ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Legend Of Mortal ตำนานอวสานวันสิ้นโลก

    ลำดับตอนที่ #1 : Becoming of the death

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 63


    “สัญญานะว่านายจะกลับมา”

    “ฉันจะรอนายนะ..”

    เสียงหวานอันแสนไพเราะแต่แฝงด้วยความเจ็บปวดของผู้หญิง ดังก้องอยู่ในหัวของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เขาพยายามจะสะบัดหัวไล่เสียงนั้นออกไป แม้ว่าตอนนี้เขากำลังบิดมอเตอร์ไซค์สุดมือ เพื่อมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่ง มันคงจะดีถ้าเป็นแค่การไปเที่ยวซักที่ หรือต้องรีบไปให้ทันนัดเดทเหมือนเคย แต่ตอนนี้วันเวลาเหล่านั้นคงไม่มีอีกแล้ว

    มองจากสภาพของถนนและบรรยากาศรอบๆเวลานี้ ราวกับว่าตัวเขากำลังอยู่ในหนังสงครามล้างโลก ตึกรามบ้านช่องพังทลายราบเป็นนาดกลอง กลุ่มควันไฟพวยพุ่งเป็นระยะๆ ขนาบสองข้างทาง ความเงียบสงัดทั้งๆที่เป็นใจกลางเมืองแต่กลับไม่มีผู้คนหรือสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลยด้วยซ้ำ มันคงจะดีถ้าตอนนี้เขากำลังถ่ายทำฉากภาพยนตร์ซักเรื่อง น่าเสียดายที่มันไม่ใช่การแสดงถ่ายทำอะไรทั้งสิ้น เวลานี้ทุกวินาที ทุกเสี้ยววินาทีที่เสียไป คือความเป็นและความตาย เขาจำเป็นต้องสลัดเสียงที่มันก้องอยู่ในหัวออกไป เพราะสิ่งที่เขาควรจะต้องทำในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว

    คนสำคัญกำลังรอคอยความช่วยเหลือและเขาต้องรีบไปถึงให้เร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

    “ขอให้ทันทีเถอะ”

    เจ้าตัวภาวนาก่อนโน้มตัวลงแนบกับดูคาติสีดำขลับเพื่อเร่งความเร็วแข่งกับสายลม

    **************

    สิบหกวันก่อนหน้านี้.. โทรอนโต ประเทศแคนาดา 14:00 น.

    “Black Coffee Please”

    ชิโร่กำลังสั่งกาแฟด้วยน้ำเสียงทุ้ม เรือนผมสีนิลดำขลับ ในชุดสูทยี่ห้อหรูสีดำ กำลังนั่งไขว่ห้างสั่งกาแฟอย่างสง่า ถ้าไม่ได้มองที่รูปลักษณ์ภายนอก บุคลิกท่าทาง และเครื่องแต่งกายแบรนเนมหรูหราตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าแล้วล่ะก็ เขาก็ยังดูอายุยังน้อยเกินไป สังเกตจากใบหน้าเนียนใส ผิวขาวสะอาด รูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาสีดำน่าค้นหาแต่เจือไปด้วยความขี้เล่น จนสาวที่เดินมาเสริฟกาแฟ มีปฏิกิริยาแก้มแดงในทันทีที่เดินเข้ามารับออเดอร์ แต่เขากลับไม่ได้มีทีท่าว่าสนใจหญิงสาวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย จนหล่อนต้องเดินก้มหน้าอายงุดๆออกไป

    พลันสาวเสริฟแสนสวย หุ่นเอ็กซ์เซ็กซี่ หันหลังปุ๊บ เจ้าของหนุ่มเรือนผมสีดำกลับรีบส่งสายตาทะเล้นปนเสียดายขึ้นมาทันที

    สวยหยาดเยิ้มขนาดนี้ เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเหมือนพระเอกละครหรอกนะ แต่บอสน่ะสิ ดันขัดจังหวะส่งเมลล์เข้ามาเสียก่อน

    ‘เซโร่ ผมต้องการให้คุณรีบเปิดไฟล์ด่วนที่สุด’

    เขาตัดสินใจผละสายตาจากสาวเสริฟน่ารัก ก่อนส่ายหน้าน้อยๆด้วยความเสียดาย ก่อนจะเลื่อนนิ้วไปเปิดไฟล์ เหมือนทุกครั้ง แต่ทันทีที่เห็นข้อมูลในไฟล์ที่ปกติก็เดาได้ไม่ยากอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ครั้งนี้ ชิโร่กลับเบิกตากว้าง พร้อมสบัดหัวอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนเขาเลื่อนนิ้วขึ้นลงไปมาอย่างเคร่งเครียด ทั้งๆที่แน่ใจว่าตนได้อ่านมันแล้วด้วยซ้ำ จากสีหน้าสบายๆกลับกลายเป็นหน้าถอดสี ดวงตาเคร่งเครียด เหงื่อผุดซึมที่ใบหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืน ทั้งๆที่กาแฟยังไม่มาเสริฟถึงโต๊ะเลยด้วยซ้ำ

    “นี่มัน!..”

    เขารีบเลื่อนหน้าจอไปยังรายชื่อผู้ติดต่อและต่อสาย ปลายทางประเทศไทยทันที

    “โทร่า..นี่ฉันเอง”

    “ฉันไหนวะ?” เสียงปลายสายงัวเงียปนโมโห

    “นี่แกจำฉันไม่ได้เหรอ”

    “ไม่รู้โว้ยยย รู้มั้ยว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ฉันไม่คุย” ทันทีที่โทร่าตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโห ก่อนจะกดสายวางเพราะนี่มันตีสามแล้ว

    “ชิโร่..ไง..”

    ชิโร่รีบบอกชื่อเสียงแผ่วเบาด้วยเหตุผลบางอย่าง ก่อนที่มันจะตัดสายทิ้งได้ทันท่วงที และก็ได้ผล เพราะทันทีที่ได้ยินชื่อ จากเสียงโมโหๆกลายเป็นดีใจแทนที่

    “ชิโร่! "

    โทร่ากระเด้งลุกจากเตียงด้วยความดีใจอย่างที่สุด ลืมไปสนิทว่าเมื่อกี๊ตัวเองเพิ่งจะโมโหไปแท้ๆ

    "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นนาย จู่ๆก็หายตัวไป แล้วก็เห็นแค่จดหมายส่งมาบอกว่านายอยู่แคนาดา แล้วทำไมไม่เขียนที่อยู่เอาไว้? แล้วมันจริงหรือเปล่า? นายไปทำอะไรที่แคนาดา? แล้วทำไมนายถึงไม่ติดต่อฉันเลย? แล้วนายสบายดีไหม?"

    คำถามที่ส่งมาเป็นชุดทำให้ชิโร่ลอบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะรีบว่าขึ้นเสียงเครียดโดยที่เขาไม่ได้ตอบคำถามของโทร่าสักข้อ

    “ฟังนะ..โทร่า..ฉันมีเวลาไม่มาก..หาที่ปลอดภัยที่สุด ซ่อนตัวซะ..แล้วฉันจะรีบไป”

    “ฉันไม่เข้า...”

    ‘ตื๊ดๆๆๆ’

    ชิโร่ตัดสายทิ้งทันทีพร้อมกับวางเงินค่ากาแฟก่อนเดินออกจากร้านไปอย่างรีบร้อน และเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    “Zero”

    เพียงแค่เอ่ยโค้ดเนม ‘เซโร่’ ชิโร่ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของ ‘โฟร์ท (Fourth)’ เพื่อนร่วมงานของเขา

    “นายรีบมา ตามพิกัดที่ฉันส่งไปให้ รีบมาภายในสิบนาที เดี๋ยวเราจะไปด้วยกัน” ปิ๊บ

    ไม่จำเป็นต้องอธิบายหรือพูดอะไรมากมาย สำหรับพวกเขามารยาทเป็นสิ่งไม่จำเป็นเลยสักนิดโดยเฉพาะเวลานี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเสียเวลามานั่งใช้คำทักทายหรือคำร่ำลาใดๆ อีกแล้ว หลังจากที่เห็นไฟล์นั่น ทุกวินาทีที่เสียไปมันคือเลือดและชีวิต และทันทีที่ Fourth วางสาย ชิโร่ก็รีบวิ่งไปตามพิกัดทันที

    ไม่ถึงสิบนาทีชิโร่ก็มาถึงดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง โฟร์ทนำเฮลิคอปเตอร์มาจอดรอเอาไว้แล้ว ไม่รอช้า ชิโร่กระโดดขึ้นนั่งฝั่งคนขับอีกฝั่งหนึ่งทันที

    ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ออกตัวชิโร่ก็ยิงคำถามใส่คนข้างๆอย่างร้อนใจ ถ้ามองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เขาอาจจะดูเหมือนเป็นคนสุขุม นุ่มลึก น่าค้นหา แต่ถ้าใครได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงแล้วล่ะก็คงจะต้องส่ายหัวและเปลี่ยนความคิดโดยทันที

    “ทำไมนายถึงรู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน ในเมื่อข้อมูลของแต่ละคนในองค์กรถูกปิดเป็นความลับทั้งหมด"

    คนข้างกายชำเลืองตามองเล็กน้อยก่อนอธิบาย

    “เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ บอสเป็นสั่งการมาว่า งานนี้ไม่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น เวลานี้ทุกคนกำลังแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆทั่วทุกทวีป และยังกำชับมาอีกว่า สำหรับภารกิจนี้

    ‘...หวังว่าพวกเราทุกคนจะคงยังมีลมหายใจ’ ”

    ถ้าลองระดับบอสเอ่ยมาขนาดนี้ แสดงว่ามันไม่ธรรมดาจริงๆซะแล้ว และหลังจากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีบทสนทนาใดๆนอกจากเสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังมุ่งหน้าไปบางแห่ง

    ราวๆสี่ชั่วโมงกว่าๆ จนสุดท้ายชิโร่ทนอึมครึมต่อไปไม่ไหวจึงเปิดบทสนทนาขึ้นอีกครั้ง

    “เอ่อ..โฟร์ท”

    “อะไร?”

    โฟร์ทตวัดเสียง แม้ว่าจะมันเป็นเสียงที่ผ่านเครื่องแปลงเสียงก็ตามที

    “ทำไมนายถึงตั้งพิกัดที่แมนฮัตตั้นล่ะ นี่รู้จริงๆหรือเปล่าว่าฉันกำลังจะไปที่ไหน?”

    ชิโร่ถามพร้อมชี้นิ้วไปที่จอเรดาร์ เพราะเท่าที่ดูแล้วมันไม่ใช่ปลายทางที่ที่เขาต้องการจะไป

    “...น้ำมันมีไม่พอ เราจำเป็นต้องกักตุนเชื้อเพลิงเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน”

    โฟร์ทตอบน้ำเสียงนิ่งในขณะที่ชิโร่ขมวดคิ้วสงสัยหนักกว่าเดิม

    “แล้ว..ก่อนหน้านี้นายไม่ได้เตรียมเอาไว้ก่อนเหรอ?”

    “ไม่มีหรอก เพราะลำนี้ HiJack** มาน่ะ”

    คำตอบของโฟร์ททำให้ชิโร่เลิกคิ้วสูง จ้องคนขับตาไม่กระพริบ พร้อมทำปากพะงาบพะงาบเหมือนปลาขาดน้ำ ก่อนที่อีกฝ่ายก็ทนอึดอัดไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนเรื่องขึ้นว่า

    “ใกล้จะเห็นเกาะแล้ว เตรียมตัวเอาไว้ด้วยล่ะ”

    โฟร์ทว่าต่ออย่างไม่สนใจปฎิกิริยาของคนที่นั่งข้างๆ ที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อไปแล้วเรียบร้อย

    แมนฮัตตั้น สหรัฐอเมริกา..

    พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงไม่มีสัญญาณติดต่อจากศูนย์ควบคุมการบินของที่นี่ ก่อนที่พวกเขาจะลงจอด เพราะมองออกไปนอกหน้าต่าง แมนฮัตตั้นดูเหมือนจะเละกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ เวลานี้แมนฮัตตั้นมันพังพินาศไปเรียบร้อยแล้ว อาคารมากมายลุกไหม้ มันทำให้ชิโร่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง มัน..แย่กว่าที่เขาคิดจนเขาต้องหลุดพึมพำออกมาเบาๆ

    “นี่มัน...ไม่จริงใช่ไหม..?”

    “...”

    ไร้ซึ่งเสียงตอบจากคนข้างๆ

    ในขณะที่ชิโร่อยากให้ทุกอย่างที่เห็นในตอนนี้มันเป็นแค่ความฝัน เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะบานปลายขนาดนี้ เขาอยากจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่มๆในตอนเช้าแล้วปาดเหงื่อเบาๆเพราะภาพที่เห็นมันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น...แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่ามันคือ ‘ความจริง’

    โฟร์ทจอดเฮลิคอปเตอร์ ณ อาคารแห่งหนึ่งซึ่งแทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นอาคารอะไร เพียงแต่มันเป็นอาคารที่มองดูแล้วโครงสร้างยังดี แข็งแรงและเหมาะสมพอที่จะจอดเฮลิคอปเตอร์ได้

    โฟร์ทโยนแม็กนั่มพร้อมกระสุนให้ชิโร่ ทันทีที่ชิโร่ได้มันก็บรรจุกระสุนอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนนัยน์ตาสีดำกลับจ้องอาวุธในมืออย่างไม่พอใจ ทำให้โฟร์ทต้องถอนหายใจให้กับความเรื่องมากของคนตรงหน้านี่

    “แก้ขัดไปก่อน อย่าเรื่องมาก ตอนนี้พวกมันคงรู้แล้วล่ะว่าพวกเรามา ระหว่างทางถ้าเจอของเล่นที่ดีกว่านี้ค่อยเปลี่ยนละกัน..เวลามันไม่พอที่จะเอาอาวุธคู่ใจนายมาด้วย” โฟร์ทอธิบาย

    “ช่างมันเถอะ เรื่องแค่นี้ ยังไงพวกเราก็แค่แวะมาเติมเชื้อเพลิง ไม่ได้กะจะมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ถาวรซักหน่อ..”

    ชิโร่รีบหยุดคำพูดของตัวเองหลังจากเห็นสัญญาณมือของโฟร์ท ให้เงียบ ขณะที่เขากำลังดันประตูเพื่อที่จะเข้าไปภายในตัวอาคาร

    ---------------------

    *** Hi Jack *** คือการขโมยเครื่องบิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×