvan ปีนี้เป็นการจัดเทศกาลทิวลิปที่นี่ ครบรอบเป็นปีที่ 60 แล้ว จัด ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนถึง 8 ตุลาคม 2556 เท่านั้น ตอนเราไปชมเป็นช่วงของวันเด็กๆ Children’s day เราไปถึงก่อนเวลาที่เค้าจะเปิดให้ชมเสียอีก เรียกว่าไปเป็นคนแรกเลยก็ได้ พอได้เวลาก็เข้าไปชม มีฝนหล่นลงเป็นระยะๆ แรงบ้างเบาบ้าง ทิวลิปและการจัดดอกไม้สวยงามดี เธอเลือกถ่ายรูปไปทั่วอย่างจุใจ นักท่องเที่ยวไม่มากจากที่มีฝน เด็กๆส่งเสียงสนุกสนานของเค้าไม่ขาดสาย ดอกไม้สวย สายฝนฝอย และบรรยากาศสนุกสนานของเด็กๆ พาจิตใจสดชื่นไปทั่ว ตอนจะออกจากที่จอดรถ รถเราติดหล่ม ออกไม่ได้ ต้องไปบอกให้เค้าเอารถตัดหญ้ามาช่วยดึงออกมา เธอให้แวะเมืองเล็กๆต่อมาชื่อเมือง Monbulk พบว่าเมืองเล็กมากจนไม่สามารถชมดอกไม้ที่ไหนเลย จึงตัดสินในขับรถยาวเลย มุ่งไป เกาะฟิลลิป เย็นวันนี้เราจะไปดูนกเพนกวิน เดินพาเหรด ขึ้นสู่ฝั่งกัน

                 เกาะฟิลลิป เป็นเกาะเล็ก ๆอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ที่นี่เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย มีสัตว์พื้นเมืองมากมายที่ทางการอนุรักษ์ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ป่าและคงความเป็นธรรมชาติที่มีหาดทราย ป่าพุ่มให้เป็นที่อยู่ของเพนกวินตัวน้อย แมวน้ำและนกนานาชนิด ฝนตกๆหยุดๆไปตลอดเส้นทาง เข้าพักที่โรงแรม Coachman Motel ย่าน Cowes ที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะเรียบร้อยแล้ว รู้สึกหิวเพราะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้ว จึงปิ้งขนมปังทาเนยโรยน้ำตาลกินกัน แล้วเสียงสัญญาณเตือน ควันไฟก็ดังลั่นจากห้องพักของเรา จากกลิ่นขนมปังไหม้นิดเดียวเอง ผมต้องเดินไปบอกเจ้าของโรงแรม ถามวิธีปิดเสียงเพราะอายคนเค้า เจ๊แกว่าไม่มี กระเหรี่ยงทั้งสองคนคงต้องรอมันเงียบลงไปเองแบบนั้น อิ่มกันพอควรก็กลับมาขับรถเที่ยว หาแหล่งให้ข้อมูลท่องเที่ยวไม่พบซะทีจึงตัดสินใจขับรถไปทางตะวันออกของเกาะที่เค้าเรียกว่าย่าน Rhyll ชมทิวทัศน์ทะเลแถบนี้ ฝนฝอยๆตกลงมาเป็นๆหายๆ แล้วตัดสินใจขับรถมายัง Summerlands Beach เพื่อมาชมนกเพนกวิน เค้าแนะนำกันว่าให้มาก่อนเวลา 1 ชั่วโมง เราเลือกที่นั่งชมแบบปกติ ราคาถูกที่สุดที่มี พอประตูเปิดให้เข้าชม เราก็เลือกเดินตามคนอื่นๆ นั่งรอแบบว่าเลือกให้ใกล้ก้อนหินดำๆที่ใกล้ๆชายทะเล เพนกวินที่นี่เค้าว่าเป็นสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่บนชายหาด บรรยากาศอันสวยงามยามพระอาทิตย์อัสดง เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่สำหรับเรา 2 คนแล้ว ตอนรอก็แห้งๆดี หนาวลม ฝนฝอยๆลงมาบ้าง แต่พอท่านทั้งหลายเพนกวินพาเหรด ฝนก็หล่นลงมาอย่างหนาเม็ด เค้าว่าเพนกวินตัวน้อย เหล่านี้ พร้อมใจกันยกขบวนพาเหรดขึ้นจากทะเลเพื่อกลับคืนสู่รังพร้อมอาหารในปากมาฝาก ลูกตัวน้อยที่รออยู่ในรัง เธอจะส่งเสียงเรียกหาลูกและเดินให้เราชมความน่ารักอย่างใกล้ชิด เพนกวินน้อยเหล่านี้จะออกไปหาอาหารแต่เช้า กลับมาอีกทีตอนพระอาทิตย์ตก เค้าห้ามถ่ายรูปเพนกวิน เพราะเป็นการรบกวนหรืออาจจะทำให้เพนกวินตกใจ รอตั้งนาน ทั้งหนาว ทั้งเปีบกแฉะ แต่พระเดขพระคุณท่านทั้งหลายขึ้นมาไม่มากเลยตรงบริเวณที่เราชม ได้เวลาเราเดินกลับมายังสำนักงาน ระหว่างทางจะพบท่านเหล่านี้อีกบ้าง ตัวเป็นๆ กระดุ๊กกระดิ๊ก แต่ก็ไม่ได้มีเป็นจำนวนมากมาย เราขับรถฝ่าสายฝน ลมหนาวกลับมายังโรงแรมที่พัก ร้านอาหารปิดหมดแล้ว กลับมาปิ้งขนมปังกินกันเป็นอาหารเย็น แล้วเสียงสัญญาณจับควันไฟก็ดังขึ้นอีกครั้งจนได้ ขนมปังไหม้แค่นิดเดียวเอง เสบียงที่เตรียมไปจากกรุงเทพ จะถูกเราเก็บกวาดได้หมดด้วยอาหารเย็น และอาหารเช้าที่เกาะฟิลลิปนี้

               วันที่ 6 ของเราในรัฐวิคตอเรีย บนเกาะฟิลลิป เธอให้พาไปชมแหลมที่สวยละมุลละไม ชื่อ Cape Woolamai คุณทอมทอมก็พาไปจนถึงเป็นที่เค้านิยมมาเล่นกระดานโต้คลื่นเช่นกัน คลื่นแรงมาก แล้วก็ขับรถวนมายัง Mornington Peninsula เรากำหนดจุดหมายที่เมือง Mornington แล้วที่สุดเราก็มาถึง Dromana ที่เป็นที่ตั้งของแหล่งข้อมูลในการเที่ยวไปตามเส้นทาง Mornington Peninsula ผมบอกเธอว่าเริ่มจากเมืองนี้แล้วขับรถขึ้นเหนือ เลาะชายทะเลไปเรื่อยๆเราก็ถึงเมลเบิร์น แต่เธอศึกษามามากกว่าผม ถามเจ้าหน้าที่เค้าก็เชียร์ให้ไปชม Arthurs seat จึงพากันขับรถไปชมกัน ภายหลังจากชมชายหาดแถบนี้ที่ต้องมีบังกาโลหลังเล็กๆหลากสีสรร ไว้ชายหาด ที่ Dromana นี่ก็มีให้ชม เราขับรถไปจนถึง Arthurs seat เป็นมุมสูงไว้ชมวิวเมืองและทะเลเบื้องล่าง จากนั้นเราก็กลับมาถนนชายฝั่งทะเล แวะมายัง Mornington ขับรถต่อไปยังเมือง Frankston ชิมฟิชแอนด์ชิพของที่นี่หน่อยนึงแล้วขับรถเลียบอ่าว Port Phillip bay นี้ต่อไปยังเมือง Brighton ที่เป็นเมืองตั้นๆสุดท้ายของเราบนคาบสมุทรนี้วิวทะเลเหมือนๆกันหมด ที่ Brightonนอกจากจะมีบ้านหลังเล็ก ชายหาด ทะเล ผู้คนที่มาเล่นสกีเหาะ ยังมีทิวทัศน์ที่มองไปได้ไกลถึงตัวเมืองเมลเบิร์นด้วย แล้วเราก็เข้าเมืองเมลเบิร์น ขับรถในเมืองใหญ่ เมืองให้น่าตื่นตาตื่นใจอย่างไร ตัวเองก็ต้องระวังอย่างสูงยิ่ง สุดท้ายเราก็มาถึงโรงแรมที่พักใจกลางเมืองชื่อโรงแรม Great Southern hotel ราคาที่พักไม่แพงเลย แต่จอดรถริมถนนกลัวทั้งค่าปรับและปัญหาการจราจร จึงรีบเก็บกระเป๋า เอาขึ้นห้องพัก แล้วกลับมาขับรถไปคืนบริษัทที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ต้องหาปั้มเติมน้ำมันให้เต็มก่อน ที่หมายตาเอาไว้ก็หาไม่พบ ต้องออกไปอีกเส้นทาง กลับมาคืนรถเค้าทันเวลาในที่สุด โดยมีการกลับรถกลางถนนแบบคล่องตัวมาก เพื่อเลี้ยวเข้าที่ตั้งบริษัท เธอออกปากว่าทำเหมือนชำนาญหรือขับรถในต่างประเทศจนเก่งมากแล้วอย่างนั้น ทั้งๆที่นี่เป็นประเทศที่ 5 ของการไปขับรถเที่ยว ของเรา แค่นั้นเอง  

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×