คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : เริ่มฝึก(เจกลับมาแล้วจ้า)
“อืม หรือว่าเจ้าไม่ชอบที่นี้”
“ปะ เปล่าค่ะ ที่นี้ก็ดีโล่งดีค่ะ” ลูเคียส่วยหัวปฎิเสธเป็นพละวังกลัวคนตรงหน้าเข้าใจผิด เพราะที่ถามไปนั้นก็แค่หาเรื่องพูดเฉยๆ เพราะตัวเธอเองไม่รู้จะพูดอะไร ท่านพี่เองก็ไม่ค่อยจะชอบพูดอยู่แล้ว ขืนเงียบไปนานๆ เธอได้ฟุ้งซ่านไม่เลิกแน่
“งั้นก็ดี ไหนเจ้าของใช้ก้าวพริบตาให้ข้าดูหน่อย” เบียคุยะกอดอกถอยหลังไปเพื่อให้ลูเคียแสดงความสามารถได้เต็มที่ แต่ทว่าคนที่อยากจะแสดงความสามารถนั้นพอเจอกับนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ทอดมองมานั้นก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เหตุการณ์ตอนอยู่ในห้องอาหารนั้นก็กลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
“เป็นอะไรหรือเปล่าลูเคีย”
เบียคุยะถามหลังจากที่หญิงสาวเงียบไปนาน
หรือว่าก้าวพริบตาของลูเคียจะแย่มากจริงๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มอะไรค่ะ คือข้าแค่รวบรวมสติ”
ลูเคียหาข้อแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ก่อนจะรีบตัดความคิดฟุ้งซ่านในหัว รวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่ปลายเท้า
ต้องตั้งใจท่านพี่อุตสาห์เสียเวลามาสอน
ต้องตั้งใจ
แล้วทำไมเธอต้องใจเต้นเร็วเวลาคิดถึงท่านพี่ด้วยล่ะ
“ว๊าย”
ลูเคียร้องเสียงหลง เมื่อสติเผลอหลุดไปแค่ชั่วครู่ ตัวเธอเองนั้นก็โผล่มาเกือบจะถึงต้นไม้ใหญ่อยู่แล้ว
เจ็บแน่
ยัยลูเคียเจ้าได้ชนต้นไม่แน่
ตุบ
ร่างบางของลูเคียกระแทกเข้าไปเต็มๆ กับสิ่งกีดขวางตรงหน้า รางบางนั้นเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้นจากแรงปะทะแต่ก็มีอะไรบ้างอย่างมาคอยประคองไว้ไม่ให้ล้ม
โชคดีชะมัดกิ่งไม้ดึงไว้พอดีเลยไม่ล้มลงไปกองกับพื้น
แต่ทำไมเหมือนได้ยินเสียงหัวใจเต้นซะได้ล่ะ ต้นไม่มันไม่มีหัวใจนี้นา
หรือว่าต้นไม่พันธุ์ใหม่
ลูเคียขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะยอมลืมตาหลังจากที่หลับตาหนีต้นไม้ที่มีหัวใจ
“ทะ ท่านพี่”
ลูเคียพูดตะกุกตะกัก ที่เธอชนไม่ใช้ต้นไม้ แต่เป็นท่านพี่ เสียงที่ได้ยินเหมือนเสียงหัวใจก็เป็นเสียงหัวใจของท่าพี่จริงๆ เพราะเธออยู่ในอ้อมแขนของท่านพี่ไม่ใช้ต้นไม้พันธุ์ใหม่อย่างที่เธอเข้าใจ
และที่สำคัญที่สุด
ท่านพี่กำลังกอดเธออยู่ ไม่ใช้ประคองต้องหากเพราะถ้าท่านพี่ปล่อยมือละก็เธอลงไปกองกับพื้นแน่ๆ
แต่ทำไมหน้าถึงอยู่ใกล้กันขนาดนี้เนี้ย
“ลูเคียเป็นอะไรหรือเปล่า”
เบียคุยะขยับแขนให้ประคอง(กอด)คนตัวเล็กให้ถนัดยิ่งขึ้น เมื่อเห็นคนที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร
หรือว่าช็อก
ข้อสมมุติฐานที่เข้ามาในหัวของเบียคุยะ ไม่ทันให้ลูเคียได้ตั้งตัวเบียคุยะก็เปลี่ยนจากการประคอง(กอด)กลายเป็นอุ้มลูเคียแทน โดยจุดมุ่งหมายคือห้องหมอประจำตระกูล ทำเอาคนที่อยู่ๆก็ถูกอุ้มนั้นถึงกับเหวอไปทันใด สติที่เคยหลุดลอยนั้นกลับมาทันที่ ถึงจะไม่รู้ว่าจะพาไปไหนลูเคียก็รีบส่งเสียงห้ามออกไปก่อน
“ท่านพี่ค่ะ ท่านพี่จะพาข้าไปไหน ข้าไม่ได้เป็นอะไร”
แต่งไปแต่งมารู้สึกว่าเฮียเบียแกจะเป็นคนขี้ตกใจยังไงยังงั้นเนอะ เคียจังล้มนิดล้มหน่อยก็จะพาไปหาหมออีท่าเดียว แต่ก็อย่างว่าเมียคนแรกแกป่วยตายก็เลยคิดมากแบบนี้ละมั้ง ประมาณว่าหลอนกลัวน้องเมียว่าที่ภะระเมียตาย อะไรอย่างนี้(รึเปล่า) เจก็ลองเดาดูมันคงประมาณนี้ละมั้ง แต่ช่วงนี้เจไม่ค่อยว่างจะแต่ง แต่พอเห็นกำลังใจที่แต่ละคนส่งมาให้ก็เลยสู้ขาดใจ ยอมตายเพื่อคอมเม้น(นี้เจแกเวอร์ไปป่ะ) ห๊ะ ห๊ะ อย่างนี้แหละบ้าบอ
รักทุกคนนะจ๊ะ ขอให้อยู่รอดบนโลกบิดๆเบี้ยวๆใบนี้ต่อไป
เจ
ปล. ใครเคยสอบคัดเลือกเข้าโครงการวิชาการโอลิมปิกอะไรซักอย่างนี้ป่ะที่ม.นเรศวรจัดนะ ครูเราบอกให้เราสมัครดูมันสอบอะไรบ้างง่ะ ใครรู้บ้างบอกเราที่ เพราะดูท่าครูเค้าจะพูดประชดราเฉยๆ เพราะเรามันโง่สอบไปก็ไม่ผ่านหรอก แต่เค้าให้ไปสอบยกห้องก็เลยต้องไป ใครรู้ไรดีๆก็มาบอกเราบ้างเดอะ เพื่อเราได้คะแนนดีกว่าเด็กแกจะได้เห็นแกเหวอเล่น ซะใจดี (ขอโทษสำหรับบ้างคนที่รับไม้ได้กับคำพูดบ้างช่วงเราด้วย เพราะเรามันเด็กเก็บกดโดนครูเหยียบอยู่ตลอด อย่าให้เก่งนะโว๊ย แม่จะคาบ 4.00มาให้ทุกปีเลย)
ความคิดเห็น