คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : III
Posiona Kingdom
อาณาจักรแห่งนี้ผู้คนต่างเรียกกันว่า อาณาจักรแห่งยาพิษ สมกับชื่อของอาณาจักรไม่มีผิด เพราะเหตุที่ผู้ปกครองอาณาจักรนี้เก่งกาจในเรื่องของการปรุงยาต่างๆ แต่เจ้าตัวกลับใช้ในทางที่ผิด เช่นการทำยาพิษแบบนี้
ซ่า
เสียงซู่ซ่าดังขึ้นเมื่อความเป็นกรดหลอมละลายสิ่งที่อ่อนนุ่มอย่างเนื้อแกะที่โดนมันราดลงไปเมื่อครู่
"เนื้อหายไปเกือบหมดเลยนะครับคิง" เสียงของผู้เทน้ำกรดเอ่ยบอก ชายร่างสูงผมสีเทา ในเครื่องแบบที่นั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่กำลังมองการกระทำของเขาอยู่
"ข้าเพิ่งรู้ว่าน้ำกรดของพวกมนุษย์นี่มันพิษแรงขนาดนี้ เอาล่ะ พอได้แล้ว ที่เหลือข้าจะศึกษามันต่อเอง" ชายผู้ที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามว่า 'คิง' คนนั้นเอ่ย ก่อนบริวารที่ถูกกล่าวถึง จะโค้งคำนับให้ แล้วเดินจากไป ท่านผู้นี้ คือผู้ปกครองของอาณาจักรแห่งนี้
พระราชานอร์ริส
Fantasia world:III
หลังจากที่จองกุกบอกลาทุกคนและออกมาจากกระท่อมนั่น เขาก็ตรงไปยังที่พักพร้อมกับเจ้าฟินิกซ์ขนาดไม่ใหญ่มากที่เกาะอยู่บนไหล่ทันที ที่พักของเขาไม่ได้ไกลจากที่นี่นัก แต่ถ้าให้เดินเท้าเช่นนี้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เดินไปได้เรื่อยๆก็เพิ่งจะรู้สึกว่าพระอาทิตย์เกือบจะตกดินไปซะแล้วสิ พอเห็นแบบนั้น ขาแกร่งก็รีบจ้ำอ้าวไปยังที่พักของตนเอง
แต่โชคดีหน่อยที่เขาเจอชาวบ้านอาสาพามาส่งระหว่างทางน่ะนะ ไม่งั้นการเดินทางครั้งนี้ต้องมีเหนื่อยหอบอย่างแน่นอน
เมื่อถึงที่พักเด็กหนุ่มก็กล่าวขอบคุณให้สำหรับน้ำใจของชาวบ้านผู้นี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรว่าว่ามาจากที่ไหน หรือเพิ่งย้ายเข้ามาที่นี่เพราะเจ้าตัวก็ยืนยันว่าตนเป็นชาวบ้านที่นี่ แต่การที่จะย้ายเข้ามาอยู่ มันก็ต้องทำเรื่องย้ายผ่านเขาหรือไม่ก็แม่สาวโรซี่ก่อนสิถึงจะมาอาศัยได้น่ะ หรือเขาอาจจะทำเรื่องย้ายผ่านโรซี่มาแล้วก็ได้
"ขอบคุณครับ"
"เรื่องแค่นี้เองครับคุณหนู"
"ไม่ต้องใช้สรรพนามกับผมขนาดนั้นก็ได้นะ ผมไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่อะไรเสียหน่อย เป็นแค่เด็กธรรมดาเท่านั้นเอง"
"ฮ่าๆ ก็ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุแผ่ซ่านออกมาจากตัวคุณหนูขนาดนี้นี่นะ แน่ใจนะครับ ว่าเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มธรรมดาน่ะ" ชายเกศาสีทองร่างสมส่วนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อถามพร้อมกับหรี่ตามอง จะว่าเขาดูขี้เล่นก็ได้นะ
"ไม่ใช่ก็ได้ ผมจองกุกเป็นคนจากฝ่ายประชาชนของสำนักงานฟอลเตอร์"
"หืม แล้วความร้อนรอบตัวนั่นล่ะ"
"มันไม่ใช่อาการปกติของผู้ใช้เวทย์อัคคีหรอกหรือ?" ปกติก็เวลามีคนมาใกล้เขาก็ไม่เห็นจะมีสักคนบ่นว่าร้อนหรืออะไรเลยนี่ ยิ่งพี่จีมินที่ชอบกอดรัดฟัดเหวี่ยงยังไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย
ร่างหนาตรงหน้าพอได้ยินสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดออกมาก็อยากจะร้องว่าว้าวของภาษาพวกมักเกิ้ลออกมาทันที ผู้ใช้เวทย์ไฟมีให้พบเห็นกันง่ายๆเสียที่ไหน ขนาดอาณาจักรของเขายังไม่มีเลยสักคน แต่อาณาจักรผีเสื้อแห่งนี้ กลับเจอง่ายๆโดยเห็นว่าเดินอยู่ข้างทางซะงั้น
น่าสนใจชะมัดอาณาจักรฟอลเตอร์แห่งนี้น่ะ
...
Phoenix
เมื่อเข้ามาในที่พักได้ เด็กหนุ่มก็จัดการกับเทียนที่อยู่ในตะเกียง โดยใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ประกบกันลูบไปที่เชื้อเพลิงปลายเทียนและเปลวไฟสีส้มเหลืองก็ค่อยๆลุกโชนขึ้นมาทันที เขาทำแบบนั้นจนครบทุกตะเกียง ก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นบนที่เป็นห้องหลับนอนของเขา
ห้องนอนของเขาตกแต่งด้วยผนังสีเทาหินและพื้นก็เป็นไม้กระดานแข็งแรงเคลือบเงา ส่วนของเตียงนั้นตั้งติดอยู่กับกระจกใสที่เรียกว่าหน้าต่างเป็นเตียงเดี่ยวสีขาว กับหมอนสีน้ำเข้มตัดกันกับสีของเตียงเเละผ้าห่ม ทางทิศเหนือของห้องนั้นเป็นชั้นเก็บของขนาดยาว และตรงกลางห้องก็ยังมีโต๊ะไม้ขนาดกลางตั้งอยู่ด้วย
"อยู่ตรงนี้ไปก่อนแล้วกันแกน่ะ" จองกุกปล่อยให้นกไฟตัวนั้นเกาะลงบนกิ่งต้นไม้ที่เขาเอามาประดับไว้ในห้อง ก่อนเจ้าตัวจะไปจัดที่ให้นกนั่นอยู่อย่างเป็นทางการ
ฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่มีนิสัยอ่อนโยน สามารถหายตัวและปรากฏตัวใหม่ตามใจนึกเช่นเดียวกับดิริคอว์ล เสียงร้องของฟีนิกซ์มีเวทมนตร์ สามารถกระตุ้นความกล้าหาญแห่งจิตใจที่บริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดร้าย และน้ำตาของฟีนิกซ์ก็เป็นดังโอสถทิพย์แห่งสวรรค์ที่มีพลังในการรักษาบาดแผลและชุบชีวิตได้ แต่ถึงกระนั้นนกฟีนิกซ์ก็ยากจะหลั่งน้ำตาให้แก่ผู้ใด ยกเว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีคุณงามความดีมากพอที่จะกลับมามีชีวิตใหม่อีก ครั้ง
จากความเชื่อทั้งหมดของฟีนิกซ์นี้เอง ที่ทำให้ในปกรณัมของกรีกและโรมันเชื่อว่า ฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตเป็น อมตะ
เด็กหนุ่มจัดหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับนกฟินิกซ์สีแดงอมส้มของเขาเสร็จสรรพก็เดินลงมายันชั้นล่างอีกครั้ง ตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะหิวเพราะตอนรอจีมินตื่นขึ้นมาเขาไม่ได้ทานของที่ทำให้เขาอิ่มเลย
จองกุกเดินเข้าไปในครัว ตรงไปยังกำแพงที่มีไม้คบเพลิงติดอยู่ มือหนานั่นยกคบเพลิงออกมาถือไว้ตรงหน้า ก่อนจะคว้าเอาลูกไฟที่ติดอยู่ปลายคบเพลิงกลืนลงคอ
ใช่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาอิ่มที่ว่าก็คือไฟนั่นแหละ แต่แปลกดีใช่ไหมล่ะ พอได้กินของร้อนเช่นไฟแบบนี้กลับทำให้รู้สึกว่ามีพละกำลังมาทดแทนพลังงานของร่างกายที่เสียไปกับชีวิตประจำวัน
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เขาก็ต้องไปทำงานแทนชูก้า มันเป็นแบบนี้เสมอเมื่อคนตัวขาวไม่อยู่ ชูก้าก็เหมือนกับเป็นพ่อคนหนึ่งของเขา เขารักและเคารพพี่คนนี้มาก และก็ต้องขอบคุณมากๆด้วยเช่นกัน
แกร๊ก
"คิงครับ" ร่างสมส่วนเปิดประตูที่ถูกแกะสลักเป็นลายในยุคโบราณ ก่อนจะเอ่ยเรียกผู้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาสีน้ำตาลอ่อน
"มีอะไร" ราชานอร์ริสละสายตาออกมาจากหนังสือสีปกแข็งสีน้ำตาลอมส้มก่อนจะถามมือขวาที่มาเยือนถึงห้องพักในปราสาท รู้น่าว่าสนิท อยู่กันมานานถึงได้ไม่มีความเกรงใจจนเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาแบบนี้
"ที่คิงให้ผมไปสำรวจอาณาจักรผีเสื้อนั่น มนุษย์ที่คิงต้องการอยู่ที่นั่นแล้วล่ะครับ แต่ผมพบอะไรที่น่าตกตะลึงมาด้วยล่ะ" ชายหนุ่มร่ายยาว
"อะไรล่ะ" ร่างสูงหรี่ตามองบริวารที่ยืนยิ้มไม่หุบอยู่นั่น
"ดูเหมือนว่าปากผมต้องการอัญมณีสักเม็ดมาเปิดมันออกนะ" นั่นไง ว่าแล้วเชียว
"เห้อ เจ้านี่มันโลภเสียจริงๆเลย แจ็ค" ถึงจะถอนหายใจออกมาเช่นนั้น ก็ยังเดินไปหยิบถุงผ้าขนาดเล็กสีเขียวเข้มมาโยนให้กับแจ็คอยู่ดี
"อะแฮ่ม ผมพูดต่อเลยแล้วกัน ที่นั่นน่ะมีผู้ใช้เวทย์อัคคี เห็นว่านามจองกุก เป็นคนจากฝ่ายประชาชนของสำนักงานน่ะครับ" เมื่อคนตรงหน้าพูดจบ ปากหยักของพระราชานอร์ริสก็กระตุกยิ้มขึ้นทันที
"น่าสนใจดีนี่ วันรุ่งขึ้นข้าคงต้องไปเยี่ยมเยือนหน่อยแล้วล่ะ จะได้เผื่อเวลาไปหาของทำพิธีของข้าด้วยล่ะ"
"แต่มันใช้เวลาเดินทางสองวันเลยนะครับคิง"
"ช่างมันปะไร ข้าไม่ได้รีบร้อน"
ข้าจะต้องเอาเข้ามาเป็นบริวารของข้าให้ได้เลยล่ะ จองกุก
____________________
ฮะเฮลโหลววววว กลับมาแล้วครับ ช้าไปนะเนี่ย จริงๆแล้วตอนนี้จะยาวกว่านี้ครับ แต่ผมขอยกไปใส่ไว้ในตอนหน้าแทน ._.
ความคิดเห็น